เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1066 มีดที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังรอยยิ้ม
บทที่ 1066 มีดที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังรอยยิ้ม
เมื่อพวกเขาออกจากวังร้อยดอกไม้ องค์หญิงรัชทายาทออกคำสั่งให้บริวารอยู่ห่าง ๆ นางมีบางอย่างจะพูดกับซูอัน
หรงโม่มีท่าทีขมขื่น จิ้งจอกตัวผู้นี้ได้รับความโปรดปรานมากขึ้นเรื่อย ๆ
เผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนแลกเปลี่ยนสายตากัน ทั้งสองเห็นความกังวลในดวงตาของอีกฝ่าย พี่ซูและองค์หญิงรัชทายาทสนิทสนมกันเกินไปหน่อย! สองคนนี้จะไม่หลีกเลี่ยงกันเลยหลังจากผ่านพ้นเรื่องใหญ่มางั้นเหรอ?
ทั้งคู่เงี่ยหูฟัง พวกเขาต้องการได้ยินสิ่งที่ทั้งสองพูดกัน พวกเขาเป็นราชองครักษ์จากตำหนักตะวันออก จึงต้องแบกรับความรับผิดชอบในการเฝ้าติดตามสถานการณ์ด้วย
พวกเขาคิดกับตัวเองว่า หากคนทั้งสองเริ่มกระทำตัวแปลก ๆ จนพวกเขาเริ่มรู้สึกได้มากกว่านี้ พวกเขาจะต้องเตือนซูอันทันทีแม้ว่าองค์หญิงรัชทายาทจะงดงาม แต่นางก็ไม่ใช่คนที่ซูอันสามารถรับมือได้!
อย่างไรก็ตาม พวกเขาถอนหายใจอย่างโล่งอกหลังจากนั้นไม่นาน เพราะการสนทนาเป็นไปตามปกติ องค์หญิงรัชทายาทคุยกับซูอันแบบเดียวกับที่นางจะคุยกับบุคคลสำคัญคนอื่น ๆ
ทว่าสิ่งที่ทหารองครักษ์ทั้งสองเห็นนั้นเป็นเพียงการแสร้งแสดงออกภายนอกของทั้งสอง จริง ๆ แล้วขณะเดียวกันนี้ ซูอันและองค์หญิงรัชทายาทกำลังพูดคุยกันผ่านกระแสพลังชี่ ซูอันกล่าวว่า “องค์หญิงรัชทายาท เริ่มจากครอบครัวของซินรุ่ย มาดูกันว่าเราจะค้นพบอะไรไหม”
องค์หญิงรัชทายาทตอบว่า “ฝ่ายนั้นคงปัดกวาดเบาะแสอะไรไปหมดแล้ว เราจึงไม่ค่อยพบมากนัก แต่เราจะลองดู เจ้าเป็นคนฉลาด เจ้าอาจสังเกตเห็นอะไรก็ได้”
ซูอันพยักหน้า “ว่าแต่ เจ้าคิดยังไงกับสนมไป่”
“สนมไป่?” องค์หญิงรัชทายาทเย้ยหยัน “หาโอกาสที่จะจัดการกับนางอย่างลับ ๆ”
ซูอันพูดไม่ออก เมื่อครู่เจ้าคุยดี ๆ กับนางอยู่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมจู่ ๆ ถึงมาเกิดเจตนาฆ่ามากมายในตอนนี้?
เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เราควรสนใจศัตรูที่แท้จริงของเราก่อนดีไหม? สนมไป่ได้แสดงความจริงใจของนางแล้วนี่!”
“ดูเหมือนเจ้าจะสับสนกับนังจิ้งจอกตัวนั้นซะแล้ว” องค์หญิงรัชทายาทมองดูเขาและกล่าวว่า “นี่เป็นเพียงกลวิธีในการถ่วงเวลาเพราะเราถือมีดจ่อคอนางอยู่ นางคงจะลงมือทันทีที่การทดสอบขององค์รัชทายาทจบลงและเข้าแทนที่ข้าเพื่อเป็นองค์หญิงรัชทายาทคนใหม่ ข้าจะปล่อยให้นางทำตามที่ต้องการได้ยังไง!?”
เมื่อเห็นสีหน้าตกใจของซูอัน ปี่หลิงหลงถามอย่างไม่พอใจว่า “ทำไม? เจ้าคิดว่าข้าเลวอีกแล้วเหรอ?”
ซูอันถอนหายใจ “ข้าว่าเจ้าใจร้ายไปหน่อย”
องค์หญิงรัชทายาทกล่าวอย่างเย็นชาว่า “พระราชวังแห่งนี้เป็นสถานที่ที่โหดร้าย จะฆ่าหรือถูกฆ่า คนอ่อนแอล้วนจบลงที่สุสานทั้งสิ้น”
ซูอันอดไม่ได้ที่จะตอบว่า “แล้วทำไมต้องทำอย่างนี้? เจ้าสองคนเป็นพันธมิตรกัน หากเจ้าเดาเจตนาของนางไม่ถูกต้อง สุดท้ายสิ่งที่เจ้าทำอาจจะเป็นการช่วยคนของราชันลมปราณแทนก็ได้”
“ข้าจะไม่ยอมให้ความปลอดภัยของตัวเองอยู่ในมือของผู้อื่น! นี่เจ้ารู้สึกไม่ดีกับข้าหรือไง? อย่าลืมว่าตอนนี้เราสองคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว ถ้านางลงมือกับข้า เจ้าก็จะแย่ไปด้วยเช่นกัน!”
ซูอันเงียบไป เขารู้ว่าสิ่งที่นางพูดเป็นความจริง
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขา น้ำเสียงของปี่หลิงหลงเบาลง “ถ้าไม่ใช่เพราะเราไม่มีทางเลือก ข้าก็ไม่อยากทำแบบนี้เหมือนกัน คนเดียวที่ข้าไว้ใจได้ในตอนนี้คือเจ้า ข้าไม่สามารถฝากเรื่องนี้กับคนอื่นได้ นี่เป็นเหตุผลที่เจ้าไม่สามารถปล่อยให้อารมณ์ส่งผลต่อการตัดสินใจได้”
ซูอันกล่าวเสียงเบา “ข้ารู้ดีว่าต้องทำอะไร” แม้ว่าแผนของนางจะปลอดภัยที่สุด แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะกลายเป็นดาบของนาง
องค์หญิงรัชทายาทพยักหน้าอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ต่อต้านนาง เมื่อทุกคนกลับมายังวังตะวันออก นางจึงกลับไปที่ห้องชั้นในเพื่อพักผ่อน
เพื่อนร่วมงานพากันมาแสดงความยินดีต่อซูอัน แต่ข้างในใจเขามีเรื่องให้คิดมากมาย ทันใดนั้น ขันทีจึงมาแจ้งว่าจักรพรรดิได้เรียกเขาเข้าเฝ้าอีกครั้ง
ผู้คนในวังตะวันออกมีสีหน้าอิจฉา คงมีไม่กี่คนที่สามารถพบกับจักรพรรดิได้ครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเขายังสงสัยว่าพระสนมแต่ละคนได้พบจักรพรรดิบ่อยเท่ากับซูอันหรือไม่?
แต่ซูอันรู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ควรยินดีเลย ความกดดันที่เขาประสบระหว่างการเข้าเฝ้าแต่ละครั้งนั้นยิ่งใหญ่มาก จักรพรรดิทั้งอารมณ์เสียง่ายและเต็มไปด้วยความหวาดระแวง ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจมีโทษถึงตายได้ เหตุผลที่เขาถูกเรียกตัวในครั้งนี้น่าจะมาจากข่าวลือเกี่ยวกับองค์หญิงรัชทายาท
…
เมื่อซูอันมาถึงห้องหนังสือส่วนพระองค์ จักรพรรดิที่ดูมืดมนมองมาที่เขาด้วยสายตาที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ “ข้าได้ยินมาว่ารุ่ยจื่อเลื่อนยศเจ้าเป็นผู้แทนองค์รัชทายาท?”
ซูอันตัวสั่นอยู่ เวลาผ่านไปเพียงเล็กน้อย แต่จักรพรรดิกลับรู้เรื่องแล้ว? ชายคนนี้มีตาและหูอยู่ทุกหนทุกแห่งในวังแห่งนี้ เขาตอบว่า “เป็นเช่นนั้นพะย่ะค่ะ”
จักรพรรดิกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าได้ยินมาว่าองค์หญิงรัชทายาทถึงกับพูดคุยกับเจ้าเป็นการส่วนตัว ขันทีและนางกำนัลถูกสั่งให้รอด้านนอก?”
ซูอันตอบว่า “หัวใจขององค์หญิงรัชทายาทนั้นบริสุทธิ์และงดงามดั่งแสงจันทร์ พระนางเพียงมีเรื่องที่จะตรัสกับกระหม่อม จึงไม่มีเหตุผลที่กระหม่อมและพระนางจะหลีกเลี่ยงกันและกันพะย่ะค่ะ”
“นางฉลาดจริง ๆ นางรู้ดีว่ายิ่งเกิดเรื่องแบบนี้มากเท่าไร คนอื่นจะยิ่งปิดปากสนิทขึ้นเท่านั้น” จักรพรรดิเปลี่ยนเรื่องทันที “แต่จักรพรรดิองค์นี้ยังคงสงสัยว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเจ้าสองคน”
สีหน้าของซูอันเปลี่ยนไปเล็กน้อยและเขาพูดอย่างรวดเร็วว่า “ฝ่าบาททรงพระปรีชา องค์หญิงรัชทายาทและกระหม่อมเป็นผู้บริสุทธิ์ เราถูกใส่ร้าย เรื่องนี้ผ่านการสอบสวนมามากแล้ว และแม้แต่ผู้เบิกเท็จก็ยังถูกเชิญมาให้ซักถามกระหม่อม ทุกคนสามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของกระหม่อมได้พะย่ะค่ะ”
จักรพรรดิกริ้ว “ข้าได้ยินมาว่าพวกเจ้าทั้งหมดเพิ่งไปที่วังร้อยดอกไม้ นั่นถูกต้องใช่ไหม?”
ซูอันคิดใน ใจ ความคิดของชายคนนี้กระโดดไปเรื่องอื่นอย่างรวดเร็วจริง ๆ แน่นอนว่าการแสดงออกภายนอกของเขายังเต็มไปด้วยความเคารพในขณะที่เขาตอบว่า “พะย่ะค่ะ”
“ทำไมเจ้าถึงไปที่นั่น? เกิดอะไรขึ้นที่วังร้อยดอกไม้?” จักรพรรดินั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรสูงจึงยากที่จะสังเกตสีหน้าได้
………………….