กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 86 เมา
บทที่ 86 เมา
บทที่ 86 เมา
เซี่ยชิงหยวนตกอยู่ในอ้อมแขนของเสิ่นอี้โจวโดยไม่ทันตั้งตัว
นอกจากนี้ ท่วงท่าที่เซี่ยชิงหยวนถูกกอดอยู่ในขณะนี้ มันเป็นท่าที่คล้ายกับเมื่อคืนนี้มาก เธอกลืนน้ำลายอย่างกระวนกระวายและพูดว่า “คุณ… คุณเมาหรือเปล่า”
เสิ่นอี้โจวโน้มตัวเข้าหาเธอ จับมือเธอมาวางบนริมฝีปากของเขาเพื่อจูบเบา ๆ แล้วพูดว่า “แล้วคุณอยากให้ผมเมาไหม?”
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เมา แต่แค่ดูผิวเผินแล้วไม่เมาเท่านั้น
สำหรับคนอย่างเขาที่เป็นถึงเลขาธิการ ยกเว้นนายกเทศมนตรีที่เป็นผู้บังคับบัญชา จะมีใครบังคับให้เขาดื่มเหล้าได้อีก?
ตอนที่ทำงานอยู่สถาบันวิจัยทางธรณีวิทยา พรรคพวกที่อยู่ในแผนกเดียวกันจะไม่กล้าพูดอะไร แต่คนในหน่วยอื่น ๆ ก็มีบ้างที่ใช้เรื่องเหล้ามาสร้างความยากลำบากให้เขาไม่มากก็น้อย
แต่เขาก็ไม่ได้ทำตามสิ่งที่คนเหล่านั้นต้องการเลย
เขาในวัยสี่สิบปีเมื่อชาติก่อนได้รับตำแหน่งสูงสุดในสถาบันวิจัย วันเวลาเหล่านั้นไม่ได้ไร้ประโยชน์
เขามีความสงบและมีความยับยั้งชั่งใจมากกว่าคนธรรมดาอยู่แล้ว ประกอบกับประสบการณ์ในชาติที่แล้ว เขาจึงมีรัศมีของผู้อยู่เหนือกว่าโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนไม่กล้าหือกับเขา
หลังจากมื้อค่ำ แม้ว่าบางคนจะมีความคิดในใจ แต่เกรงว่าพวกเขาเหล่านั้นก็ทำได้แต่กลืนของเน่าเสียลงท้องตัวเองไปเท่านั้น
เซี่ยชิงหยวนมองเข้าไปในดวงตาของชายหนุ่ม
เธอพบว่าดวงตาคมกริบคู่นั้นกำลังเมามาย เมื่อเทียบกับดวงตาตามปกติที่ดูเย็นชาและว่างเปล่า
เธอรู้ว่าเขาต้องรีบปลีกตัวมาจากงานเลี้ยงเพราะเริ่มเมาแล้ว
เธอพยายามลุกขึ้นจากอ้อมแขนของเขา “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะไปชงชาแก้อาการเมาค้างให้คุณ”
มุมปากของเสิ่นอี้โจวโค้งขึ้นและเสียงของเขาก็ฟังดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ “ผมไม่อยากดื่มมัน”
หลังจากพูดจบ เขาก็ฝังศีรษะกับซอกคอของเธอแล้วพูดว่า “ผมเวียนหัวนิดหน่อย ขอผมกอดคุณหน่อยนะ”
เซี่ยชิงหยวน “!”
ลมหายใจร้อนชื้นที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์รดที่ลำคอและไหล่ของเธอ จนทำให้หญิงสาวรู้สึกขนลุก
ท่าทางของเซี่ยชิงหยวนในตอนนี้ บอกไม่ถูกว่าเธอต้องการจะผลักเขาหรือไม่ผลักเขาออกกันแน่
เธอเหมือนลูกวัวที่ถูกมัดอยู่และพยายามดิ้นรน แต่แล้วจู่ ๆ ก็หยุดเคลื่อนไหว
เสิ่นอี้โจวจับมือเธอวางไว้บนริมฝีปากของเขาและขบเบา ๆ จากนั้นก็พูดว่า “ชิงหยวน มือของคุณสวยมากเลย”
เขาหยุดไปอีกครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ผมไม่รู้ว่ามือคู่นี้จะยินดีปลดกระดุมให้ผมหรือเปล่า?”
เซี่ยชิงหยวนหน้าแดงก่ำแล้วตบมือเขาเบา ๆ “ให้พี่สาวลุกขึ้นก่อนสิ เร็วเข้า!”
เสิ่นอี้โจวยิ้ม “ผมมีแต่น้องชาย ไม่มีพี่สาว”
เซี่ยชิงหยวนรู้สึกว่าคนคนนี้น่าจะเมาจริง ๆ
ชิ ลืมมันไปเถอะ ทำไมเธอต้องสนใจคนเมาด้วย?
ไม่คิดเลยว่าเวลาเขาเมาแล้วจะเลอะเทอะได้ขนาดนี้
มือใหญ่ล้วงเข้าไปในชุดชั้นในของเธอแล้วลูบไล้อย่างระมัดระวัง
แตกต่างจากอุณหภูมิร่างกายที่ค่อนข้างเย็นตามปกติเล็กน้อย จุดที่ผิวของเธอถูกสัมผัสอยู่ในขณะนี้ร้อนเหมือนถูกไฟกำลังแผดเผา
เซี่ยชิงหยวนอ้าปากค้าง
เสิ่นอี้โจวเงยหน้าขึ้นมองเธอและหัวเราะเบา ๆ
ด้วยริมฝีปากที่โค้งและคิ้วที่คมเข้ม เขาดูเหมือนเจ้าชายปีศาจที่แสนเย้ายวนใจ
เขายื่นนิ้วชี้ออกมาและวางบนริมฝีปากของเธอ “จุ๊ ๆ”
เขาเข้าหาเธออีกครั้ง “ให้ผมจูบคุณนะ”
เซี่ยชิงหยวนตะโกนเน้นคำว่า “เสิ่น-อี้-โจว!”
เธอบีบมือใหญ่ของเขาด้วยความกรุ่นโกรธ “คุณกำลังทำอะไรอยู่ รู้ตัวรึเปล่าฮึ?”
ปกติชายคนนี้ดูไร้อารมณ์และหวงตัว แต่จริง ๆ แล้วเขาเป็นพวกลามกหรือยังไงกัน?
เสิ่นอี้โจวลูบริมฝีปากของเธอเบา ๆ และยิ้มอย่างไร้เดียงสา “ผมรู้ตัวอยู่น่า”
หลังจากพูดเขาก็จูบเธอทันที ปิดกั้นไม่ให้หญิงสาวพูดอะไรอีก
เซี่ยชิงหยวนต้องการจะหลบเลี่ยง แต่เธอไม่สามารถสู้แรงของผู้ชายได้
จากนั้นเสิ่นอี้โจวก็วางตัวเธอลงบนโซฟาแล้วนอนคร่อม
โซฟายุโรปมีขนาดกว้างอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อคนสองคนนอนอยู่บนโซฟาโดยให้ร่างกายครึ่งหนึ่งซ้อนทับกันไว้ ย่อมไม่เกิดปัญหา
ทั้งด้านหลังและด้านข้างโซฟาเป็นหน้าต่าง
แม้ผ้าม่านจะถูกดึงปิดแล้ว แต่ในห้องนั่งเล่นยังคงสว่างไสว ไม่ว่ายังไงเธอก็รู้สึกว่าอาจมีคนมองเข้ามาแล้วเห็นได้
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เซี่ยชิงหยวนจึงพยายามลุกขึ้น
แต่อีกฝ่ายกลับกดร่างของเธอไว้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้กำลังมาก แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าร่างกายของเธอติดกับดักและไม่สามารถหลุดพ้นได้
เซี่ยชิงหยวนทำได้เพียงขยับร่างกายท่อนล่าง พยายามเลื่อนตัวออกจากใต้ตัวเขา
เสิ่นอี้โจวจับเอวของเธอด้วยมือข้างหนึ่งและพยุงเธอไว้ที่ด้านข้างของโซฟาด้วยอีกมือหนึ่ง
เมื่อรู้สึกถึงการหลบหนีของอีกฝ่าย เสิ่นอี้โจวก็เหยียดขายาวของเขาออกและเกี่ยวขาที่ขยับหนีของเซี่ยชิงหยวนกลับมาเงียบ ๆ
จากนั้นก็หนีบเอาไว้
เซี่ยชิงหยวนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีก
เธอรู้สึกว่าตัวเองได้รับผลกระทบจากแอลกอฮอล์จาง ๆ ในปากของเขาและจิตใจของตนก็เริ่มวุ่นวาย
เธอก็เมาด้วยเหรอ?
กางเกงหลวม ๆ ที่เธอสวมอยู่ก็ถูกยกขึ้นโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน
ขากางเกงม้วนขึ้นและชายผ้าที่ซ้อนกันก็เผยให้เห็นต้นขาขาวเนียน
เซี่ยชิงหยวนรู้สึกเพียงว่าร่างกายของเธอกำลังร้อนราวกับถูกไฟไหม้ มันร้อนจนทนแทบไม่ได้แล้ว
มีเพียงลมหายใจที่ติดขัดและคนบนร่างของเธอเท่านั้นที่เป็นยาแก้พิษให้เธอ
หญิงสาวฉวยโอกาสจากช่องว่างดังกล่าว ผลักเสิ่นอี้โจวออกไปในขณะที่เธอยังประคองสติไว้ได้บ้าง
เธอถามว่า “คุณก็ควรถอดเสื้อผ้าด้วยสิ”
เสื้อผ้าของเธอถูกเขาทำยับย่นไปหมดแล้ว แต่เสื้อผ้าของเขาในตอนนี้ยังเรียบร้อยดี มีแค่กระดุมคอเสื้อเท่านั้นที่ถูกปลดออก
นี่ช่างไม่ยุติธรรม
เสิ่นอี้โจวหลุบตา มองเสื้อผ้าของเขาแล้วพูดว่า
“ใช่ ผมจะถอด”
เขาจึงพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง
นิ้วเรียวของเขาแตะที่กระดุมเม็ดที่สองของเสื้อ แล้วค่อย ๆ ปลดกระดุมออก
การเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้า
ราวกับเขาพยายามอดทนอย่างยิ่งกับกระดุมเม็ดแรกแล้วก็เม็ดที่สอง
เซี่ยชิงหยวนเพียงนอนอยู่บนโซฟาทั้งอย่างนั้นและมองดูอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ
เมื่อกระดุมเสื้อผ้าของเขาถูกปลดมากขึ้นเรื่อย ๆ กล้ามเนื้อแน่นบริเวณหน้าอกก็เผยออกมา
ถัดลงมาคือแนวเอวที่เย้ายวน
ตั้งแต่กระดูกไหปลาร้าลงไป มีลายกล้ามเนื้อที่เกลี้ยงเกลา มันทั้งแข็งแรงและสวยงาม
จากนั้น เสิ่นอี้โจวก็ยืนขึ้นหันหลังให้เธอแล้วถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวออก
ร่างกายส่วนบนทั้งหมดของเขาก็ปรากฏตรงหน้าเซี่ยชิงหยวน
ไหล่กว้างและเอวที่บางบ่งบอกว่ารูปร่างของเสิ่นอี้โจวนั้นดีเพียงใด
เซี่ยชิงหยวนจ้องมองอย่างตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
ต้องยอมรับว่าเสิ่นอี้โจวหล่อมากจริง ๆ
เธอมองกางเกงของเขาที่ยังไม่ถูกถอดออกแล้วลอบกลืนน้ำลาย “คุณ…คุณไม่อยากถอดมันออกเหรอ”
เสิ่นอี้โจวหันกลับมองมาเธอ
แสงตกกระทบด้านหลังของเขา ใบหน้าชายหนุ่มจึงดูพร่ามัวในเงามืด
จากนั้นเธอได้ยินเพียงเขาถามว่า “มีน้ำร้อนไหม”
เซี่ยชิงหยวนถามกลับด้วยความงุนงง “มีน้ำร้อนไหม?”
จู่ ๆ เธอก็นึกถึงการกระทำหลายครั้งก่อนหน้านี้
เสิ่นอี้โจวมักจะนำน้ำร้อนมาเช็ดให้เธออย่างระมัดระวัง
เธอหน้าแดงและตอบว่า “มีค่ะ”
เธอไม่รู้ว่าคืนนี้เขาจะกลับมาเมื่อไหร่ ดังนั้นเธอจึงอุ่นน้ำร้อนในการอไว้
ช่วงเวลาต่อมา หญิงสาวไม่คาดคิดว่า อีกฝ่ายจะหยิบเสื้อผ้าที่เขาเพิ่งถอดวางบนโซฟาขึ้นมาและพูดว่า “ขอบคุณนะที่รัก ผมขอไปอาบน้ำก่อน”
หลังพูดจบ เขาก็หันหลังเดินจากไป เข้าไปในห้องเพื่อหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่แล้วเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ การเคลื่อนไหวทั้งหมดของเขาไม่ได้ดูเชื่องช้าเลย
ยกเว้นการเดินที่ดูซวนเซเล็กน้อย
เซี่ยชิงหยวนงุนงง “?”
ทันใดนั้น เธอก็ตอบสนอง “!”
เธอหยิบหมอนอิงบนโซฟาแล้วเขวี้ยงออกไปด้วยความโกรธ “เสิ่นอี้โจว คนสารเลว!”