กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 514 ถูกพักงาน
บทที่ 514 ถูกพักงาน
เซี่ยชิงหยวนรีบแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วไปยังบ้านของหยวนหงหลี่ แต่คุณนายหยวนบอกว่าหยวนหงหลี่ก็ยังไม่กลับมาเช่นกัน
ฉู่ซิงอวี่ไม่อยู่ หลิงเยี่ยก็กลับเข้ากองพันทหารไปอีกครั้งแล้ว สุดท้ายเธอพบเข้ากับเฟิงหว่านซึ่งมาตามหาเธอบนท้องถนน จึงทำให้ได้รู้ข่าวคราวล่าสุด
เฟิงหว่านลากเซี่ยชิงหยวนกลับไปที่บ้าน ก่อนเอ่ยบอก ”ไม่ต้องพูดถึงบุคลากรระดับสูงหลายคนของศาลากลางหรอก แม้แต่คนที่บ้านของฉัน ตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเหมือนกัน เขาโทรศัพท์หาฉันระหว่างทางและบอกว่าเกรงว่าครั้งนี้เลขาธิการเสิ่นอาจจะแย่ คุณควรเตรียมใจให้ดีนะ”
เมื่อเซี่ยชิงหยวนได้ยินดังนั้น ดวงตาของเธอพลันพร่ามัวเสียจนเกือบจะเป็นลมไป
เธอรีบเอ่ยถาม “แท้ที่จริงแล้วมันเรื่องอะไรกันเหรอคะ?”
เสิ่นอี้โจวนั้นระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งราวกับกำลังเหยียบอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางเฉียบ ไม่มีทางที่เขาจะทำสิ่งที่ทำผิดกฎหมายและฝ่าฝืนวินัย
เฟิงหว่านลดเสียงลงแล้วกล่าวว่า “ฉันได้ยินมาว่าเกี่ยวข้องกับโครงการบรรเทาความยากจนที่กำลังดำเนินการอยู่น่ะค่ะ”
เธอขมวดคิ้วแน่น “เกรงว่าคราวนี้เลขาธิการเสิ่นของคุณจะไปขัดแข้งขัดขากับผลประโยชน์ของใครบางคนเข้า จึงถูกฟ้องในคราวเดียวน่ะ”
ใบหน้าเล็ก ๆ ของเซี่ยชิงหยวนพลันซีดขาว ก่อนเอ่ยเย้ยเยาะ “จะมีใครที่ได้ประโยชน์จากมันอีกล่ะคะ ถ้าไม่ใช่พวกข้าราชการหมาที่คอยขูดเลือดขูดเนื้อประชาชน”
เฟิงหว่านรีบเอื้อมมือไปปิดปากของเซี่ยชิงหยวน และพูดว่า “คุณต้องระมัดระวังทั้งคำพูดและการกระทำให้มากขึ้นนะ หากมีใครมาได้ยินเข้าก็จะเป็นการหาเหาใส่หัวให้เลขาธิการเสิ่นอีกได้”
หัวใจของเซี่ยชิงหยวนพลันห่อเหี่ยวทันที “ทราบแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ”
เฟิงหว่านถอนหายใจ “เราทุกคนต่างรู้ดีว่าเลขาธิการเสิ่นของคุณเป็นคนยังไง เพียงกลัวว่าครั้งนี้จะไปทำให้ใครขุ่นเคืองเข้า จึงถูกคนเอารัดเอาเปรียบใช้ประโยชน์จนทำให้เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้น่ะ”
เธอเงียบลงครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยขึ้นอย่างลังเลใจ ”เหล่าเถาให้ฉันถามคุณว่าคุณมีเรื่องโกรธเคืองอะไรกับไป๋อวิ๋นหลี่หรือเปล่า ดูเหมือนว่าเรื่องในครั้งนี้เขาจะเป็นต้นเหตุนะ”
สิ่งที่เฟิงหว่านพูดนั้นเป็นไปตามที่เซี่ยชิงหยวนคาด
หญิงสาวสั่นศีรษะพลางเอ่ย “ฉันเพียงได้ยินมาจากอี้โจวว่ามุมมองทางการเมืองของเขาและไป๋อวิ๋นหลี่นั้นไม่ตรงกัน ในวันที่ลูก ๆ อายุครบหนึ่งเดือนเต็ม เขาก็ไม่ได้มา ฉันมีเรื่องบาดหมางกับเซี่ยจื่ออี้ และไป๋อวิ๋นหลี่เองก็กลับมาสนิทสนมกับเธออีกครั้ง ดังนั้นแล้วเกรงว่านี่อาจจะเป็นสาเหตุก็ได้ค่ะ”
เฟิงหว่านลูบมือของเธอแล้วเอ่ยปลอบใจ “เหล่าเถาของฉันคอยดูอยู่ ไม่มีเรื่องอะไรหรอก อย่าวิ่งโร่ออกไปไหนตอนกลางค่ำกลางคืนอีกล่ะ คุณกลับไปดูแลลูก ๆ นะคะ ไม่แน่ว่าอีกสักพัก เดี๋ยวเลขาธิการเสิ่นก็กลับมาแล้ว”
เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “ขอบคุณค่ะ”
เมื่อเอ่ยจบ หญิงสาวจึงลุกขึ้นและตรงกลับบ้าน
หลังจากกลับถึงบ้าน หลินตงซิ่วพลันเอ่นถามถึงเรื่องนี้ เซี่ยชิงหยวนจึงได้แต่ฝืนยิ้ม “ได้ยินมาว่าอี้โจวกำลังประชุมอยู่ค่ะ ดึก ๆ คงกลับมา”
ในตอนที่เอ่ย น้ำเสียงช่วงท้ายของเธอติดสะอื้นเล็กน้อย หญิงสาวรีบหันหนีเพื่อไม่ให้หลินตงซิ่วสังเกตเห็น
…
เวลาผันผ่านมาจนถึงช่วงดึก เซี่ยชิงหยวนได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาในลานบ้านชั้นล่าง เธอจึงรีบลุกขึ้นจากเตียงและไปยืนมองจากหน้าต่าง
พบว่ารถของเสิ่นอี้โจวขับเข้ามาในบ้านแล้ว ก่อนจะดับเครื่องยนต์
เธอสวมเสื้อคลุมแล้วรีบลงไปชั้นล่างทันที
ไฟในห้องโถงใหญ่กลางบ้านถูกเปิดขึ้น เสิ่นอี้โจวยืนอยู่ที่ทางเข้าด้วยใบหน้าเหนื่อยล้า
เมื่อเห็นว่าเป็นเซี่ยชิงหยวนที่กำลังลงมา เขาก็พลันชะงักไป
เสิ่นอี้โจวอ้าแขนของเขารับเธอไว้
แก้มของเธอบดเบียดไปกับเสื้อเชิ้ตของเขา ก่อนจะได้กลิ่นยาสูบจาง ๆ บนร่างกายของชายหนุ่ม เซี่ยชิงหยวนพลันขมวดคิ้วก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นสามี “คุณยังไหวอยู่ใช่ไหม?”
ฝ่ามือใหญ่ของเสิ่นอี้โจวโอบกอดไว้รอบเอวบางของผู้เป็นภรรยา แล้วซุกศีรษะลงที่ต้นคอของเธอ เขาใช้เวลาสักพักจึงเอ่ยตอบ “ครับ”
ราวกับว่าเขาต้องทนกับพายุฝนมากมายข้างนอก และเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ เขาได้ถอดชุดเกราะออกพร้อมเผยให้เห็นช่วงเวลาแห่งความอ่อนแอเปราะบางของตัวเอง
เซี่ยชิงหยวนยกมือขึ้นลูบหลังของเขา ลูบไปมาพลางกระซิบปลอบเบา ๆ “ไม่เป็นไรนะ คุณมีฉันอยู่เสมอไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม”
เสิ่นอี้โจวผละออกจากอ้อมกอด ก่อนจะเดินโอบเธอขึ้นไปข้างบน “เด็ก ๆ หลับแล้วเหรอ?”
เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “ทิงอวิ๋นนอนกับพี่สาวเอ๋อ ส่วนทิงหลานนอนที่ห้องของเราน่ะ”
เสิ่นทิงหลานนั้นอยู่กับใครก็ได้ ส่วนเสิ่นทิงอวิ๋นโดยปกติแล้วเขาต้องการเพียงเซี่ยชิงหยวนและพี่สาวเอ๋อเท่านั้น โชคดีที่พี่สาวเอ๋อสามารถพาเขาไปนอนด้วยกันได้ ไม่เช่นนั้นแล้วคงเหนื่อยมากแน่ๆ
ทั้งสองกลับมาที่ห้องด้วยกัน เสิ่นอี้โจวแขวนเสื้อคลุมตัวนอกของเขาไว้บนราว จากนั้นจึงเอนศีรษะพิงโซฟา
เซี่ยชิงหยวนนำชาร้อนหนึ่งถ้วยมาให้สามี ก่อนไปยืนด้านหลังชายหนุ่มเพื่อนวดขมับให้เขา
ความเงียบงันในห้องค่อนข้างผิดปกติ ปากเล็ก ๆ ของเสิ่นทิงหลานดูดจุ๊บจิ๊บขึ้นโดยไม่รู้ตัว มือเล็ก ๆ ยกมือขึ้นมาเกาใบหน้าเล็ก ๆ ของตัวเอง แล้วหลับไปอีกครั้ง
เสิ่นอี้โจวมองไปยังลูกสาวที่อยู่ในผ้าห่อทารก แล้วดึงมือของเซี่ยชิงหยวนมากุมไว้ แววตาของเขานั้นอดแน่นไปด้วยอารมณ์ที่คลุมเครือ
จากนั้นสักพัก ชายหนุ่มก็ปริปากเอ่ย “ชิงหยวน ดูท่าว่าผมจะถูกพักงานไปสักพักหนึ่งนะ”