เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2823 - บังคับให้ประนีประนอม
ตอนที่ 2823 – บังคับให้ประนีประนอม
“สามวัน ? สามวันเท่านั้น ? นั่นไม่ใช่เวลาที่เพียงพอ” หัวใจของเหล่าอัจฉริยะในโถงศักดิ์สิทธิ์แพนธีออนต่างก็บีบรัดแน่นขึ้นทันทีที่พวกเขาได้ยินเส้นตายของหัวหน้าศาลาที่ห้า
นี่เป็นเหรียญผลึกระดับสูงสุดหลายพันล้านไม่ใช่สองสามแสนหรือไม่กี่ล้าน มีเพียงตระกูลที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาเท่านั้นที่สามารถระดมเหรียญผลึกจำนวนมหาศาลเช่นนี้ได้ แต่นี่คือโลก กดาวทมิฬไม่ใช่โลกแห่งเซียน เมื่อพวกเขาออกจากที่นี่พวกเขาจะอยู่ในซากปรักหักพังของโลกแห่งจิตวิญญาณเท่านั้น ยังมีระยะห่างอย่างมากระหว่างซากปรักหักพังของโลกแห่งจิตวิญญาณกับโลกแ แห่งเซียน
สามวันนั้นสั้นเกินไปจริง ๆ
“ รีบด่วน รีบด่วน ! ส่งคนไปแจ้งข่าวนี้ให้ผู้อาวุโสสูงสุดที่รออยู่ข้างนอกทันที ! ” ในช่วงเวลาต่อมาอัจฉริยะคนหนึ่งเริ่มส่งเสียงเรียกและส่งผู้คนออกไปพร้อมกับข่าวอย่างไม่สบอารมณ์ เขาฉกฉวยทุกวินาทีอย่างแท้จริง
ทุกคนมีพฤติกรรมเช่นนั้น เนื่องจากโลกดาวทมิฬเป็นสถานที่ที่มีประโยชน์มากมายสำหรับทุกตระกูลของพวกเขา ผลประโยชน์บางอย่างที่สามารถนำเสนอนั้นไม่สามารถถูกทดแทนได้ด้วยซ้ำ เป็นไปได้ท ที่จะกล่าวได้ว่าภายในสถานที่ทั้งหมดที่พวกเขารู้จัก มีเพียงโลกดาวทมิฬเท่านั้นที่สามารถให้สิทธิประโยชน์เหล่านี้ได้
ด้วยเหตุนี้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตระกูล พวกอัจฉริยะทุกคนจึงปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
ในไม่ช้า โถงศักดิ์สิทธิ์แพนธีออนก็ว่างเปล่าโดยเหลือทิ้งข้างหลังเพียงอัจฉริยะของนิกายโอสถหยกและผู้เข้าร่วมสองสามคนของเขา
สีหน้าของนิกายโอสถหยกได้มืดครึ้มลงอย่างกลัวขณะที่เขาจ้องมองอย่างมืดมน การที่เขาปฏิเสธที่จะยอมรับสิ่งนี้นั้นรุนแรงขึ้นจนมันกว้างใหญ่และลึกเหมือนมหาสมุทร
อัจฉริยะจากนิกายโอสถหยกไม่ใช่คนเดียวที่มีประสบการณ์นี้ เหลยหยุนแห่งตระกูลสายฟ้าสวรรค์ก็ยืนอยู่คนเดียวในโถงศักดิ์สิทธิ์ของเขา เขารู้สึกขุ่นเคือง
“ทำไม ? เหตุใดตระกูลอื่น ๆ จึงได้รับอนุญาตให้ใช้เหรียญผลึก ในขณะที่ตระกูลสายฟ้าสวรรค์ของเราต้องใช้หยกล้ำค่าของกฎแห่งเวลาที่แม้แต่ตระกูลของเราก็ไม่มีในครอบครอง ? นี่ไม่ยุติธ ธรรมเลย สิ่งนี้ไม่ยุติธรรม” เหลยหยุนเดินไปรอบ ๆ ในโถงศักดิ์สิทธิ์ เขาหงุดหงิดอย่างมาก
“หัวหน้าศาลาที่ห้าทำเกินไปแล้ว หากสิ่งที่เลวร้ายกลายเป็นเลวร้ายที่สุด หากมีการผลักดันเข้ามาตระกูลสายฟ้าสวรรค์ของเราจะหยุดลงโดยขึ้นอยู่กับศาลาเทพที่ห้า ตอนนี้เผ่าดาวทมิฬไม ม่ได้รับความทุกข์ทรมานจากการขาดแคลนเหรียญผลึกใช่หรือไม่ ? ถ้าเจ้าทำให้เราโกรธจริง ๆ ตระกูลสายฟ้าสวรรค์ของเราก็แค่ใช้เหรียญผลึกเพื่อเป็นมิตรกับศาลาเทพที่หนึ่ง ข้าไม่เชื่อว่าศ ศาลาเทพที่ห้าหรือเจ็ดนั้นจะกล้าพอที่จะสัมผัสแม้แต่เส้นผมของเรา เมื่อเราได้รับการคุ้มครองจากศาลาเทพที่หนึ่ง” เหลยหยุนกล่าวด้วยความโกรธเคือง
“นายน้อย โปรดระวังสิ่งที่ท่านพูด โปรดระวัง หัวหน้าศาลาที่ห้าน่าจะยังอยู่ใกล้ ๆ หากหัวหน้าศาลาที่ห้าได้ยินสิ่งที่ท่านพูด โดยพื้นฐานแล้วเราสามารถพ่ายแพ้ต่อเผ่าดาวทมิฬทั้ งหมด” สีหน้าของชายชราที่อยู่ใกล้ ๆ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นผู้ดูแลเปลี่ยนไปและเตือนเหลยหยุนทันที สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “และนายน้อย ท่านเคยคิดหรือไม่ว่าเราไม่มีทางเ เลือกนี้ แม้ว่าเราจะต้องการเป็นมิตรกับศาลาเทพที่หนึ่ง ? ศาลาเทพทั้งสิบแห่งเผ่าดาวทมิฬเป็นตัวตนที่เราพยายามจะตีสนิทเพราะพวกเขาดูถูกเราอย่างสิ้นเชิง หากไม่ใช่เพราะความจริงท ที่ว่าเราสามารถจัดหาทรัพยากรพิเศษบางอย่างจากโลกแห่งเซียน และความจริงที่ว่าเราสามารถจัดหาซากสัตว์อสูรให้พวกเขาได้อย่างต่อเนื่อง พวกเขาอาจจะไม่อนุญาตให้เราอยู่ในโลกดาวทมิฬ ”
“และเราไม่รู้ว่าหัวหน้าศาลาที่หนึ่งเป็นคนแบบไหน แต่นั่นแตกต่างกับหัวหน้าศาลาที่ห้า อย่างน้อยที่สุดเราสามารถบอกได้เพียงแวบเดียวว่าหัวหน้าศาลาที่ห้าคอยปกป้องเมืองร้อยเซ ซียนของเราในระดับหนึ่ง หากเราดูความขัดแย้งระหว่างศาลาเทพที่ห้าและศาลาเทพที่เจ็ดและหก ด้วยเหตุนี้โดยส่วนตัวแล้วข้าเชื่อว่าหัวหน้าศาลาที่ห้านั้นน่าเชื่อถือมากกว่าเล็กน้อย ย”
เหลยหยุนค่อย ๆ สงบลงหลังจากได้ยินคำอธิบายของชายชรา
ชายชราพูดต่อ “ยังมีอะไรอีกที่นายน้อยอาจคิดไม่ถึง แม้ว่าสิ่งของที่หัวหน้าศาลาที่ห้าเรียกร้องจากตระกูลสายฟ้าสวรรค์ของเราจะมีค่ามากกว่าความต้องการของเขาที่มีต่อตระกูลอื่น ๆ มาก แต่เราจะได้รับความคุ้มครองจากหัวหน้าศาลาที่ห้าตลอดไปเมื่อเรามอบหยกพร้อมกฎแห่งเวลา 30 ชิ้น กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือตระกูลสายฟ้าสวรรค์ของเราจะไร้กังวลในอาณาเขตของเผ่า ดาวทมิฬ ตราบใดที่เราไม่ยั่วยุศาลาเทพ ไม่จำเป็นที่เราจะต้องอยู่ในความหวาดกลัวตลอดเวลาและดำเนินการทุกอย่างด้วยความระมัดระวังเหมือนในอดีต”
“สำหรับองค์กรที่แลกเปลี่ยนเหรียญผลึกเพื่อการปกป้อง พวกเขามีเวลาจำกัด ตอนนี้เผ่าดาวทมิฬกำลังต้องการเหรียญผลึก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเหรียญผลึกจึงสามารถแลกเปลี่ยนเป็นความสงบชั่ วคราวได้ อย่างไรก็ตาม การขาดแคลนเหรียญผลึกนี้ผ่านไปศาลาเทพที่ห้าสามารถละทิ้งพวกเขาได้ทุกเมื่อ”
การวิเคราะห์ของชายชราเปิดใจของเหลยหยุนความไม่พอใจทั้งหมดของเขาหายไปในขณะที่เขาหัวเราะดัง ๆ “ถูกต้อง ในอดีตเผ่าดาวทมิฬต้องการเหรียญผลึก แต่ไม่เคยต้องการในปริมาณมากดังเช ช่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ เมื่อช่วงเวลานี้ผ่านไปความต้องการของเผ่าดาวทมิฬจะกลับมาเป็นปกติ ถึงตอนนั้นแม้ว่าพวกเขาจะเสนอเหรียญผลึกระดับสูงสุดถึงหมื่นล้านชิ้นเพื่อให้เผ่าดาวทมิฬแลกมา แต่เผ่าดาวทมิฬก็อาจไม่ต้องการมัน อย่าลืมว่าจำนวนที่เผ่าดาวทมิฬต้องการ ทำให้เหรียญผลึกหมดลงก็เหมือนกับการถมลงไปในมหาสมุทรเมื่อเทียบกับโลกแห่งเซียนของเรา แม้ว่าพวกเขา จะมีเหรียญผลึกหลายหมื่นล้านแต่ก็ไม่สามารถใช้มันได้ทั้งหมด และเมื่อเวลาผ่านไปพลังงานในเหรียญผลึกก็จะรั่วไหลไปโดยเปล่าประโยชน์เท่านั้น”
“ในตอนนั้น ข้าอยากเห็นว่าพวกเขาจะรับมือกับความเกลียดชังและความโกรธของศาลาเทพที่เจ็ดอย่างไรโดยไม่มีศาลาเทพที่ห้าคอยคุ้มครอง อย่างไรก็ตาม ตระกูลสายฟ้าสวรรค์ของเราจะแตกต่างก กัน แม้ว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าเราจะได้ไม้เท้าสั้น ๆ ในตอนนี้ แต่ก็จะขจัดปัญหาให้เราไปตลอดกาลในระยะยาว” เหลยหยุนเปลี่ยนหัวข้อและกล่าวอย่างเคร่งเครียดกับชายชราว่า“ ผู้อาวุโสซู โปรดเดินทางด้วยตัวเองและนำคำพูดของหัวหน้าศาลาที่ห้าไปยังตระกูล มันจะขึ้นอยู่กับตระกูลว่าต่อไปเราจะสามารถเสนอหยกอีก 30 ชิ้นได้หรือไม่”
ครู่หนึ่ง ทางเข้าและออกไปยังอุโมงค์ระหว่างสองโลกก็เต็มไปด้วยผู้คน ผู้คนคึกคักขณะเข้าออกและส่งข้อความไปมา
“อะไร ? เผ่าดาวทมิฬกล้าเรียกร้องค่าคุ้มครองจากเราจริงหรือ ? ? พวกเขากล้าดียังไง ! พวกเขากล้าดียังไง ! พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่น่าเกรงกลัวเพราะไม่มีขั้นบรรพกาลแม้แต่คนเดียว ว ดังนั้นพวกเขากล้าดียังไงที่จะพยายามรีดไถตระกูลสูงสุดของเรา”
ในไม่ช้าข่าวจากเมืองร้อยเซียนก็ไปถึงเมืองดาวทมิฬในซากปรักหักพังของโลกแห่งจิตวิญญาณ ผู้อาวุโสสูงสุดขององค์กรระดับสูงหลายแห่งเฝ้าดูสถานที่นั่นด้วยตัวเองนั้นเป็นขั้นบรรพกาลทั งหมด
เมื่อผู้อาวุโสสูงสุดเหล่านี้ทราบข่าวจากโลกดาวทมิฬ พวกเขาต่างก็พากันเดือดดาล
เหรียญผลึกระดับสูงสุด 2,000 ล้านสำหรับการปกป้องหนึ่งศตวรรษ เหรียญผลึกระดับสูงสุด 5,000 ล้านสำหรับการปกป้อง 5 ศตวรรษ โดยพื้นฐานแล้วนี่เป็นการขู่กรรโชกและเป้าหมายที่พวกเขาพยายาม มรีดไถคือองค์กรระดับสูงสุดเหล่านี้ที่ยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของโลกแห่งเซียน
ตระกูลของพวกเขารุ่งเรืองและมีอำนาจมาก แต่ตอนนี้พวกเขาก็พบกับข้อเรียกร้องที่รุนแรงในเรื่องค่าคุ้มครองจากเผ่าพันธุ์ที่ไร้ความน่าเกรงกลัวซึ่งไม่มีแม้แต่ขั้นบรรพกาล เรื่องทั้งห หมดเป็นเรื่องไร้สาระมากจนพวกเขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนตลอดหลายปีที่พวกเขามีชีวิตอยู่
บางคนระเบิดอารมณ์ด้วยความโกรธ ในขณะที่คนอื่น ๆ รู้สึกขบขันกับการเหยียดหยามของเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอนี้
“พวกเราต้องทำอะไร ? เราควรจะทำอย่างไรกับการขู่กรรโชกเช่นนี้จากเผ่าดาวทมิฬ ? พวกเราเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก ควรจะประนีประนอมกับเผ่าดาวทมิฬ ฬหรือ ? ”
“เฮ้อ เราจะทำอะไรได้อีก ? ทางเข้าโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นมีข้อจำกัด ซึ่งป้องกันไม่ให้ผู้ที่เป็นดั่งเช่นพวกเราเข้าไป จึงไม่มีอะไรที่เราสามารถทำได้เกี่ยวกับเผ่าดาวทมิฬ เ เผ่าดาวทมิฬยังให้ผลประโยชน์ที่เราไม่สามารถแยกจากกันได้ ดังนั้นเราจะทำอะไรได้อีกนอกเหนือจากการประนีประนอม ? ”
“เหรียญผลึกระดับสูงสุด 5,000 ล้านเพื่อความสงบสุข 5 ศตวรรษ นั่นคือเหรียญผลึก 1 พันล้านสำหรับศตวรรษแห่งความสงบสุข เราจะมอบให้กับพวกเขา นอกจากเราจะมอบให้กับพวกเขา เราจะทำอะไร รได้อีก ? ”
“ใช่ เหรียญผลึก 1 พันล้านแห่งเป็นเวลาหนึ่งศตวรรษเป็นเพียงแค่หยดในมหาสมุทรเมื่อเทียบกับสิ่งที่เราได้รับจากโลกดาวทมิฬ อย่าลืมว่าเหรียญผลึกเป็นทรัพยากรหมุนเวียนในโลกแห่งเซ ซียนของเรา มีอุปทานที่ไม่สิ้นสุด ในขณะที่วัสดุหายากบางส่วนจากโลกดาวทมิฬจะปรากฏในโลกดาวทมิฬเท่านั้น เราจะพลาดไม่ได้เลย”
“แต่เวลาก็กระชั้นเกินไป จริง ๆ แล้วพวกเขาให้เวลาเราแค่ 3 วัน ห้าพันล้านเหรียญผลึกระดับสูงสุดไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย ข้าจะต้องกลับไปที่ตระกูลเพื่อจัดการเรื่องนี้ แต่การเดินทา างไปกลับคนเดียวจะใช้เวลามากกว่าสามวัน”
“ลืมมันซะ เราจะไม่ทำทันเวลา ถ้าเรากลับไปที่ตระกูลของเรา มายืมจากองค์กรอื่นกันเถอะ”
“ดูเหมือนจะมีเพียง 50 แห่ง ให้ตายเถอะ เราต้องรวบรวมเหรียญผลึกระดับสูงสุด 5,000 ล้านชิ้นให้เร็วที่สุด”
เป็นผลให้ในช่วงต่อไปผู้อาวุโสสูงสุดขององค์กรใหญ่ ๆ หลายแห่งได้ออกเดินทางด้วยตัวเองไม่ว่าจะเป็นการยืมหรือแลกเปลี่ยนเหรียญผลึกจากองค์กรต่าง ๆ ในทวีปดาวทมิฬ พวกเขาเริ่มรวบรวม มเหรียญผลึกเป็นจำนวนมาก
สิ่งนี้ส่งผลโดยตรงให้เหรียญผลึกเกือบทั้งหมดอยู่ในความครอบครองขององค์กรต่าง ๆ ในทวีปดาวทมิฬทั้งหมดลงเอยในกระเป๋าของพวกเขา มันนำไปสู่การขาดแคลนเหรียญผลึกอย่างมากในทวีปดา าวทมิฬโดยตรงซึ่งผู้ฝึกฝนหลายคนไม่เคยเจอ ซึ่งยังมีไม่เพียงพอที่จะใช้สำหรับตัวเอง
อย่างไรก็ตาม โดยพื้นฐานแล้วองค์กรทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลังเมืองร้อยเซียน พยายามรวบรวมเหรียญผลึก 5,000 ล้านชิ้น ดังนั้นหลังจากรวบรวมเหรียญผลึกทั้งหมดในทวีปดาวทมิฬ แล้วมันก็ยั งไม่เพียงพอ ด้วยเหตุนี้ผู้อาวุโสสูงสุดจึงออกเดินทางด้วยตนเองหรือส่งผู้อาวุโสขั้นอสงไขยไปยังอีก 4 ทวีปในซากปรักหักพังของโลกแห่งจิตวิญญาณซึ่งนำไปสู่การแย่งชิงเหรียญผลึกครั้งใหญ่