กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 163 ผมอยากกินแค่คุณ
บทที่ 163 ผมอยากกินแค่คุณ
บทที่ 163 ผมอยากกินแค่คุณ
เมื่อเซี่ยจิ่งเฉินเห็นจางอวี้เอ๋อที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน เขาก็ขมวดคิ้วทันที
เขาดึงแขนออกจากมือของเธอ และเว้นระยะห่างระหว่างพวกเขา
“นี่ไม่ใช่เวลาทำงานของเธอเหรอ? ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้?”
จางอวี้เอ๋อไม่สนใจท่าทีห่างเหินของเซี่ยจิ่งเฉินเลย
เธอส่งยิ้มและเอ่ยถามโดยไม่อ้อมค้อม “พี่เขย เซี่ยชิงหยวนแนะนำให้พี่มาทำงานที่นี่ใช่ไหม?”
ก่อนหน้านี้ หญิงสาวไปขนของจากรถขนส่งที่มาส่งวัตถุดิบอาหารของห้องครัว เมื่อเดินกลับมา เธอบังเอิญเห็นคนจากสำนักงานของเสิ่นอี้โจวเดินนำเซี่ยจิ่งเฉินขึ้นไปที่ชั้นสองของอาคารสำนักงาน
เธอขอลางานด้วยเหตุผลบางอย่างและยืนรอเซี่ยจิ่งเฉินอยู่ที่นี่
เซี่ยจิ่งเฉินถูกเสิ่นอี้โจวเตือนเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน เขาจะกล้าบอกความจริงกับจางอวี้เอ๋อได้อย่างไร?
ยิ่งกว่านั้น น้องสาวภรรยาของเขาคนนี้มักทำเรื่องไม่น่าพอใจเท่าไหร่
เขาหลบเลี่ยงสายตาของเธอและตอบอย่างคลุมเครือว่า “ฉันแค่มีเรื่องต้องคุยที่นี่”
จางอวี้เอ๋อจ้องตาเซี่ยจิ่งเฉิน “จริงเหรอ?”
เธอไม่กล้าทำตัวเอาแต่ใจเมื่ออยู่ต่อหน้าเสิ่นอี้โจว แต่เธอจะกล้ามากขึ้นเมื่อเผชิญหน้ากับเซี่ยจิ่งเฉิน
ตราบใดที่เซี่ยจิ่งเฉินไม่เห็นด้วยกับคำขอของเธอ เธอก็จะไปตามหาจางอวี้เจียวเพื่อขอร้องให้อีกฝ่ายจัดการกับเขา
นอกจากนี้ ครอบครัวของเธอก็มีพี่ชายสามคน ดังนั้นเธอจึงไม่ตื่นตระหนกแต่อย่างใด
เธอมองท่าทางที่ไม่เป็นธรรมชาติของชายหนุ่มและกล่าวว่า “หรือพี่ได้รับประโยชน์บางอย่างจากพี่อี้โจวแล้วไม่ยอมบอกฉัน?”
เมื่อต้องเผชิญกับการกดดันของจางอวี้เอ๋อเรื่อย ๆ เซี่ยจิ่งเฉินก็เริ่มหมดความอดทน
เขาปรายตามองอีกฝ่าย “ฉันจะได้รับผลประโยชน์แล้วมันทำไม? ชิงหยวนเป็นน้องสาวของฉัน แล้วผิดอะไรถ้าเธอจะช่วยเหลือฉัน? ฉันต้องรายงานกิจธุระของครอบครัวตัวเองให้เธอฟังด้วยรึไงฮะ?”
ปฏิกิริยาของเซี่ยจิ่งเฉินในเวลานี้จริงจังมาก มันเกินความคาดหมายของจางอวี้เอ๋อไม่น้อย
พี่เขยคนนี้ซึ่งมักนิ่งเงียบต่อหน้าพี่สาวของเธอเคยพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
จางอวี้เอ๋อมั่นใจมากขึ้นว่าเซี่ยจิ่งเฉินต้องได้รับประโยชน์จากเซี่ยชิงหยวนและเสิ่นอี้โจวแน่ ๆ
เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ไพ่ตายของเธอ “พี่ไม่กลัวฉันจะบอกพี่สาวเหรอ?”
เซี่ยจิ่งเฉินนึกถึงคำพูดของเสิ่นอี้โจวและความเป็นลูกผู้ชายของเขาก็เพิ่มขึ้นทันที “ถ้าเธออยากฟ้องก็เชิญเลย แต่อย่าได้ลืมว่างานนี้ของเธอได้มาเพราะเงินของฉัน ดังนั้นเธอควรจะตั้งใจทำงาน อย่ามัวแต่คิดเพ้อฝันอยู่เลย!”
เป็นเพราะเงินจำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบหยวนนั่น บ้านของเขาจึงเกือบพังทลาย
เขาเดินเลี่ยงจางอวี้เอ๋อทันที “ฉันมีเรื่องต้องทำ เธอกลับไปทำงานได้แล้ว”
จากนั้นเขาก็ไม่สนใจเธอและเดินจากไป
เมื่อมองตามหลังเซี่ยจิ่งเฉินไป ดวงตาของจางอวี้เอ๋อก็เปลี่ยนเป็นสีแดง
เธอทั้งเกลียดชังและริษยา
เห็นได้ชัดว่าเสิ่นอี้โจวสามารถช่วยเหลือใครก็ได้เพียงแค่พูดคำเดียว แต่เหตุใดจึงช่วยเหลือเซี่ยจิ่งเฉินอย่างง่ายนัก?
เธออุตส่าห์ก้มหน้าขอร้องเสิ่นอี้โจวก่อนหน้านี้ แต่เขากลับไม่มองตัวเธอเลย?
ในความคิดของเธอ มันเป็นเพียงว่าพวกเขาไม่ต้องการช่วยเธอ!
มือของเธอค่อย ๆ กำแน่น จากนั้นเธอก็มองไปทางเซี่ยจิ่งเฉินที่กำลังคุยกับผู้ช่วยเหยียนครู่หนึ่ง ก่อนเธอจะเดินจากไปอย่างไม่พอใจ
ตราบใดที่เซี่ยจิ่งเฉินทำงานอยู่ที่นี่ เธอก็จะมีวิธีพบเขาอีกครั้งเสมอ
เธอต้องอดทนไว้ก่อน
…
เมื่อเซี่ยชิงหยวนกับหลินตงซิ่วกลับมาถึงบ้าน พวกเธอก็พบว่าเสิ่นอี้โจวกลับมาแล้ว
เสิ่นอี้โจวยืนอยู่ที่ประตูพลางส่งยิ้มมาให้ “พวกคุณกลับมากันแล้วเหรอ?”
เขาก้าวไปนำจักรยานสามล้อมาจากเธอ ก่อนจะกล่าวว่า “พี่รองอยู่ที่นี่ด้วยนะ”
สิ้นเสียงคำพูดของเขา เซี่ยจิ่งเฉินก็เดินออกมาจากห้องนั่งเล่น
เขายืนอยู่ตรงบันไดบ้าน ทักทายเซี่ยชิงหยวนและหลินตงซิ่วด้วยรอยยิ้มอย่างระมัดระวัง “คุณป้า ชิงหยวน”
เขาส่งยิ้มให้เสิ่นอี้หลินอีกครั้ง “อี้หลิน สวัสดี”
แม้จะรูปร่างผอมลงและผิวคล้ำขึ้นจากครั้งล่าสุดที่เจอกัน แต่วันนี้ดูเขามีพลังใจดีขึ้น
เขาสวมเสื้อเชิ้ตและกางเกงที่ใหญ่เกินไปอย่างเห็นได้ชัด ขณะเอามือไพล่หลัง
เมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้แล้ว จมูกของเซี่ยชิงหยวนก็แสบร้อนขึ้นมา
เธอตอบกลับไป “พี่รอง”
หลินตงซิ่วกับเสิ่นอี้หลินทักทายเซี่ยจิ่งเฉินอย่างอบอุ่นเช่นกัน
จากนั้นทุกคนเข้าไปในห้องนั่งเล่นด้วยกัน เสิ่นอี้โจวกล่าวว่า “พี่รองมารายงานตัวที่สำนักงานวันนี้และจะเริ่มงานในวันพรุ่งนี้น่ะ”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ เซี่ยชิงหยวนก็โล่งใจ “ดีมากจริง ๆ”
เซี่ยจิ่งเฉินกล่าวว่า “ฉันต้องขอบคุณเธอกับอี้โจวสำหรับเรื่องนี้จริง ๆ นะ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ฉันคงกำลังขับรถอยู่บนเขาสักลูกหนึ่งนั่นแหละ”
เขากล่าวจากใจจริง ชายหนุ่มรู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่เซี่ยชิงหยวนช่วยเหลือเขาได้โดยไม่คำนึงถึงเรื่องราวในอดีต
และก็อย่างที่เซี่ยชิงหยวนพูดไว้ก่อนหน้านี้ ผู้เป็นหนี้เธอมากที่สุดในครอบครัวนี้ก็คือเขา
และคนที่เขาทำให้เสียใจที่สุดในครอบครัวนี้ นอกจากพ่อแม่ของเขาแล้วก็คือเซี่ยชิงหยวน
หญิงสาวตื่นเต้นขึ้นมา ก่อนพูดว่า “เราพี่น้องต้องช่วยกันเท่าที่ทำได้อยู่แล้ว พ่อแม่จะได้สบายใจเมื่อพี่รองสุขสบายดี”
ลูกชายที่ทำให้พ่อแม่ภูมิใจที่สุดในตอนแรกกลับจบลงด้วยการตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง
เซี่ยโยว่หมิงกับหวังผิงไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกผิดหวังหรอก
ทว่าต่อมาภายในครอบครัวก็วุ่นวายกันหมด หลังจากจางอวี้เจียวเข้ามาในบ้าน
เมื่อได้ยินสิ่งที่เซี่ยชิงหยวนพูด ใบหน้าของเซี่ยจิ่งเฉินก็ดูไม่เป็นธรรมชาตินัก
จากนั้นเขาก็พูดว่า “ไม่ต้องห่วงนะ พี่จะทำงานให้หนักและไม่ทำให้เธอเสียหน้าแน่นอน”
เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “พี่รองบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่หรือยังคะ?”
เซี่ยจิ่งเฉินพยักหน้า “เมื่อตอนบ่ายนี่เอง พี่โทรบอกพ่อแม่แล้ว พวกเขามีความสุขมากและบอกพี่ว่าจงทำมันให้ดี”
เมื่อรู้ว่าตอนที่เซี่ยชิงหยวนบ้านกลับไปคราวก่อนเกิดอะไรขึ้นบ้าง ชายหนุ่มก็กล่าวว่า “พี่ได้คุยกับพี่สะใภ้รองแล้ว เมียพี่เป็นคนปากคมแต่หัวใจเต้าหู้ เอาเป็นว่าความผิดพลาดที่ผ่านมาพี่ขอโทษแทนจริง ๆ”
เซี่ยชิงหยวนนั่งข้างเซี่ยจิ่งเฉิน แต่หญิงสาวกลับรู้สึกว่าเธอแทบไม่รู้จักเขาเลยหลังจากได้ยินเขาพูดแบบนี้
ก่อนหน้านี้เขายังทำตัวไม่ค่อยรับผิดชอบอยู่เลย แม้จะเป็นพ่อคนแล้วก็ตาม
แต่ตอนนี้เขากลับนั่งอยู่ที่นี่ด้วยท่าทีที่จริงจังและพูดคุยกับเธอด้วยคำพูดที่ห่วงใยและปลอบโยนเหล่านี้ เธอจินตนาการไม่ออกเลยจริง ๆ
มือของเสิ่นอี้โจวเอื้อมมาทางด้านหลังแล้ววางไว้บนไหล่เธอ
เขากล่าวว่า “ตอนนี้พี่รองดูแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก ไม่ว่าจะเป็นคุณหรือพ่อแม่ของคุณ ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเหมือนเมื่อก่อนแล้ว”
เซี่ยชิงหยวนจับมือเสิ่นอี้โจวและส่งยิ้มให้เขา
หากไม่ใช่เพราะเสิ่นอี้โจว เธอกับพี่รองคงปรองดองกันไม่ได้อย่างทุกวันนี้
เสิ่นอี้โจวรับรู้ถึงการจ้องมองของเธอ ดวงตาของเขาพลันอ่อนแสงลง
ทั้งสองมองหน้ากันแล้วส่งยิ้มในแก่กัน ทุกอย่างเงียบสงบ
…
เซี่ยจิ่งเฉินอยู่กินข้าวเย็นที่บ้าน และเสี่ยวหลิวก็ส่งเขากลับไป
ตอนนี้เขาอาศัยอยู่ในหอพักของคนขับรถ และจะขับรถไปขนของกับขบวนรถวันถัดไป
เสิ่นอี้โจวปลอบเซี่ยชิงหยวน “ถนนจากเมืองเตียนเฉิงไปยังเมืองหลวงของมณฑลก่อสร้างมาอย่างดี”
ความหมายก็คือไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการผูกชีวิตของเขาไว้กับเข็มขัดนิรภัยรถเหมือนเมื่อก่อน
เซี่ยชิงหยวนเอนพิงไหล่ของเสิ่นอี้โจว “อี้โจว ขอบคุณนะคะ”
เสิ่นอี้โจวกอดเธอ “ถ้าคุณพูดขอบคุณอีกครั้ง ผมจะคิดว่าเราห่างเหินกันจริง ๆ แล้วนะ”
เขาแตะที่ปลายจมูกของเธอและพูดต่อ “แต่ถ้าคุณต้องการขอบคุณจริง ๆ คุณควรขอบคุณเป็นอย่างอื่นดีกว่า”
เมื่อพูดอย่างนั้น ฝ่ามือใหญ่ของเขาก็เลื่อนลงมาที่แผ่นหลังบาง ไล้ผ่านเอวเรียวแล้วเคลื่อนลงไปอีก
นิ้วของเขากางออกเพื่อครอบครองพื้นที่ให้มากที่สุด
ร่างกายของเซี่ยชิงหยวนแข็งทื่อไปในทันที
เธอยกมุมปากเพื่อทำให้ตัวเองดูเขินอายน้อยลง “คุณต้องการอย่างอื่นไม่ได้เหรอ? ให้ฉันทำอาหารอร่อย ๆ ให้คุณดีกว่าไหม?”
เสิ่นอี้โจวยิ้ม มุมปากของเขาโค้งขึ้น “ไม่ ผมอยากกินแค่คุณเท่านั้น”