กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 41 ฉันจะนอนกับคุณคืนนี้
บทที่ 41 ฉันจะนอนกับคุณคืนนี้
บทที่ 41 ฉันจะนอนกับคุณคืนนี้
เซี่ยชิงหยวนเพียงจ้องมองไปยังเสิ่นอี้โจวที่เดินเข้ามาใกล้เธอ
เขายืนอยู่ตรงหน้าเธอและกำลังจะหาเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ เซี่ยชิงหยวนพลันตบเตียงอย่างรวดเร็ว “มานั่งตรงนี้สิคะ”
ดวงตาของชายหนุ่มนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะนั่งลงตามที่หญิงสาวบอก
เซี่ยชิงหยวนจับมือของเขาและมองเขาด้วยดวงตาเปล่งประกาย “บอกฉันทีสิ”
เสิ่นอี้โจว “…”
เขากะพริบตาก่อนจะมองเธอด้วยดวงตาประหนึ่งฟีนิกซ์คู่นั้นที่ทั้งเรียวและเฉี่ยวคม ในแววตานั้นลึกล้ำดั่งผู้ที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมามาก และมันยังมีแสงระยิบระยับที่ดูน่าลุ่มหลงปรากฏอยู่
เขาพูดว่า “งั้นผมจะนั่งอยู่ที่นี่กับคุณ”
เซี่ยชิงหยวนเลิกคิ้วและไม่พูดอะไร
นั่งกับเธอ?
โชคดีที่เขาคิดได้!
จากนั้นเธอก็ถามว่า “เรานั่งรถมาทั้งวันคุณไม่ง่วงเลยเหรอ”
เสิ่นอี้โจวพูดเสียงเบา ๆ “ผมไม่เป็นไร”
เซี่ยชิงหยวนถามอีกครั้ง “คุณจะนั่งอยู่แบบนี้เหรอ? แล้วหลังจากที่ฉันหลับไป คุณจะไปทำอะไรต่อคะ? ไปที่สำนักงาน หรือนอนพักที่เก้าอี้อีกคืน?”
คำพูดของเธอทำให้เสิ่นอี้โจวเงียบได้สำเร็จ
เซี่ยชิงหยวนไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่า ทำไมคนคนนี้ถึงกลัวการนอนเตียงเดียวกับเธอนัก?
หญิงสาวยกขาขึ้นวางบนตักของผู้เป็นสามีโดยตรง “ฉันไม่สน คืนนี้ฉันจะนอนกับคุณ”
เธอพูดประโยคนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ อาการหน้าแดงก็ไม่ใช่สิ่งที่หญิงสาวตั้งใจเช่นกัน
แต่ที่แก้มทั้งสองข้างของเสิ่นอี้โจวกลับขึ้นสีแดงเรื่ออย่างน่าประหลาด
แสงไฟที่นี่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนกว่าตะเกียงน้ำมันก๊าดในหมู่บ้านซีสุ่ยนัก ดังนั้นเซี่ยชิงหยวนจึงสังเกตเห็นปฏิกิริยาของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน
หญิงสาวมั่นใจมากขึ้นว่า เธอควรใช้วิธีนี้เพื่อจัดการกับคนที่จริงจังและไม่แยแสสิ่งใดอย่างเสิ่นอี้โจว
ยิ่งกว่านั้น เธอก็ไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะเลิกรักคนที่ตัวเองเคยทุ่มเทให้อย่างหนักได้
จากนั้นเธอจึงพาดน่องขาขาวของตัวเองที่ตักของอีกฝ่ายและยิ้มอย่างมีเลศนัยออกมา “คืนนี้คุณอยู่กับฉันนะ ตกลงไหมคะ?”
เดิมที กางเกงชุดนอนของเซี่ยชิงหยวนก็หลวมมากอยู่แล้ว เมื่อเธอยกขาขึ้นในตอนนี้ ชายขากางเกงก็ยิ่งเลิกขึ้นตามการเคลื่อนไหว ไม่นานต้นขาขาวเนียนของหญิงสาวก็เผยออกมา
ส่วนเสิ่นอี้โจว หลังจากอาบน้ำ เขาก็ใส่กางเกงขาสั้นออกมา ดังนั้นด้วยการกระทำของเซี่ยชิงหยวน การสัมผัสแบบเนื้อต่อเนื้อจึงเกิดขึ้นโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ต้นขาของเธอขาวเนียนละเอียด ทั้งยังเย็นเล็กน้อย
ผิวกายของชายหนุ่มร้อนจัด การปะทะกันระหว่างน้ำกับไฟทำให้เสิ่นอี้โจวรู้สึกถึงเปลวไฟที่ลุกโชนอยู่ในหัวใจของเขา
ด้วยความตื่นตระหนก เขามองลงไปและเห็นว่าขาที่เรียวยาวกำลังแกว่งไปมาบนร่างกายของเขาอย่างไม่ระมัดระวังเอาเสียเลย
แค่มองก็ทำให้จิตใจของเขาสั่นไหวแล้ว!
ชายหนุ่มวางมือลงบนเตียง พยายามที่จะลุกขึ้น
แต่ชายหนุ่มไม่คาดคิดว่า เซี่ยชิงหยวนจะใช้กำลังทั้งหมดของเธอเกร็งขาข้างหนึ่งเอาไว้และกดเขาลงบนเตียง
หญิงสาวโน้มตัวไปข้างหน้า เธอนั่งบนตัวเขาและวางมือไว้ข้างลำตัว “อี้โจว เราหลับนอนกันไหม”
เฉินอี้โจวเหลือบมองเธอ แล้วเบือนหน้าออกไปอีกครั้ง
เซี่ยชิงหยวนไม่เคยมีนิสัยชอบใส่ชุดชั้นในหลังอาบน้ำ และเพราะเธอมีหุ่นที่เพรียวบางมาก เสิ่นอี้โจวจึงมองเห็นภาพที่น่าตะลึงจากคอเสื้อของเธอที่แหวกลงไปในทันที
ตามสายตาของเสิ่นอี้โจวในตอนนี้ เซี่ยชิงหยวนก็มองลงไปที่คอเสื้อของเธอเช่นกัน ทันใดนั้นหญิงสาวก็ตระหนักได้
ในขณะที่กำลังจะพูด หญิงสาวก็ได้ยินเสียงบางอย่างจากบ้านใกล้เคียง
ครั้งแรกมีเสียงไม้ดังเอี๊ยดอ๊าดและสั่นไหว จากนั้นมีเสียงครวญครางเบา ๆ ของผู้หญิงดังขึ้น
น้ำเสียงบางครั้งเบาและบางครั้งก็หนัก บางครั้งก็เร่งรัดและบางครั้งก็ช้าลง คล้ายกำลังรู้สึกเจ็บปวดและมีความสุขไปพร้อมกัน
พร้อมกับเสียงครวญครางของผู้หญิง มันเคล้าด้วยเสียงคำรามของผู้ชายดังออกมาเป็นครั้งคราว
ก่อนที่เซี่ยชิงหยวนจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็ถูกเสิ่นอี้โจวพลิกสลับตัวหญิงสาวให้นอนลงบนเตียง
เขานอนเผชิญหน้ากับเธอแล้วปิดหูของเธอเอาไว้
จากนั้นเซี่ยชิงหยวนก็ตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านหลังนั้น
แม้ว่าเสิ่นอี้โจวจะปิดหูของเธอ แต่ก็ยังมีเสียงแผ่วเบาเล็ดลอดเข้ามา
เมื่อฟังเสียงที่ ‘เจ็บปวด’ ของเซวียไฉ่เฟิ่ง ความทรงจำอันเลวร้ายของพวกเขาก็ผุดขึ้นมาในหัวอีกรอบ และความกล้าหาญของเซี่ยชิงหยวนก็เลือนหายไป
มันน่ากลัวมาก
เธอจะเจ็บขนาดนั้นอีกใช่ไหม?
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเสิ่นอี้โจว และพบว่าเขากำลังมองมาที่เธอเช่นกัน
เป็นการจ้องมองที่ร้อนแรงและแฝงมีเสน่ห์ล้ำลึก
จิตใต้สำนึกของเซี่ยชิงหยวนในตอนนี้ต้องการจะล่าถอยกลับ
เสิ่นอี้โจวปิดหูของเธอไว้แน่น แม้แต่ร่างกายท่อนบนก็ยังถูกตรึงไว้ไม่ให้หญิงสาวขยับไปไหน
หญิงสาวพยายามขยับร่างกายส่วนล่างของตน
โดยไม่คาดคิดเมื่อเธอยกขาขึ้น ขาของเธอก็ชนเข้ากับบางสิ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เสิ่นอี้โจวร้องคร่ำครวญออกมาทันที
เซี่ยชิงหยวนตกใจมาก เธอรีบก้มมองและพบว่าเข่าของเธอยกขึ้นไปโดนส่วนอ่อนไหวตรงหว่างขาของเขาอย่างพอดิบพอดี
ถ้าเธอบอกว่าไม่ได้ตั้งใจเขาจะเชื่อไหมนะ?
หญิงสาวพยายามดึงขาออก แต่อีกฝ่ายกลับจับขาเธอไว้แน่น
ดวงตาของเสิ่นอี้โจวมืดมน เสียงของเขาเองก็แหบแห้งเช่นกัน “อย่าคิดขยับมันอีก”
เซี่ยชิงหยวนต้องการอธิบาย “ไม่ ฉัน…”
ในขณะนั้นเอง มีเสียงครวญร้องดังก้องออกมาจากบ้านข้างเคียง เซี่ยชิงหยวนหยุดชะงักเมื่อได้ยิน
เธอต้องโทรหาตำรวจหรือเปล่า?
เซี่ยชิงหยวนถามออกไปด้วยประโยคนี้ “เราควรโทรหาตำรวจไหมคะ”
สิ่งที่ตอบหญิงสาวคือความเงียบและสายตาที่เฉียบแหลมของเสิ่นอี้โจว
เขาถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “อย่าเพิ่งขยับ”
ในวินาทีถัดมา มือใหญ่ที่ปิดหูของเธอก็ผละออก จากนั้นร่างของเธอก็ถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนแกร่งและกอดรัดแน่น
ความร้อนที่น่าเหลือเชื่อจากร่างกายของชายหนุ่มกำลังแผดเผาแก้มของเซี่ยชิงหยวนเช่นกัน
คราวนี้เธอไม่กล้าขยับตัวอีกแล้ว หญิงสาวทำได้เพียงนอนนิ่ง ๆ อยู่ในอ้อมแขนผู้เป็นสามีทั้งอย่างนั้น
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงของบ้านข้าง ๆ ก็ค่อย ๆ เงียบลง จากนั้นชายหนุ่มก็ปล่อยเธอออกจากอ้อมแขน
เซี่ยชิงหยวนกลิ้งออกมาอย่างรวดเร็วแล้วลุกขึ้นนั่ง “ฉันจะไปดื่มน้ำ”
เสิ่นอี้โจวสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ แล้วจึงลุกขึ้น “ผมจะไปอาบน้ำอีกรอบ”
ความพยายามอย่างกล้าหาญในครั้งแรกของเซี่ยชิงหยวนพังพินาศไปเพราะเพื่อนบ้าน
หลังจากนั้นเธอก็หลับไปด้วยความงุนงง โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสิ่นอี้โจวจะกลับมาตอนไหน
ขณะที่นอนหลับ เธอรู้สึกเหมือนกับมีเตาร้อนอังอยู่ข้าง ๆ สักพักใหญ่ ทว่ามันกลับเย็นลงกลางดึก เซี่ยชิงหยวนจึงนอนได้อย่างสบายมากขึ้น
เมื่อเธอตื่นขึ้นในตอนเช้า เสิ่นอี้โจวก็ไม่ได้นอนข้างเธออีกต่อไป
มีเพียงผ้าปูที่นอนยับย่นข้าง ๆ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าเขามานอนที่นี่เมื่อคืนนี้
หญิงสาวเปลี่ยนเสื้อผ้าขณะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และพบกับชายที่ออกมาจากบ้านข้าง ๆ พอดี
เขาสูงประมาณร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร รูปร่างผอมมากและสวมแว่นตา
เมื่อเขาเห็นเซี่ยชิงหยวน คนคนนั้นก็ผงะไปครู่หนึ่งแล้วยิ้มให้เธอ
“คุณเป็นภรรยาของหัวหน้าแผนกเสิ่นใช่ไหม สวัสดีครับ ผมชื่อหลี่กวงหัว เป็นเพื่อนร่วมงานของหัวหน้าแผนกเสิ่นครับ”
เนื่องจากอีกฝ่ายสร้าง ‘ความประทับใจ’ ให้เธออย่างลึกซึ้งเมื่อคืนนี้ การหาความเชื่อมโยงระหว่างชายร่างผอมสวมแว่นหนาเตอะตรงหน้ากับหลี่กวงหัวที่ทำให้เซวียไฉ่เฟิ่งร่ำไห้คร่ำครวญเมื่อคืนนั้นช่างยากเย็นเหลือเกินสำหรับเธอ
หญิงสาวพยักหน้าให้เขา “สวัสดีค่ะ”
แล้วเธอก็เดินจากไป
หลี่กวงหัวยืนอยู่กับที่ แต่สายตามองตามแผ่นหลังของเซี่ยชิงหยวน ตั้งแต่เอวเรียวของเธอลงไปที่บั้นท้ายกลมกลึง เรื่อยจนถึงเรียวขายาวเรียว ดวงตาของเขาพลันมืดมนลง
“คุณกำลังทำอะไรน่ะ?” เซวียไฉ่เฟิ่งยืดเส้นลืดสาย ขณะเดินออกมาจากห้องที่อยู่เบื้องหลัง
ท่าทางของหลี่กวงหัวเปลี่ยนไปทันที เขาแตะหน้าอกของเซวียไฉ่เฟิ่งพร้อมด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “ผมกำลังคิดว่าทำไมคุณถึงยังไม่ลุกจากเตียงน่ะ”
เซวียไฉ่เฟิ่งปัดป้องมือของอีกฝ่ายพร้อมกับรอยยิ้ม “คนบ้า!”
จากนั้นเธอก็เตือนอีกฝ่ายทันที “เธอเป็นผู้หญิงของเสิ่นอี้โจว อย่ามีความคิดที่ไม่เหมาะสมเด็ดขาด”
หลี่กวงหัวเดินผ่านเธอไป “คุณกำลังคิดอะไรอยู่น่ะ? ผมมีคุณคนเดียวก็เกินพอแล้ว ผมจะไปตกหลุมรักผู้หญิงอื่นได้ยังไง?”
หลังจากพูดอย่างนั้น ทั้งสองยังไม่ทันได้ทำอาหารเช้าด้วยซ้ำ แต่กลับลงกลอนประตูพร้อมด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่มของคนทั้งสอง
เสิ่นอี้โจวที่กำลังต้มน้ำร้อนในครัวบังเอิญเห็นการกระทำของทั้งสองคนเข้าพอดี ดวงตานกฟีนิกซ์ที่ลุ่มลึกของเขาพลันเย็นชาขึ้นมา