กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 224 ไม่ได้เจอกันนาน
บทที่ 224 ไม่ได้เจอกันนาน
บทที่ 224 ไม่ได้เจอกันนาน
เซี่ยชิงหยวนยืนขึ้นอย่างสบาย ๆ และเมื่อมองไปยังผู้หญิงที่กำลังเดินเข้ามา สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป
มีรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปากของหญิงสาว และเธอมองอีกฝ่ายอย่างเฉยเมย
ในชีวิตที่แล้วผู้หยิงคนนี้ขัดแย้งกับเธอตลอดทั้งวัน พยายามที่จะกดขี่และใส่ร้ายเธอมากมาย ท้ายที่สุดเมื่อเธอลงสมัครตำแหน่งผู้จัดการ ผู้หญิงคนนี้ก็ลอกแบบการออกแบบของเธอและยังใส่ร้ายเธอว่าเป็นคนขโมยแบบเสียด้วยซ้ำ
สุดท้ายเธอต้องออกจากโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าหมานต๋าด้วยความอับอาย
เซี่ยชิงหยวนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาในใจของเธอ ‘ไม่ได้เจอกันนาน เลยนะเฝิงฟาง!’
ทันทีที่เฝิงฟางเห็นเซี่ยชิงหยวน เธอก็ตกตะลึง
ในตอนแรกเธอรู้สึกทึ่งกับรูปร่างหน้าตาของเซี่ยชิงหยวน จากนั้นจึงสังเกตเห็นความเฉยเมยบนใบหน้าของอีกฝ่าย มันทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวอย่างอธิบายไม่ได้
เหล่าไต้ก็ยืนขึ้นเช่นกัน
เขาก้าวมายืนอยู่ต่อหน้าเซี่ยชิงหยวนยิ้มและพูดว่า “น้องสาวเฝิงฟาง ฉันแค่พาเพื่อนของฉันมาซื้อของน่ะ”
เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักเฝิงฟาง
การแนะนำของเหล่าไต้ทำให้ความคิดของเฝิงฟางที่ถูกรบกวนโดยเซี่ยชิงหยวนในตอนแรกค่อย ๆ กลับมา
เธอตะคอกกลับไป “คุณต้องระวังมากกว่านี้นะ ในโรงงานของเราห้ามนำแมวและสุนัขเข้ามา”
อันที่จริงตอนที่เธอตะโกนตอนแรก เธอจำเหล่าไต้ได้ แต่รู้สึกไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นผู้หญิงที่นั่งยอง ๆ ข้างเขา
ผู้หญิงคนนี้สวมชุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโรงงานของฤดูกาลนี้ ท่อนล่างสีเหลืองอ่อน เอวคอด มุมกระโปรงถูกตกแต่งด้วยขอบลูกไม้ จับจีบที่คอเสื้อและแขนพองทั้งสองข้าง ทั้งตัวดูอ่อนโยนและชวนหวาน
แม้ว่าเธอจะไม่เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย แต่เพียงแค่เงาก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หัวใจของผู้คนสั่นไหว
กระโปรงตัวนี้เธอเองก็มีอยู่หนึ่งตัวและชอบมันมาก ๆ
แต่ผิวของเธอเข้มกว่า เอวของเธอหนากว่า เลยไม่สามารถสวมใส่แล้วมีเสน่ห์ขนาดนี้ได้เลย ซึ่งพอใส่แล้วเธอดูเหมือนสาวบ้านนอกมากกว่าเสียอีก
หลังจากใส่เพียงครั้งเดียว เธอก็ถอดมันและเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า
เธอเป็นคนที่ชอบเอาชนะ ดังนั้นจึงมีความคิดเกิดขึ้นในใจของเธอทันที จึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยน้ำเสียงดุดันอย่างตั้งใจ
โดยไม่คาดคิดเลยว่า ผู้หญิงคนนี้ดูไม่ตื่นตระหนกเลย แต่กลับมองดูตัวเธออย่างสงบเงียบ ดวงตาของอีกฝ่ายเหมือนบ่อน้ำโบราณที่ไร้เกลียวคลื่น
ไม่เพียงแต่การกดดันจะล้มเหลว แต่เธอยังถูกตอบโต้ด้วย ดังนั้นความรู้สึกขุ่นเคืองจึงเพิ่มมากขึ้นทวีคูณ
เธอจึงใช้ประโยชน์จากการเป็นญาติห่าง ๆ ของผู้จัดการโรงงาน เพราะเธอเคยชินกับการกดขี่ผู้คนในโรงงาน และตอนนี้เซี่ยชิงหยวนดูจะไม่กลัวเธอเลย มันไม่ง่ายเหมือนตอนกลั่นแกล้งคนอื่นได้ด้วยวาจาเลย
เมื่อพูดจบ คิ้วที่สั้นและหนาสองข้างของเหล่าไต้ก็ขมวด
เขารู้ว่าเฝิงฟางเป็นคนนิสัยไม่ดี ดังนั้นทุกครั้งที่เขาเห็นเธอ เขามักจะตามน้ำเธอไป
แต่เกิดอะไรขึ้น?
ทำให้เซี่ยชิงหยวนลำบากต่อหน้าเขาเนี่ยนะ?
นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยชิงหยวนมาที่นี่ด้วยซ้ำ แล้วทำไมถึงเข้ามาหาอย่างเป็นศัตรูอย่างนี้?
เมื่อสังเกตเห็นวิธีที่เฝิงฟางมองที่เซี่ยชิงหยวนโดยไม่สามารถซ่อนความริษยาได้ เหล่าไต้ก็เข้าใจในทันที
ดูเหมือนว่าผู้หญิงที่สวยเกินไปไม่เพียงแต่ดึงดูดความโลภของผู้ชายเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้หญิงคนอื่นอิจฉาได้ง่ายอีกด้วยบราวนี่ออนไลน์
แต่เฝิงฟางคนนี้ก็ใจแคบเกินไป
เขาไม่สนใจที่จะทำให้เฝิงฟางขุ่นเคืองอีกแล้ว เขาเท้าสะเอวแล้วพูดว่า “น้องสาวเฝิงฟาง นี่เธอไปกินดินปืนที่ไหนมา? ทำไมเธอต้องฉุนเฉียวขนาดนี้ด้วย? คนที่ฉันพามาเป็นแขกและเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ยังไม่ได้ยั่วโมโหเธอเลยด้วยซ้ำ ทำไมเธอพูดจาแย่แถมยังเสียงดังขนาดนี้?”
น้ำเสียงของเขาดูล้อเลียน แม้จะมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ไม่มีรอยยิ้มในดวงตาของเขาเลย
เห็นได้ชัดว่าเหล่าไต้โกรธมาก
แต่เฝิงฟางไม่กลัวเหล่าไต้อยู่แล้ว
เธอพึมพำเบา ๆ “ฉันไม่ผิดสักหน่อย คนเรารู้จักหน้าตาแต่ไม่มีทางรู้จักจิตใจหรอก”
ความหมายของคำนั้นชัดเจนมาก
“เหอะ ๆ” เซี่ยชิงหยวนหัวเราะเบา ๆ เสียงนั้นเบามาก แต่ให้ความรู้สึกเยาะเย้ยที่รุนแรง
เซี่ยชิงหยวนปิดปลายจมูกของตัวเองเบา ๆ และมองไปทางอื่น แต่เฝิงฟางรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายกำลังหัวเราะเยาะตัวเอง
ความโกรธที่กักเก็บไว้ของเฝิงฟางถูกจุดขึ้นทันที เธอขมวดคิ้วและมองไปที่เซี่ยชิงหยวน “เธอหัวเราะอะไรไม่ทราบ!”
เซี่ยชิงหยวนมองดูเธออย่างเงียบ ๆ ด้วยท่าทางเกียจคร้าน “หัวเราะอะไร? แน่นอนเพราะฉันเห็นเรื่องตลก ฉันก็เลยหัวเราะน่ะสิ”
เฝิงฟางคือคนสารเลว เมื่อชาติที่แล้วเพียงเห็นหน้าเธอครั้งแรกเฝิงฟางก็ไม่พอใจเธอโดยไม่มีเหตุผล ต่อมาก็กลั่นแกล้งเธอสารพัดวิธี ซึ่งเธอทำได้แต่ต้องยอมเพราะสถานะ
แต่วันนี้มันต่างกับเมื่อชีวิตที่แล้ว ทำไมเธอยังต้องทนเหมือนเดิมด้วย?
เมื่อก่อนเธอถูกกดขี่และควบคุมไปทุกที่ แต่ตอนนี้เธอไม่กลัวแล้ว
ทัศนคติของเซี่ยชิงหยวนทำให้เฝิงฟางโกรธมาก
ไม่ว่าใครเมื่อมาเหยียบโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าหมานต๋า ใครบ้างไม่ยกยอตัวเธอ แม้แต่ถานม่านก็ยังต้องพูดคำดี ๆ กับเธอเลย
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเธอมีความสามารถอะไรถึงกล้าทำให้เธอขุ่นเคืองอย่างเปิดเผยแบบนี้?
เธอก้าวไปหาเซี่ยชิงหยวนทันที “เธอหมายความว่าไง?”
น้ำเสียงของเฝิงฟางหยิ่งยโส ดวงตาของเธอจับจ้องที่เซี่ยชิงหยวนเขม็ง และเธอยืนยันที่จะต้องการให้อีกฝ่ายอธิบายอย่างชัดเจน
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยชิงหยวนก็พ่นลมหายใจอย่างเย็นชาพร้อมกับยิ้มเย้ยหยันที่มุมปากของเธอ
“น้องสาว ถ้าฉันพูดแค่นี้เธอยังไม่เข้าใจก็ควรกลับไปเรียนใหม่นะ ฉันพูดภาษามนุษย์แท้ ๆ แต่ยังกลับมีคำถามมากมาย และฉันก็ไม่จำเป็นต้องให้คำตอบเธอเสมอ จริงไหม?”
ในครั้งนี้เซี่ยชิงหยวนพูดห้วน ๆ เท่านั้น พลางเยาะเย้ยอีกฝ่ายที่ไม่เข้าใจภาษามนุษย์
หน้าอกของเฝิงฟางพองขึ้นทันที เห็นได้ชัดว่าโกรธจัดอย่างมาก
เมื่อเห็นเฝิงฟางกำลังโกรธ เหล่าไต้ก็ยืนบังปิดกั้นสายตาของเธอที่มองเซี่ยชิงหยวน “น้องสาวเฝิงฟาง เราแค่มาซื้อของเท่านั้น เดี๋ยวเราก็จะออกไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอะอะแบบนี้ ถูกไหม?”
เมื่อเห็นว่าเหล่าไต้กำลังช่วยเซี่ยชิงหยวน เฝิงฟางก็โกรธจนเจ็บหน้าอก
เธอหันกลับไปและกำลังจะดึงถุงกระสอบของพวกเขา “ใครบอกว่าพวกเราต้องการทำธุรกิจด้วยฮะ! ฉันไม่ขาย ดังนั้นออกไปซะ!”
ขณะที่เธอพูด เธอก็จับเสื้อผ้าที่อยู่ข้างในถุงกระสอบลงบนพื้น
เมื่อเห็นเช่นนี้ เหล่าไต้ก็ต้องการที่จะหยุดเธอ
แต่คนที่เคลื่อนไหวเร็วกว่าเขาคือเซี่ยชิงหยวน
เซี่ยชิงหยวนก้าวไปข้างหน้าและคว้าข้อมือของเฝิงฟางไว้
เฝิงฟางร้องด้วยความเจ็บปวดทันที “อ๊า! ปล่อยฉันนะ!”
ตอนนี้ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเซี่ยชิงหยวนอีกแล้ว
เซี่ยชิงหยวนจ้องที่อีกฝ่ายอย่างว่างเปล่า “ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอสามารถเป็นตัวแทนของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าหมานต๋าได้ด้วย เธอเป็นเพียงหัวหน้างานเล็ก ๆ เท่านั้น เธอตัดสินใจแทนโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าหมานต๋าได้เลยงั้นเหรอ?”
เซี่ยชิงหยวนพูดพร้อมกับเหวี่ยงอีกฝ่ายออกไป
ดวงตาของเฝิงฟางแดงก่ำ เธอจ้องมองอย่างดุเดือดที่เซี่ยชิงหยวน
เซี่ยชิงหยวนดูถูกตัวเธอชัด ๆ!
ด้วยความโกรธจนไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เฝิงฟางตะโกนเสียงดัง “ฉันตัดสินใจได้! เจ้านายของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าหมานต๋าคือลูกพี่ลูกน้องของฉัน และโรงงานทั้งหมดก็เป็นของครอบครัวฉัน ฉันสามารถทำได้ทุกอย่างที่ฉันพูด!”
“เสี่ยวฟาง!” ทันใดนั้นเสียงตะโกนก็ดังมาจากที่ไกล ๆ
———————