กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 185 ความรักลับ ๆ ที่จบลงโดยไม่คาดคิด
- Home
- กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี
- บทที่ 185 ความรักลับ ๆ ที่จบลงโดยไม่คาดคิด
บทที่ 185 ความรักลับ ๆ ที่จบลงโดยไม่คาดคิด
บทที่ 185 ความรักลับ ๆ ที่จบลงโดยไม่คาดคิด
แต่ไม่ว่าอย่างไร เธอก็ไม่อาจเชื่อการคาดเดาของตัวเองในการทำบางอย่างกับฉู่ซิงอวี่ได้ใช่ไหม?
มันจะไม่น่าอายสำหรับทั้งสองฝ่ายเหรอถ้าทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิดในท้ายที่สุด?
เซี่ยชิงหยวนพยายามคิดหาวิธีนับพันอย่าง
เธอยื่นมือออกไปเรียกเสิ่นอี้หลิน และกระซิบบางอย่างที่หูของเขา
เสิ่นอี้หลินเอียงศีรษะหลังจากฟังด้วยสีหน้างุนงง
เซี่ยชิงหยวนตบก้นของเขาเบาๆ “ทำตามที่พี่สะใภ้บอกเถอะน่า”
เสิ่นอี้หลินเกาหัวของเขา “ตกลงครับ”
ไม่ใช่เรื่องยาก แต่มันก็แปลกนิดหน่อย
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เจียงเพ่ยหลานก็เอ่ยถามขึ้นมา””เธอคิดหาวิธีได้แล้วเหรอ?”
เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “ฉันเองก็ต้องการให้เธอช่วยเรื่องนี้ด้วยนะ”
หลังจากพูดจบ เซี่ยชิงหยวนก็กระซิบอีกสองสามคำที่หูของเจียงเพ่ยหลาน
เมื่อเจียงเพ่ยหลานได้ยินทั้งหมด เธอก็ยกนิ้วให้เซี่ยชิงหยวนทันที “เป็นความคิดที่ดีเลย”
วิธีการนี้มันจะไม่เป็นการหักหน้ามากเกินไป และมันจะแก้การเข้าใจผิดทุกสิ่งได้ในบัดดลอีกด้วย
ดังนั้นในตอนบ่าย เซี่ยชิงหยวนและอาเซียงจึงขายเสื้อผ้าที่หน้าประตูร้านตามปกติ
เมื่อพิจารณาว่าอาจมีคนมากขึ้นในตอนบ่าย เซี่ยชิงหยวนจึงกลับบ้านไปและนำเสื้อผ้ามาอีกสามสิบตัว
ในขณะที่ทั้งสองกำลังเร่งรีบก็เห็นชายคนหนึ่งกำลังเดินอยู่ตรงหัวมุมด้านหน้า
ชายผู้นั้นมีรูปร่างเพรียวสูง มีรอยยิ้มที่มุมปาก ดูสุภาพ และหล่อเหลา
ถ้าไม่ใช่ฉู่ซิงอวี่แล้วจะเป็นใครได้อีก?
เซี่ยชิงหยวนตะโกนไปทางร้านทันที “เพ่ยหลาน!”
เจียงเพ่ยหลานที่กำลังวุ่นวายก็ได้รับสัญญาณ
เธอมองออกไปนอกประตู และโบกมือให้เสิ่นอี้หลิน ซึ่งกำลังเล่นอยู่ด้านข้าง
ก่อนที่ฉู่ซิงอวี่จะมาถึงประตูของ ‘ตรอกเก่า’ เขาพบเซี่ยชิงหยวนที่ขายเสื้อผ้าอยู่บราวนี่ออนไลน์
วันนี้เธอสวมชุดสไตล์ฮ่องกง ซึ่งดูสวยงามเป็นพิเศษ
เขาดันกรอบแว่นไว้ที่ดั้งจมูก และรอยยิ้มบนริมฝีปากก็ปรากฏขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เขาเดินไปตามปกติ แต่หัวใจของชายหนุ่มพลันเต้นเร็วขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้
เขามาที่แผงขายเสื้อและพูดว่า “คุณกลับมาแล้วเหรอ?”
เซี่ยชิงหยวนแสร้งทำเป็นว่าเพิ่งเห็นเขาและตอบด้วยรอยยิ้ม “ใช่ค่ะ”
ฉู่ซิงอวี่พูดต่อ “นี่คุณกำลังจะเริ่มธุรกิจเสื้อผ้าอีกอย่างเหรอครับ?”
เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “อืม ช่วงนี้ฉันว่างน่ะ”
ฉู่ซิงอวี่ต้องการจะพูดอะไรบางอย่างมากกว่านี้ แต่เสิ่นอี้หลินก็วิ่งออกมาจากร้านพอดี
เด็กชายเข้ามาหาเซี่ยชิงหยวนและเรียกอย่างไพเราะ “พี่สะใภ้”
เซี่ยชิงหยวนก้มหัวของเธอแล้วยิ้ม “มีอะไรเหรอ?”
เสิ่นอี้หลินจับแขนของเธอเขย่าแล้วพูดว่า “คืนนี้ผมอยากกินปลาต้ม”
เซี่ยชิงหยวนสอนให้เขาเรียก ‘พี่สะใภ้’ ต่อหน้าทุกคน แต่ ‘ปลาต้ม’ นั้นเด็กชายเติมเข้าไปท้ายประโยคด้วยตัวเอง
จริง ๆ แล้ว…เขาฉวยโอกาสหาผลประโยชน์จากเธอ…
เซี่ยชิงหยวนลูบหัวของเด็กชาย และพูดด้วยน้ำเสียง ‘เอ็นดู’ “ก็ได้ไม่มีปัญหา ฉันจะทำให้เมื่อเรากลับถึงบ้านนะ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น นี่ก็ถือว่าเป็นการตกลงตามคำขอของเขาแล้ว
เมื่อเห็นว่าเป้าหมายของเขาสำเร็จแล้ว เสิ่นอี้หลินยิ้มกริ่มและพูดว่า “ฮ่าฮ่า ขอบคุณครับพี่สะใภ้!”
หลังจากพูดอย่างนั้นเขาก็วิ่งออกไปอย่างมีความสุข
ฉู่ซิงอวี่อยู่ข้าง ๆ ฟังเซี่ยชิงหยวนและเสิ่นอี้หลินพูดกันในฐานะพี่สะใภ้และน้องสามี เขารู้สึกว่าสมองของเขาเบลอไปอยู่พักหนึ่ง
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เปล่งเสียงของเขาได้ “คุณ… แต่งงานแล้วเหรอ?”
เซี่ยชิงหยวนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ใช่ค่ะ ฉันแต่งงานกับสามีเกือบสองปีแล้ว”
เธอชี้ไปที่เสิ่นอี้หลิน “นั่นน้องชายของสามีฉันเองค่ะ”
ฉู่ซิงอวี่ถอยหลังไปครึ่งก้าว ริมฝีปากของเขาสั่น “งั้นคุณป้าคนนั้นคือใครเหรอครับ?”
เซี่ยชิงหยวน “นั่นคือแม่สามีของฉันค่ะ”
เป็นเรื่องปกติมากที่จะเรียกแม่สามีว่า ‘แม่’ ในชีวิตประจำวัน
ตอนนี้เองที่ฉู่ซิงอวี่ตระหนักว่าเขาได้ทำผิดพลาดในระดับที่ไม่น่าให้อภัย
เมื่อเขามักจะมาที่ร้าน บางครั้งเขาก็เห็นเสิ่นอี้หลิน
เด็กชายคนนี้มักจะเล่นไปทั่วอย่างเชื่อฟัง และไม่ค่อยได้มีปฏิสัมพันธ์กับเซี่ยชิงหยวนมากนัก
ดังนั้นเขาจึงเข้าใจไปเองว่าเด็กชายเป็นลูกของเจียงเพ่ยหลาน
ท้ายที่สุดแล้ว เซี่ยชิงหยวนก็ดูเหมือนว่ายังเด็กมาก แม้แต่เสียงพูดของเธอก็ยังดูอ่อนวัยมากเช่นกัน
เขาไม่เคยคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยชิงหยวนและเสิ่นอี้หลินเลย
หรือในจิตใต้สำนึกของเขา เขาแค่หวังว่าเซี่ยชิงหยวนจะโสด
หน้าอกของเขามันคล้ายกับเต็มไปด้วยบางสิ่งที่อัดแน่น และไม่สามารถพูดได้ว่ามีอาการเจ็บปวดอะไรอยู่ภายในหรือไม่
เขาจำได้ว่าเมื่อสองวันก่อน เขาไปล้อเล่นกับเซี่ยจื่ออี้เกี่ยวกับปัญหาส่วนตัวเรื่องคู่ครอง จิตใต้สำนึกของเขานึกถึงเซี่ยชิงหยวน
ความรักลับ ๆ จบลงโดยไม่คาดคิด ตั้งแต่ยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ!
เขาพยายามอย่างมากที่จะฝืนยิ้ม แต่ก็พบว่ามันยากเกินไป
เขาได้ยินเสียงตึงเครียดของตัวเอง “อ้อ อย่างนี้นี่เอง”
เขาหยุดชั่วคราว “ดูเหมือนคุณกำลังยุ่งอยู่ งั้นผมขอเข้าไปซื้อสลัดเย็นก่อนนะ”
หลังจากพูดจบ เขาก็หันหลังกลับและเดินเข้าไปในร้าน
แต่เมื่อเดินขึ้นบันได เขาก็บังเอิญสะดุดล้มเข้า
เซี่ยชิงหยวนมองไปที่ด้านหลังของเขาและรู้สึกกระอักกระอ่วน
โดยไม่คาดคิด เจียงเพ่ยหลานเข้าใจถูกจริง ๆ
เธอคือใคร?
บังเอิญไปสะกิดดอกท้อโดยไม่ได้ตั้งใจเข้าเหรอ?
เจียงเพ่ยหลานยังคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวทั้งหมด
เมื่อฉู่ซิงอวี่เข้ามาในร้าน เจียงเพ่ยหลานสงบสีหน้าของเธอทันที และทักทายเขาเหมือนในอดีต “วันนี้คุณต้องการซื้ออะไรเหรอคะ?”
เห็นได้ชัดว่าฉู่ซิงอวี่ยังไม่ฟื้นจากอาการช็อก เขาตอบอย่างไปไม่ถูก “เอ่อ…คุณเลือกให้ได้เลย”
เจียงเพ่ยหลานไม่พูดอะไรมาก รีบชั่งน้ำหนักให้เขาอย่างรวดเร็วและส่งสลัดให้เขา
ฉู่ซิงอวี่ถือสลัดเย็นและเมื่อเขาเดินผ่านเซี่ยชิงหยวน เขาก็พยักหน้าให้และจากไป
ท่าทางที่เป็นสุภาพบุรุษของเขายังคงเดิมจนถึงตอนสุดท้าย
ต่อมาเจียงเพ่ยหลานก็ถอนหายใจออกมา “ชายหนุ่มคนนี้ก็ดีมากจริงๆ ถ้าเร็วกว่านี้สักสองปี ฉันคงจับคู่เธอสองคนแน่นอน”
เซี่ยชิงหยวนหัวเราะและพูดว่า “หยุดพูดเรื่องนี้เพื่อไม่ให้ทุกคนอับอายในอนาคตดีกว่านะ”
ทั้งสองฝ่ายทำสิ่งนี้ในฐานะผู้ใหญ่ เพื่อรักษาศักดิ์ศรีสุดท้ายของทุกคน
บางสิ่งทุกคนเข้าใจในใจก็เพียงพอแล้ว
วันนี้เสื้อผ้าของเซี่ยชิงหยวนขายได้ค่อนข้างดี แถมเธอยังเอามาขายเพิ่มอีกในตอนบ่าย รวมทั้งหมดขายเสื้อผ้าวันนี้ได้เกือบเจ็ดสิบชิ้น
เธอคำนวณคร่าว ๆ หลังจากไม่รวมค่าใช้จ่ายแล้ว เธอมีรายได้รวมมากกว่าสองร้อยห้าสิบหยวน รายได้นี้เกือบสามเท่าของรายได้รายวันของ ‘ตรอกเก่า’ เลยก็ว่าได้
เซี่ยชิงหยวนพอใจมากกับผลตอบรับนี้
ถัดมาอาเซียงหยิบเงินยี่สิบหยวนออกจากกระเป๋าของเธอ แล้วมอบให้เซี่ยชิงหยวน “‘พี่สาวเซี่ยคะ นี่เป็นเงินที่พี่ให้เรายืมก่อนหน้านี้ และตอนนี้ฉันจะจ่ายคืนให้พี่ส่วนหนึ่งก่อน ส่วนที่เหลือฉันจะชำระภายในปีนี้นะคะ”
เมื่อเห็นสิ่งนี้เซี่ยชิงหยวนไม่ได้ตอบทันทีและถามว่า “พอคืนเงินแล้ว ค่าใช้จ่ายของครอบครัวเธอมีเหลือใช้พอเหรอ?”
อาเซียงยิ้มและพยักหน้า “มีพอค่ะ มีพอแล้ว เราส่งผักให้พี่ทุกวัน และแม่ของฉันก็ขายงานฝีมือที่ทอเองด้วย ตอนนี้ชีวิตดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากเลย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้เซี่ยชิงหยวนก็พยักหน้า “ดีจังที่ตอนนี้พวกเธอสบายขึ้นแล้ว”
เมื่อพูดจบ เซี่ยชิงหยวนก็รับเงินมา “งั้นฉันจะรับไว้น” แล้วพูดติดตลกว่า “อยู่กับพี่ต่อไปในอนาคต วันหนึ่งพี่จะทำให้เธอสามารถดูแลพ่อกับแม่ตัวเองได้อย่างดีกว่านี้หลายร้อยเท่าเลย”
อาเซียงหัวเราะและพยักหน้า “ฉันเชื่อว่าจะมีวันนั้นค่ะ!”
ในหัวใจของเธอ เซี่ยชิงหยวนคือคนที่เธอชื่นชมมากที่สุดในบรรดาทุกคนที่เธอพบเจอ
ไม่เพียงแค่สวยแต่ยังจิตใจดี มีความสามารถ และรอบคอบที่สุด
เซี่ยชิงหยวนเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ที่ส่องแสง และให้ความอบอุ่นแก่ผู้คน ทั้งยังดึงดูดผู้คนรอบ ๆ ตัวได้อย่างดี
อาเซียงถือตะกร้าไม้ไผ่ใบเล็ก ๆ อีกใบอยู่ และยื่นให้เซี่ยชิงหยวน “อาจ้วงเก็บสิ่งนี้มาจากบนภูเขาเมื่อตอนบ่ายน่ะค่ะ พี่นำกลับไปกินนะ”
เซี่ยชิงหยวนรับตะกร้ามา และเห็นว่ามันเป็นตะกร้าใส่มะม่วงกับมะขาม
มะม่วงแต่ละลูกใหญ่เท่าฝ่ามือ บางผลสุก บางผลยังดิบ
มะม่วงสุกแต่ละผลมีกลิ่นหอมของผลไม้อันเข้มข้น
เนื้อมะม่วงเขียวจะแข็ง และชาวมณฑลยูนนานชอบกินมะม่วงดิบแช่อิ่ม
มะขามเป็นผลไม้เฉพาะในมณฑลอวิ๋น บางชนิดดูเหมือนฝักถั่วขนาดใหญ่ เปลือกนอกเป็นสีน้ำตาลและแข็ง ด้านในเป็นเนื้อสีน้ำตาลเข้ม ผลเป็นพวง
ใช้มือบีบเบา ๆ แล้วเปลือกก็จะแตกออก
การแกะเปลือกออกจะเผยให้เห็นเนื้อที่ค่อนข้างแห้งและคล้ายช็อกโกแลต
ผลจะมีรสเปรี้ยวกระจายในปากทันทีที่กิน มันเปรี้ยวมาก!
เมื่อเซี่ยชิงหยวนเห็นก็อดไม่ได้ที่จะน้ำลายสอ
เธอคิดถึงรสเปรี้ยวนั้น
หญิงสาวรับมันด้วยรอยยิ้มทันที “ขอบคุณนะ”
ในขณะเดียวกัน เซี่ยชิงหยวนก็ไม่คาดคิดเลยว่าผลไม้ธรรมดาในมณฑลอวิ๋น หลังจากนี้มันจะก่อให้เกิดพายุขึ้นมา