กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 79 คนเลวสมควรโดนลงโทษ
บทที่ 79 คนเลวสมควรโดนลงโทษ
บทที่ 79 คนเลวสมควรโดนลงโทษ
วิญญาณของหลี่กวงหัวเกือบจะหลุดออกจากร่างเพราะความกลัว!
เขาพยายามจะปีนลงไปข้างล่างทันที
แต่ด้วยความลนลานและความตื่นตระหนก เขาจึงยื่นขาไปยังโต๊ะที่อยู่ใต้เก้าอี้ไม่ถึง!
นี่เป็นความสูงที่มีขนาดเท่ากับครึ่งตัวคน ทำให้ก้าวลงไปได้ยาก และเสี่ยงจะหกล้มแน่นอน!
เซี่ยชิงหยวนยังคงตะโกนเสียงดังลั่น “มาช่วยจับคนร้ายที! มีคนมาแอบดูฉันอาบน้ำ!”
หลังจากเสียงตะโกนของเซี่ยชิงหยวนจบลง ก็มีเสียงดังออกมาจากเพื่อนบ้านทั้งทางซ้ายและขวา
“ไหน ไอ้โจรถ้ำมองมันอยู่ที่ไหน?”
“เร็วเข้า ออกไปกระทืบมันกัน!”
“กล้าดียังไงถึงได้มาถ้ำมองแถวนี้!”
แม้แต่เซวียไฉ่เฟิ่งก็ตะโกนว่า “กวงหัว รีบมาเร็ว มีคนร้ายอยู่แถวบ้านเรา!”
หลี่กวงหัวรู้สึกเหมือนหัวของเขากำลังจะระเบิด
ถ้ามีใครรู้เรื่องนี้เข้า ชีวิตเขาพังแน่!
เขาไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป และกำลังจะหลับตากระโดดลงไปที่พื้น
แต่ชายหนุ่มไม่คาดคิดว่า ในขณะที่เขากำลังจะกระโดดลงไป เซี่ยชิงหยวนไม่รู้ว่าใช้อะไรโยนมาคล้องเป็นบ่วงพันรอบคอเขาไว้แบบนั้น
ด้วยเหตุนี้ ร่างกายของเขาจึงถูกแขวนไว้ที่รั้วโดยมีคอเป็นแกนรับแรงทั้งหมด
หลี่กวงหัวเกือบถูกรัดคอตาย!
เขาดิ้นรนด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมด พยายามดึงสิ่งที่พันรอบคออยู่ให้ออกไป
ทว่ารั้วนั้นเป็นเพียงรั้วไม้ไผ่ที่ไม่ได้แข็งแรงอะไรนัก ดังนั้นเมื่อเจอกับแรงดิ้นรนของผู้ชายมาก ๆ เข้า มันจึงเอนลงพร้อมด้วยเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าด
เซี่ยชิงหยวนมองเขาอย่างเย็นชา สีหน้าของเธอสงบนิ่งเสียจนน่ากลัว
หญิงสาวยังคงยืดคอตะโกนให้ชาวบ้านมาจับคนร้าย
อยากจะหนีไปงั้นเหรอ?
ฮึ่ม! อย่าคิดว่าเธอจะปล่อยให้เขารอดไปได้ง่าย ๆ !
ด้วยเสียงดัง ‘ปัง!’ ประตูบ้านของเซี่ยชิงหยวนก็ถูกผลักเปิดออกในทันที
เมื่อหญิงสาวเห็นว่าใครกำลังมาก็ตะโกนด้วยความประหลาดใจ “อี้โจว!”
เมื่อเสิ่นอี้โจวเห็นสถานการณ์ในบ้าน ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างทั้งยังแดงก่ำจนแทบจะลุกเป็นไฟ!
เขารีบวิ่งเข้ามาคว้าสิ่งที่เซี่ยชิงหยวนใช้พันรอบคอของหลี่กวงหัวแล้วดึงมันอย่างแรง
ร่างกายทั้งหมดของหลี่กวงหัวถูกลากลงมาทันที
ประกอบกับรั้วกั้นระหว่างสองบ้านก็ได้พังทลายลง
ในเวลานี้เอง หลี่กวงหัวก็ได้เห็นอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่พันคอเขาเมื่อครู่คือห่วงลวดเหล็กที่เอาไว้ใช้ผูกอวนจับปลา!
ชาวบ้านที่เร่งรีบเข้ามาดู เมื่อเห็นภาพตรงหน้าพวกเขาก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดอย่างชัดเจน
หลี่กวงหัวนอนอยู่บนพื้นไม่กล้าแม้แต่จะร้องครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวด
เขาอยากจะฝ่าฝูงชนเพื่อวิ่งหนี แต่ความเจ็บปวดนั้นรุนแรงเสียจนเขาสงสัยว่าขาของเขาหักนั้นหักไปแล้วหรือยัง!
ชายหนุ่มทำได้เพียงฝังหน้าลงกับพื้นและขดทั้งตัวเพื่อไม่ให้ใครจำเขาได้
เสิ่นอี้โจวกอดเซี่ยชิงหยวนไว้ในอ้อมแขนตน และตรวจดูตั้งแต่หัวจรดเท้า “คุณไม่เป็นไรใช่ไหม”
เมื่อฝูงชนมาถึงแล้ว เซี่ยชิงหยวนจึงแสร้งทำตัวเหมือนหญิงสาวที่ควรจะตื่นตระหนกหวาดกลัวอย่างที่ควรเป็น
เธอกอดอี้โจวแน่น แสร้งทำเป็นร้องไห้และพูดว่า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ แต่ตอนที่ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จเมื่อกี้นี้และเดินออกมา ฉันก็เห็นว่ามีหัวคนโผล่อยู่อีกด้านหนึ่งของรั้ว มองมาที่ฉันตลอดเวลา อี้โจว ฉันกลัวจังเลย ฮือ…”
หญิงสาวทำหน้าตาคล้ายหวาดกลัวอีกฝ่ายมาก ดังนั้นความตื่นตระหนกในน้ำเสียงของเธอจึงยิ่งฟังดูสมจริง
ก่อนหน้านี้เสิ่นอี้โจวจำข้อตกลงที่ให้ไว้กับอีกฝ่ายได้ วันนี้เขาจึงรีบกลับบ้านหลังจากทำงานเสร็จ แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าตนเองจะได้มาเห็นฉากนี้เข้า
โชคดีแค่ไหนที่เซี่ยชิงหยวนไม่ได้รับอันตรายไปมากกว่านี้
แต่การดูแลหญิงสาวนั้นยุ่งเหยิงมาก
ชายหนุ่มไม่อาจบอกได้เลยว่า เซี่ยชิงหยวนกำลังร้องไห้อย่างเสแสร้ง และเขาไม่ได้สังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าที่หน้าอกของเขายังคงแห้งอยู่
เขาทั้งเสียใจและโกรธในเวลานี้
เขาจ้องมองหลี่กวงหัวซึ่งนอนอยู่บนพื้น โดยปรารถนาจะสับอีกฝ่ายเป็นชิ้น ๆ!
แนวความคิดเกี่ยวกับความยับยั้งชั่งใจในการก่ออาชญากรรมของผู้คนในยุคนี้ต่ำมาก
โดยเฉพาะการขโมยและการเล่นเป็นอันธพาล เขาแทบอดไม่ได้ที่จะเห็นคนเหล่านี้ถูกยิงเป้า
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่ม แต่มีคนเริ่มเข้าไปทุบตีหลี่กวงหัวซึ่งยังคงก้มหมอบอยู่บนพื้น
หลี่กวงหัวได้แต่กุมศีรษะ กัดริมฝีปากแน่น ไม่กล้าส่งเสียงออกมา
เซวียไฉ่เฟิ่งมองไปที่ลานว่างเปล่าในบ้านของเธอ จากนั้นจึงมองไปที่ผู้คนบนพื้น ทันใดนั้นก็รู้สึกคล้ายเป็นลางไม่ดี
หลี่กวงหัวหายไปไหน?
ทำไมผู้ถูกทุบตีที่พื้นตรงนั้นถึงสวมเสื้อผ้าเหมือนของหลี่กวงหัวตอนที่เขาไปอาบน้ำเลย?
เธอผลักคนที่อยู่ข้างหน้าออกไปและแทรกตัวเข้าไปยังด้านหน้า
หลังจากเห็นคนคนนั้นด้วยตาตัวเอง เธอก็กรีดร้องและตะโกนดังลั่น “หลี่กวงหัว!”
ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ตกตะลึงไปชั่วขณะ
เซวียไฉ่เฟิ่งกำลังเรียกหาหลี่กวงหัว?
พวกชาวบ้านจึงหยุดและดึงตัวหลี่กวงหัวที่นอนคว่ำอยู่ แท้จริงก็เป็นเขานี่เอง!
หลี่กวงหัวอยากจะปิดหน้าตัวเองต่อไป แต่ในสถานการณ์นี้เขาจะทำได้ยังไง?
หลังจากตกตะลึง พวกเขาก็ยิ่งขุ่นเคืองมากขึ้น
“อี้โจวปฏิบัติต่อคุณอย่างดี คุณทำแบบนี้ได้ยังไง”
“แกมันเดรัจฉาน แย่ยิ่งกว่าหมูหมา! ไอ้ตัวน่าขยะแขยง!”
“ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวันที่เกิดแผ่นดินไหว เขาจึงเปลือยกายออกมา ก็เขาเอาแต่หมกหมุ่นเรื่องนี้ทั้งวันน่ะสิ”
“เขามันก็แค่ไอ้ขยะสังคม!”
เสิ่นอี้โจวกอดเซี่ยชิงหยวนไว้ในอ้อมแขนแน่น และยืนดูหลี่กวงหัวถูกผลักและด่าทอเหมือนสุนัขที่กำลังจะตายอยู่ด้านข้าง
ในที่สุด เสิ่นอี้โจวก็ทนไม่ได้อีกต่อไป
เขาก้าวไปข้างหน้า คว้าคอเสื้อหลี่กวงหัวแล้วกระชากเข้ามาหา
ร่างของชายหนุ่มสูงมากอยู่แล้ว ดังนั้นหลี่กวงหัวจึงเกือบจะถูกเขายกตัวขึ้นมาทั้งร่าง
หลี่กวงหัวยิ้มอย่างอับอาย “เอ่อ…หัวหน้าเสิ่น นี่เป็นความเข้าใจผิด เป็นความเข้าใจผิดทั้ง…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เสิ่นอี้โจวก็ยกกำปั้นขึ้นและชกหน้าหลี่กวงหัวเต็ม ๆ
เสียงโครมครามดังลั่นและหลี่กวงหัวก็กระเด็นออกไปราวว่าวที่สายป่านขาด
เขาล้มลงกับพื้น มันเจ็บปวดมากเสียจนเจ้าตัวไม่สามารถส่งเสียงได้เป็นเวลานาน
เสิ่นอี้โจวก้าวไปข้างหน้า เดินเข้าหาและตบที่แก้มของอีกฝ่ายอย่างแรง
มีเสียงโครมครามดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้หลี่กวงหัวกระเด็นชนกำแพงอย่างจังและเด้งลงมานอนกองที่พื้นอีกครั้ง
หลี่กวงหัวรู้สึกเหมือนอวัยวะภายในของเขากลับตาลปัตร
กลิ่นคาวเลือดรุนแรงกระจายอยู่ในปาก ฟันหลายซี่ถูกบ้วนออกมาพร้อมกับเลือด
หลี่กวงหัวมองฟันของตัวเองที่ตกอยู่บนพื้น ก่อนจะเบนสายตาดุดันไปยังเสิ่นอี้โจวและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
เขาชี้ไปที่หน้าอกของเสิ่นอี้โจว “มาเลย ฆ่าฉันเลยสิ!”
จากนั้นเขาก็มองไปที่คนอื่น ๆ “พวกคุณมีหลักฐานหรือไงว่าผมแอบดูเธออาบน้ำ?”
เขาชี้ไปที่เซี่ยชิงหยวนพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ดูเหมือนไม่ยิ้ม “ทำไมพวกคุณไม่คิดบ้างว่าเธออาจจะเป็นคนที่มายั่วยวนผมก็ได้!”
“ถุย! แกนี่มันไร้ยางอายจริง ๆ!”
ชายคนหนึ่งที่วิ่งมาถึงก่อนใครและได้เห็นทุกอย่างมากกว่าคนอื่นตะโกนด่าทันที “ฉันเห็นแกปีนอยู่บนรั้วเมื่อกี้นี้! รึแกยังคิดจะเล่นลิ้นอยู่อีก”
“ใช่! มีสามีที่ดีอย่างหัวหน้าแผนกเสิ่นอยู่ทั้งคน ผู้หญิงที่ไหนจะตาต่ำมายั่วยวนแกกัน!” หญิงวัยกลางคนอีกคนพูดแทรกขึ้นมา
แน่นอนว่าเซี่ยชิงหยวนก็พูดเสริมตามแบบฉบับที่เหยื่อผู้น่าสงสารควรจะพูดด้วย “ถ้าคุณบอกว่าฉันล่อลวงคุณ แล้วโต๊ะกับเก้าอี้นั่นมันคืออะไร? ฉันเข้าไปในบ้านคุณเพื่อช่วยยกพวกมันวางซ้อนกันให้คุณแอบดูฉันเหรอ?” เธอหยุดพูด “นอกจากนี้ ฉันไม่ใช่คนตาต่ำสักหน่อย!”
คำพูดของหญิงสาวเต็มไปด้วยความประชดประชัน
หลี่กวงหัวกระโดดข้ามกำแพงอย่างเร่งรีบมากไปหน่อย ดังนั้นตอนนี้เขาจึงทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจากเซวียไฉ่เฟิ่ง “ที่รัก! คุณรู้ว่าฉันถูกใส่ร้ายใช่ไหม ผู้หญิงเลวคนนี้ใส่ร้ายฉัน เรื่องนี้ฉันไม่ผิดและมันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลยจริง ๆ!”
เซวียไฉ่เฟิ่งเพียงยืนอยู่ข้าง ๆ โดยไม่พูดอะไรสักคำ
เหตุการณ์นี้ไม่เพียงทำให้เธอเสียหน้า แต่ยังทำให้เธอเจ็บปวดจากการทรยศของสามีอีกด้วย
หญิงสาวรู้อยู่แก่ใจมากสักพักแล้วว่าหลี่กวงหัวมีความคิดอุตริกับเซี่ยชิงหยวน
แต่เธอก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายจะรู้สึกถึงกลิ่นหอมเย้ายวนของดอกไม้ป่า
แต่ไม่เคยคาดคิดว่าหลี่กวงหัวจะทำสิ่งที่น่ารังเกียจใต้จมูกเธอแบบนี้!
นี่คือสิ่งที่เธอไม่สามารถโกหกตัวเองได้ ไม่ว่าหญิงสาวจะแสร้งทำเป็นหูหนวกหรือเป็นใบ้ก็ตาม
ยิ่งกว่านั้น หลักฐานมันคาตาอยู่แบบนี้ ไม่ว่าจะพูดมากเพียงใด มันก็เป็นเพียงการโต้แย้งที่สิ้นหวัง
ยิ่งกว่านั้น ถ้าพูดมากไป ตัวเองก็จะเดือดร้อนไปด้วย
ดังนั้นหญิงสาวจึงตัดสินใจได้แล้วว่าจะช่วยเหลืออีกฝ่ายหรือพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์นี้
ยิ่งเธอพูดมากมันก็ยิ่งเป็นการทำผิดมากขึ้น คนก็จะยิ่งจับผิดได้ง่าย
สุดท้ายเธอก็เลือกจะเบือนหน้าหนี และนิ่งเงียบ
ท่าทางที่สั่นเทาของเธอแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเธอไม่เห็นด้วยกับคำพูดของหลี่กวงหัว
เมื่อผู้เป็นสามีเห็นแบบนั้น เขาก็หมดความอดทน
เขากำลังจะบังคับให้เซวียไฉ่เฟิ่งพูดช่วยเหลือตัวเอง แต่เสิ่นอี้โจวก็กล่าวขึ้นก่อนว่า “ใครก็ได้แจ้งตำรวจให้ผมที”
หลี่กวงหัวยอมแพ้ทันทีเมื่อได้ยินคำว่าตำรวจ
เขาพูดกับเสิ่นอี้โจวว่า “เรื่องแค่นี้เอง ทุกคนล้วนอยู่ในที่ทำงานเดียวกัน ทำไมคุณถึงต้องเรียกหาตำรวจด้วย นอกจากนี้ ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป ในอนาคตจะไม่ใช่ภรรยาของคุณหรอกเหรอที่ต้องทนทุกข์ทรมาน”
ทว่าเขาจะรู้ได้ยังไงว่าเสิ่นอี้โจวจะไม่ไหวติงเลย “ผมเชื่อว่าความยุติธรรมมีอยู่จริงและตั้งแต่สมัยโบราณ ยังไม่เคยมีกรณีใดที่เหยื่อต้องทนรับความอัปยศอดสู”
หลังจากพูดจบชายหนุ่มก็มองไปที่เซี่ยชิงหยวน “และผมเชื่อว่าชิงหยวนก็เห็นด้วยกับการที่ผมทำแบบนี้”
ทีแรกเสิ่นอี้โจวรู้สึกโกรธจัดอย่างมาก แต่ต่อมาเขาก็ตระหนักได้ว่า มันน่าจะเป็นแผนการของเซี่ยชิงหยวนที่จงใจสร้างเรื่องนี้ให้ใหญ่โตหลังจากพบว่าหลี่กวงหัวกำลังแอบดูเธออาบน้ำ
และจุดประสงค์คือใช้สายตามวลชนเป็นสักขีพยานในเหตุการณ์ครั้งนี้
ถ้าเซี่ยชิงหยวนคิดที่จะกล้ำกลืนความโกรธของเธอ มันคงไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร
ในขณะเดียวกัน เซี่ยชิงหยวนก็กำลังคิดว่าตอนนี้เสิ่นอี้โจวทั้งหล่อและฉลาดมากจริง ๆ
คนเลวควรถูกลงโทษ ทำไมคนเสียหายต้องกลัวด้วย? ทำไมต้องไปมัวแต่กังวลกับคำกล่าวหาที่ไร้เหตุผลของคนอื่น?
เธอพยักหน้าโดยไม่ลังเล “ใช่!”