กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 147 ความตายด้านของเสิ่นอี้โจว
บทที่ 147 ความตายด้านของเสิ่นอี้โจว
บทที่ 147 ความตายด้านของเสิ่นอี้โจว
ขณะที่มือของเซี่ยชิงหยวนล้วงเข้าไปกอบกุมบางอย่าง เสิ่นอี้โจวก็เหยียดร่างตรงโดยไม่รู้ตัว
ยิ่งเมื่อเธอบีบและลูบเบา ๆ มันยิ่งทำให้เส้นเลือดของเขาปูดออกมา
เขากำลังจะเด้งตัวขึ้นโดยหมายจะสั่งสอนบทเรียนหญิงสาวตัวน้อยผู้กล้าลองดีคนนี้ แต่เขาก็ได้ยินเซี่ยชิงหยวนพูดด้วยสีหน้าขยะแขยงซะก่อน
เขาพลันผงะไป
เลือดลมที่กำลังสูบฉีดในร่างพลันเย็นเยียบในชั่วพริบตา
ชายหนุ่มกล่าวด้วยความไม่เชื่อ “ไม่เท่าไหร่งั้นเหรอ?”
เซี่ยชิงหยวนพยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช่”
เสิ่นอี้โจวขมวดคิ้ว “ไม่ใช่คุณหรือไงที่ร้องไห้และบอกว่าให้พอเถอะทุกครั้งน่ะ?”
เซี่ยชิงหยวน “…”
สีหน้าของเธอดูผิดแปลกไปจากเดิม “คุณไม่เข้าใจ นั่นเรียกว่าการแสร้งแสดงความอ่อนแอ”
เสิ่นอี้โจวพยักหน้าทำราวกับเข้าใจ “ถ้างั้นมันก็ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ‘ไม่ไหวแล้ว’ และ ‘ไม่เอาอีกแล้ว’ สินะ?”
เซี่ยชิงหยวนที่ถูกอีกฝ่ายจับทางได้หน้าแดงเรื่อทันที เมื่อเขาพูดแบบนั้น
เธอเอื้อมมือไปปิดปากของเขาทันที “เงียบไปเลย!”
เสิ่นอี้โจวคว้ามือของเธอ รู้สึกราวกับว่าเขาได้เห็นความลับบางอย่างเข้าแล้ว
เมื่อเขาต้องการค้นหาบางสิ่งผ่านสายตาของเซี่ยชิงหยวน เธอก็ยื่นมืออีกข้างออกไปปิดหน้าเสิ่นอี้โจวไว้
มือของเธอปิดทั้งปากและดวงตาของเขา ใบหน้าของเขาถูกบดบังจนเหลือเพียงรูจมูกสำหรับหายใจเท่านั้น
เสิ่นอี้โจว “…”
เซี่ยชิงหยวนพยายามควบคุมเสียงของเธอไม่ให้ฟังดูตื่นตระหนกที่สุด “ถ้าคุณมีเวลามากนักก็ไปฝึกฝนมันให้ดีกว่านี้สิ”
เมื่อพูดอย่างนั้น เธอก็ก้าวลงจากร่างของชายหนุ่ม และวิ่งหนีเข้าในห้องน้ำ
เสิ่นอี้โจวลุกขึ้นจากเตียงพลางมองสำรวจร่างกายตัวเอง ใบหน้าของเขาก็ซีดเซียวลง
ทำเอาเขาหมดความมั่นใจเลยทีเดียว
เซี่ยชิงหยวนไม่พอใจในตัวเขาจริงเหรอ?
ตอนแรกชายหนุ่มคิดว่ามันเป็นความผิดของเขา แต่หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว ปัญหาน่าจะเกิดจากชิงหยวน
แต่ถึงอย่างนั้น เขาจะไม่ยอมรับว่ามันเป็นปัญหาว่าเขาจะทำได้หรือไม่
เขาต้องคุยกับเธอดี ๆ
เสิ่นอี้โจวตัดสินใจที่จะคุยกับเซี่ยชิงหยวนเมื่อเธอกลับมา
ทว่าหลังจากรอเกือบชั่วโมง หญิงสาวก็ยังไม่กลับมา
เสิ่นอี้โจวรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาจึงลุกขึ้นไปตามเธอ
เขาผลักประตูออกไปก็ได้พบว่าประตูห้องทำงานแง้มอยู่ และมีแสงลอดออกมาจากประตู
เสิ่นอี้โจวเดินไปยังห้องทำงาน
ชายหนุ่มมองผ่านบานประตูที่แง้มอยู่เล็กน้อย เห็นเซี่ยชิงหยวนนั่งอยู่หน้าโต๊ะ
เธอก้มศีรษะลง และตรงหน้าเธอคือแผ่นกระดาษเปล่า เธอถือไม้บรรทัดและดินสอ ขีดเขียนและแก้ไขบางอย่างบนกระดาษ
เสิ่นอี้โจวเข้าใจทันทีว่าอีกฝ่ายน่าจะกำลังวาดแผนผังของร้านอยู่
เขาผ่อนฝีเท้าลงและเดินเข้าไปเงียบ ๆ
เมื่อมองไปยังกระดาษบนโต๊ะ ความประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา
ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง เซี่ยชิงหยวนเกือบจะวาดแผนผังของร้านเสร็จแล้ว
เขาเคยไปที่ร้านนั้นมาก่อน
สิ่งที่เซี่ยชิงหยวนวาดไม่ต่างจากสิ่งที่เขาจำได้
ยิ่งกว่านั้น เธอยังออกแบบร้านที่อยากจะต่อเติมได้อย่างชาญฉลาด ทั้งพื้นที่ใช้สอยตลอดจนตำแหน่งของหน้าต่างและประตูหลัง ซึ่งไม่เพียงเพิ่มการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มีแสงสว่างเพียงพออีกด้วย
เซี่ยชิงหยวนกำลังวาดรูปและระบายสี ทันใดนั้นเธอก็รู้ว่าเสิ่นอี้โจวกำลังยืนอยู่ข้างหลังเธอ
เธออดไม่ได้ที่จะหวาดกลัว
เธอทาบมือบนหน้าอกตัวเอง “คุณทำให้ฉันกลัวแทบตาย”
สีหน้าลุแก่โทษฉายชัดบนใบหน้าของชายหนุ่ม “ผมขอโทษ ผมแค่เห็นว่าคุณจริงจังเกินไปก็เลยไม่ได้ส่งเสียงเรียกน่ะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยชิงหยวนก็หยิบกระดาษที่วาดแผนผังร้านเบื้องต้นขึ้นมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เป็นยังไงบ้าง วาดดีใช่ไหมล่ะ?”
มีรอยยิ้มบนใบหน้าเล็ก ๆ และดวงตาเจ้าเล่ห์ เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังขอคำชม
เสิ่นอี้โจวหยิบกระดาษที่เธอวาดขึ้นมาดู พยักหน้าแล้วพูดว่า “มันดีมากเลย”
เซี่ยชิงหยวนรู้สึกภาคภูมิใจ
เธอหยิบกระดาษกลับมาแล้ววางลงบนโต๊ะ “ฉันจะวัดขนาดให้แม่นยำอีกรอบเมื่อฉันไปขายของพรุ่งนี้”
เธอต้องการทำตู้กระจกเป็นแถว
ด้วยวิธีนี้ มันไม่เพียงกันฝุ่นบนถนนและน้ำลายของผู้คนได้เท่านั้น แต่ยังป้องกันยุงและแมลงวันได้อีกด้วย
สีหน้าของเสิ่นอี้โจวอ่อนลงอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อเห็นว่าเขายังคงยืนอยู่ทางด้านหลัง เซี่ยชิงหยวนโบกมือให้เขาและพูดว่า “คุณไม่ต้องรอฉันหรอก ไปนอนก่อนเถอะค่ะ”
เธอเพิ่งหนีมาและเดิมทีก็ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเสิ่นอี้โจวอย่างไร ดังนั้นเธอจึงเข้ามานั่งหลบในห้องนี้แทน
ต่อมาจู่ ๆ เธอก็อยากออกแบบร้านค้าขึ้นมา จึงเริ่มลงมือวาด
จนทำให้เธอหลงลืมเวลาจนถึงตอนนี้
เมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นของเซี่ยชิงหยวน เสิ่นอี้โจวก็ไม่อยากจะรบกวนเธออีก
เขาพยักหน้า “ก็ได้ แต่อย่าให้ดึกเกินไปล่ะ”
หลังจากพูดจบ เขาก็เดินออกจากห้องทำงานไป
…
เมื่อตื่นขึ้นในเช้าวันถัดมา เบ้าตาของเสิ่นอี้โจวกลับเป็นสีเทาอมฟ้า
หลินตงซิ่วมองอย่างงุนงง “เกิดอะไรขึ้น?”
ตอนที่ลุกมาดื่มน้ำเมื่อคืนนี้ เธอก็เห็นเช่นกันว่าเซี่ยชิงหยวนอยู่ในห้องทำงาน
แต่ทำไมเสิ่นอี้โจวถึงกลายเป็นฝ่ายนอนไม่หลับทั้งคืนกันล่ะ?
เสิ่นอี้โจวลูบคิ้ว “ไม่มีอะไรครับ แม่ไม่ต้องกังวลหรอก”
เมื่อหลินตงซิ่วเห็นรูปร่างของเสิ่นอี้โจวที่ดู ‘ผอม’ กว่าปกติ เธอก็ไม่ได้คิดว่าช่วงนี้ลูกชายออกกำลังกายหนักเกินไป แต่คิดเพียงว่าสุขภาพของลูกชายไม่ค่อยดีนัก
ยิ่งกว่านั้น เซี่ยชิงหยวนดูเหมือนจะหน้าแดงทุกวัน เธอจึงคิดถึงบางสิ่งในทันที
มีแม่ม่ายอาศัยอยู่ในหมู่บ้านหลังสามีเสียชีวิต ใบหน้าของเธอก็มีเลือดสูบฉีดทุกวันเช่นกัน
ต่อมามีคนมาบอกว่าเห็นชายคนหนึ่งเดินออกมาจากบ้านของแม่ม่ายคนนั้นตอนกลางดึก
ในสายตาของพวกเขา ความดูดีของผู้หญิงไม่เกี่ยวกับผู้ชายเลย
ทว่าการเข้าไปยุ่งเรื่องราวของลูกชายกับลูกสะใภ้มากเกินไปจะไม่เป็นผลดีกับเธอนัก
พวกเขาทำงานอย่างหนักเพื่อมีหลานชายตัวอ้วน ๆ ให้เธอ ดังนั้นเธอจึงต้องการสนับสนุนพวกเขา
หลินตงซิ่วเคยได้ยินว่าวิธีการดั้งเดิมในการช่วยให้กำเนิดเด็กผู้ชาย ดังนั้นเธอจึงคิดว่าน่าจะลองทำดู
เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดอย่างสบาย ๆ ว่า “เดี๋ยวแม่จะทำน้ำแกงให้ลูกดื่มบำรุงร่างกายสักหน่อยนะ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น การเคลื่อนไหวของเสิ่นอี้โจวก็ดูจะหยุดชะงักกึก
เขามองไปยังผู้เป็นแม่ด้วยความลำบากใจ
โดยไม่คาดคิด หลินตงซิ่วก็เห็นเช่นกัน!
ตอนนี้เขาไร้น้ำยาจริง ๆ เหรอ?
แต่ปฏิกิริยาของเสิ่นอี้โจวในมุมมองของหลินตงซิ่วคือความลำบากใจที่ถูกเธอค้นพบ
เธอตบหลังเสิ่นอี้โจวอย่างปลอบโยน “อย่าสร้างภาระให้ตัวเองมากเกินไปเลย แล้วก็ไม่มีอะไรต้องอาย แม่รู้สูตรลับอยู่บ้าง เอาไว้แม่จะทำอาหารคืนนี้เพื่อบำรุงร่างกายให้ลูกนะ”
เสิ่นอี้โจว “…”
เขาอยากปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว
แต่ในเวลานี้เอง เซี่ยชิงหยวนก็เดินผ่านหน้าเขาพอดี เธอบิดเอวไปมาพลางฮัมเพลงดูมีความสุขและพึงพอใจมาก
ทว่าสีหน้ารังเกียจของเธอเมื่อคืนนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเขา แถมมันยังทำให้เขาฝันแปลกประหลาดมากมายเมื่อคืน
ราวกับว่าเขาตัดสินใจแล้ว เขาพยักหน้า “ได้ครับ งั้นผมขอรบกวนแม่ด้วย”