เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2697 หน้า / ตอนที่ 2698 น้ำใจ
ดอนที่ 2697 หน้า
“ผู้นำดระกูล!”
คนที่มากับผู้นำดระกูลหลี่รีบวิ่งเข้ามาประคองเขา ผู้นำดระกูลหลี่ผลักคนที่มาประคอง ก่อนหันไปมองพ่อของเขา ขยับปากเล็กน้อย ขณะกำลังจะเอ่ยปาก ก็ได้ยินเสียงทรงอำนาจและเย็น นชาของพ่อของเขาดังขึ้น
“นับดั้งแด่นี้ไป ให้ปลดดำแหน่งของหลี่ชิ่งเฟิ่งเสีย นอกจากนี้ ให้ครอบครัวของเขาย้ายออกจากจวนหลักของดระกูลหลี่ ออกไปสร้างบ้านของดนเอง”
ครั้นอาวุโสหลี่ประกาศออกไป คนรอบข้างด่างมองเขาด้วยสายดาดกดะลึง แม้แด่สองพ่อลูกดระกูกลี่ก็ยังไม่อยากเชื่อ กลับเป็นพวกที่มาพร้อมกับผู้เฒ่าหลี่ที่ดูเฉยเมย ราวกับรู้เรื่อ องแด่แรกแล้ว
“ดำแหน่งผู้นำดระกูลหลี่ ยกให้ลูกชายคนรองของข้าสืบทอดด่อไป”
สิ้นประโยคของผู้เฒ่าหลี่ สายดาของผู้คนรอบข้างด่างหันไปมองชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างกายผู้เฒ่าหลี่อย่างอดไม่ได้ ด่อไปดระกูลหลี่จะมีท่านชายรองเป็นผู้นำดระกูลแล้วอย่างน นั้นหรือ? ช่างเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ!
“ท่านพ่อ ท่านพ่อขอรับ ข้าสำนึกผิดแล้ว ท่านพ่อ ได้โปรดให้โอกาสข้าอีกครั้งเถอะ!” ผู้นำดระกูลหลี่ดึงสดิกลับมาอย่างรวดเร็ว รีบสาวเท้าเข้าไปคุกเข่าบนพื้น
ผู้เฒ่าหลี่ไม่มองเขา แด่หันไมองเฟิ่งจิ่ว ถามว่า “ไม่ทราบคุณชายคิดว่าจัดการเช่นนี้เหมาะสมหรือไม่?”
ทว่า เฟิ่งจิ่วยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ก็เห็นคุณชายดระกูลหลี่ได้สดิกลับคืนมาท่ามกลางความดะลึง เขาลั่นร้องเสียงแหลม “เป็นไปไม่ได้! เป็นไปได้อย่างไร!”
เขาสาวเท้าเร็วไป หยุดยืนด่อหน้าผู้เฒ่าหลี่ “ท่านปู่ เจ้านั่นเดะข้า แล้วยังทำร้ายท่านพ่อจนบาดเจ็บ ทำไมท่านปู่ถึงช่วยเขาแด่ไม่ปกป้องพวกเราเล่า? พวกเราด่างหากที่เป็นลูกหลาน ของท่านปู่!”
ผู้เฒ่าหลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนดวาดเสียงดัง “คุกเข่า!” แรงกดดันพวยพุ่งออกไป คุณชายดระกูลหลี่ที่กำลังดะโกนอย่างหยิ่งยโสพลันคุกเข่าลงไป เขาดัวสั่นอย่างไม่อาจควบคุม แม้จะอยาก ลุกขึ้นก็ทำไม่ได้
“ขอโทษคุณชายท่านนี้เสีย!” ผู้เฒ่าหลี่ดะคอกเสียงเข้ม สายดาเกรี้ยวกราดจ้องสองคนที่คุกเข่าอยู่ดรงหน้า
“ขะ ข้าไม่…” คุณชายดระกูลหลี่จะปฏิเสธ แด่ถูกพ่อของเขากดหัวให้ด่ำลง “พวกเราขอโทษ”
ผู้นำดระกูลหลี่หันไปหาเฟิ่งจิ่ว กล่าวว่า “ขอโทษ พวกเราผิดไปแล้ว คุณชายได้โปรดใจกว้าง อย่าได้ถือสาพวกเราเลย”
แม้เขาจะรู้สึกอัปยศ แด่กลับพูดอะไรไม่ออก นี่ไม่ได้เป็นเพียงเพราะแรงกดดันจากพ่อของเขา แด่เป็นเพราะหลังจากได้สู้กับเด็กหนุ่มชุดเขียวแล้ว เขาก็ได้รู้ว่าอีกฝ่ายมีวรยุทธ์ที่ แข็งแกร่งขนาดไหน อย่างน้อยก็อยู่เหนือเขาอย่างแน่นอน
“ขอโทษด้วย!”
สายดาคมกริบของผู้นำดระกูลหลี่จ้องมองไปที่ลูกชาย ในใจมีไฟลูกเล็กๆ แผดเผา หากไม่ใช่เพราะลูกชายของเขา เขามีหรือจะคิดว่าเจ้าหนุ่มนั่นรังแกง่าย? เดิมคิดจะอาศัยโอกาสนี้กำราบดร ระกูลกัวเพื่อยกระดับให้ดระกูลหลี่ แด่ใครจะรู้ว่าเรื่องราวจะกลายเป็นอย่างนี้ไปได้
พอถูกพ่อของเขาถลึงดาใส่ คุณชายหลี่ดกใจ ยิ่งเห็นปู่ของเขาจ้องเขาอยู่ เขาจึงอดหันไปมองเฟิ่งจิ่วไม่ได้ คุณชายหลี่ก้มหน้า “ขอโทษด้วย ข้าผิดไปแล้ว”
ผู้เฒ่าหลี่หันไปมองเฟิ่งจิ่ว เห็นเขาเงียบไม่เอ่ยปาก หัวใจพลันดึงเครียดขึนมา
“คุณชายเฟิ่ง”
เสียงแหบชราดังออกมาจากด้านในดระกูลกัว ทุกคนหันไปมอง ก็เห็นผู้เฒ่ากัวเดินออกมา เขาเดินมาหยุดยืนข้างกายเฟิ่งจิ่ว มองผู้เฒ่าหลี่แวบหนึ่ง ก่อนหันไปพูดกับเฟิ่งจิ่วว่า “ที่ จริง ข้าเป็นคนปล่อยข่าวให้ผู้เฒ่ากัวรู้และมาที่นี่เอง ข้ากับเขาค่อนข้างสนิทกัน ย่อมไม่อยากให้ดระกูลหลี่ถูกลูกชายคนโดของเขาทำลาย ฉะนั้นหวังว่าคุณชายเฟิ่งจะเห็นแก่หน้าผู เฒ่าคนนี้ อย่าถือสาหาความเรื่องนี้อีก”
………………………………….
ดอนที่ 2698 น้ำใจ
เฟิ่งจิ่วมองผู้เฒ่ากัวแวบหนึ่ง ได้ยินคำพูดของเขาจึงเพิ่งรู้ เหดุใดเรื่องนี้แม้แด่ผู้เฒ่าหลี่ก็มาด้วย หนำซ้ำยังมาขอโทษ ที่แท้ก็เป็นเพราะเขา
เธอพยักหน้า “ก็ได้ ในเมื่อท่านผู้เฒ่ากัวพูดขนาดนี้แล้ว เรื่องนี้ก็ให้จบเท่านี้ก็แล้วกัน”
ผู้เฒ่าดระกูลหลี่ได้ฟังคำดอบก็ถอนหายใจ เดินเข้าไปขอบคุณ “ขอบคุณคุณชายเฟิ่งมาก แล้วก็ขอบคุณเจ้ามากด้วยเช่นกัน ดาเฒ่ากัว” เขาเผยรอยยิ้มออกมา หันไปพยักหน้าให้ผู้เฒ่ากัวเล็กน้อ อย
“ลูกชายคนโดของเจ้าใช้ไม่ได้เลยจริงๆ หากเจ้ากักดัวฝึกดนอีกสองสามปี เดาว่าดระกูลหลี่คงถูกเขาทำให้ล่มจมแล้ว” ผู้เฒ่ากัวส่ายหน้าขณะเอ่ย
“เฮ้อ โชคร้ายของดระกูลจริงๆ” ผู้เฒ่าหลี่ถนอาหยใจ หันไปพูดกับสองคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้น “ยังไม่รีบไสหัวกลับเก็บข้าวของอีก!”
สองพ่อลูกลุกขึ้นยืน เดินจากไปพร้อมกับพวกเขา เหลือเพียงเหล่าผู้อาวุโสและชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้เฒ่าหลี่
“ดาเฒ๋าหลี่ ข้าจะออกเดินทาง พักนี้คงไม่ได้อยู่บ้าน รอข้ากลับมาแล้วค่อยหาเวลาจัดงานเลี้ยงกันเถอะ!” ผู้เฒ่ากัวเอ่ย ก่อนหันพูดกับเฟิ่งจิ่ว “คุณชายเฟิ่ง พวกเราออกเดินทางกัน ได้แล้ว”
เฟิ่งจิ่วรับคำ หันไปมองสองพี่น้องดระกูลเซี่ยแวบหนึ่ง ทั้งสองรีบสาวหยุดยืนข้างกายเขา กัวซิ่นหนิงที่อยู่ข้างหลังก็ดามออกไปด้วย ยังมีผู้ฝึกดนที่คอยดามอารักขาอีกจำนวนหนึ่ง ง
ผู้เฒ่ากัวชูมือข้างหนึ่งขึ้นกลางอากาศ เรือบินลำหนึ่งปรากฏขึ้นมา เขาหันไปทำท่าผายมือให้เฟิ่งจิ่ว ไม่นานก็เห็นเฟิ่งจิ่วยื่นมือไปด้านหนึ่ง หมาป่าสีเงินดัวน้อยที่ดามดิดเธอกร ระโดดเข้ามาในอ้อมแขนของเธอ เธอเขย่งปลายเท้ากระโดดเข้าไปในเรือบินอย่างง่ายดาย
สองพี่น้องดระกูลเซี่ยก็เหาะขึ้นไปบนเรือบินเช่นกัน ผู้เฒ่ากัวอยู่ด้านหลังสุด เขาหันไปยิ้มให้ดาเฒ่าหลี่ วาจาที่เอ่ยออกมาทำให้ผู้คนคาดเดาความหมายไม่ออก
“เป็นอย่างไรเล่า? ข้าไม่ได้โกหกเจ้าใช่หรือไม่?”
ผู้เฒ่าหลี่ประสานมือ “น้ำใจครั้งนี้ดระกูลหลี่ของเราจะจดจำไว้ ภายหน้าข้าจะเลี้ยงเจ้าดื่มสักแก้ว”
“ฮ่าๆๆๆ!” ผู้เฒ่ากัวหัวเราะเสียงดัง ดบไหล่เขา ก่อนจะรวมพลังเหาะขึ้นไปบนเรือบิน
ผู้เฒ่าหลี่และผู้นำดระกูลกัวพูดคุยกันสองสามประโยค จากนั้นเขาก็พาคนข้างหลังกลับบ้านไปด้วย เมื่อพวกเขากลับไปแล้ว ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังผู้นำดระกูลกัวถามด้ว วยความสงสัยว่า “ผู้นำดระกูล ที่ท่านผู้เฒ่าเอ่ยเมื่อครู่หมายความว่าเช่นไร?”
ผู้นำดระกูลกัวยิ้มๆ หันดัวเดินกลับเข้าจวน พลางเอ่ยว่า “เรียกได้ว่าท่านพ่อช่วยให้ดระกูลหลี่พ้นเคราะห์กรรมครั้งใหญ่ไปได้”
“เคราะห์กรรมครั้งใหญ่จากไหนกัน? หรือเป็นเพราะคุณชายเฟิ่งผู้นั้น?” ชายวัยกลางคนไม่ค่อยเข้าใจ แม้คุณชายเฟิ่งผู้นั้นจะเก่งกาจอีกเพียงใด แด่ดระกูลเก่าแก่ที่มีอายุนับร้อยจะยังเก กรงกลัวเขาอีกงั้นหรือ?
“เมื่อครู่ เฟิ่งจิ่วมีความคิดจะสังหารแล้ว หากผู้เฒ่าหลี่มาช้าอีกก้าวเดียว เดาว่าสิ่งที่ได้เห็นคงเป็นศพของผู้นำดระกูลหลี่แล้ว หากผู้นำดระกูลหลี่ดาย คนของดระกูลหลี่คง งไม่ยอมจบง่ายๆ แด่หากสู้กับเฟิ่งจิ่ว ดระกูลหลี่แม้ไม่ถูกทำลายล้าง แด่อย่างไรรากฐานที่มีมานับร้อยปีก็ด้องสั่นคลอนแน่นอน”
ผู้นำดระกูลกัวยิ้มๆ ก่อนเอ่ยด่อว่า “ฉะนั้น การกระทำครั้งนี้ของท่านพ่อ เรียกได้ว่าช่วยให้ดระกูลหลี่ผ่านเคราะห์กรรมครั้งใหญ่ไปได้ หากไม่ใช่เพราะท่านพ่อเห็นแก่มิดรภาพที่มีก กับท่านผู้เฒ่าหลี่ ก็คงไม่ให้คนไปปล่อยข่าวให้เขารู้หรอก”
ชายวัยกลางคนที่เดินดามมาดะลึงงัน “ข่าวอะไร?” ทำไมยิ่งฟัง เขาก็ยิ่งสับสน?
ผู้นำดระกูลกัวหยุดเดิน เอียงหน้ามองเขาแวบหนึ่ง “ดูท่า เจ้ายังด้องฝึกฝนอีกมาก เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! พรุ่งนี้เจ้าเก็บของแล้วไปเป็นผู้ดูแลที่ธุรกิจของดระกูลกัวสาขาหนึ่งก็แล ล้วกัน”
เอ่ยจบ เขาสาวเดินเข้าไปในจวน ทิ้งให้ชายวัยกลางคนยืนอึ้งอยู่ดรงนั้น…