กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 215 ถอยไม่ได้
บทที่ 215 ถอยไม่ได้
บทที่ 215 ถอยไม่ได้
เสิ่นอี้โจวชำเลืองมองที่เซี่ยจื่ออี้และพูดเบา ๆ “พรุ่งนี้ผมมีธุระอื่น ดังนั้นน้ำใจนี้ผมคงทำได้แค่ขอรับไว้ด้วยใจเท่านั้น ขอบคุณคุณเซี่ยมากนะครับ”
ทางด้านฉู่ซิงอวี่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เลิกคิ้วขึ้นเมื่อเซี่ยจื่ออี้พูดแบบนั้น
เขายืนนิ่งก้มหน้าและไม่พูดอะไร
เซี่ยจื่ออี้ยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยน “เลขาธิการเสิ่นสุภาพเกินไปแล้วค่ะ พ่อของฉันขอให้ฉันปฏิบัติต่อเลขาธิการเสิ่นเป็นอย่างดี แต่หากคุณปฏิเสธฉันโดยไม่ลังเลแบบนี้ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายกับพ่อของฉันได้ยังไงเลย”
เสิ่นอี้โจวพยักหน้า “ถ้างั้นผมรบกวนฝากคุณเซี่ยขอบคุณท่านเซี่ยแทนผมด้วยนะครับสำหรับน้ำใจที่มีให้ แต่ผมสัญญากับภรรยาของผมไว้แล้ว ในวันพรุ่งนี้ผมจะใช้เวลากับเธอเป็นอย่างดีน่ะ”
“คุณเซี่ยคือแก้วตาดวงใจของท่านเซี่ย ดังนั้นเขาจะไม่ตำหนิคุณในเรื่องนี้แน่นอน หรือไม่ หลังจากนี้ผมจะไปอธิบายกับท่านเซี่ยเองเป็นการส่วนตัวเองครับ”
สิ่งที่เสิ่นอี้โจวพูดไม่มีข้อบกพร่องเลยแม้แต่น้อย
ไม่ว่าเซี่ยเจิ้งจะมีความคิดแบบไหน เขาก็ไม่สามารถรบกวนเวลาของสองสามีภรรยาที่จะอยู่ด้วยกันตามลำพังได้ใช่ไหม?
เมื่อเห็นท่าทีที่แน่วแน่ของเสิ่นอี้โจว เซี่ยจื่ออี้ก็แอบกำมือตัวเองแน่นขึ้น
แต่ภายนอกเธอทำหน้าตาเสียใจและเกรงใจ “ถ้างั้นฉันคงไม่รบกวนเวลาระหว่างเลขาธิการเสิ่นและภรรยาแล้วกันค่ะ”
มุมปากของเสิ่นอี้โจวยกขึ้น “งั้นเราขอตัวก่อนนะครับ”
ค่ำคืนนี้ยังมีการรับประทานอาหารเพื่อฉลองความสำเร็จของการประชุมครั้งนี้อยู่อีก
ในฐานะผู้เข้าร่วมประชุมคนสำคัญ เสิ่นอี้โจวย่อมต้องไปร่วมงาน
เมื่อพูดจบ เสิ่นอี้โจวก็มองไปที่ฉู่ซิงอวี่ และส่งสัญญาณให้ตามออกไป
ฉู่ซิงอวี่ติดตามไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเดินผ่านด้านข้างของเซี่ยจื่ออี้ ฉู่ซิงอวี่ก็มองเธออีกครั้ง
คิ้วและดวงตาของเธอยังคงสว่าง มุมปากโค้งอย่างงดงาม และทุกอย่างดูไร้ที่ติ
แม้ว่าเขาจะมองไปที่เธอ หญิงสาวก็ยังยิ้มให้เขา ราวกับว่าเธอยังคงเป็นน้องสาวข้างบ้านที่ไร้เดียงสา
เมื่อเห็นท่าทางสงบของเธอ ฉู่ซิงอวี่ก็รู้สึกผิดที่คาดเดาไปเมื่อกี้นี้ขึ้นมา
เขาพยักหน้าให้เธอและจากไปพร้อมกับเสิ่นอี้โจว
ในขณะเดียวกัน เสี่ยวหลิวก็ช่วยเซี่ยชิงหยวนขนข้าวของกลับเข้าไปในห้อง และกำลังจะออกไป
เซี่ยชิงหยวนจึงเรียกให้เขาหยุด “รอเดี๋ยวก่อนค่ะ ฉันมีบางอย่างจะให้คุณ”
ขณะที่เธอพูด มือก็หยิบกระป๋องนมผงสองกระป๋องสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยกลางคนและสูงอายุออกจากกระเป๋า “วันนี้ฉันซื้อของฝากหลายอย่างเพื่อจะเอากลับไปให้คนที่บ้านและยังซื้อนมผงมาอีกหลายกระป๋อง คุณเอานมผงสองกระป๋องกลับไปให้แม่ของคุณที่อยู่ที่บ้านนะคะ ให้เธอชงกินเช้าและเย็นนะ”
พอเห็นแบบนั้นเสี่ยวหลิวก็โบกมือทันที “คุณนาย แบบนี้ไม่ได้นะครับ แบบนี้ไม่ดีแน่”
เซี่ยชิงหยวนยัดนมผงลงในอ้อมแขนของเขา “นมผงอันนี้เป็นสูตรพิเศษ เหมาะสำหรับแม่ของคุณที่สุด ถ้าคุณไม่เอาไปฉันจะโกรธนะ”
นมผงที่เซี่ยชิงหยวนมอบให้เสี่ยวหลิวเป็นแบบเดียวกับที่เธอซื้อให้หลินตงซิ่ว
หญิงชราในยุคนี้ส่วนใหญ่ต้องทนทุกข์ทรมาน เพราะเมื่อยังเด็ก พวกเธอต้องทำงานหนักจนร่างกายเสียหาย ซึ่งตอนนี้พวกเธอมักจะปวดหลังและขาเป็นประจำ
การเสริมสร้างโภชนาการและการเสริมแคลเซียมจึงเหมาะสมที่สุดสำหรับหญิงสูงอายุบราวนี่ออนไลน์
เมื่อมองไปที่คำบนกระป๋องนมผง เสี่ยวหลิวก็รู้เลยว่าเซี่ยชิงหยวนเลือกมันมาอย่างดีมาก และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกปริ่มในใจ พลางรู้สึกเจ็บที่ปลายจมูกอย่างเลี่ยงไม่ได้
ก่อนที่จะทำงานเป็นคนขับรถให้กับเสิ่นอี้โจว เขายังเคยขับรถให้กับข้าราชการระดับสูงคนอื่น ๆ ในศาลากลางด้วย
แต่เจ้านายเก่าของเขาคนนั้นรวมถึงสมาชิกในครอบครัวปฏิบัติต่อเขาอย่างหยิ่งยโส ไม่เหมือนกับครอบครัวของเสิ่นอี้โจวเลย ซึ่งทักทายเขาด้วยรอยยิ้มทุกครั้งที่เห็นเขา และพวกเขาไม่ได้ดูถูกเขาเลยเพียงเพราะเขาเป็นแค่คนขับรถ
เขายังรู้สึกโกรธมากเมื่อมีคนกระจายข่าวลือเกี่ยวกับเซี่ยชิงหยวนในศาลากลางครั้งล่าสุด มีบางคนมาถามเขาเกี่ยวกับเรื่องราวในบ้านของเลขาธิการเสิ่นด้วย แต่เขาไม่เพียงอธิบายให้ผู้คนเข้าใจให้ถูกเท่านั้น แต่ยังต่อว่าพวกคนที่เชื่อข่าวลืออย่างรุนแรงอีกด้วย
เสี่ยวหลิวรู้สึกเหมือนนมผงในมือของเขาหนักเท่ากับพันจิน เสียงของเขาสั่นเครือ “ขอบคุณครับ คุณนาย!”
เซี่ยชิงหยวนโบกมือให้เขา แสร้งทำเป็นใจร้อน “ไปเถอะ ไปเถอะ”
เมื่อเสิ่นอี้โจวกลับมาในตอนกลางคืน เซี่ยชิงหยวนก็ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ทำให้คิ้วของเธอขมวดขึ้น
ช่วงนี้เขาค่อนข้างดื่มบ่อย ไม่เพียงแต่ทำให้รับประทานยาไม่ได้ในมื้อนั้น แต่มันยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย
แต่เธอก็รู้เช่นกันว่าในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่มีผู้คนมากมายเฝ้ามอง แถมหลายคนยังเป็นข้าราชการระดับสูงและมีอายุมากกว่า ดังนั้นเสิ่นอี้โจวจึงจำเป็นต้องดื่มอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ถ้าเธอรู้เรื่องเร็วกว่านี้ เธอคงขอให้เขาเป็นแค่เพียงหัวหน้าแผนกเล็ก ๆ ของสถาบันธรณีวิทยาก็พอ
แม้ว่างานจะหนักกว่า แต่อย่างน้อยก็ไม่มีการสังสรรค์มากนัก
โชคดีที่เสิ่นอี้โจวสัญญาว่าจะเข้ารับการตรวจร่างกายด้วยกันเมื่อไปโรงพยาบาลในวันพรุ่งนี้ เพื่อที่จะได้รู้ว่าตอนนี้เขาฟื้นตัวขนาดไหน
เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าไม่พอใจของเซี่ยชิงหยวน เสิ่นอี้โจวก็กอดเอวของเธอแล้วพูดว่า “ผมสบายดี ผมดื่มไปแค่สองสามแก้วเท่านั้นเอง”
เขาไม่กล้าบอกเธอว่าจริง ๆ แล้วเขาอาเจียนไปรอบหนึ่งแล้วที่ข้างนอก และเพิ่งจะกล้ากลับมาหลังจากสร่างเมาได้บ้าง
แม้ว่าฉู่ซิงอวี่จะพยายามช่วยกันไม่ให้เขาดื่มเยอะแล้ว แต่เขาก็เมามากอยู่ดี
เมื่อทั้งสองแยกจากกัน เสิ่นอี้โจวจึงสั่งไว้ “จำไว้ อย่าบอกภรรยาของผม”
ฉู่ซิงอวี่ตะลึงไปชั่วขณะแล้วพยักหน้า “ครับผม”
แม้ว่าเส้นทางนี้จะยากลำบาก แต่ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาสามารถทำให้เธอได้
เขาถอยไม่ได้
เซี่ยชิงหยวนถอนหายใจ “ฉันไม่โทษคุณหรอก ฉันรู้ว่าคุณไม่มีทางเลือก”
เสิ่นอี้โจวจับมือเธอและพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร คุณไม่ต้องกังวลนะ”
เขาวางมือของเธอไว้บนหน้าอกของเขา “สิ่งที่คุณต้องคิดในตอนนี้คือการดูแลร่างกายของคุณให้ดี ส่วนเรื่องอื่นคุณไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น ผมจะจัดการทุกอย่างเอง”
เซี่ยชิงหยวนเอนตัวซบในอ้อมแขนของเขา เธอจึงไม่เห็นสีหน้าของสามี ซึ่งเป็นสีหน้าของเขาที่พยายามอดทนอยู่
นี่เป็นสีหน้าที่เขาจะแสดงออกมาเมื่อเขารู้สึกอึดอัด
เซี่ยชิงหยวนพยักหน้าและพูดว่า “อืม ฉันเข้าใจแล้ว”
หลังจากที่วันนี้เดินเที่ยวไปเยอะมากในระหว่างวัน เซี่ยชิงหยวนก็หลับสนิทจนกระทั่งเสิ่นอี้โจวตื่นขึ้นอย่างเงียบ ๆ ในตอนกลางคืน เขาหยิบยาแก้ปวดที่สั่งจ่ายโดยหมอและแอบกินมันโดยไม่ให้เธอสังเกตเห็น
ดูเหมือนตอนนี้เธอกำลังฝันหวาน บนใบหน้ามีรอยยิ้มจาง ๆ ที่มุมปาก อีกทั้งยังมีบางครั้งที่เสียงหัวเราะของเธอดังออกมาจากลำคอ
เสิ่นอี้โจวได้ยินเสียงและเกือบจะสำลักยาในปากของเขา
ภายใต้แสงสลัว ใบหน้าของเขาซีดขาว
ดวงตาฟีนิกซ์มองไปยังทิศทางของห้องอย่างระแวดระวัง และไม่รู้สึกโล่งใจจนกว่าจะได้รับการยืนยันว่าคนบนเตียงยังคงหลับสนิท
เขามองไปที่ดวงจันทร์ที่สว่างไสวและเย็นเยียบนอกหน้าต่าง แววตาของชายหนุ่มพลันฉายแววเศร้าสร้อย