กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 504 เข้าใจ
บทที่ 504 เข้าใจ
อาเซียงหยิบตะเกียบอันที่สามเก็บขึ้นมาแล้วชี้ไปที่ตะเกียบอันแรก “นี่คือเพื่อนสาวของฉัน”
จากนั้นเธอชี้ไปที่ตะเกียบอันที่สอง “นี่คือเพื่อนชายของเพื่อนฉัน”
ตอนนี้เหล่าไต้เข้าใจแล้ว
เขาตบหัวแล้วพูดว่า “อ้าว นี่ไม่ได้หมายความว่าหล่อนชอบเขา แต่เขาไปชอบคนอื่นหรอกเหรอ? แบบนี้ก็มีให้เห็นในหนังนะ”
เมื่ออาเซียงได้ยินครึ่งประโยคที่บอกว่า ‘เขาไปชอบคนอื่น’ เธอเกือบจะเลิกคุยกับเหล่าไต้ไปเลย
หญิงสาวพยายามอธิบาย “ฉันไม่ได้บอกเลยว่าหล่อนชอบเพื่อนชายตัวเอง และฉันก็ไม่ได้บอกว่าเพื่อนชายของหล่อนชอบคนอื่นด้วย”
เหล่าไต้รู้สึกงุนงง “ถ้างั้นแล้วทำไมเขาถึงหลบหน้าล่ะ?”
เขาเคาะนิ้วบนโต๊ะแล้วพูดอย่างจริงจัง “ฉันจะบอกให้รู้ไว้เลยนะว่าเมื่อไหร่ที่จู่ ๆ ผู้ชายกระตือรือร้นกับเธอหรือหลบหน้าเธอก็ตาม มันมักจะเป็นเพราะเขามีอะไรอยู่ในใจเสมอแหละ”
เมื่อเห็นอาเซียงมองเขาด้วยดวงตากลมโต เหล่าไต้ก็พูดต่ออย่างภาคภูมิใจ “ฟังนะ ให้ฉันวิเคราะห์ให้ฟังแล้วกัน แบบแรกถ้าจู่ ๆ เขากระตือรือร้นในตัวเธอ มันก็มักจะเป็นเพราะเขานอกใจเธออยู่และรู้สึกผิดกับเธอ ดังนั้นเขาจึงต้องการชดเชยด้วยการทำดีกับเธอให้มากกว่าเดิม”
“แบบที่สอง ถ้าจู่ ๆ เขาหลบหน้า มันต้องเป็นเพราะเขารู้สึกว่าตัวเองชอบคนอื่น แต่เขาไม่รู้จะบอกกับเธอยังไง ดังนั้นด้วยการพยายามหลบหน้าหรือซ่อนตัวจากเธอ เขาหวังว่าเธอจะค่อย ๆ ยอมแพ้และจากไปเองโดยสมัครใจ”
หลังจากเหล่าไต้วิเคราะห์จบ เขาก็ถอนหายใจและพูดต่อว่า “อันนี้ฉันมองจากมุมมองของเพื่อนผู้ชายคนนั้นน่ะนะ แต่ก็มีโอกาสแปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่มันจะเป็นไปตามสองสถานการณ์ที่ฉันเพิ่งพูดไปนั่นแหละ”
สีหน้าของอาเซียงซีดลงมากหลังจากฟังคำพูดของเหล่าไต้
เฮ่ออวี้เฟิงหลีกเลี่ยงเธอมาตลอดสองวันที่ผ่านมา
หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น เมื่อเธอตื่นขึ้นมาในตอนเช้า หญิงสาวพบว่าเฮ่ออวี้เฟิงออกไปแล้ว จนกระทั่งเธอหลับไปในตอนกลางคืน จึงได้ยินเขาเปิดประตู
วันรุ่งขึ้นเธอตื่นแต่เช้าเพื่อพยายามขัดขวางเขา
เมื่อออกมาจากห้อง เฮ่ออวี้เฟิงที่กำลังล้างหน้าอยู่ที่สนามบ้านพอเห็นเธอเข้า เขาก็หันหลังและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว รีบจนไม่แม้แต่จะบิดผ้าเช็ดตัวให้หมาดก่อนที่จะโยนไปพาดที่ราวแขวนผ้า
ในที่สุดอาเซียงก็แน่ใจว่าเฮ่ออวี้เฟิงกำลังหลบเธออยู่
เดิมทีหญิงสาวยังมีความหวังริบหรี่อยู่ในใจ และวางแผนที่จะไปที่ร้านของเขาในภายหลัง
ทว่าเมื่อได้ยินสิ่งที่เหล่าไต้พูด เธอก็รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความหวังอีกแล้ว
ความรักลับ ๆ ที่ยังคิดไม่ตกของเธอจบลงก่อนที่จะมีโอกาสได้พูดเผยออกมาดัง ๆ ด้วยซ้ำ
เมื่อเหล่าไต้เห็นอาเซียงดูเหมือนกำลังจะร้องไห้ เขาก็ตกใจและรีบปลอบเธอ “เฮ้ ๆ ฉันแค่วิเคราะห์แบบลวก ๆ เอง บางทีเพื่อนชายของเพื่อนเธออาจมีสถานการณ์ที่สามก็ได้นะ”
อาเซียงเงยหน้าขึ้นมองเหล่าไต้ และในขณะที่กำลังจะถามเหล่าไต้ถึงสถานการณ์ที่สาม เธอก็เห็นเฮ่ออวี้เฟิงเดินเคียงข้างมากับผู้หญิงคนหนึ่ง
อาเซียงดึงเหล่าไต้ก้มหัวลงทันทีโดยไม่กล้ามองไปที่นั่นอีก
โชคดีที่เธอและเหล่าไต้นั่งอยู่ที่มุมหลังร้าน ในขณะที่เฮ่ออวี้เฟิงกับผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ริมหน้าต่างฝั่งถนนห่างจากกันสามหรือสี่โต๊ะ ดังนั้นเฮ่ออวี้เฟิงจึงยังไม่สังเกตเห็นเธอ
เหล่าไต้มองไปตามอาเซียงแล้วพูดว่า “ว้าว” และพูดต่อ “เฮ่ออวี้เฟิงคนนี้รู้จักคุยกับเพศตรงข้ามกับเขาแล้วเหรอ?”
อาเซียงรีบโบกมือใส่เหล่าไต้เพื่อให้ลดเสียงลง “อย่าให้เขารู้ว่าเราอยู่ที่นี่สิ!”
เหล่าไต้สับสน “ทุกคนต่างก็มาที่นี่เพื่อกินอาหาร เธอจะกลัวเขาไปทำไม?”
แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของอาเซียง เขาก็คิดอะไรบางอย่างออก
เขายิ้มอย่างมีความหมาย “น้องสาวอาเซียง เพื่อนชายของเพื่อนเธอที่เพิ่งพูดถึงไม่ใช่เขาหรอกใช่ไหม?”
เมื่อตอนที่อาเซียงบอกว่าเธอมีเรื่องของเพื่อนมาปรึกษาเมื่อครู่ เขาก็รู้อยู่แล้วว่าหญิงสาวกำลังพูดถึงตัวเอง
สาวน้อยตัวเล็ก ๆ หน้าบางและเขินอายง่ายคนนี้ไม่กล้าบอกว่าเป็นตัวเธอเอง ซึ่งเขาสามารถเข้าใจได้
แต่ถ้าตัวเอกชายถูกแทนที่โดยเฮ่ออวี้เฟิง เขาก็ค่อนข้างประหลาดใจ
ยังไม่ต้องพูดถึงอายุที่แตกต่างกันระหว่างคนทั้งสอง แต่เขาไม่สามารถเชื่อมโยงทั้งสองเข้าด้วยกันในแง่ของรูปลักษณ์ บุคลิกภาพ และด้านอื่น ๆ ได้เลย
เมื่อเห็นการแสดงออกที่รู้มากของเหล่าไต้ อาเซียงก็หยุดเขินอายและพยักหน้า “ใช่ เป็นฉันและพี่เฮ่อเอง”
เหล่าไต้แตะคางของเขา “โอ้”
เขาไม่ได้หยอกล้ออาเซียงต่อไปและชี้ไปยังเฮ่ออวี้เฟิงก่อนจะถามว่า “แล้วตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับเขาล่ะ? เขาเดินหน้าต่อ และหันไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่นแล้วเหรอ?”
อาเซียงหน้าแดง “เขาไม่ได้หันไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่น เรายังไม่เคยตกลงคบกันด้วยซ้ำ”
เหล่าไต้ถึงบางอ้อ “มันคือความรักที่เป็นความลับนี่เอง”
เขาขยิบตาให้อาเซียง “อย่ากลัวเลย พี่ไต้คนนี้จะพาเธอไปดูเพื่อให้เข้าใจได้ชัดเจนเองนะ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็เรียกหาพนักงานแล้วบอกว่าจะเปลี่ยนไปนั่งโต๊ะด้านหลังเฮ่ออวี้เฟิง
อาเซียงตกใจมากจนรีบโบกมือปฏิเสธ
เหล่าไต้พูดว่า “อย่ากลัวไป มันมีฉากกั้นน่า”
โดยทั่วไปแล้วที่นั่งในร้านน้ำชากวางตุ้งมักมีความเป็นส่วนตัวมากในแต่ละโต๊ะ ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งที่สูงมากหรือมีฉากกั้นระหว่างโต๊ะ
โต๊ะที่เหล่าไต้ชี้คือจุดที่มีฉากกั้นสูงประมาณครึ่งหนึ่งของคนพอดี
หลังจากนั้นเขาก็พาอาเซียงย้ายโต๊ะไป
พวกเขาก้มลงเดินไปที่โต๊ะ นั่งลง พลางใช้นิ้วชี้ไปที่อาหารสองสามอย่าง และเริ่มตั้งใจฟังการสนทนาของโต๊ะหลังฉากกั้นข้าง ๆ
ร้านน้ำชามีเสียงดัง และเสียงของคนสองคนคุยกันก็ไม่ดังเท่าไหร่ ดังนั้นอาเซียงและเหล่าไต้จึงได้ยินไม่ชัดเจนนัก
ทั้งสองคุยกันสักพักหนึ่ง แล้วผู้หญิงคนนั้นก็พูดว่า “ฉันรู้ว่าเดิมทีคุณ…ตกลงที่จะพบฉันในการนัดดูตัววันนี้ เพียงเพื่อ… ความปรารถนาของคุณ”
เสียงของผู้หญิงคนนั้นแหบแห้ง แต่ก็ไม่ห้วน ฟังดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ
เฮ่ออวี้เฟิงพูดว่า “ผมขอโทษ คุณ…เข้าใจผิด เป็นผมเองที่เสี่ยง…”
ผู้หญิงคนนั้นหันหลังให้ฉากกั้น ส่วนเฮ่ออวี้เฟิงก็นั่งตรงข้ามผู้หญิงคนนั้น ซึ่งอยู่ห่างจากอาเซียงและเหล่าไต้ออกไป ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาพูดจึงยิ่งยากที่จะได้ยิน
อาเซียงรู้สึกกังวล
เธอมองไปที่เหล่าไต้เพื่อขอความช่วยเหลือ
เหล่าไต้ผายมือแสดงท่าทางว่าเขาเองก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน
ผู้หญิงคนนั้นพูดเสริมว่า “จริง ๆ แล้ว ฉันเคยเห็นคุณตอนเด็ก ครั้งหนึ่งฉัน…อยู่ในแม่น้ำ แล้วคุณก็…ขึ้นมา ฉันคิดว่า…คุณเป็นคนที่กล้าหาญมากจริง ๆ ค่ะ”
สีหน้าของอาเซียงมืดหม่น ผู้หญิงคนนี้รู้วิธีชมคนอื่นจริง ๆ เกรงว่าผู้ชายคงจะดีใจมากเมื่อเขาได้ยินมันใช่ไหม?
ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งสองจะเคยรู้จักกันมาก่อน แต่พวกเขาน่าจะยังไม่ไปถึงขั้นเป็นคู่รักในวัยเด็ก
เฮ่ออวี้เฟิงตอบว่า “นั่น… มันเล็กน้อย ผมแค่…”
จากนั้นอาเซียงก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นหัวเราะ
ผู้หญิงคนนั้นเสริมว่า “จริง ๆ แล้ว ถ้าเราเห็นพ้องต้องกัน เราจะ… ใกล้บ้าน และเราสามารถดูแลกันได้ตลอดเวลา…”
อาเซียงอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง
ผู้หญิงคนนี้ไม่อ้อมค้อมเลย แถมเธอยังสามารถพูดได้ในแบบเป็นธรรมชาติมากอีกด้วยเนี่ยนะ?
ในเวลานี้เสียงของเฮ่ออวี้เฟิงดังขึ้นอีกครั้ง
อาเซียงกระตือรือร้นที่จะได้ยินคำตอบของเฮ่ออวี้เฟิงและโน้มตัวไปทางฉากกั้นโดยไม่รู้ตัว
แต่กว่าที่เธอจะรู้ตัวเอง จู่ ๆ ฉากกั้นก็เริ่มสั่นและกำลังจะล้มลง เหล่าไต้ที่อยู่ด้านข้างก็อุทานทันที “เฮ้ย!” และล้มลงไป
การเคลื่อนไหวของอาเซียงนั้นเร็วกว่าปฏิกิริยาสมองของเธอ และเอื้อมมือออกไปจับฉากกั้นอย่างรวดเร็ว
ผู้หญิงที่อยู่หลังฉากกั้นตกใจและกรีดร้องโดยไม่รู้ตัว “ว้าย!”
เฮ่ออวี้เฟิงก้าวไปข้างหน้าและจับฉากกั้นไว้
เขาก้มศีรษะลง พลางมองเหล่าไต้ที่อยู่บนพื้นและอาเซียงที่กำลังจับฉากกั้นอยู่ด้วย จากนั้นก็เลิกคิ้ว “ทำไมพวกเธอถึงมาอยู่ที่นี่?”
เหล่าไต้ “…”
อาเซียง “…”