เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1973 ใช้คนไม่เหมาะกับงาน / ตอนที่ 1974 ประมือในการต่อสู้แรก
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1973 ใช้คนไม่เหมาะกับงาน / ตอนที่ 1974 ประมือในการต่อสู้แรก
ตอนที่ 1973 ใช้คนไม่เหมาะกับงาน
สิ้นเสียง อากาศรอบตัวพลันเย็นเฉียบ แรงกดดันอันแข็งแกร่งแผ่ปกคลุมหอยาสวรรค์ เป็นแรงกดดันที่แผ่มาจากสี่ทิศ พวยพุ่งไปยังหอยาสวรรค์และจุดที่พวกเฟิ่งจิ่วยืนอยู่
“กำจัดทิ้งแล้วงั้นหรือ? หึ! เจ้าคิดว่าพวกข้าจะเชื่อหรือ?”
ชายชราชุดเทาตวาดเสียงเข้ม สายตาเย็นชาแฝงแรงกดดันตวัดมองไปที่เฟิ่งจิ่ว แรงกดดันที่มองไม่เห็นกลายเป็นดาบแหลมพลังจิตหลายเล่มพุ่งแทงไปยังดวงจิตของเฟิ่งจิ่ว หากเป็นคนทั่วไปถูกปราชญ์เซียนขั้นสูงสุดโจมตีดวงจิต เดาว่าคงทนไม่ไหวแล้ว
ทว่า เฟิ่งจิ่วสีหน้าไม่เปลี่ยน ดวงหน้างามประดับไว้ด้วยรอยยิ้มที่ส่งขึ้นไปไม่ถึงดวงตา “หากไม่เชื่อ แล้วพวกท่านจะทำอย่างไร?”
สิ้นเสียงของเธอ มือของสี่คนนั้นขยับไหว มือของพวกเขากำอาวุธไว้ กล่าวว่า “มีชีวิตอยู่ต้องได้เห็นคน ตายไปแล้วก็ต้องได้เห็นศพ! หากไม่ส่งศพมาให้เรา อย่าหาว่าพวกข้าไม่เกรงใจ!”
“นี่คิดจะใช้กำลังแล้วงั้นหรือ?” เฟิ่งจิ่วกระตุกมุมปาก “พวกท่านคิดดีหรือยัง หากเริ่มใช้กำลังเมื่อใด ก็ไม่มีโอกาสให้ถอยกลับหรือหนีแล้วนะ”
“งั้นหรือ? เช่นนั้นพวกข้าก็อยากจะขอคำชี้แนะจากท่านดูสักครั้ง! ให้ข้าสั่งสอนเจ้าก่อนก็แล้วกัน!”
ในสี่คนนั้น ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินขั้นสูงสุดซึ่งเป็นคนที่มีพลังต่ำสุดกำกระบี่ยาวในมือพุ่งโจมตีมาทางเฟิ่งจิ่ว เห็นเพียงเสี้ยวนาทีที่เขาโฉบไหวเข้ามา กลิ่นอายพลังวิญญาณในตัวระเบิดออกมา กระบี่คมในมือส่องประกายเย็นเยือก พลังกระบี่กระจายดังหึ่งๆ พุ่งแทงไปยังศัตรู
ท่ามกลางผู้คน หยางเสี่ยวเอ้อร์กลั้นหายใจด้วยความตระหนก มองดูเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง นางอดดึงแขนเสื้อพ่อของนางแล้วถามไม่ได้ว่า “ท่านพ่อ พี่สาวเฟิ่งจะสู้คนพวกนั้นได้หรือไม่?”
เห็นเฟิ่งจิ่วและเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่ท่าทางดูผ่อนคลาย ผู้นำตระกูลหยางพยักหน้า ตอบว่า “น่าจะได้”
เพราะอย่างไร แม้แต่เขาเองก็ยังมองพลังของพวกเขาสองคนนั้นไม่ออก ยิ่งไปกว่านั้น หากไม่มีความมั่นใจ พวกเขาจะกล้ามีเรื่องกับคนพวกนี้ได้อย่างไร? เพียงแต่ไม่รู้ว่าพลังของพวกเขาอยู่ในระดับใดกันแน่? ยามเผชิญหน้ากับคนพวกนี้ พวกเขาจะสู้ด้วยวิธีไหน?
ขณะที่กำลังมองดูพวกเขาอยู่ กลับเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นเซวียนหยวนโม่เจ๋อหรือแม้แต่เฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงล้วนไม่ขยับเขยื้อน เพียงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ยิ่งเมื่อเพ่งมองดีๆ จะเห็นว่าเฟิ่งจิ่วกำลังหยักยิ้มมุมปากเล็กน้อย ราวกับไม่เห็นคนที่กำลังโจมตีนางอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
ในขณะที่ทุกคนกำลังเป็นห่วงเธอ กลับเห็นเงาร่างสีเท่าพุ่งออกมาจากหอยาสวรรค์ โจมตีผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินขั้นสูงสุดคนนั้น ขณะเดียวกัน เสียงเย้ยหยันก็ดังขึ้นด้วย
“คิดจะสู้กับนายท่านของข้างั้นหรือ? ผ่านด่านข้าไปให้ได้ก่อนเถอะ!”
“เกร๊ง!”
อาวุธในมือทั้งสองปะทะกัน เกิดเป็นเสียงเคร้งคร้าง แรงกดดันของผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินขั้นสูงสุดแผ่กระจายออกไปเมื่อทั้งสองปะทะกัน กระแสอากาศที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าปะทะกันระลอกแล้วระลอกเล่า เมื่อพวกเขาตวัดกระบี่ออกไป ก็เกิดเป็นเสียงหึ่งๆ
“ชิ้ง!”
“เกร๊ง! เกร๊ง! ชิ้ง!”
เงาร่างสองร่างโรมรันพันตี หมุนคว้างเอากระแสอากาศพวยพุ่งขึ้นบนท้องฟ้า พลังกระบี่ประกายดาบสว่างวาบไปทั่วทิศ ฝูงชนถอยหนีอีกครั้งด้วยความตกใจ ทว่าด้านบนหอยาสวรรค์ ไม่รู้ว่ามีกลุ่มคนชุดดำยืนอยู่ตั้งแต่เมื่อใด พวกเขายืนป้องกันพลังกระบี่อยู่ตรงนั้น เพื่อไม่ให้พลังกระบี่สร้างความเสียหายแก่หอยาสวรรค์
“เฮือก!”
คนที่ถอยหลังไปอยู่ห่างๆ สูดหายใจ มองพวกคนที่ยืนอยู่บนหอยาสวรรค์ “คนของหอยาสวรรค์กำลังปัดป้องพลังกระบี่อยู่งั้นหรือ? นะ นั่นล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินขึ้นไปทั้งนั้น ช่าง ช่างเป็นการใช้คนไม่เหมาะกับงานเอาเสียเลย!”
………………………………….
ตอนที่ 1974 ประมือในการต่อสู้แรก
“ใช้คนไม่เหมาะกับงานอะไรกัน? ดูก็รู้ว่าหอยาสวรรค์มีพลังอำนาจล้นฟ้า เจ้าดูสี่คนนั้นที่ออกมาสิ มีคนใดบ้างที่ไม่นับว่าเป็นผู้มีพลังอยู่อันดับต้นๆ ของเมืองร้อยนที? นี่ปรากฏตัวทีก็หลายคนขนาดนี้ ไม่แน่ว่าในนั้นอาจยังมีผู้แข็งแกร่งซ่อนอยู่อีกหลายคนก็เป็นได้!”
“ก็จริง ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะกล้าวางยาราคาแพงพวกนั้นไว้ในหอยาสวรรค์ให้คนเข้าไปชมได้อย่างไรกัน?”
“ดูท่า หากสี่คนนั้นคิดจะเล่นงานผู้หญิงชุดแดงคงจะไม่ใช่เรื่องง่าย นางมีคนไม่น้อยเลย! แค่ชายชุดดำที่อยู่ข้างๆ นางก็ไม่ธรรมดาแล้ว”
“บางที พลังของหญิงชุดแดงอาจไม่ค่อยเท่าไร เพียงแต่เพราะกลั่นยาเป็น ข้างกายจึงมีผู้แข็งแกร่งติดตามอยู่มาก เจ้าว่าหากคนคนหนึ่งกลั่นยาเป็นแล้วยังมีพลังไม่ธรรมดา เช่นนั้นคงผิดมนุษย์เกินไปแล้วกระมัง?”
“ก็จริง ถึงอย่างไรก็เป็นเพียงผู้หญิง มีความสามารถในการกลั่นยาเช่นนั้นก็ถือว่าไม่ธรรมดาแล้ว”
ขณะที่ผู้คนกำลังวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา สองคนนั้นกลับกำลังประมือกันอยู่ เพราะอยู่ไกลมาก กอปรกับสองคนนั้นสู้กันอยู่กลางอากาศ กระแสอากาศจึงไม่ได้กระทบไปถึงพวกเขา เพียงแต่ยามมองดูผู้แข็งแกร่งสู้กัน ทั้งการเสียงและเคลื่อนไหวรวมถึงบรรยากาศที่ดุดันรุนแรงนั่น กลับทำให้พวกเขาอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้
ปกติก็ยากจะพบเห็นผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินสู้กันอยู่แล้ว หนำซ้ำยังเป็นในสถานการณ์อย่างนี้ด้วย เพียงแค่ดู ก็ทำให้พวกคนที่มีพลังไม่สูงตื่นตาตื่นใจ พลางเกิดความรู้สึกอิจฉาขึ้นมาเล็กน้อย
หากพวกเขามีพลังต่อสู้ และวรยุทธ์เช่นนี้ อย่างนั้นไม่ว่าอยู่ที่ใดก็จะได้รับการปฏิบัติที่พิเศษกว่า หากเป็นพวกเขา พวกเขาจะไม่มีทางวู่วามเอาชีวิตและพลังต่อสู้มาใช้เพื่อแย่งคนตายเพียงคนเดียวอย่างนี้แน่นอน
ในสายตาฝูงชน เจ้าของหอยาสวรรค์ หรือก็คือผู้หญิงชุดแดงคนนั้นไม่ได้โกหก ชายชราคนนั้นอากาศร่อแร่ตั้งแต่วิ่งเข้าไปในนั้นแล้ว ต่อมาตอนที่ตรวจชีพจรก็บอกแล้วว่าอวัยวะภายในเสียหายอย่างหนัก ซ้ำยังโดนพิษร้ายแรงขนาดนั้น แม้หอยาสวรรค์จะมียาวิเศษช่วยเขาได้ แต่พวกเขาก็ต้องเต็มใจให้ด้วยน่ะสิ!
ยาระดับห้าขึ้นไป มีชนิดใดบ้างที่ไม่มีราคาค่างวดบ้าง? เจ้าของหอยาสวรรค์จะยอมเอาออกมาช่วยคนที่ไม่รู้จักง่ายๆ ได้อย่างไรกัน? แน่นอนว่าเจ้าของหอยาสวรรค์อาจรู้จักชายชราคนนั้นก็ได้ แต่ถึงแม้รู้จัก ก็มีน้อยคนนักที่จะยอมมีเรื่องกับกลุ่มอำนาจที่ไม่รู้จักเพื่อปกป้องชายชราคนนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น มนุษย์เราล้วนเห็นแก่ตัว ยามได้ยินผู้หญิงชุดแดงบอกว่าชายชราคนนั้นถูกหามไปกำจัดทิ้งที่ลานข้างหลัง พวกเขาต่างก็เชื่อ
เพราะไม่ว่ามองจากมุมไหน การทำอย่างนั้นล้วนเป็นผลดีกับพวกเขามากกว่า และเป็นการตัดปัญหาแต่ต้นได้ดีกว่าเช่นกัน
“ชิ้ง!”
“ซี๊ด!”
พลังกระบี่อันรุนแรงเส้นหนึ่งพาดผ่าน ตามมาด้วยเสียงสูดปาก ทุกคนหันมองไป เห็นเพียงเลือดจำนวนหนึ่งกระเซ็นกลางอากาศ แขนข้างหนึ่งร่วงลงมาพร้อมกับเลือดเหล่านั้น มองจากที่ไกลๆ เหมือนสายฝนสีเลือดอันน่าสะพรึงกลัว
ชายชราชุดเทาคนนั้นกรีดร้อง มือหนึ่งยกขึ้นกุมแขนที่ขาดพร้อมกับรีบถอยหลัง สายตาที่ชั่วร้ายดุจงูพิษกลับจับจ้องคนที่ถือกระบี่ไล่ตามมาข้างหน้า อยากจะพุ่งเข้าไปฉีกร่างคนผู้นั้นให้เป็นชิ้นๆ!
ชายชราที่เป็นหัวหน้าเห็นชายคนนั้นถูกผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในระดับเซียนเหินเหมือนกันฟันแขนขาด ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ มองดูอีกฝ่ายถือกระบี่ไล่คามมา เขาส่งสายตาเล็กน้อย ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มจึงรวบรวมพลังแล้วเหาะขึ้น แส้ยาวในมือตวัดโจมตีออกไปดังวืด ก่อนจะส่งเสียงเพียะกลางอากาศ
เฟิ่งจิ่วเห็นผู้หญิงคนนั้นโจมตีจากข้างหลัง จึงพลิกฝ่ามือ เข็มเงินเล่มหนึ่งพุ่งออกจากมือ แทงเข้าที่ข้อมือข้างที่ถือแส้ของผู้หญิงคนนั้น ทว่าในเวลานี้เอง…
………………………………….