กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 466 ความจริงใจแลกมาด้วยความจริงใจ กาลเวลาย่อมพิสูจน์คน
- Home
- กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี
- บทที่ 466 ความจริงใจแลกมาด้วยความจริงใจ กาลเวลาย่อมพิสูจน์คน
บทที่ 466 ความจริงใจแลกมาด้วยความจริงใจ กาลเวลาย่อมพิสูจน์คน
บทที่ 466 ความจริงใจแลกมาด้วยความจริงใจ กาลเวลาย่อมพิสูจน์คน
เผ่ยเยว่จะออกเดินทางในวันที่สองของเทศกาลสงกรานต์
เผ่ยอิ่งรู้ว่าเธอกำลังจะจากไปก็อาลัยอาวรณ์ด้วยไม่อยากพรากจาก
เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่อาจรั้งเด็กสาวไว้ได้ จึงขอให้เผ่ยเยว่รอให้เทศกาลสงกรานต์ที่มณฑลอวิ๋นผ่านพ้นไปก่อนแล้วค่อยออกเดินทาง
เผ่ยเยว่ยิ้ม “คุณอาคะ หนูไปเล่นสนุกวันเดียวก็พอแล้ว ถ้าอีกหลายวันนี้ไปเล่นอีก เห็นทีว่าพอถึงเวลาก็คงจะเหนื่อยจนขยับตัวไม่ได้แน่ค่ะ”
เผ่ยอิ่งลูบศีรษะหลานสาวด้วยความรักพลางถอนหายใจ “หลานนี่นะ อาอยากจะรั้งหลานไว้อีกสักวันก็ไม่ได้”
และด้วยเหตุนี้ ในระหว่างทางที่เธอกลับจากการเล่นสนุก หญิงสาวก็ได้พบกับเซี่ยจื่ออี้ซึ่งสวมชุดของขนเผ่าไตเช่นกัน
เพียงแต่คนหนึ่งเหน็ดเหนื่อยจากการเล่นสนุก ส่วนอีกคนรอคอยอยู่นานแสนนาน
เซี่ยจื่ออี้มองไปเผ่ยเยว่ที่เปียกชุ่มไปทั้งตัว ก็พลันแสดงสีหน้าท่าทางบูดเบี้ยวออกมาเล็กน้อย “เสี่ยวเยว่ วันนี้ฉันไปหาเธอมา คุณนายเผ่ยบอกว่าเธอออกมาเที่ยวเล่นคนเดียวน่ะ”
เธอรีบปรับอารมณ์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะระบายยิ้มพลางจับมืออีกฝ่าย “ถ้าหากว่าเธออยากจะออกไปเที่ยวเล่น เพียงแค่เรียกฉันมาโดยตรงก็ได้แล้วนี่ จะได้ถือโอกาสแนะนำเทศกาลของที่นี่ให้เธอด้วย”
เผ่ยเยว่ไม่ได้ยกยิ้มให้เธอ รวมถึงไม่ได้คุยกับเธอเหมือนเก่าก่อน
หญิงสาวดึงมือกลับแล้วพูดว่า “พรุ่งนี้ฉันจะไปจากที่นี่แล้วค่ะ คุณไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลากับฉันอีกแล้วแหละ”
ความตกตะลึงฉายไปทั่วใบหน้าของเซี่ยจื่ออี้ จากนั้นรอยยิ้มก็แปรเปลี่ยนเป็นฝืนยิ้ม “เสี่ยวเยว่ เธอพูดอะไรน่ะ?”
เซี่ยจื่ออี้เอ่ย ก่อนจะพยายามจะดึงตัวอีกฝ่ายอีกครั้ง
เผ่ยเยว่ก้าวถอยหลังทันที พร้อมรักษาระยะห่างจากเซี่ยจื่ออี้ “ฉันคิดว่าคำพูดของฉันนั้นชัดเจนอย่างยิ่งแล้วนะคะ แทนที่จะเสียเวลากับฉัน ไม่สู้ใช้เวลาไปกับพยายามการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อำนวยการเซี่ยให้มากขึ้นแทนล่ะคะ”
ตระกูลฉีได้อธิบายสถานการณ์กับตระกูลเซี่ยอย่างชัดเจนแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีการเดินกลับไปบนเส้นทางเดิมอีก
เธอได้ยินเผ่ยอิ่งพูดว่าเซี่ยจื่ออี้พยายามเข้ามาหาเธอหลายครั้ง แต่ถูกเผ่ยอิ่งขัดขวางจนต้องระเห็จกลับไป
น่าเสียดายที่เซี่ยจื่ออี้ซึ่งฉลาดมาตลอดทั้งชีวิต กลับลืมไปว่าคนที่เธอพึ่งพาได้มากที่สุดคือเซี่ยเจิ้ง
หากเธอไม่ใช่ลูกสาวของเซี่ยเจิ้ง ในละแวกเขตอยู่อาศัยนี้จะมีใครที่ไหนมองเธอบ้าง?
เผ่ยเยว่เอ่ยอย่างตรงไปตรงมาจนเซี่ยจื่ออี้ไม่สามารถเสแสร้งได้อีกต่อไป
หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าขาวซีด “เสี่ยวเยว่ ฉันชอบเธอจริง ๆ ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอนะ”
สำหรับคำพูดของเซี่ยจื่ออี้นั้น เผ่ยเยว่ไม่อยากเสียเวลาแยกความจริงออกจากความเท็จอีกแล้ว เธอถอนหายใจแล้วพูดว่า “อันที่จริง หัวใจของมนุษย์ไม่สามารถต้านทานความคิดร้ายได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่มีแรงจูงใจที่ซ่อนเร้นอยู่”
เธอยิ้มจาง ๆ ให้เซี่ยจื่ออี้ “ไม่ว่าจะจริงใจหรือไม่ ยังไงซะ พวกเราก็เป็นเพื่อนกัน ฉันจึงอยากจะบอกอะไรคุณสักประโยค ความจริงใจแลกมาด้วยความจริงใจ กาลเวลาย่อมพิสูจน์คน”
หลังเอ่ยจบ หญิงสาวก็พยักหน้าให้เธอ แล้วเดินจากไป
เซี่ยจื่ออี้ยืนนิ่งอยู่กับที่โดยไม่ได้ไล่ตามไป
เธอมองลงไปที่รองเท้าแตะถักด้วยมือที่สวมอยู่ ก่อนที่ความเย็นชาในดวงตาจะค่อย ๆ เอ่อล้นออกมา
เธอ เซี่ยจื่ออี้ ได้มาถึงสถานการณ์ที่แม้แต่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ยังกล้าเหยียบย่ำเธอได้ตามใจ!
เมื่อหญิงสาวนึกถึงความสัมพันธ์อันเฉยเมยไม่แยแสระหว่างตัวเองกับเซี่ยเจิ้ง ความขุ่นเคืองก็ผุดขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจอีกครั้ง
สุขภาพของเซี่ยเจิ้งไม่ได้ดีเหมือนเมื่อก่อน ตั้งแต่ตั้นปีเป็นต้นมา เขาก็ค่อย ๆ มอบอำนาจหน้าที่ให้คนอื่นทำแทน ในระหว่างที่เขารักษาตัวในโรงพยาบาล เขาได้ออกคำสั่งให้คนมือดีรุ่นหลัง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นเสิ่นอี้โจวในการจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย นั่นยิ่งทำให้เซี่ยเจิ้งตั้งใจที่จะเกษียณตัวเองมากขึ้น
เธอตั้งใจที่จะโน้มน้าวเซี่ยเจิ้งผู้ซึ่งยังไม่ถึงวัยเกษียณให้อยู่ในตำแหน่งต่อไปอีกสองสามปี แต่เมื่อใดก็ตามที่เอ่ยถึงเรื่องนี้ เซี่ยเจิ้งก็ปฏิเสธที่จะพูดถึงมันอีก
ตอนนี้ที่คนในละแวกเขตพักอาศัยกล้าที่จะมองเธอเป็นตัวตลกแล้ว ก็ไม่ใช่เพราะคิดว่าเซี่ยเจิ้งจะลงจากตำแหน่งหรอกเหรอ?
หากเป็นในอดีต พวกเขาจะกล้าแสดงท่าทีดูถูกดูแคลนต่อหน้าเธอแบบนี้รึไงกัน?
หญิงสาวโยนดอกไม้ในมือที่เตรียมมาสำหรับเทศกาลสงกรานต์ลงกับพื้นอย่างแรง ก่อนที่จะยกเท้าเหยียบดอกไม้พวกนั้น ขยี้มันอย่างแรงจนกลีบดอกบูดบี้เละเทะไม่เป็นทรง และน้ำที่อยู่ในดอกไม้ก็ไหลออกมาจนทำให้พื้นเปียก
เธอจะทำให้ทุกคนที่ดูถูกเธอต้องชดใช้!
——–
ถึงผู้อ่าน
ตั้งแต่บทที่ 466 เป็นต้นไป สรรพนามระหว่างรายชื่อด้านล่างจะเปลี่ยนไปดังนี้
จากเดิม เผ่ยเยว่ เรียกเผ่ยอิ่งว่า คุณป้า เปลี่ยนเป็น คุณอา
จากเดิม เผ่ยเยว่ เรียกฉีหยวนซานว่า คุณลุง เปลี่ยนเป็น คุณอาหรืออาเขย
ทั้งนี้ต้องขออภัยในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ด้วยค่ะ