กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 488 ของของเธอนี่มันสกปรกพอ ๆ กับเธอเลย
- Home
- กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี
- บทที่ 488 ของของเธอนี่มันสกปรกพอ ๆ กับเธอเลย
บทที่ 488 ของของเธอนี่มันสกปรกพอ ๆ กับเธอเลย
เซี่ยชิงหยวนไม่คิดทบทวนอะไรอีกแล้ว เธอหันหลังกลับและลงไปชั้นล่างทันที
หวังผิงกอดทารกหญิง ส่วนหลินตงซิ่วกอดทารกชาย พวกเธอยิ้มและพูดคุยกับบรรดาแขก
แม้ว่าหวังผิงจะมาที่มณฑลอวิ๋นเป็นครั้งแรก แต่เธอก็ไม่กลัวเลยเมื่อเผชิญหน้ากับพวกภรรยาข้าราชการเหล่านี้ แต่ท่าทางของหลินตงซิ่วยังดูประหม่าเล็กน้อย
ทุกคนได้ยินข่าวแล้วว่าทารกชายผ่านความยากลำบากมามากหลังคลอด คนส่วนใหญ่มองทารกชายจากด้านข้างและไม่กล้าเข้าใกล้จนเกินไป
แต่หญิงสาวคนหนึ่งพอมองทารกชายก็เอ่ยปากชมว่าน่ารักมาก พอพูดเสร็จแล้วเธอก็เอื้อมมือจะไปสัมผัสเด็ก
ทิศทางที่มือของเธอยื่นออกจะไปจับไม่ใช่เท้าหรือมือเล็ก ๆ ของเด็ก แต่จะไปสัมผัสที่ใบหน้าของเด็กโดยตรง
หลินตงซิ่วไม่รู้จักเซี่ยจื่ออี้ เมื่อได้ยินหญิงสาวพูดแบบนี้ หลินตงซิ่วเพียงคิดแค่ว่าอีกฝ่ายชอบเด็กมาก
แต่เมื่อเธอเห็นมือของเซี่ยจื่ออี้เอื้อมมาทางใบหน้าของเด็กโดยตรง เธอก็รู้สึกแปลก ๆ แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร
ทว่าตอนที่มือของเซี่ยจื่ออี้กำลังจะแตะแก้มของเด็ก หวังผิงก็ทักขึ้นว่า “นี่!” จากด้านข้างและมือของเซี่ยจื่ออี้ก็หยุดชั่วคราวด้วยความตกใจ จากนั้นหลินตงซิ่วจึงถือโอกาสก้าวถอยหลังขณะอุ้มเด็กไว้ด้วย
หวังผิงเห็นทุกคนมองเธอและยิ้มอย่างขอโทษ “ขอโทษด้วยนะคะ ฉันเผลออุทานเพราะรู้สึกอุ่น ๆ ที่ก้นของหลานสาวของฉันน่ะ ไม่รู้ว่าเธอฉี่หรือเปล่า”
เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
หวังผิงหัวเราะไปพร้อมกับคนอื่น ๆ เธอพูดอีกสองสามคำแล้วขยิบตาให้หลินตงซิ่ว “เด็กทั้งสองคนน่าจะถ่ายในเวลาใกล้ ๆ กันเพราะดื่มนมด้วยกัน ดังนั้นคุณไปดูกับฉันดีไหม?”
หลินตงซิ่วพยักหน้าทันที “อื้ม” เธอขอโทษแขกและจากไปพร้อมกับหวังผิง
เมื่อเซี่ยชิงหยวนรีบวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก เธอก็บังเอิญเห็นแม่สามีกับแม่ของเธอจากไปพร้อมลูก ๆ ในอ้อมแขนแล้ว และในที่สุดเธอก็รู้สึกโล่งใจ
เซี่ยจื่ออี้ถอนมือของเธอด้วยความโกรธ พร้อมกับแววตาแห่งความเสียดาย
ราวกับว่าเธอรู้สึกอะไรบางอย่าง หญิงสาวหันศีรษะ มองไปทางเซี่ยชิงหยวนและสายตาของพวกเธอก็สบกัน
เซี่ยชิงหยวนยืนอยู่ที่บันได และเมื่อเธอพบกับการจ้องมองของเซี่ยจื่ออี้ ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความเย็นชา
แต่ก่อนที่เธอจะเข้าใกล้อีกฝ่าย แขกคนอื่น ๆ ก็เห็นเซี่ยชิงหยวนและรวมตัวกันรอบตัวหญิงสาวเพื่อแสดงความยินดี
เซี่ยชิงหยวนทำได้เพียงหยุดและพูดคุยกับแขกเท่านั้น
เธอให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของเซี่ยจื่ออี้จากหางตา และพบว่าอีกฝ่ายก็มองเธอเช่นกัน
เซี่ยชิงหยวนยกมุมริมฝีปากของเธอขึ้นพร้อมกับเยาะเย้ย
กล้ามากนะที่มีความคิดปองร้ายลูก ๆ ของฉัน!
หลังจากที่เซี่ยชิงหยวนปลีกตัวจากกลุ่มผู้คนมาได้ เซี่ยจื่ออี้ก็ก้าวมาข้างหน้าเพื่อทักทาย
เซี่ยจื่ออี้ยิ้มและดูดีขึ้นกว่าครั้งสุดท้ายที่เห็นมาก ตอนนี้เซี่ยชิงหยวนดูผอมกว่าเธอด้วยซ้ำ
เซี่ยจื่ออี้ถือแก้วน้ำผลไม้ในมือแล้วยื่นให้เซี่ยชิงหยวน”คุณนายเสิ่น อยากดื่มหน่อยไหมคะ?”
เซี่ยชิงหยวนจ้องที่อีกฝ่ายและไม่รับมัน
เมื่อเห็นว่าเซี่ยชิงหยวนไม่ตอบอะไร เซี่ยจื่ออี้ก็ไม่ได้โกรธ จู่ ๆ ดูเหมือนเธอจะคิดอะไรบางอย่างได้แล้วพูดว่า “โอ้ ฉันลืมไป พลังชีวิตของคุณนายเสิ่นได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงหลังคลอดนี่นะ ฉันเกรงว่าตอนนี้คงไม่สามารถดื่มของพวกนี้ได้ใช่ไหมคะ?”
รอยยิ้มของเจ้าหล่อนยิ่งเพิ่มมากขึ้น “คุณนายเสิ่นคะ มีคนบอกว่าการให้กำเนิดลูกนั้นเทียบเท่ากับผู้หญิงที่เข้าประตูนรก ฉันรู้สึกจริง ๆ ว่ามันเป็นเรื่องน่าเสียดาย ทำไมคุณนายเสิ่นไม่ตาย ๆ ไปซะล่ะ?”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและรอยยิ้มอันแสนหวานยังคงค้างอยู่บนใบหน้านั่นเสมอ แต่ประโยคคำพูดกลับเลวร้ายและน่ากลัวอย่างที่สุด
“ฮ่า ๆ” เซี่ยชิงหยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วคว้าข้อมือของเซี่ยจื่ออี้ที่ถือน้ำผลไม้ไว้ ดึงอีกฝ่ายเข้ามาใกล้และจับไว้แน่น คนอื่น ๆ ที่เห็นเหตุการณ์นี้ต่างเข้าใจว่าพวกเธอเพียงกำลังคุยกันอย่างใกล้ชิด
เซี่ยชิงหยวนยังมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอเช่นกัน แต่รอยยิ้มนั้นไปไม่ถึงดวงตา “ฉันจะตายได้ยังไงล่ะในเมื่อคนเลวทรามอย่างเธอยังมีชีวิตอยู่? นอกจากนี้ฉันยังมีครอบครัวที่มีความสุข มีลูก ๆ ที่น่ารัก และมีสิ่งสวยงามมากมายรอบตัว ทำไมฉันถึงจะอยากตายล่ะ?”
ดวงตาของเธอค่อย ๆ เย็นชามากขึ้น “แต่เธอ ที่ไม่คำนึงถึงศีลธรรมและความอับอาย ไม่เพียงแต่การหมั้นหมายของเธอจะพังไม่เหลือชิ้นดีเท่านั้น แต่บิดาผู้ให้กำเนิดของเธอก็ทิ้งเธอไปเหมือนกัน แต่เธอกลับยังคิดทำอะไรบ้า ๆ อยู่อีกเนี่ยนะ?”
เธอบีบมือของเซี่ยจื่ออี้และพยายามใช้กำลังต่อไปโดยทิ้งรอยสีแดงไว้บนข้อมือของอีกฝ่าย
เซี่ยจื่ออี้รู้สึกเหมือนข้อมือของเธอกำลังจะหัก เธออยากจะสู้กลับ ทว่าไม่คาดคิดว่าเซี่ยชิงหยวนจะแข็งแกร่งมากจนเธอดิ้นไม่หลุด
เธอทำได้เพียงมองดูอย่างช่วยไม่ได้ ขณะที่เซี่ยชิงหยวนยกข้อมือของตัวเธอมาทางใบหน้าของเธอเอง
การค้นพบนี้ทำให้ดวงตาของเซี่ยจื่ออี้เบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว และเธอก็เอียงคอไปด้านหลัง “เธอ…นี่เธอกำลังจะทำอะไร?”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้เซี่ยชิงหยวนก็ยิ้มกลับ
เธอไม่ยอมปล่อยให้เซี่ยจื่ออี้หลบหนี ใช้มืออีกข้างโอบหลังเซี่ยจื่ออี้หยุดไม่ให้เอนถอยไปอีก “นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธออยากทำกับลูกของฉันรึไงเซี่ยจื่ออี้!”
ทันใดนั้นเซี่ยชิงหยวนบังคับมือของเซี่ยจื่ออี้ไปถูอย่างแรงบนใบหน้าของเจ้าตัว ราวกับปัดฝุ่นบนแก้มออกไป
ในสายตาคนอื่นพวกเขาคิดเช่นนั้นเช่นกัน
คุณนายเสิ่นที่มีจิตใจดีจะสามารถทำเรื่องร้ายอย่างเจตนากับเซี่ยจื่ออี้ได้ยังไงล่ะ?
เซี่ยจื่ออี้มองไปที่ผงสีเหมือนแป้งที่ระหว่างนิ้วของเธอ และบางส่วนก็ตกลงมาติดอยู่ที่หน้า เธอกลัวมากจนแทบจะร้องไห้
ในช่วงจังหวะสุดท้าย พลังของเซี่ยชิงหยวนแข็งแกร่งขึ้นจนทำให้เกิดเสียง ‘แปะ’ บนใบหน้าของเซี่ยจื่ออี้ ซึ่งเป็นการดูถูกอย่างยิ่ง
เซี่ยชิงหยวนโน้มตัวเข้าไปกระซิบเบา ๆ “คงจินตนาการไม่ได้สินะว่าการทำให้แม่คนหนึ่งโกรธมันจะเกิดอะไรขึ้น รีบเก็บไอ้ของสกปรกของเธอออกไป แล้วไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ”
หลังจากนั้นเซี่ยชิงหยวนก็ผลักเซี่ยจื่ออี้ออกไป
และราวกับว่ารังเกียจอย่างยิ่ง เซี่ยชิงหยวนปัดเสื้อผ้าของเซี่ยจื่ออี้อย่างระมัดระวังและยิ้มอย่างมีเสน่ห์ “ของของเธอนี่มันสกปรกพอ ๆ กับเธอเลยนะ”