กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 85 เซี่ยชิงหยวนถูกแอบมอง
บทที่ 85 เซี่ยชิงหยวนถูกแอบมอง
บทที่ 85 เซี่ยชิงหยวนถูกแอบมอง
เซี่ยชิงหยวนเพียงจ้องมองไปที่มือของเสิ่นอี้โจวด้วยความงุนงง เขาเอื้อมมือไปยังกระหม่อมของเธอ
ริมฝีปากบางของเขาเผยอ “อย่าขยับ”
จากนั้นใบไม้สีเหลืองก็ปรากฏขึ้นที่ปลายนิ้วหนา
เซี่ยชิงหยวนมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาซึ่งอยู่ใกล้แค่เอื้อม หัวใจของหญิงสาวก็เต้นระรัว
“คุณ…”
เสิ่นอี้โจวจับท้ายทอยของเธอและกดเข้าหาตัวเขาในวินาทีต่อมา
คำพูดที่ยังไม่ได้เอ่ยกลืนหายไประหว่างริมฝีปากของทั้งสอง
เธอนั่งเคียงข้างเขาใต้ต้นไม้ใหญ่โดยมีน้ำไหลอยู่ใต้ฝ่าเท้า และท้องฟ้าก็ถูกบดบังด้วยร่มไม้ที่อยู่เหนือศีรษะของเธอ
เขากอดเธอ และเธอก็โอบกอดเขา
เซี่ยชิงหยวนคิดกับตัวเอง ด้วยริมฝีปากเย็นของเสิ่นอี้โจวทำให้ความร้อนของอากาศในฤดูร้อนเบาบางลง
ขนตาของเขายาวและโค้งงอนเหมือนพัดขนาดเล็ก
เธอมองตรงไปที่ขนตาที่สั่นระริกของอีกฝ่าย และแวบหนึ่งก็สบเข้ากับดวงตาสีเข้ม
หญิงสาวรู้สึกได้ทันทีว่าเสิ่นอี้โจวกำลังมีอารมณ์
ทันใดนั้นการมองเห็นของเธอก็มืดลง เสิ่นอี้โจวยื่นมือมาปิดตาเธอ
เขาขบริมฝีปากของเธอเบา ๆ ทิ้งรอยฟันตื้น ๆ ไว้
เสียงของเขาแหบพร่า “มีสมาธิหน่อย”
จากนั้นในวินาทีต่อมาเขาก็ดึงเธอให้จมลง
ริมฝีปากกับฟันสบกัน การหายใจสอดประสานกัน เซี่ยชิงหยวนรู้สึกอ่อนแรงไปทั้งตัว และกลายเป็นอัมพาตในอ้อมแขนของสามี
เซี่ยชิงหยวนพิงไหล่เขาเป็นเวลานาน แก้มของเธอแดงระเรื่อ
เสิ่นอี้โจวมองไปที่ดวงอาทิตย์และพูดว่า “กลับกันเถอะ”
เซี่ยชิงหยวนตอบอย่างเขินอาย “ค่ะ”
ขากลับก็เหมือนกับตอนที่พวกเขาออกมา เสิ่นอี้โจวถีบรถสามล้ออยู่ข้างหน้าและเซี่ยชิงหยวนก็นั่งอยู่ข้างหลัง มีสิ่งเดียวที่เพิ่มมาคือมีหอยขมและหอยแมลงภู่อยู่ในถังทั้งสองใบ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูทำความเคารพเสิ่นอี้โจวตามระเบียบ จากนั้นพูดว่า
“เลขาธิการเสิ่นครับ หน่วยได้จัดสรรรถยนต์ให้คุณแล้ว ถ้าคุณต้องการออกไปข้างนอกอีก แค่เรียกเราก็พอนะครับ”
เสิ่นอี้โจวพยักหน้าอย่างใจเย็น “ไม่เป็นไร วันนี้ฉันแค่ออกไปเที่ยวเล่นใกล้ ๆ เท่านั้น”
หลังจากที่คนทั้งสองขี่รถสามล้อออกมา เซี่ยชิงหยวนก็สะกิดแผ่นหลังของชายหนุ่ม “หน่วยงานจัดหารถให้คุณด้วยเหรอ”
เสิ่นอี้โจวพยักหน้า “ศาลากลางอยู่ห่างจากที่นี่ ดังนั้นเพื่อความสะดวกที่จะให้ผมได้ทำในสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นพวกเขาเลยจัดหารถให้ผม”
เซี่ยชิงหยวนเข้าใจว่ารถยนต์ที่ถูกจัดให้มาต้องเป็นรถสี่ล้อแน่นอน
แต่เสิ่นอี้โจวก็ยังคงสงบ
ดูเหมือนว่าในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นวัตถุภายนอก
จากนั้นทั้งสองคนก็พบกับเด็กหนุ่มสองคน
ตอนแรกพวกเขาดูตกใจและตื่นตระหนกมาก จากนั้นก็ผลักกันไปมา ก่อนจะทักทายเสิ่นอี้โจว
ชายหนุ่มเปลี่ยนสีหน้าทันทีจากที่อ่อนโยนก่อนหน้านี้กลายเป็นเย็นชาตามปกติเมื่อเจอผู้อื่น
เขาพยักหน้าเบา ๆ เป็นการตอบรับ
แต่หลังจากเด็กหนุ่มทั้งสองมองไปที่เซี่ยชิงหยวน สีหน้าของพวกเขาก็ยิ่งประหม่ามากกว่าเดิม จากนั้นก็วิ่งจากไปราวกับวิ่งหนีอันตราย
เซี่ยชิงหยวนรู้สึกงุนงงมาก เกิดอะไรขึ้นกับเด็กหนุ่มสองคนนั้น?
เธอมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักพวกเขา
แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเคยเห็นพวกเขา ตอนที่ออกไปข้างนอกเมื่อวานนี้
และตอนนี้เสิ่นอี้โจวก็ดูไม่มีความสุขเหมือนกัน
หญิงสาวจึงแหย่เขาอีกครั้ง “คุณรู้จักพวกเขาเหรอ”
เสิ่นอี้โจวหยุดชะงักแล้วพูดเบา ๆ “ต้องขอบคุณใครบางคนที่ทำให้ผมรู้”
เซี่ยชิงหยวนรับรู้ได้โดยปริยายว่า ‘ใครบางคน’ น่าจะเป็นคนที่ยืนอยู่ในลานบ้านเช่นเดียวกับเขา
เสิ่นอี้โจวมองไปยังเส้นทางกลับบ้านที่อยู่เบื้องหน้า เขาสลัดความเย็นชาบนใบหน้า และพูดว่า “ไปกันเถอะ”
บ่ายวานนี้ ขณะที่เซี่ยชิงหยวนกำลังถีบสามล้อออกไป หญิงสาวก็ได้ยินใครบางคนพูดถึงเธอที่ด้านหลัง
และคนสองคนที่พูดถึงเธอก็คือผู้ชายสองคนเมื่อครู่นี้
ในเวลานั้นเป็นจังหวะเดียวกับที่เสิ่นอี้โจวออกมารับเอกสารและได้ยินบทสนทนาของพวกเขาพอดี
ชายหนุ่มตัวประกอบ A “ผู้หญิงที่ถีบสามล้อผ่านฉันไปเมื่อกี้นี้โคตรสวยเลย”
ชายหนุ่มตัวประกอบ B “ใช่ ดาราหนังยังไม่สวยเท่าเธอเลย”
ชายหนุ่มตัวประกอบ A “ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นญาติใคร นายรู้จักเธอไหม?”
ชายหนุ่มตัวประกอบ B “ฉันเพิ่งกลับมาจากข้างนอก ไม่รู้หรอก”
ชายหนุ่มตัวประกอบ A ถาม “นายคิดว่าเธอแต่งงานแล้วหรือยัง”
ชายหนุ่มตัวประกอบ B “ฉันไม่คิดว่าเธอจะแต่งงานแล้วนะ เธอดูอายุไม่เท่าไหร่เอง”
ชายหนุ่มตัวประกอบ A “ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ฉันจะกลับไปสืบดูว่าเธอเป็นญาติใคร แล้วฉันจะไปทำความรู้จักกับพวกเขาแน่นอน”
ชายหนุ่มตัวประกอบ B แว้ด “ไอ้ตัวร้าย นายคิดจะลงมือเร็วขนาดนี้เลยเหรอ!”
ชายหนุ่มตัวประกอบ A “สาวสวยอย่างนี้ก็ต้องรีบกันหน่อย!”
ดังนั้นเสิ่นอี้โจวจึงเดินออกไป
มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของชายหนุ่ม แต่บรรยากาศรอบตัวเขากลับชวนให้ผู้คนกดดันอย่างอธิบายไม่ได้
เขาพูดกับทั้งสอง “ฉันรู้จักผู้หญิงที่พวกนายเพิ่งพูดถึงนะ”
ทันทีที่ทั้งสองหันมามอง เขาก็พูดประโยคถัดไปทันที “น่าเสียดายที่เธอเป็นภรรยาของฉัน”
ชายหนุ่มตัวประกอบ A “!”
ชายหนุ่มตัวประกอบ B “!”
คนทั้งสองมองไปยังบ้านหลังที่เสิ่นอี้โจวเดินออกมาอีกครั้ง เมื่อรู้ว่าเป็นบ้านที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงอาศัยอยู่ พวกเขาก็ตื่นตระหนกในใจ
ทันใดนั้น พวกเขาก็นึกขึ้นได้อีกอย่างว่าวันนี้เลขาธิการคนใหม่ได้ย้ายเข้ามาที่นี่ พวกเขาก็อยากจะร้องไห้ออกมาเหลือเกิน
ไม่รู้ว่าเลขาธิการคนใหม่ได้ยินพวกเขาสองคนคุยกันมากแค่ไหน ดังนั้นพวกเขาจึงทำอะไรอย่างอื่นไม่ได้นอกจากขอโทษ
“ผมขอโทษ ขอโทษครับ!”
“เสนาธิการ ผมขอโทษจริง ๆ ครับ!”
เสิ่นอี้โจวเดินผ่านพวกเขา และกล่าวเบา ๆ ว่า
“ไม่เป็นไร ยังไงพวกนายสายตาดีเหมือนกันนะ”
จากนั้นเขาก็กลับเข้าไปในบ้านของตัวเอง โดยทิ้งให้ชายหนุ่มสองคนอยู่กับความเสียใจในความผิดพลาดของตนเอง
ต่อมา เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นเหตุผลซึ่งผู้คนที่มาเยี่ยมบ้านเพื่อแสดงความยินดี ล้วนถูกรูปถ่ายที่เสิ่นอี้โจวแขวนไว้โดยหันหน้าไปทางประตูดึงดูด
ดังนั้นทุกคนจึงรู้ว่าเลขาธิการคนใหม่ไม่เพียงหล่อเหลาเท่านั้น แต่ภรรยาของเขายังยอดเยี่ยมเช่นกัน
ดังนั้นเมื่อเซี่ยชิงหยวนกลับมาบ้านในภายหลัง ผู้ได้เห็นภาพแต่งงานของพวกเขาต่างก็มองเธอเป็นตาเดียวกัน
แน่นอนว่าเสิ่นอี้โจวจะไม่บอกเรื่องนี้กับเธอ
โชคดีที่เซี่ยชิงหยวนยังคงคิดอย่างตื้นเขินว่าน่าจะเป็นเพราะเธอขี่รถสามล้อเมื่อวาน มันจึงดึงดูดผู้คนมากมายในเขตที่พักของเจ้าหน้าที่ให้รู้จัก
คนทั้งสองกลับบ้านและตรงไปที่สนาม
มีอ่างสี่เหลี่ยมกว้างสองเมตรที่ทำจากปูน มีท่อและจุกปิดขนาดเล็กตรงด้านล่างอ่างเพื่อเอาไว้สำหรับระบายน้ำ
พวกเขาเทหอยขมและหอยแมลงภู่ทั้งหมดลงไป
เซี่ยชิงหยวนเล่นนิ้วของเธอและพูดว่า “ตอนที่อี้หลินมาอยู่ที่นี่ ฉันจะจับปลามาเลี้ยงไว้ในอ่างนี้”
เสิ่นอี้โจวอดหัวเราะไม่ได้เมื่อเห็นประกายในดวงตาของเธอ
เขาพยักหน้าและพูดว่า “ตกลง เมื่อผมจัดการงานในช่วงนี้เรียบร้อยแล้วเราจะกลับไปหาพวกเขา รวมถึงไปเยี่ยมพ่อ แม่ พี่ชายและพี่สะใภ้ของคุณด้วยกัน”
เซี่ยชิงหยวนยิ้มอย่างอ่อนหวานและตอบว่า “ตกลงค่ะ”
เธอยังจำได้ว่าตอนที่พวกเขาจากมา พ่อกับพี่ชายของเธอแอบมาหา และหญิงสาวยังจำได้ว่าเธอกับแม่ทะเลาะกัน เพราะการกระทำของพี่สะใภ้คนรอง
เซี่ยชิงหยวนปัดความคิดเหล่านี้ออกไปอย่างรวดเร็ว
เธอเชื่อว่าชีวิตของเธอจะดีขึ้นเรื่อย ๆ
พวกเธอทานอาหารเย็นตอนเที่ยง จากนั้นเสี่ยวหลิวก็มา
ทว่าคราวนี้เขาขับรถธงแดงหงฉี*[1]สีดำเข้ามา
เขากล่าวทักทายเซี่ยชิงหยวนและออกไปพร้อมกับเสิ่นอี้โจว
เซี่ยชิงหยวนรู้อยู่แล้วว่าเสี่ยวหลิวเป็นคนขับรถของเสิ่นอี้โจว
ชายหนุ่มพูดกับเธอ “คืนนี้ผมต้องเข้าร่วมงานสังสรรค์ คุณไม่ต้องรอผมกลับมาทานอาหารเย็นนะ คุณอยู่บ้านคนเดียวเข้านอนเร็วหน่อยก็ดี”
เซี่ยชิงหยวนรู้สึกกังวลเมื่อได้ยินว่าเขากำลังจะไปงานสังคม
จากนั้นเธอก็สั่งกำชับว่า “ระวัง อย่าดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปล่ะ”
เสิ่นอี้โจวยิ้มและลูบหัวอีกฝ่าย “ผมเข้าใจแล้ว”
เสิ่นอี้โจวยังไม่กลับบ้านจนกระทั่งเกือบสี่ทุ่ม
เสี่ยวหลิวประคองเขาที่เดินโซเซไปมา
เมื่อหญิงสาวเห็นแบบนี้ เธอก็ทั้งกังวลและโกรธ
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เสี่ยวหลิวรู้สึกราวกับว่าเขาได้รับการนิรโทษกรรม
จากนั้นเซี่ยชิงหยวนก็ช่วยเสี่ยวหลิวประคองพาเสิ่นอี้โจวไปที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
เสิ่นอี้โจวยังคงยิ้มให้เสี่ยวหลิว “เสี่ยวหลิวคืนนี้นายทำงานหนักแล้ว”
เสี่ยวหลิวโบกมืออย่างรวดเร็ว “ไม่หนักเลยครับ และมันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว”
จากนั้นเขาขอโทษเซี่ยชิงหยวนอีกครั้ง “คุณนาย ผมขอโทษจริง ๆ
เลขาธิการเพิ่งเข้ารับตำแหน่งและมีผู้นำระดับสูงร่วมโต๊ะอยู่ด้วย ผมจึงปรามเขาไม่ได้”
จากนั้นเขาก็หยิบถุงเล็ก ๆ ออกมาจากกระเป๋า “นี่คือยาแก้เมาค้างที่ผมซื้อมาระหว่างทาง คุณนายสามารถให้เลขาธิการกินแก้เมาได้ครับ”
เซี่ยชิงหยวนรับยาและยิ้ม “ขอบคุณค่ะ เรื่องนี้คุณไม่ผิดหรอก ตอนนี้มันดึกแล้วคุณรีบกลับไปก่อนดีกว่า”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่โกรธ ในที่สุดเสี่ยวหลิวก็จากไปด้วยความสบายใจ
แต่ทันทีที่เสี่ยวหลิวจากไป เซี่ยชิงหยวนก็โยนยาลงบนโต๊ะกาแฟแล้วเอื้อมมือไปผลักเสิ่นอี้โจว
“นี่ เสิ่นอี้โจวคืนนี้คุณดื่มไปมากเท่าไหร่กัน? คืนนี้ฉันให้คุณนอนตรงประตูดีไหม…อ๊ะ!”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ เสิ่นอี้โจวที่เคยดูเหมือนจะเมาตายอยู่บนโซฟาก็ลืมตาขึ้น จากนั้นเขาก็เหยียดแขนยาวออกแล้วดึงเซี่ยชิงหยวนเข้ามาในอ้อมแขน
ดวงตานกฟีนิกซ์ของเขากระจ่างใสมาก แต่ทำไมเมื่อครู่เขาถึงดูเมาขนาดนั้น?
[1] รถยี่ห้อหงฉี เป็นรถแบรนด์หรูระดับไฮเอนด์ของจีนตั้งแต่ยุคปลาย 50 มีเพียงคนระดับสูงของรัฐบาลเท่านั้นที่ได้ใช้