กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 207 ตัวอ่อนผึ้งทอด
บทที่ 207 ตัวอ่อนผึ้งทอด
บทที่ 207 ตัวอ่อนผึ้งทอด
เมื่อกลับถึงบ้าน เซี่ยชิงหยวนวางท่อนไผ่ที่ตัดมาในสนามของบ้านก่อนแล้วจึงไปทำรังผึ้งให้เสิ่นอี้หลิน
หลินตงซิ่วมองด้วยรอยยิ้ม จากนั้นไปทำความสะอาดเห็ดที่เก็บกลับมาในวันนี้
ควรทำสิ่งเหล่านี้ในทันทีที่กลับมา มิฉะนั้นถ้าผ่านไปนาน เศษสิ่งสกปรกจะเข้าไปในส่วนหัวของเห็ดและจะล้างออกยาก
ส่วนหน่อไม้นั้นเธอเก็บไว้กินเองที่บ้านสองหน่อ และเอาที่เหลือไปที่ร้านเพื่อทำอาหารจานเย็นขายตอนเที่ยงนี้
เซี่ยชิงหยวนวางรังผึ้งลงบนพื้น และหยิบชามมาอีกสองใบ เตรียมที่จะใส่ตัวอ่อนผึ้งและน้ำผึ้ง
เสิ่นอี้หลินหยิบม้านั่งเล็ก ๆ สองอันมาอย่างช้า ๆ และยื่นให้เซี่ยชิงหยวน “พี่สะใภ้ นั่งลงก่อนสิ”
นอกจากนี้ เขายังเอาม้านั่งตัวเล็ก ๆ ของตัวเองมานั่งลงตรงข้ามเซี่ยชิงหยวน คอยเฝ้าดูเธอทำรังผึ้ง
เปลือกนอกเป็นสีน้ำตาล มีพื้นผิวเป็นหลุม ๆ เหมือนมีรอยรั่ว
เซี่ยชิงหยวนนำมีดขนาดเล็กมาผ่าเปลือกรังผึ้งให้เป็นรู
เธอจับด้านหนึ่งแล้วดึงออก และเปลือกของรังผึ้งก็ถูกลอกออกตามด้วยเสียงฉีกขาด
ชั้นของรังผึ้งปรากฏขึ้นต่อหน้า
เสิ่นอี้หลินอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง
เซี่ยชิงหยวนหยิบชั้นรังผึ้งออกมาหนึ่งชั้น มันมีรูปลักษณ์หลายเหลี่ยมขนาดเล็กและหนาแน่น ซึ่งดูจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ
อีกทั้งมันถูกปกคลุมด้วยชั้นใสสีขาว ถ้ามองดูดี ๆ จะเห็นว่ามีบางอย่างดิ้นอยู่ข้างใน
เซี่ยชิงหยวนฉีกหนึ่งในชั้นใสเล็ก ๆ ออก และตัวอ่อนผึ้งตัวอ้วนสีเหลืองขาวก็โผล่ออกมา
เสิ่นอี้หลินร้อง “ว้าว” อย่างอดไม่ได้
เซี่ยชิงหยวนยิ้มและพูดว่า “เอาชามมาเร็ว ๆ”
เสิ่นอี้หลินหยิบชามขึ้นมาอย่างรวดเร็วและยกขึ้น “พี่สะใภ้ เอาใส่ในนี้ได้เลย”
เซี่ยชิงหยวนพลิกรังผึ้งคว่ำลง และตัวอ่อนผึ้งตัวอ้วนเล็ก ๆ ก็ตกลงไปในชาม
เธอฉีกชั้นใสที่เหลือทีละแผ่น เสิ่นอี้หลินก็มาช่วยแล้ววางคว่ำลงในชามบราวนี่ออนไลน์
ตัวอ่อนผึ้งที่ตกลงในชามดิ้นไปมา
เสิ่นอี้หลินมองไปที่พวกมันและเริ่มจินตนาการว่าจะมีลักษณะอย่างไรหลังจากเอาไปทอด
ฤดูนี้ผึ้งเก็บน้ำหวานได้ไม่มากนัก
ดังนั้นในรังผึ้งทั้งหมดจึงมีรังผึ้งที่มีน้ำหวานขนาดเท่าฝ่ามือของผู้ใหญ่เพียงสองชิ้นเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้นนี่ก็เพียงพอแล้วสำหรับเสิ่นอี้หลิน
เซี่ยชิงหยวนยื่นนิ้วออกมาและเลียน้ำผึ้งที่ติดอยู่
เมื่อเข้าปากก็หวานถึงใจ
เธอใส่รังผึ้งที่มีน้ำหวานเหล่านี้ลงในกล่องอาหารแล้วพูดว่า “พี่จะใส่ไว้ในนี้นะ ทุกครั้งที่นายอยากกินก็ตักออกมาแบ่งด้วยช้อนสะอาดแล้วกินในชามต่างหากล่ะ”
น้ำผึ้งสามารถเก็บได้นานถ้าเก็บรักษามันดี ๆ
เธอเคยอ่านข่าวที่บอกว่าพบน้ำผึ้งที่เก็บรักษาอย่างดีในสุสานโบราณอายุหลายร้อยปีก่อนบราวนี่ออนไลน์
แต่ถ้าเอาช้อนที่เปื้อนน้ำลายตัวเองตักลงไปบ่อย ๆ ก็อาจจะเก็บไว้ได้ไม่นาน
เสิ่นอี้หลินพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “เข้าใจแล้ว”
น้ำลายของเขาแทบจะหยดลงบนพื้น
ในที่สุดเขาก็รอให้เซี่ยชิงหยวนพูดขึ้นเองว่า “ไปเอาชามมาสิ เดี๋ยวรอบนี้พี่ตักมันให้นายเอง”
เสิ่นอี้หลินยักไหล่ก่อนจะอ้าปากเล็ก ๆ ของเขา “พี่สะใภ้จับยัดใส่ในปากของผมเลยก็ได้”
เซี่ยชิงหยวนดีดหน้าผากของเขาด้วยนิ้วที่ไร้คราบน้ำผึ้ง “เจ้าแมวน้อยจอมตะกละ นายคิดจะกินมันในคำเดียวจริง ๆ หรือไง มันหวานมากนะ”
น้ำผึ้งแท้บริสุทธิ์จะหวานมากจนทำให้คุณเลี่ยน และถึงกับสำลักไอเชียวแหละ
เสิ่นอี้หลินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดว่า “ก็ได้”
จากนั้นเขาก็ไปที่ห้องครัวเพื่อหยิบชามและช้อน แล้ววิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว “พี่สะใภ้ผมมาแล้ว!”
เซี่ยชิงหยวนตักน้ำผึ้งเต็มช้อนใส่ในชามให้เขา และพูดว่า “อย่าตักกินหมดในคำเดียวนะ มันจะหวานเกินไป นายค่อย ๆ ใช้ช้อนตักกินทีละน้อยก็พอ”
เสิ่นอี้หลินพยักหน้าหงึก ๆ “เข้าใจแล้วพี่สะใภ้”
จากนั้นเขาจึงตักน้ำผึ้งช้อนเล็ก ๆ อย่างใจร้อน แล้วใส่เข้าไปในปากของเขา
อื้ม! หวานมาก!
ปรากฏว่าการกินน้ำผึ้งคำเดียวรสชาติเป็นแบบนี้นี่เอง!
เมื่อก่อนตอนที่อยู่หมู่บ้านซีสุ่ย เวลาเพื่อนของเขาได้รังผึ้งมาจากที่บ้าน เพื่อนเขาจะถือน้ำผึ้งติดมือวิ่งไปทั่วหมู่บ้านเพื่ออวดเพื่อนคนอื่น ๆ
เสิ่นอี้หลินจะมองอย่างอยากกินมาก และถ้าเห็นว่าเพื่อนคนที่ได้รังผึ้งมามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา เขาจะไปขอแบ่งรังผึ้งมาสักหน่อย
ทว่าการแบ่งมานั้นมันเป็นการแบ่งจากเศษเล็กเศษน้อยอีกที และสุดท้ายก็เหลือแค่ชิ้นเล็ก ๆ
มันเล็กมากจนละลายทันทีที่เอาเข้าปาก
เซี่ยชิงหยวนยิ้มและส่ายหัว “แมวน้อยจอมตะกละ”
หลังจากจัดการกับรังผึ้งแล้ว เซี่ยชิงหยวนก็เริ่มทอดตัวอ่อนผึ้ง
เธอหยิบสิ่งสกปรกในตัวอ่อนผึ้งออกไป รอให้กระทะน้ำมันร้อน เทตัวอ่อนผึ้งลงไปทอด แล้วคนไปเรื่อย ๆ
หลังจากทอดตัวอ่อนผึ้งแล้ว เธอก็ช้อนมันด้วยกระชอนแล้วสะเด็ดน้ำมัน
จากนั้นเทตัวอ่อนผึ้งที่ทอดแล้วลงในกระทะที่ร้อนแต่แห้ง จากนั้นคนให้แห้งสักครู่ ตัวอ่อนผึ้งก็จะพร้อมรับประทาน
เธอหยิบตัวอ่อนผึ้งที่เตรียมไว้เรียบร้อยและเรียกเสิ่นอี้หลินกับหลินตงซิ่วมากิน
หลินตงซิ่วเพิ่งชิมไปไม่กี่คำและไม่เต็มใจที่จะกินมันอีก “พวกลูกกินกันเลย แม่ไม่ชอบมันเท่าไหร่น่ะ”
พ่อแม่มักใช้ข้ออ้างนี้ทุกครั้งที่พวกเขาอยากให้ลูก ๆ กินของดี ๆ ในส่วนของตัวเองจริงไหม?
เซี่ยชิงหยวนดึงแม่สามีของเธอ “จานใหญ่ขนาดนี้ เราทั้งคู่กินไม่หมดหรอกค่ะ ขืนกินหมดเราคงท้องแตกตายจริงไหมคะแม่?”
เสิ่นอี้หลินยัดปากเต็มคำใหญ่ เขาพยักหน้าและพูดว่า “แม่ มากินด้วยกันนะ ถ้ากินอีกสองสามคำแม่จะรู้ว่ามันอร่อย!”
ตัวอ่อนผึ้งไม่อมน้ำมันมากนักแถมยังกรอบอร่อยด้วย
เมื่อกัดเข้าไป ภายในเปลือกที่กรอบจะมีให้รสสัมผัสที่เหมือนเยื่อหนา ๆ คล้ายกับรสชาติของนม
หลินตงซิ่วไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกินมากขึ้นตามคำโน้มน้าว
รสชาติดีจริง ๆ ก่อนหน้านี้ลูกสะใภ้ของเธอทำอะไรก็ไม่อร่อย แต่ตอนนี้ทำอาหารอะไรก็โอชารสเหลือเกิน
วันนี้เมื่อถึงตอนบ่ายที่เซี่ยชิงหยวนไปโรงงานบุหรี่เพื่อขายเสื้อผ้า ลูกค้าที่ซื้อไม่ทันเมื่อวาน หลังจากได้ยินคนอื่นพูดว่าร้านเสื้อผ้ามาเปิดแล้วพวกเขาก็รีบออกจากโรงงานทันทีเมื่อถึงเวลาเลิกงาน
หลายคนกลัวว่าถ้าก้าวช้าไปเสื้อผ้าจะหมดก่อน
เซี่ยชิงหยวนคิดว่าหลังจากกลับจากเมืองหลวงของมณฑล เธออาจจะมาที่นี่ไม่บ่อยนัก เธอจึงพูดว่า “หลังจากนี้เราจะมาที่นี่ทุกบ่ายวันอังคารนะคะ ถ้าพวกคุณชอบเสื้อผ้าของเรา คุณสามารถมาในวันอังคารได้ และเรายังมีร้านขายอาหารจานเย็นชื่อตรอกเก่าตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมือง แผงขายเสื้อผ้าของเราอีกแผงก็มักจะตั้งแผงขายที่นั่นตอนเที่ยงเช่นกันค่ะ”
เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็รู้สึกไม่พอใจ เพราะพวกเขาคิดว่าเวลาในแต่ละวันนั้นมีไม่พอเอาเสียเลย
แม้จะมีการกล่าวว่าพวกเขาไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าทุกวัน แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับการขัดขวางพวกเขาจากการชื่นชมเสื้อผ้าที่สวยงามพวกนี้
บางคนที่ซื้อมันเมื่อวานนี้รู้ว่าเสื้อผ้าที่เซี่ยชิงหยวนนำมาในวันนี้นั้นแตกต่างจากเมื่อวานบางส่วน
และราคาก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ สาว ๆ ที่ยังไม่มีครอบครัวจึงสามารถซื้อเสื้อผ้าได้เดือนละสองสามตัว
แต่พวกเขาหรือเธอก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ทั้งหมดเพียงบอกว่ารับรู้แล้ว
เมื่อกลับไป เซี่ยชิงหยวนพูดกับอาเซียง “อาเซียงในอีกสองวันพี่มีธุระบางอย่างต้องไปทำที่เมืองหลวงของมณฑลกับพี่เขย พี่อาจจะใช้เวลาประมาณสามหรือสี่วันในการไปและกลับ แล้วจากนั้นพี่จะกลับมาขายของกับเธอตามเดิมนะ อันที่จริงต่อจากนี้อาจมีบ้างที่พี่ไม่ว่างขายของ ดังนั้นบางครั้งเธอสามารถไปช่วยงานที่ตรอกเก่าได้เลยนะ โดยที่ไม่ต้องวิ่งขายเสื้อผ้าเองทุกวันให้เหนื่อยมาก”
พอได้ยินแบบนั้น อาเซียงก็เป็นกังวลเกี่ยวกับการไม่อยู่ของเซี่ยชิงหยวน
มันเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับเธอ แต่เธอมั่นใจว่าตัวเองทำได้
จากนั้นอาเซียงก็ตอบว่า “ฉันเข้าใจแล้วพี่เซี่ย พี่สามารถไปได้เลยตามสบายไม่ต้องห่วงทางนี้นะ”
เซี่ยชิงหยวนตบไหล่เด็กสาว “อย่ากดดันตัวเองมากเกินไปล่ะ เสื้อผ้าที่เหล่าไต้ส่งมาจะมาถึงในวันรุ่งขึ้น พรุ่งนี้พี่จะจัดการให้เรียบร้อย เธอสามารถมารับเสื้อผ้าที่ต้องการขายได้ทุกวันเลย”
ตามความเร็วในการส่งสินค้าแบบปกติ จะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์จากกว่างโจวถึงเตียนเฉิง
เซี่ยชิงหยวนไม่รู้ว่าเหล่าไต้ใช้ความสัมพันธ์อะไร เพราะเขาสามารถจัดส่งได้ในสามวัน
แค่ต้องรบกวนเธอไปที่สถานีขนส่งเพื่อรับเสื้อผ้าเองเท่านั้น
เซี่ยชิงหยวนอดชื่นชมประสิทธิภาพของเหล่าไต้ไม่ได้จริงๆ
จนถึงตอนนี้เขาเป็นหุ้นส่วนที่ดีไม่น้อยเลย
เซี่ยชิงหยวนมองไปยังก้อนเมฆที่ลอยบนท้องฟ้า และหวังว่าการเดินทางไปเมืองหลวงของมณฑลจะเป็นไปอย่างราบรื่น