กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 180 ไม่ได้เจอกันนานจนเผลอมีอารมณ์
- Home
- กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี
- บทที่ 180 ไม่ได้เจอกันนานจนเผลอมีอารมณ์
บทที่ 180 ไม่ได้เจอกันนานจนเผลอมีอารมณ์
บทที่ 180 ไม่ได้เจอกันนานจนเผลอมีอารมณ์
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เสิ่นอี้โจวก็ยืนขึ้นและทักทายเจ้าหน้าที่รถไฟ
เขาพูดว่า “ขอโทษด้วย เพียงแค่เราไม่ได้เจอกันนาน เราก็เลยเผลอทำเกินไปน่ะ”
เมื่อเขาพูดแบบนี้ ใบหน้าของเขาไม่ได้แดงหรือหายใจขาดช่วง แต่เขาดูสงบมาก
เดิมทีเจ้าหน้าที่รถไฟมองว่าเสิ่นอี้โจวเป็นคนธรรมดา ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะตะโกนให้คนมาจับอันธพาล
แต่พอเห็นท่าทางของเสิ่นอี้โจวตอนนี้ที่ดูเหมือนเป็นบุคคลระดับสูง เขาก็คิดว่าไม่น่าใช่พวกอันธพาล
เซี่ยชิงหยวนจัดระเบียบเสื้อผ้าและเส้นผมก่อนจะยืนขึ้น
เธอก้มหน้าลงไม่กล้าสบตา “สหาย เราขอโทษด้วย แต่เขาคือผู้ชายของฉันเองค่ะ”
อาเซียงได้ยินเสียงโหวกเหวกเช่นกันเลยเดินเข้ามาหา
แต่พอเธอเห็นเสิ่นอี้โจว เธอเกือบคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป
เธอขยี้ตาและพบว่าเขายังคงยืนอยู่ตรงนั้น
ดังนั้นเธอตะโกนอุทานด้วยความประหลาดใจ “พี่เขย!”
เจ้าหน้าที่รถไฟเคยมาตรวจตู้รถนี้แล้วตอนกลางวัน เขาจึงรู้ว่าอาเซียงและเซี่ยชิงหยวนมาด้วยกัน
ทั้งคู่รู้จักเสิ่นอี้โจว ดังนั้นพวกเขาดูเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ
เจ้าหน้าที่รถไฟกระแอมไอแล้วพูดว่า “ถึงพวกคุณจะเป็นสามีภรรยากัน แต่พวกคุณก็ควรใส่ใจท่าทีเวลาอยู่ในที่สาธารณะด้วย… พวกคุณไม่สามารถทำตามใจตัวเองแบบนี้ได้ ถ้าคนอื่นมาเห็นฉากที่มากกว่านี้พวกคุณจะทำยังไง?”
เสิ่นอี้โจวพยักหน้าเบา ๆ “เราเข้าใจแล้ว เราจะสำรวมในอนาคต”
เซี่ยชิงหยวนยังคงพยักหน้า “ใช่ ใช่ ใช่”
เมื่อเห็นว่าพวกเขาพูดคุยกันง่าย ทัศนคติของเจ้าหน้าที่รถไฟก็ดีขึ้นและไม่รั้งอยู่อีกต่อไป
เขาพูดว่า “เอาล่ะ แค่นี้แหละ”
หลังจากพูดจบ เขาก็จากไป
ขณะที่เจ้าหน้าที่รถไฟจากไป ดวงตาของอาเซียงกลอกไปมาระหว่างเซี่ยชิงหยวนและเสิ่นอี้โจวราวกับว่าเธอได้เห็นความลับบางอย่าง
เธอเบิกตากว้าง ปิดปาก และจ้องพวกเขาครู่หนึ่งบราวนี่ออนไลน์
เซี่ยชิงหยวนพยายามอธิบาย “อาเซียงมันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด…”
อาเซียงก้าวถอยหลังครั้งแล้วครั้งเล่า
“อืม ๆ ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจ”
เธอเดินถอยไปเกือบถึงที่นั่งของตัวเองแล้วพูดว่า “ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้แน่นอน”
ขณะที่พูด เธอก็เดินจากไปราวกับกำลังหลบหนี
เซี่ยชิงหยวนชำเลืองมองตัวการร้ายอย่างไม่พอใจ “ฉันควรทำยังไงดีล่ะทีนี้?”
ชื่อเสียงของเธอได้โด่งดังแน่!
เสิ่นอี้โจวยิ้มและสวมกอดเธอ “อาเซียงจะไม่พูดอะไรหรอก”
เซี่ยชิงหยวน “…”
นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอกังวล!
เธอปัดมือเขาออก “หยุดทำตัววุ่นวายสักที”
พูดจบเธอก็นั่งลงบนที่นั่งของตัวเอง
เสิ่นอี้โจวนั่งลงข้างเธอ จับมือเธอวางบนตัก เอนพิงตัวข้างภรรยา แล้วลูบเบา ๆ เหมือนลูกสุนัขที่กำลังแสวงหาความเอาใจใส่จากเจ้านาย
เขาพูดว่า “เห็นแก่ที่ผมอุตส่าห์มารับคุณตั้งไกล อย่าโกรธกันได้ไหม?”
ในความเป็นจริงเซี่ยชิงหยวนไม่ได้โกรธจริง ๆ
แค่ถูกอ้อนเธอก็มีความสุขแล้ว
เธอพ่นลมหายใจดัง “ฮึ่ม”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เสิ่นอี้โจวก็รู้ว่าตัวเองรอดแล้ว และพูดต่อ “สิ่งที่ผมพูดเป็นความจริง ผมคิดถึงคุณมากและอี้โจวน้อยก็คิดถึงคุณเหมือนกัน”
ขณะที่เขาพูด เขาคลำมือไปที่ตำแหน่งเหนือเข่าของเซี่ยชิงหยวนแล้ววางลงบนนั้น
เซี่ยชิงหยวนแทบสะดุ้งโหยง “!”
แก้มแดงเรื่อปรากฏขึ้นอีกครั้ง “เสิ่นอี้โจว คุณมันนักเลงหัวไม้!”
หลังจากพูดแบบนี้แล้วเห็นว่าเสิ่นอี้โจวยังไม่เอามือออกไป เธอจึงทำมือเป็นกรงเล็บและตะปบ ‘ตรงนั้น’ ของเขาอย่างแรง
เสิ่นอี้โจวไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเซี่ยชิงหยวนจะทำเช่นนี้
เขาทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ เลยฮัมเสียงหนึ่งก่อนจะจับมือเธอ “ที่รัก ถ้าคุณทำอีก ผมจะไม่สนใจเรื่องนักเลงหัวไม้อะไรอีกแล้วนะ”
เซี่ยชิงหยวนเหลือบมองเขา “นี่คือในรถไฟ คุณกล้าเหรอ?”
เสิ่นอี้โจวเอ่ยขึ้นทันที “สถานีถัดไป ผมจะพาคุณลงจากรถไฟ”
เซี่ยชิงหยวนพูดไม่ออก “…”
เธอจ้องมองเขาอย่างขมขื่น “คุณนี่มันอำมหิตจริง ๆ!”
เสิ่นอี้โจวยิ้มและจูบเธอเบา ๆ “ดังนั้นคุณควรเชื่อฟังนะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยชิงหยวนก็สะบัดมือออก “นอน นอน”
เสิ่นอี้โจวไม่รบกวนเธออีกต่อไป
เขาจูบเธอที่หน้าผากและพูดว่า “ฝันดี”
หลังจากพูดจบ เขาก็นั่งลงบนเตียงฝั่งตรงข้ามและพิงมัน
เซี่ยชิงหยวนนอนลงและพบว่าเสิ่นอี้โจวนั่งหันหน้าเข้าหาเธอ
เธอพลิกตัวกลับหันหลังให้เขา
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็หันกลับมาและพบว่าเสิ่นอี้โจวยังอยู่ในท่าทางเดิม
เซี่ยชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “นี่ก็ดึกแล้วทำไมยังไม่นอนอีก มองที่ฉันอะไรนักหนา นอกจากนี้มันก็มืดสนิท คุณจะเห็นอะไรอีกนอกจากเค้าโครงราง ๆ น่ะ?”
เสิ่นอี้โจวยิ้มและพูดว่า “การมองคุณแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกสบายใจ”
เซี่ยชิงหยวนพูดไม่ออกในทันที
หัวใจของเธอเจ็บปวดและรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย
เธอพูดว่า “ฉันทำให้คุณกังวลเมื่อตอนที่ไปกว่างโจวใช่ไหม?”
เสิ่นอี้โจวนั่งอยู่ที่นั่นโดยไม่ขยับเขยื้อน
หลังจากผ่านไปหลายวินาที เขาตอบว่า “ทำไมผมจะไม่กังวล ผมแทบทนไม่ไหวที่จะไปกับคุณ”
เขาหยุดคำพูดชั่วคราวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนล้าในน้ำเสียง “แต่ทุกครั้งที่ผมคิดว่าคุณกำลังทำสิ่งที่คุณมีความสุข ความกังวลของผมเหล่านั้นมันก็ไม่สำคัญเลย”
ในขณะนี้เซี่ยชิงหยวนไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี
ปลายจมูกของเธอเจ็บจี๊ดขึ้นมา และอยากจะร้องไห้อย่างอธิบายไม่ได้
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็พูดว่า “อี้โจว ฉันจะปฏิบัติต่อคุณอย่างดี”
เสิ่นอี้โจวยิ้ม “เป็นผมที่ควรพูดคำนี้กับคุณมากกว่ารึเปล่า”
เซี่ยชิงหยวน “ใครพูดอย่างนั้น นี่เป็นยุคใหม่และผู้หญิงสามารถค้ำท้องฟ้าไว้ครึ่งหนึ่งได้นะ”
เสิ่นอี้โจวตอบกลับ “เยี่ยมเลย ภรรยาของผมสามารถยกท้องฟ้าได้ครึ่งหนึ่งด้วย”
ทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้นอีกครั้ง “จริง ๆ แล้วตราบใดที่คุณสามารถยืนหยัดไปกับผมได้ทุกรอบ แค่นั้นผมก็พอใจแล้ว”
เซี่ยชิงหยวนชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะตระหนักว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร
เธอสาปแช่งทันที “ตาเฒ่าลามก!”
จากนั้นหญิงสาวก็พลิกตัวและหลับไป
เสิ่นอี้โจวมองไปที่ส่วนโค้งเว้าของเซี่ยชิงหยวน จากนั้นหันสายตาออกไปนอกหน้าต่างอย่างมึนงง