กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 156 เห็นเมียแล้วเมา
บทที่ 156 เห็นเมียแล้วเมา
บทที่ 156 เห็นเมียแล้วเมา
เสียงของเสิ่นอี้โจวไม่ได้ดังมากนักแต่ก็ไม่ได้เบาเช่นกัน “ผู้ช่วยหลิง ผมยังไม่โอกาสได้ขอบคุณคุณ ที่ช่วยเหลือภรรยาผมตรงทางสี่แยกเมื่อไม่กี่วันก่อน ขอบคุณมากนะครับ”
ดวงตาของเขากระจ่างชัดและสว่างไสว มือจับพนักเก้าอี้อย่างสบายอารมณ์
หลิงเยี่ยตกใจในคราแรก เซี่ยชิงหยวนบอกเรื่องเมื่อวานนี้กับเสิ่นอี้โจวแล้วอย่างนั้นหรือ
เขายกแก้วเหล้าขึ้นและพูดว่า “เลขาฯ เสิ่น คุณเกรงใจเกินไปแล้ว ผมแค่ช่วยเหลือเล็กน้อยเท่านั้นเองครับ”
หลังจากพูดจบ เขาก็ดื่มให้แก่เสิ่นอี้โจวก่อน ชายหนุ่มดื่มจนหมดแก้วในอึกเดียว
เขาแสดงท่าทีเช่นนี้ไม่ได้ต่างจากการดื่มย้อมใจนัก
ดวงตาของเสิ่นอี้โจววูบไหวอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ยกเหล้าดื่มเช่นกัน
อันที่จริง เขารู้สึกผิดต่อฉู่ซิงอวี่กับหลิงเยี่ยอยู่ไม่น้อย
แม้ทั้งสองคนนี้ถูกสั่งย้ายมาที่นี่เพื่อจุดประสงค์ในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์และสร้างผลงานกลับไปก็เถอะ
ทว่าอีกเหตุผลหนึ่งที่พวกเขามายังเมืองเตียนเฉิงเป็นเพราะตัวเขาเอง
เสิ่นอี้โจวกล่าวว่า “ถ้าครั้งหน้าคุณมีเวลา คุณกับเสี่ยวฉู่ไปกินข้าวที่บ้านผมก็ได้นะ และถ้าคุณจีบผู้หญิงคนนั้นที่เคยพูดถึงก่อนหน้านี้ได้แล้ว จะพามาด้วยกันก็ได้นะ”
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยอย่างนั้น ใบหน้าของหลิงเยี่ยพลันแววความขมขื่น
เขาคิดถึงใบหน้าของเซี่ยชิงหยวนอย่างควบคุมไม่ได้
จากนั้นหัวใจพลันจุกอก
ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงการคิดไปเองของเขาฝ่ายเดียว
หลิงเยี่ยส่ายหน้าและพูดว่า “เธอแต่งงานแล้ว…” แต่แล้วเขากลับพลิกลิ้นเป็นว่า “เธอมีคนที่ชอบแล้วครับ”
มันเป็นความผิดพลาดที่เขาเป็นคนเริ่ม และมันควรจะจบที่ตัวเขาเช่นกัน
เขาไม่ต้องการให้เสิ่นอี้โจวรู้เพราะมันจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาของพวกเขา
แต่เสิ่นอี้โจวไม่ได้คาดคิดว่าจะได้รับผลลัพธ์เช่นนี้
เขายังตกตะลึงและกล่าวว่า “งั้นก็ไม่เป็นไร มีสาว ๆ หลายคนในสำนักงานเราที่ชอบคนมีความสามารถอย่างผู้ช่วยหลิงอยู่แล้ว”
หลิงเยี่ยพยักหน้าและอยากจะหัวเราะออกมา แต่มุมปากของเขากลับแข็งทื่อ
ทั้งสองรีบเปลี่ยนหัวข้อและคุยกันเรื่องอื่น
จางอวี้เอ๋อยืนอยู่ตรงนั้น มองไปยังโต๊ะที่เต็มไปด้วยผู้คนซึ่งกำลังสนทนาและหัวเราะอย่างมีความสุข
เสิ่นอี้โจวดึงดูดสายตาของเธอเสมอ
เขานั่งนิ่ง โดยไม่ค่อยแสดงสีหน้า
เขาเพียงแค่ส่งยิ้มบางอยู่บ่อยครั้ง และพยักหน้าเป็นบางครา
ถึงกระนั้น ท่วงท่าที่แสดงออกมาผ่านภาษากายของอีกฝ่ายก็ไม่อาจนิ่งเฉยได้
เธอลอบถอนหายใจ ไม่ว่าอย่างไรเสิ่นอี้โจวก็เป็นคนที่โดดเด่นที่สุด
แต่เขากลับไม่ได้สนใจเธอด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ต้องมายืนขาแข็งอยู่ตรงนี้
…
หลังจากงานเลี้ยงสิ้นสุดลง มันก็สองทุ่มกว่าแล้ว
เสิ่นอี้โจวเมามาย แต่ฝีเท้าของเขายังคงมั่นคง
เขาสั่งให้พนักงานส่งเหล่าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กลับบ้านก่อน
เพิ่งผ่านไปไม่ถึงเดือน เขาดูจะทำงานตัวเองได้อย่างสบายใจแล้ว
จางอวี้เอ๋อรวบรวมความกล้าหาญของเธอและเดินเข้าหาเสิ่นอี้โจว
เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาและเอ่ยทัก “พี่เขยคะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เสิ่นอี้โจวก็หันกลับไป แต่เมื่อเห็นว่าเป็นจางอวี้เอ๋อ เขาก็ขมวดคิ้วทันที
ไม่มีทั้งคำทักทายและคำสบถไล่
จางอวี้เอ๋อจึงมีความมั่นใจขึ้นมาเล็กน้อย
อย่างน้อย เสิ่นอี้โจวก็ยังคงปฏิบัติต่อเธอเหมือนเคย และไม่ต้องเผชิญกับสีหน้าเย็นชานั้นเหมือนเมื่อก่อน
ดังนั้นเธอจึงเอ่ยว่า “ผู้ช่วยใหม่แซ่หลิงคนนั้น พี่ช่วยถามให้ฉันทีได้ไหมคะว่าเขามีคนรักแล้วหรือยัง?”
เสิ่นอี้โจวยิ่งขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิมเมื่อได้ยินประโยคนี้
เขามองเธอและพูดว่า “เขากับฉันมีความสัมพันธ์กันแค่ในที่ทำงาน เราไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของกันและกัน ถ้าอยากรู้ เธอก็ถามเขาเองตรง ๆ เถอะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จางอวี้เอ๋อก็สูดหายใจเฮือกใหญ่ ผู้หญิงอย่างเธอจะไปถามเรื่องแบบนี้ก่อนได้ยังไง?
เธอต้องการพูดมากกว่านี้ แต่กลับได้ยินเสิ่นอี้โจวพูดขึ้นว่า “รถของฉันมาแล้ว ขอตัวก่อน”
หลังจากพูดจบ ชายหนุ่มก็จากไปโดยไม่สนใจท่าทีของจางอวี้เอ๋อแม้แต่น้อย
จางอวี้เอ๋อยังคงยืนอยู่ตรงที่ที่เธออยู่ และรู้สึกว่าถูกทำให้อับอายอีกครั้ง
เธอกระทืบเท้าอย่างฉุนเฉียว “หยิ่งอะไรนักหนา! ไม่ช้าก็เร็ว ฉันจะทำให้คุณร้องไห้และขอร้องฉันให้ได้ คอยดู!”
…
คืนนี้ เสิ่นอี้โจวได้โทรบอกเซี่ยชิงหยวนล่วงหน้าแล้วว่าจะกลับช้าและกินข้าวแล้ว
แต่เธอยังคงรอเขาอยู่
ท้องของเขาไม่ค่อยดีและมีเลือดกำเดาไหลเมื่อคืน เธอจึงกังวลว่าเขาจะรู้สึกอึดอัดหลังจากดื่มมากเกินไป
หลินตงซิ่วกับเสิ่นอี้หลินไม่รู้เรื่องโรคกระเพาะอาหารของเสิ่นอี้โจว
แม่สามียังคงไปที่ห้องครัวและทำซุปแก้เมาค้างให้ลูกชาย
เมื่อเห็นว่าเริ่มดึกแล้ว เซี่ยชิงหยวนจึงชวนหลินตงซิ่วเข้านอน “แม่คะ หนูจะรออี้โจวกลับบ้านเองค่ะ แม่พาอี้หลินไปนอนก่อนเถอะ”
หลินตงซิ่วพยักหน้าอย่างเป็นกังวล “งั้นแม่ไปนอนก่อนนะ”
แต่ก่อนไป เธอพูดขึ้นอีกครั้งว่า “ถ้าอี้โจวเมากลับมา ลูกปลุกแม่ได้เลยนะ แม่จะทุบตีเขาให้เอง”
เซี่ยชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “แม่ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอกค่ะ”
เซี่ยชิงหยวนยังคงมั่นใจในตัวเสิ่นอี้โจว
เสิ่นอี้โจวถือเป็นคนที่ไม่ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่เมื่อเทียบกับผู้ชายคนอื่น
แม้แต่กินอาหารเย็นนอกบ้านกับคนอื่นก็น้อยครั้งมาก
เซี่ยชิงหยวนรออยู่พักหนึ่ง และเมื่อถึงเวลาเกือบสามทุ่ม ในที่สุดเธอก็เห็นรถที่คุ้นตาขับกลับมา
นอกจากรถของเสิ่นอี้โจวแล้ว ยังมีรถของหยางฉุนอี้กับหนิงเซี่ยวเฉิง
ทันใดนั้น ภรรยาที่รออยู่ในบ้านก็ออกมาต้อนรับพวกเขาทีละคน
เติ้งซูอี้ ภรรยาของเหอเส้าหยวนดุด่าตั้งแต่แรกเห็น “ออกไปดื่มดึกดื่นขนาดนี้ แดกให้ตายไปเลยไหมฮะ ตาเฒ่า!”
เซี่ยชิงหยวนมองเลยไป และเผอิญสบสายตากับฟางเยว่ ภรรยาของหนิงเซี่ยวเฉิง
พวกเธอมองหน้ากัน พยักหน้ายิ้มให้แล้วเดินจากไป
เสิ่นอี้โจวก็ก้าวลงจากรถเช่นกัน
เซี่ยชิงหยวนรีบเดินไปรับเขาทันที
เสิ่นอี้โจวร้องเรียกด้วยเสียงอ้อแอ้ “เมียจ๋า~”
เขาเอนร่างตัวเองไปทางร่างของเซี่ยชิงหยวน
แต่เขาชำนาญมาก กางแขนโอบกอดเซี่ยชิงหยวนไว้ แต่ไม่ได้ลงน้ำหนักทั้งตัวของเขาใส่เธอ
ชายหนุ่มโน้มตัวกระซิบข้างหูของเซี่ยชิงหยวนอีกครั้ง “ภรรยาของผม”
กลิ่นจาง ๆ ของเหล้าและลมหายใจร้อนที่พ่นรดซอกคอเธอ ทำให้หญิงสาวรู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วทั้งตัว
เมื่อเห็นเขาเป็นเช่นนี้ เซี่ยชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะตำหนิเขาในใจและทำได้เพียงประคองร่างอีกฝ่ายไว้ เพื่อไม่ให้เขาล้มลง
เมื่อเห็นการกระทำของเสิ่นอี้โจวแล้ว เสี่ยวหลิวก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง
ในบรรดาคนระดับสูงซึ่งเข้าร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ เสิ่นอี้โจวเป็นคนที่เดินได้มั่นคงที่สุด
ทั้งยังดูสบายดีอยู่เลยตอนอยู่ในรถ
คุณมาเมาอะไรตอนที่เห็นเมียตัวเองตอนนี้กันครับ?
ในขณะที่เสี่ยวหลิวกำลังตกตะลึง สายตาของเขาก็สบกับการจ้องมองที่แจ่มชัดของเสิ่นอี้โจวอีกครั้ง
เขาจบเห่แล้ว! เจ้าตัวรู้ว่าเขากำลังจะซวยอีกครั้ง
ดังนั้นเขาจึงรีบพูดว่า “คุณนาย ผมขอตัวก่อนนะครับ!”
ขณะกล่าวเช่นนั้น เขาก็เหยียบคันเร่ง จากนั้นรถก็พุ่งออกไปทันที
เซี่ยชิงหยวนที่กำลังจะขอความช่วยเหลือจากเสี่ยวหลิวรู้สึกพูดอะไรไม่ออก “…”
เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องช่วยเหลือเสิ่นอี้โจวด้วยตัวเอง
เธอประคองเสิ่นอี้โจวเข้าไปในห้องนั่งเล่นและวางลงบนโซฟา
เซี่ยชิงหยวนไปที่ห้องครัวเพื่อตักซุปแก้อาการเมาค้าง และช่วยเขายกดื่ม
ทั้งยังช่วยเขาปลดกระดุมเสื้ออีกด้วย
หลังจากช่วยปลดกระดุมเสื้อได้สองเม็ด เสิ่นอี้โจวก็ลืมตาขึ้น
เขามองเธอด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “ที่รัก อาบน้ำให้ผมหน่อยสิ”
********************************