กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 219 นอนตอนห้าทุ่มต้องรักษาเวลา
บทที่ 219 นอนตอนห้าทุ่มต้องรักษาเวลา
บทที่ 219 นอนตอนห้าทุ่มต้องรักษาเวลา
ภายใต้แสงไฟ ขนตาของเขาสะท้อนแสงสีดำเป็นรูปพัดขนาดเล็ก
ดวงตาของชายหนุ่มน่าดึงดูดเป็นที่สุด และเขามองเธอด้วยรอยยิ้มซึ่งเปี่ยมไปด้วยความรัก
เซี่ยชิงหยวนตกใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยายามจะถอย น้ำเสียงของเธอเริ่มฉุนเฉียว “หลีกเลย ฉันจะไปออกกำลังกาย” พยาบาลสอนเธอสองครั้งเมื่อวานนี้ แต่เธอจำมันได้ไม่ดีนัก จึงต้องการฝึกอีกสองสามครั้งไม่งั้นอาจจะลืมได้
เมื่อเห็นเธอแบบนี้ รอยยิ้มที่มุมปากของเสิ่นอี้โจวยิ่งลึกขึ้น
เขาคุกเข่ายืดตัวตรงและพูดว่า “ให้ผมช่วยไหม?”
“คุณจะช่วยฉันยังไง?” เห็นได้ชัดว่าเซี่ยชิงหยวนไม่เชื่อ
แม้ว่าตอนพยาบาลสอนเขาจะอยู่ที่นั่นด้วยเพื่อดูวิธีการก็เถอะ
เสิ่นอี้โจวพยักหน้า “อืม ผมจำได้บางส่วนน่ะ”
ฝ่ามือใหญ่ของเขาลูบหัวเข่าของเธอ “เมื่อกี้ตอนคุณทำท่านี้ คุณไม่ได้ทำตามมาตรฐาน” เขาจับเข่าของเธอแล้วกดลงช้า ๆ “คุณควรลงไปอีกหน่อย ให้ใกล้พื้นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้และทำมุมสามสิบองศากับร่างกายของคุณ”
เซี่ยชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะเชื่อว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง
มือของเขาทำให้เกิดคลื่นแห่งความรู้สึกแปลกประหลาด ซึ่งทำให้เธอไม่มีสมาธิ
แต่ถึงอย่างไร ดวงตาของเขาจดจ่อและจริงจังมาก ดูไม่เหมือนว่าเขากำลังแกล้งเธอเลย
เซี่ยชิงหยวนพยักหน้าราวกับถูกเขาดึงดูด “ตกลง…”
เมื่อได้ยินคำตอบของเธอ เสิ่นอี้โจวกล่าวว่า “งั้นเรามาเริ่มกันเลย”
มือของเขาดูเหมือนจะมีพลังวิเศษ ไม่ว่าการเคลื่อนไหวจะยากแค่ไหน มันก็ผ่านไปอย่างง่ายดายเมื่อมีเขาช่วยเหลือ
ยกเว้นว่าเธอมักจะอยู่บนเตียง หญิงสาวไม่รู้เลยว่าร่างกายของเธอสามารถทำท่านี้ได้ด้วย
ท่าการออกกำลังกายล่าสุดที่เธอทำคือการนอนหงายบนพรม ขาของเธองอออกไปด้านนอกและสูงขึ้นที่เก้าสิบองศา จากนั้นขาซ้ายและขาขวาของเธอจะถูกกดเข้าด้านในตามลำดับจนกระทั่งถึงพรมด้านใน
เมื่อทำการเคลื่อนไหวนี้ เส้นเอ็นส่วนหน้าของกระดูกเชิงกรานและต้นขาจะยืดออก ซึ่งทำให้รู้สึกอึดอัด
เสิ่นอี้โจววางมือบนต้นขาของเธอแล้วพูดว่า “ค่อย ๆ กดเข้าไป”
เซี่ยชิงหยวนกัดริมฝีปากของเธอเบา ๆ ด้วยความยากลำบาก “มันเจ็บนิดหน่อย”
เมื่อพูดออกไป แรงที่กดต้นขาของเธอก็เบาลง “ผมเป็นคนควบคุมแรงกด คุณวางใจได้เลยตอนกดขาลงไป”
เธอทำตามคำแนะนำของเสิ่นอี้โจวและทำซ้ำหลายครั้ง ซึ่งเซี่ยชิงหยวนพบว่าสามารถกดลงสลับกันได้อย่างยืดหยุ่น
เธออดไม่ได้ที่จะมีความสุข “ดูสิ ฉันทำได้แล้ว”
เสิ่นอี้โจวพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “อืม คุณทำสำเร็จแล้วนะ”
เขาไม่ได้ดึงเธอขึ้นทันที แต่ดันแขนของเขาและแขวนไว้เหนือเธอ
แขนอีกข้างไล้ไปตามต้นขาของเธอ “คุณรู้รึเปล่า? ร่างกายของคุณนุ่มมาก แต่ผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะยืดหยุ่นได้ขนาดนี้ด้วย”
เขาก้มศีรษะลง “ผมคิดว่า การออกกำลังกายนี้ดีมากเลยนะ มีการเคลื่อนไหวหลายอย่าง คืนนี้เราจะลองมันอีกครั้งแล้วกัน”
เซี่ยชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง
หลังจากออกกำลังกายไปเมื่อกี้ แก้มของเธอก็แดงระเรื่อ และมีเม็ดเหงื่อบาง ๆ ที่ปลายจมูก ทำให้เธอดูน่าหลงใหลจริงๆ
เมื่อเขาพูดแบบนี้ แก้มของเธอก็ยิ่งแดงมากขึ้น
เธองอเข่าอยากจะผลักเขาออกทันที “คุณคิดอะไรในหัวอยู่ได้ทั้งวันเนี่ย!”บราวนี่ออนไลน์บราวนี่ออนไลน์
แต่ขายาวของเสิ่นอี้โจวก็กดเธอลงโดยตรง
เขาโน้มตัวลงและพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมคิดแต่ว่าผมมีคุณทุกวันในใจ”
ปลายจมูกหล่อของเขาถูกับแก้มของเธอเบา ๆ และช้า ๆ ราวกับว่าจะเกาให้จั๊กจี้ “คุณไม่ชอบเหรอ?”
ริมฝีปากของเขาจรดลงบนเปลือกตาของเธอ และเธอก็หลับตาโดยไม่รู้ตัว
สัมผัสเย็นแตะเปลือกตาของเธอเบา ๆ อย่างอ่อนโยน “หัวใจและดวงตาของผมล้วนจดจ่อที่คุณคนเดียวเท่านั้น”
เซี่ยชิงหยวนจับผ้าห่มใต้ร่าง และเธอก็อดไม่ได้ที่จะเกร็งที่หลังเท้า
ทุกที่ที่เขาสัมผัส ขนบนร่างกายของเธอลุกชันขึ้น
เขาจูบที่คอเรียวของเธอ “บอกผมหน่อยสิว่าแบบนี้คุณชอบไหม?”
น้ำเสียงของเขาดูแหบพร่าอย่างมาก
เซี่ยชิงหยวนพยักหน้าอย่างรีบร้อน “ฉันชอบ ฉันชอบมัน!”
เธอผลักเขาอย่างกระวนกระวาย “ลุกขึ้นก่อน”
เสิ่นอี้โจวเงยหน้าขึ้นและลดสายตาลงเพื่อมองเธอ “คุณจะลุกทำไม?”
เขาเม้มริมฝีปากและยิ้ม ดวงตาเป็นประกาย “ในเมื่อคุณชอบ ผมก็ยิ่งควรทำมากขึ้นใช่ไหม?”
เซี่ยชิงหยวนตอบกลับ “ฉันไม่อยากทำอีกแล้ว คุณแค่จำมันไว้ในใจก็พอ”
พรุ่งนี้เช้าเธอต้องไปที่ร้านตรอกเก่า เธอจะทำต่อไปอีกไม่ได้ ไม่งั้นเธอจะลุกจากเตียงไม่ไหวแน่
เสิ่นอี้โจวมองผ่านความคิดของเธอและพูดว่า “ไม่เป็นไร ตอนนี้ยังไม่สายมากนัก ถ้าเราเริ่มเร็ว เราก็จะจบได้เร็วกว่าเดิม”
เซี่ยชิงหยวน “!”
สามารถจบได้เร็วกว่าถ้าเริ่มตั้งแต่หัววันเหรอ?
พอถึงเวลาจริงจะยังสามารถพูดแบบนั้นได้อีกอยู่เหรอ?
ขาของเธอเริ่มเตะอย่างรุนแรง “ไม่ คุณหลอกล่อฉันอีกแล้ว!”
เสิ่นอี้โจว “ผมไม่ได้โกหกคุณนะ ผมก็อยากนอนเร็วเหมือนกัน”
เขายืดตัวขึ้นและมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ “ตอนนี้สองทุ่มห้านาทีแล้ว เอาเป็นว่าเราเข้านอนตอนห้าทุ่มตกลงไหม?”
เซี่ยชิงหยวน “สามชั่วโมง!”
เสิ่นอี้โจวพยักหน้าและยิ้มอย่างไร้เดียงสา “ใช่ ถ้าไม่ใช่เพราะกังวลในเรื่องร่างกายของคุณ จริง ๆ แล้วผมอยากจะขอทั้งคืนเลยด้วยซ้ำ”
เขาถอดนาฬิกาข้อมือออก จับขาของเธอแล้วดึงเข้าหาตัว “เราต้องรักษาเวลาให้ดี”
หลังจากพูดจบ เขาก็โน้มตัวไปจูบริมฝีปากของเธอทันที…
…
เมื่อคืนขณะที่เซี่ยชิงหยวนกำลังจะเข้านอน มีสิ่งหนึ่งอยู่ในใจของเธอและต้องการถามเสิ่นอี้โจว แต่เมื่อหลังจากถูกเขาขัดจังหวะมากเกินไป เธอก็ลืมมันไปเสียสนิท
เธอจำได้ว่าจะถามเขาเกี่ยวกับผลตรวจของหมอ แต่รถของเสี่ยวหลิวก็ขับออกไปแล้ว
เซี่ยชิงหยวนถอนหายใจและตั้งใจจะถามเขาเมื่อเขากลับมาตอนกลางคืนแทน
เมื่อเธอและหลินตงซิ่วไปที่ร้านตรอกเก่า อาเซียงก็อยู่ที่นั่นแล้ว
เด็กสาวหยิบสมุดบัญชีที่เธอทำขึ้นและพูดกับเซี่ยชิงหยวนอย่างตื่นเต้น “พี่สาวเซี่ย ธุรกิจสองสามวันมานี้ไม่เลวเลยค่ะ!”
แต่เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ อาเซียงรู้สึกรำคาญตัวเองเล็กน้อย “จริง ๆ ถ้าฉันขยันกว่าเดิม ฉันน่าจะสามารถหารายได้เพิ่มได้อีกด้วย”
เซี่ยชิงหยวนยิ้มและตบแขนของเด็กสาว “ไม่เป็นไร แค่นี้เธอก็ทำได้ดีมากแล้ว”
สี่วันที่ผ่านมา อาเซียงขายได้ถึงหนึ่งร้อยแปดสิบหยวนทุกวันด้วยตัวเอง อาจกล่าวได้ว่านี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีมากแล้ว
เธอกล่าวว่า “คงไม่นานก่อนที่เธอจะได้ขึ้นชั้นเป็นครูแล้วล่ะ”
อาเซียงยิ้มอย่างเขินอายหลังจากได้ยินสิ่งนี้ “ต้องขอบคุณพี่สาวเซี่ยต่างหากที่สอนให้ฉันจนได้ดีค่ะ”
เธอมีความกังวลในตอนแรก ส่วนใหญ่ความกังวลของเธอมาจากเรื่องที่ว่าตัวเองไม่สามารถรับประกันผลประกอบการได้ในกรณีที่เซี่ยชิงหยวนไม่อยู่
โดยไม่คาดคิดเลยว่า เธอยังประเมินความน่าดึงดูดใจของเสื้อผ้าที่เลือกมาขายต่ำเกินไป
เซี่ยชิงหยวนมองไปที่สมุดบัญชีของอาเซียงแล้วพูดว่า “เสื้อผ้าที่เหล่าไต้ส่งมาครั้งนี้ขายดีไหม?”
อาเซียงพยักหน้าและพูดว่า “ขายดีมากค่ะ ถ้าฉันไม่หยิบออกมาวันละนิดละหน่อย ฉันเดาว่าตอนนี้คงขายหมดแล้ว”
เซี่ยชิงหยวนหยิบลูกคิดขึ้นมาแล้วเริ่มคำนวณ “รวมชุดที่เหล่าไต้ส่งมาครั้งนี้ เรามีเหลืออยู่มากกว่าห้าร้อยตัวในสต๊อก พรุ่งนี้พี่จะไปเมืองกว่างโจวและซื้อเสื้อผ้าที่เน้นสำหรับคนทำงานราชการ เธอขายคนเดียวต่อยังไหวไหม?”
ถ้าอาเซียงขายเองคนเดียวจะสามารถขายเสื้อผ้าได้ประมาณห้าสิบหรือหกสิบตัวต่อวัน แต่ถ้าคนสองคนทำงานร่วมกัน จะสามารถขายถึงร้อยตัวได้ตามปกติ ดังนั้นสินค้าคงคลังที่มีเหลือมากกว่าห้าร้อยชิ้นถือว่าเหลือไม่มากแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น หากย้ายไปขายเสื้อผ้าที่ศาลากลาง ยอดขายรายวันจะยิ่งสูงขึ้นมาก
เมื่ออาเซียงรู้ว่าเซี่ยชิงหยวนกำลังจะไปเมืองกว่างโจวอีกครั้ง เด็กสาวยืดหน้าอกของเธอและพูดว่า “ฉันทำได้ค่ะ พี่ไปอย่างสบายใจได้เลย”
ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา เธอรู้สึกว่าสามารถทำได้
เซี่ยชิงหยวนตบไหล่ของอาเซียง “ทำงานให้หนักเข้าไว้นะ แล้วเธอจะได้ผลตอบแทนที่ดีแน่นอน”
ในอนาคต หากพาอาเซียงไปไหนต่อไหนด้วยบ่อย ๆ เธอสามารถให้อาเซียงไปที่เมืองกว่างโจวเพื่อซื้อสินค้าแทนตัวเองได้
…
หลังจากกลับถึงบ้านในตอนเย็น เซี่ยชิงหยวนก็รอให้เสิ่นอี้โจวกลับมา
หลังจากกินข้าวเสร็จ เธอถามเขาว่า “อี้โจว คุณมีผลตรวจจากหมอเมื่อวานซืนไหม? คุณเอามันออกมาทีสิ ฉันอยากจะดู”
เสิ่นอี้โจวเอาแต่บอกเธอว่าเขาดีขึ้นแล้วไม่ต้องเป็นห่วง แต่หลังจากคิดทบทวน เซี่ยชิงหยวนก็ยังกังวลว่าเขาจะซ่อนบางอย่างจากเธอ
พอได้ยินแบบนั้น มือของเสิ่นอี้โจวที่ถือถ้วยชาอยู่ก็แข็งค้างขึ้นมา “ผลตรวจ?”