กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 228 ไฟไหม้
บทที่ 228 ไฟไหม้
บทที่ 228 ไฟไหม้
เขากำลังปิดบังอะไรจากเธออยู่รึเปล่า?
หรือเขาป่วยหนักยิ่งกว่าเดิมมาก?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เซี่ยชิงหยวนก็ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไป
เธออยากจะกลับไปที่เมืองเตียนเฉิงทันที และถามเขาให้ชัดเจน
แต่ถึงจะคิดแบบนั้น เธอก็ทำไม่ได้และไม่สามารถโทรไปรบกวนงานของเขาได้ตอนนี้เช่นกัน
คงได้แต่รอเท่านั้น
เธอเดินกลับไปที่ห้องอย่างกระสับกระส่าย และนั่งบนเตียงด้วยความงุนงง ไม่สามารถฟื้นตัวได้อยู่นาน
เนื่องจากเซี่ยชิงหยวนกำลังคิดเกี่ยวกับบางสิ่ง คืนนี้จึงนอนหลับไม่สนิท
ไม่นานนักเธอก็ได้กลิ่นควันจาง ๆ
มันดังเบา ๆ เธอได้ยินเสียงคนตะโกนว่าไฟไหม้อยู่นอกประตู
เซี่ยชิงหยวนตื่นขึ้นจากความฝันในทันใด
เธอลุกขึ้นนั่ง หัวใจพลันเต้นแรง
ตั้งใจฟังอีกครั้งก็ได้ยินเสียงตะโกนที่ด้านนอกประตูจริง ๆ
โดยธรรมชาติแล้ว เธอไม่สามารถตะโกนออกไปนอกหน้าต่างและรอให้เฮ่ออวี้เฟิงมาช่วยเธอได้ตามที่เขาเคยพูดไว้
เธอต้องช่วยตัวเองก่อน!
เซี่ยชิงหยวนไม่กล้าเปิดไฟ เธอรีบลุกขึ้นจากเตียง คว้าเงินข้างเตียง ฉีกผ้าขนหนู เทน้ำจากในแก้วลงบนผ้าขนหนู จากนั้นเอาผ้าขนหนูที่ชุ่มน้ำปิดปากและจมูกก่อนจะเดินไปที่ประตู
ก่อนจะออกจากประตูห้อง เธอก็เห็นถุงกระสอบผ้าอยู่ใกล้ประตู หญิงสาวกัดฟันและแบกมันไว้บนบ่าจึงวิ่งออกไป
ที่ทางเดิน มีคนตะโกนอยู่แล้วว่า “ไฟไหม้!”
ประตูบางบานยังคงปิดแน่น บางทีคนข้างในคงหลับลึกและยังไม่ตื่น
เธอเห็นควันหนาทึบลอยขึ้นมาจากด้านหนึ่งของบันไดและดูเหมือนว่ามีไฟอยู่ด้านล่าง
ผู้คนทางใต้เกลียดน้ำท่วมมาก ดังนั้นสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ จึงมีการสร้างคนละแนวกับในมณฑลยูนนาน ส่วนใหญ่บ้านจะสูงสามชั้น และชั้นที่เธออาศัยอยู่น่าจะเป็นชั้นที่สาม
หากไม่เป็นเช่นนั้น เธอคงจะพอกระโดดออกไปทางหน้าต่างและหลบหนีได้
เธอต้องวิ่งลงบันไดอีกชั้น
เมื่อเธอผ่านประตูบานหนึ่งที่ปิดอยู่ เธอไม่ได้ยินเสียงคนข้างในห้องเลย ดังนั้นเธอจึงรีบใช้เท้าเตะประตูเพื่อปลุกคนที่ยังหลับใหลอยู่ในห้องให้ตื่น
เซี่ยชิงหยวนแบกเสื้อผ้าไว้บนบ่าของเธอ เมื่อมีคนเดินผ่านมาชนเธอ ถุงกระสอบก็ตกลงบนทางเดิน
ชายคนนั้นรีบหยิบถุงกระสอบให้เซี่ยชิงหยวนยัดไว้ในอ้อมแขนของเธอ แล้ววิ่งลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว
เมื่อเซี่ยชิงหยวนวิ่งลงไปอีกชั้นหนึ่ง ทั้งชั้นก็ถูกไฟลุกไหม้แล้ว
ชั้นที่สองไฟไหม้ทั้งชั้นเลย
เปลวไฟเต็มไปหมดและคลื่นความร้อนที่แผดเผาพุ่งเข้าหาเธออย่างรวดเร็ว ดวงตาของเธอถูกควันมากจนน้ำตาไหลอาบแก้มบราวนี่ออนไลน์
ควันหนาทึบจนเธอมองไม่เห็นทางอีกต่อไป
เธอใช้เพียงสัญชาตญาณวิ่งไปยังทิศทางในความทรงจำ
เธอผ่านประตูห้องหนึ่งและมีคนวิ่งออกมาชน ทำให้เธอล้มลงกับพื้น
เซี่ยชิงหยวนไม่ได้ตั้งตัวและล้มลงกับพื้นอย่างจัง
โชคดีที่เธอล้มใส่ถุงกระสอบที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้า ดังนั้นเธอจึงไม่เจ็บมากนัก
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นและเห็นคนที่กำลังมา เธอก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง
ท่ามกลางกองเพลิง ชายคนนั้นยืนหันหน้าเข้าหาเธอ เขาสวมเสื้อเชิ้ตลายดอกที่เธอเคยเห็นเมื่อตอนกลางวัน เหงื่อบนร่างกายของเขาสะท้อนกับแสงไฟ และในขณะเดียวกันก็มีคราบเลือดติดอยู่บนนั้น
ระยะห่างระหว่างเขากับเธอเพียงหนึ่งเมตร และดวงตาสีดอกพีชของเขามืดมิดสะท้อนกับไฟที่อยู่รอบด้าน ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เธอไม่เข้าใจ
ทันใดนั้น เขาขยับมือที่ห้อยอยู่ข้างตัวและแสงเย็นก็ปรากฏขึ้นเข้าตาเธอ มันเป็นมีดที่เปื้อนไปด้วยเลือด!
หัวใจของเซี่ยชิงหยวนแทบจะกระดอนขึ้นมาถึงคอของเธอแล้ว
“เซี่ยชิงหยวน? เซี่ยชิงหยวน! เซี่ยชิงหยวน!”
ในช่วงเวลาที่สำคัญ เสียงตะโกนมาจากไม่ไกล มันเป็นเฮ่ออวี้เฟิง!
โจวจิ่นจือเก็บมีดก่อนจะมองไปยังทิศทางของแหล่งที่มาเสียง แล้วถอยกลับเข้าไปในห้อง
เซี่ยชิงหยวนตะโกนสุดเสียงราวกับว่าเธอต้องการมีชีวิตอยู่หลังจากเกิดหายนะ “ฉันอยู่นี่…แค่ก แค่ก แค่ก…”
ทันทีที่เธออ้าปาก ควันหนาทึบก็ถูกสูดเข้าไปในปอดของเธอ ทำให้เธอไออย่างรุนแรง
เซี่ยชิงหยวนลุกขึ้นลากกระสอบเสื้อผ้าทันที ไม่กล้าอยู่ต่ออีกแม้แต่ครู่เดียว เธอสะดุดพลางวิ่งลงไปชั้นล่าง
ตอนที่เธอเห็นเฮ่ออวี้เฟิง เธอก็เกือบจะร้องไห้แล้ว
เฮ่ออวี้เฟิงกำลังวิ่งจากชั้นล่างขึ้นชั้นบน
เพียงว่ามีคนจำนวนมากกำลังวิ่งลงไป ซึ่งดันเขาลงซ้ำแล้วซ้ำอีก
เมื่อเขาเห็นเซี่ยชิงหยวนวิ่งลงบันไดมา เขาก็ก้าวไปข้างหน้าทันทีและลากเธอลงไป
เซี่ยชิงหยวนอุทาน “ว้าย!” และเซ
ก่อนที่เธอจะทันได้เข้าใจสถานการณ์ กระสอบเสื้อผ้าในมือของเธอก็ถูกกระชากออกไป และตัวเธอก็ถูกลากให้วิ่งหนี
พวกเขาไม่กล้าที่จะหยุดจนกว่าจะวิ่งออกจากที่พักและไปยังถนนฝั่งตรงข้ามได้
ทั้งสองมองไปยังเปลวไฟที่กำลังพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หลังจากเกิดภัยพิบัติ
คนบ้านใกล้เรือนเคียงก็ออกมาช่วย บางคนหามน้ำมาพยายามดับไฟ
แต่ว่าน้ำแค่ไม่กี่ถังย่อมไม่สามารถดับไฟกองโตที่ไหม้ทั้งที่พักได้
เกรงว่าหลังจากไฟไหม้ ที่พักนี้คงเหลืออยู่เพียงแค่ซากเท่านั้น
เซี่ยชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงโจวจิ่นจือที่เธอเพิ่งพบข้างใน วิธีที่เขามองในตอนนั้นทำให้เธอใจสั่นกลัว
เธอยังสงสัยว่าไฟเริ่มต้นเพราะเขาหรือไม่
เฮ่ออวี้เฟิงมองไปที่เซี่ยชิงหยวน ซึ่งใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยเปื้อนดำ หญิงสาวยังคงจ้องมองที่กองไฟด้วยความงุนงง
ความกังวลเมื่อกี้ที่หาเธอไม่เจอเข้ามาในความคิดของเขาอีกครั้ง เขาดุเธอทันที “คุณอยากตายมากเหรอ? เมื่อกี้คุณควรวิ่งหนีเอาชีวิตรอดไม่ใช่ยังมีความคิดจะแบกถุงขยะใบนี้ติดมือมาด้วย! คุณไม่มีสมองรู้บ้างหรือไงว่าคุณควรวิ่งก่อน!”
เมื่อเห็นเซี่ยชิงหยวนที่ถูกฝูงชนบีบอยู่ตรงกลางและยังคงถือถุงกระสอบที่คุ้นตาไว้ในอ้อมแขนของเธอ เขาก็โกรธมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่เสิ่นอี้โจวขอให้เขาทำอะไรสักอย่าง หากเธอตายไปวันนี้ เขาจะอธิบายให้เสิ่นอี้โจวฟังได้ยังไง?
เซี่ยชิงหยวนรู้ว่าสิ่งที่ตัวเธอทำนั้นไม่ควร ดังนั้นเธอจึงได้แต่ขอโทษ “ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ ตอนนั้นฉันแค่คิดว่าฉันสามารถทำได้ ฉันเลยวิ่งมาพร้อมกับมันน่ะ”
เสื้อผ้ามีไม่กี่ร้อยตัว ดังนั้นเธอคิดว่าตัวเองสามารถแบกมันไหว
เมื่อในอดีตตอนที่เธอทำงานที่บ้าน การขนหมูและฟืนหนักกว่านี้มากนัก
ที่สำคัญเสื้อผ้าเหล่านี้มีมูลค่าหลายร้อยหยวน
เมื่อได้ยินสิ่งที่เซี่ยชิงหยวนพูด เฮ่ออวี้เฟิงก็ต้องการที่จะดุเธออีกครั้ง
ผู้หญิงคนนี้บ้าเกินไปแล้ว
แต่เมื่อมองดูท่าทางน่าสงสารของเธอ เขาก็ทนไม่ได้อยู่พักหนึ่ง
เขาถอนหายใจออกมา “ช่างเถอะ”
เขายกถุงกระสอบ “เอาของไปไว้ที่บ้านผมก่อน แล้วค่อยพาคุณไปโรงพยาบาลกัน”
ในใจเซี่ยชิงหยวนยังคงเป็นห่วงเสิ่นอี้โจวอยู่ ดังนั้นเธอจึงไม่อยากไปโรงพยาบาล
เธอพูดว่า “ฉันเอาผ้าเปียกปิดปากและจมูกไว้ ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอก”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เฮ่ออวี้เฟิงก็พูดว่า “อย่าคิดว่าตอนนี้คุณสบายดี คุณต้องไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย เพราะคุณต้องสูดควันเข้าไปในปอดของคุณไม่น้อยแน่ ๆ”
เซี่ยชิงหยวนรู้ว่าเฮ่ออวี้เฟิงพูดถูก
ในหมู่บ้านซิ่งฮวา บ้านของคุณยายคนหนึ่งเกิดไฟไหม้ ทุกคนจึงรีบไปดับไฟ
เมื่อคุณยายได้รับการช่วยเหลือ ดูภายนอกเธอไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ และยังพูดกับทุกคนได้อย่างปกติหลายคำ
ต่อมาคนในครอบครัวเป็นห่วงจึงส่งไปตรวจที่สถานพยาบาล ซึ่งหลังจากไปก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย
หมอบอกว่าสูดคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าปอดมากเกินไป
เซี่ยชิงหยวนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยักหน้า “ได้ค่ะ”
จากนั้นเธอเงยหน้าขึ้นมองตาเฮ่ออวี้เฟิงด้วยดวงตากลมโตและพูดว่า “คุณสัญญาอะไรบางอย่างกับฉันได้ไหม?”
———————