กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 176 ไม่คิดถึงผมเหรอ
บทที่ 176 ไม่คิดถึงผมเหรอ
บทที่ 176 ไม่คิดถึงผมเหรอ
เซี่ยชิงหยวนถามโดยไม่ได้คิดเลยว่ามันอาจเกี่ยวข้องกับโจวจินจื่อ
ตลาดค้าส่งข้างสถานีรถไฟวุ่นวายและเธอก็รู้มาตลอด
แต่ถ้ามันวุ่นวายกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ มันจะส่งผลกระทบต่อการซื้อของเธออย่างจัง
ที่นี่อาจกล่าวได้ว่าเป็นแหล่งซื้อส่งเสื้อผ้าที่ดีที่สุดในประเทศ และเธอไม่ต้องการให้ธุรกิจของเธอล่าช้า เพราะบางอย่าง
พอเห็นว่าเซี่ยชิงหยวนก็สนใจเช่นกัน เหล่าไต้จึงพูดว่า “ฉันแค่พอได้ยินมาบ้างน่ะ ลูกพี่ปินที่เพิ่งมาจากทางใต้ต้องการจะยึดถิ่นจากลูกพี่โจวเมื่อเร็ว ๆ นี้ แถมเขายังเพิ่งซื้อตัวคนที่ลูกพี่โจวไว้ใจไปอยู่ฝ่ายตัวเองด้วย”
“เมื่อคืนนี้เขาวางหลุมพรางลูกพี่โจว เชิญให้ลูกพี่โจวไปงานเลี้ยง ตามที่ฉันได้ยินมา มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกว่าจ้างให้มาจัดการกับลูกพี่โจวโดยเฉพาะเลย ผู้หญิงคนนั้นโหดร้ายมาก ๆ หล่อนเตะลูกพี่โจวซะจนเลือดอาบเชียวล่ะ”
เหล่าไต้พูดราวกับว่าเขาอยู่ที่นั่น “ลูกพี่โจวมีใบหน้าที่หล่อเหลามาก แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับสามารถเตะได้อย่างไร้ปรานี จุ๊จุ๊ ฉันล่ะไม่รู้จะสงสารลูกพี่โจวหรือรู้สึกยังไงดีเลย”
เมื่อฟังครึ่งแรกเซี่ยชิงหยวนก็รู้สึกอย่างหนึ่ง
แต่พอฟังไปเรื่อย ๆ ถึงครึ่งหลัง ทำไมเธอรู้สึกแปลก ๆ?
ยิ่งไปกว่านั้น ทำไมการกระทำของผู้หญิงคนนั้นฟังดูคุ้นหู?
จากนั้นเธอก็ตระหนักได้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือตัวเอง!
ทันใดนั้นเส้นขมวดบนหน้าผากของเซี่ยชิงหยวนก็ปรากฏขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
เป็นเรื่องเหลือเชื่อจริง ๆ ที่เหตุการณ์เมื่อคืนกลายเป็นข่าวลือได้ขนาดนี้
อาเซียงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “แล้วผู้หญิงคนนั้นถูกจับไหมคะ? เธอทำให้ลูกพี่โจวอับอายขนาดนั้น เธอไม่ถูกตอบโต้งั้นเหรอ?”
เซี่ยชิงหยวนพูดไม่ออก “…”
เธอไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย
แล้วเขาก็ถีบเธอเช่นกัน เอวของเธอยังเจ็บอยู่เลย จริงไหม?
เหล่าไต้คุยกับอาเซียง “ใครจะไปรู้ แต่ตามที่ฉันว่า มันเป็นเรื่องน่าอายใครจะอยากเล่าให้ฟังกัน ลูกพี่โจวเป็นถึงหัวหน้าใหญ่ของที่นี่เชียวนะ”
เขาเม้มริมฝีปาก “แต่ถ้าเป็นฉัน ฉันจะจับผู้หญิงคนนั้นมาแก้แค้นอย่างแน่นอน” บราวนี่ออนไลน์
ทันใดนั้นเหล่าไต้ก็สังเกตเห็นว่าใบหน้าของเซี่ยชิงหยวนซีดลง จึงพูดว่า “คุณไม่ต้องกังวลมากหรอก ตามปกติแล้วลูกพี่โจวไม่ทำร้ายผู้หญิงเลย นอกจากนี้คุณไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นด้วยจริงไหม”
เซี่ยชิงหยวนพูดไม่ออกเช่นเดิม “…”
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยิ้มและตอบกลับไป “ใช่ค่ะ”
เธอไม่พูดอะไรมาก รีบหยิบเสื้อและกางเกงผู้ชายหลายร้อยตัวกับอาเซียง และจากไปหลังจากจ่ายเงินอย่างรวดเร็ว
เมื่อเธอจากไป เธอบอกปัดที่จะฝากเบอร์โทรของเธอไว้ให้กับเหล่าไต้
คราวหน้าเมื่อเธอมาที่นี่อีกครั้ง แล้วหาเหล่าไต้ไม่เจอเธอก็ค่อยถามจากคนอื่นเอาแล้วกัน
รอเอาไว้หลังจากความวุ่นวายนี้ผ่านไปค่อยว่ากันอีกที
ซึ่งเธอได้พูดคุยเรื่องข้อตกลงการทำธุรกิจกับเขาไว้แล้วว่า “ถ้าขายดี ฉันจะมาที่นี่อีกในช่วงสิ้นเดือนหน้า เสื้อผ้าส่วนใหญ่ที่ฉันอยากซื้อจะเป็นเสื้อผ้าฤดูร้อน แต่ไม่เอาแบบที่สั้นเกินไป คุณสามารถใช้ประโยชน์จากฤดูกาลที่เปลี่ยนของที่นี่และตุนสินค้าบางอย่างไว้ได้นะ ส่วนคำขออื่น ๆ ถ้ามี ฉันจะมาบอกคุณอีกที”
นี่เป็นการพูดดักเอาไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เหล่าไต้เคลียร์คลังสินค้าตามฤดูกาล เขาพยักหน้าอย่างผิดหวังเล็กน้อย “เอาล่ะ ฉันเข้าใจแล้ว แค่คิดว่าฉันทำงานให้เธอไปแล้วกัน”
เซี่ยชิงหยวนติด้วยรอยยิ้ม “ราคาของคุณที่ฉันยอมรับยังสูงไม่พอหรือไง?”
เมื่อพูดจบเธอกับอาเซียงก็จากไป
เซี่ยชิงหยวนกลับไปที่โรงแรมอย่างรวดเร็ว และโทรหาเสิ่นอี้โจวโดยตรง เพื่อขอให้เขาช่วยซื้อตั๋วกลับสำหรับช่วงบ่าย
เสิ่นอี้โจวรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย “ทำไมเร็วจัง?”
การนั่งรถในครั้งนี้กินเวลาไปถึงสองวัน และมันอาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองหรือสามวันในการค้นหาแหล่งซื้อสินค้า แต่นี่เพิ่งไม่กี่วันเอง เธอจะกลับมาแล้วเหรอ?
เซี่ยชิงหยวนกล่าวว่า “เราโชคดีได้พบร้านที่มีสินค้าดีมากน่ะ ฉันเลยซื้อจากร้านเดียวทั้งหมดเลย”
สำหรับเมื่อคืนร้านอื่น ๆ ที่เจอเธอไม่พบอะไรที่น่าพอใจเลย
เสิ่นอี้โจวพยักหน้าและพูดว่า “โอกาสหายากนะที่จะไปที่นั่น คุณไม่ลองเดินเล่นอีกสักวันเหรอ?”
เซี่ยชิงหยวนส่ายหัว “ไม่ล่ะ ฉันอยากกลับก่อนเวลา”
เธอนอนโรงแรมต่อไม่ได้แล้ว
สำหรับเรื่องของโจวจิ่นจือ เธอวางแผนที่จะบอกเสิ่นอี้โจวเมื่อกลับไปถึง
เสียงของเสิ่นอี้โจวร่าเริงขึ้นมา “คุณไม่ชินกับการนอนโดยที่ไม่มีผมกอดคุณสินะ?”
เซี่ยชิงหยวนแก้มแดงทันที และพูดอย่างฉุนเฉียว “คุณแกล้งฉันอีกแล้วนะ”
เสิ่นอี้โจวหัวเราะเบา ๆ ที่ปลายสาย จากนั้นเขาก็ลดเสียงลงและถามเธอ “คุณไม่คิดถึงผมเหรอ?”
เขาหยุดชั่วครู่ก็จะเอ่ยปากว่า “ผมคิดถึงคุณมาก โดยเฉพาะเสิ่นอี้โจวตัวน้อยที่รู้สึกไม่สบายใจเลย”
เสียงของเขาดังผ่านหูโทรศัพท์ บางทีมันอาจจะไกลเกินไปและมันก็ฟังดูไม่ชัดเท่าไหร่
แต่กับน้ำเสียงทุ้มต่ำและเอ้อระเหยนั้น มันไม่ได้มีผลเลยสักนิดเดียว
สิ่งนี้ทำให้เซี่ยชิงหยวนนึกถึงตอนที่เธอแนบชิดกับเขา นับครั้งไม่ถ้วนที่เขาชอบพูดใส่หูเธอในระยะหายใจรดคอ แล้วกล่อมเธอด้วยเสียงนั้น ‘ดี อดทนหน่อยนะ อีกไม่นานจะเสร็จแล้ว’
เธอสาปแช่งทันที “ไอ้คนบ้า!”
แต่ถึงอย่างนั้น เสิ่นอี้โจวกลับดูเหมือนจะมีความสุขเสียเหลือเกินแล้วพูดว่า “รอผมเดี๋ยวนะ ผมจะขอให้ใครสักคนจัดการเรื่องตั๋วให้ แล้วผมจะโทรกลับภายในสิบห้านาที”
เซี่ยชิงหยวนตอบในใจอย่างอ่อนหวาน “ตกลง”
ทันทีที่เสิ่นอี้โจววางสาย รอยยิ้มบนปากของเขาก็หายไปทันที
เขามองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาของเขาพลันกลายเป็นเย็นชา
จากนั้นเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และขอให้ผู้ช่วยของเขาซื้อตั๋วสำหรับเซี่ยชิงหยวนและอาเซียง
ต่อมาเขาก็โทรออกไปหาอีกสายหนึ่ง “เสี่ยวฉู่ เรียกคุณเซี่ยเข้ามาหน่อย