The Return of The Disaster-Class Hero การกลับมาของฮีโร่ระดับหายนะ - ตอนที่ 10 ไอ้ตัวประหลาดออกมาแล้ว (3)
- Home
- The Return of The Disaster-Class Hero การกลับมาของฮีโร่ระดับหายนะ
- ตอนที่ 10 ไอ้ตัวประหลาดออกมาแล้ว (3)
ตอนที่ 10 ไอ้ตัวประหลาดออกมาแล้ว (3)
“อ่า! ให้ฉันจัดการเรื่องนี้เอง นายเจอเจ้านี่ที่ใกล้ๆหอคอยปีศาจวันนี้ใช่มั้ย” เจ้าของบ้านเคาะนิ้วของเขาอย่างดุดัน
ฮาน จีมิน ชายหนุ่มที่ได้พบกับลีกอนกำลังดูอารมณ์ของเพื่อนของเขา เพื่อนของเขาเป็นสาวกระดับสูงจากวิหารราศีเมถุนอันดับหนึ่งของเกาหลี ซึ่งเป็นวิหารเดียวกับที่ลีกอนได้สั่งสอนไอ้คนรวยอันธพาลนั่น นอกจากนี้เพื่อนของเขาคนนี้ก็เป็นแฟนตัวยงของลีกอนอีกด้วย แต่ตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
ทำไมน่ะหรอ?
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณผู้ชายที่นั่งกินไก่ทอดอย่างสบายใจเฉิบเลยล่ะ
“นี่นายกำลังจะบอกว่าไอ้เจ้านี่ฆ่าปีศาจกลายพันธุ์ได้ด้วยมือเปล่าอย่างงั้นหรอ ปีศาจที่มีแต่สาวกระดับสูงเท่านั้นที่รับมือได้เนี่ยนะ”
“ใช่เลยล่ะ!” ฮาน จีมินตอบเพื่อนของเขา
เพื่อนของเขายังคงถามต่อไปว่า “แล้วหมอนี่ก็ยังซัดสาวกระดับสูงที่สูบบุหรี่บนถนนด้วยหรอ”
“ใช่!”
“ถ้างั้นก็เขามาที่บ้านของฉันแล้วก็มาทำลายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดที่นี่แล้วก็บอกว่ามันจะทำให้สิ่งเลวร้ายหายไป นายกำลังจะบอกฉันแบบนี้ใช่มั้ย” ชุนซองแจถามฮานจีมินอีกครั้ง เขาแสดงความโกรธในขณะที่เขาชี้ไปที่กองสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ที่ลีกอนทำลายไป ยิ่งกว่านั้น สิ่งของพวกนี้ยังเป็นของศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปอีกด้วย “เฮ้! นี่นายรู้มั้ยว่าของพวกนี้คืออะไร นี่เป็นของล้ำค่าที่ลีกอนนิมใช้เมื่อยี่สิบปีที่แล้วเลยนะ!”
“พวกมันเป็นของเลียบแบบห่วยแตก” ลีกอนขัดจังหวะเขา
“ว่ายังไงนะ” ชุนซองแจมองลีกอนอย่างแปลกใจ “เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ!!!”
“ฉันก็แค่จะบอกว่ามันผลิตจากจีน” ลีกอนพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดขณะที่เขาเอามือแตะไปที่หูของเขา ยิ่งไปกว่านั้น เพราะว่าชุนซองแจไม่ยอมกินไก่ของเขาสักที ลีกอนก็เลยเอาไปกินเอง
คำพูดของลีกอนทำให้ชุนซองแจตกใจมากจนเขาหัวจะปวด เขาผงะไปแล้วตั้งแต่ตอนที่ได้เห็นคนแปลกหน้าเข้ามานอนอยู่ในบ้านของตัวเอง แต่ตอนนี้ไอ้เจ้าคนแปลกหน้าคนนี้กำลังบอกว่าสิ่งของของเขาเป็นของปลอมอีก เขาถามลีกอนว่า “แล้วนายรู้มั้ยว่าฉันต้องเสียเงินไปเท่าไหร่!”
“ใช่ นายถูกโกงแล้วล่ะ ยินดีด้วย!’ ลีกอนตัดบทอีกครั้ง
“เฮ้ย!” ชุนซองแจอารมณ์เสียอยู่แล้วเพราะมีคนทำให้เศรษฐีในวิหารของเขาต้องขายหน้า แน่นอนว่าเขาก็ต้องอารมณ์เสียมากกว่าที่เขาต้องสูญเสียไอเท็มศักดิ์สิทธิ์ระดับ S ที่หายากไปอีก เขาไม่ได้อารมณ์เสียแค่เรื่องที่มีคนในวิหารของเขาถูกทำร้าย
“ก็ไอ้พวกงี่เง่านั่นมันดูถูกชื่อท่านลีกอนนี่น่า” อย่างไรก็ตาม มันไม่มีหลักฐานที่จะหักล้างกับพวกเขาได้ และท่านลีกอนก็ไม่ได้อยู่ด้วยเพื่อโต้แย้งข้ออ้างนั้นอีกในท้ายที่สุด ชุนซองแจก็ต้องมองข้ามความจริงนั้นไป กับเรื่องที่มีคนเข้ามาที่บ้านของเขาในตอนนี้ มันคนละเรื่องกันเลย
“เขาจัดการพวกปีศาจกลายพันธุ์งั้นหรอ แล้วก็ยังซัดสาวกที่อยู่ที่นั่นที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่ด้วยนิ้วเดียวเนี่ยน่ะหรอ” ชุนซองแจคิดว่าเพื่อนของเขาอยู่ในระดับต่ำเกินไปเลยอาจจะถูกหลอกได้ง่ายๆ ชุนซองแจเป็นสาวกระดับสูงไม่เหมือนกับฮานจีมิน เขาไม่สามารถปล่อยวางเรื่องนี้ได้
ทุกสิ่งที่เพื่อนของเขาพูดมันดูเป็นไปไม่ได้ “ไอ้หมอนี่มันเป็นคนหลอกลวง” ดังนั้น ชุนซองแจก็เลยถามลีกอนต่อไปว่า “นี่นายสังกัดอยู่วิหารอะไร”
“ฉันไม่มีอะไรแบบนั้นหรอก!”
“แล้วจักรราศีคนไหนตั้งฉายาให้นาย เซนต์คนไหนปลุกพลังให้นาย”
“ทำไมฉันถึงต้องให้ไอ้พวกนี้ตั้งฉายาให้ด้วยกันเล่า” ลีกอนแสดงความรำคาญออกมา
“งั้นคลาสของพลังที่ตื่นล่ะ” ชุนซองแจถามด้วยท่าทางงงงวย
“คลาสของพลังที่ตื่นงั้นหรอ”
“ใช่ ถ้านายกำจัดพวกภัยพิบัติในคืนนี้จริงๆ อย่างน้อยที่สุดๆ นายก็ควรเป็นพวกสายแทงค์หรือสายประชิด”
“ไม่รู้สิ น่าจะเป็น สายผลิตมั้ง” ลีกอนไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองเป็นแบบนั้น
สีหน้าของชุนซองแจเริ่มไม่พอใจ ผู้ผลิตหรือสายผลิตไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ได้ ส่วนใหญ่ก็เป็นแค่คนงานที่ไร้ทักษะในการต่อสู้ “แล้วอาวุธของนายคืออะไร”
“เพื่อนฉันขโมยมันไปหมดแล้วล่ะ”
“แล้วเพื่อนของนายล่ะ” ชุนซองแจถาม
“ไม่รู้เหมือนกัน ฉันก็ได้ยินมาว่าพวกเขาก็สบายดีนะ อ่าาา ก็ทุกคนยกเว้นฉันน่ะ” เสียงหัวเราะของลีกอนทำให้มือของชุนซองแจสั่น
ขณะที่ชายคนนั้นพูดมากขึ้นเรื่อยๆเขาก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรมากขึ้นเลย ในที่สุด ชุนซองแจก็หัวเราะเยาะเย้ย “เยี่ยม แล้วนายชื่ออะไร”
ลีกอนหัวเราะในขณะที่เขาตอบว่า “ลีกอน”
ทันทีที่ลีกอนให้คำตอบ ใบหน้าของชายหนุ่มทั้งสองก็เปลี่ยนไปด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชายหนุ่มที่มากับลีกอน เขานวดหน้าอย่างกับว่าเขาอยากจะตาย ‘ฮยองคนนี้พูดแบบเดียวกันกับที่พูดที่ห้องคาราโอเกะ!’
คุณฮวางยังได้ถามชื่อลีกอนที่ร้านคาราโอเกะด้วย ในตอนนั้น ลีกอนก็ตอบเขาในขณะที่กำลังหัวเราะคิกคักว่า
“นามสกุลฉันคือ ลี ชื่อฉันคือ กอน ฉันชื่อ ลีกอน”
ชุนซองแจจ้องไปที่ลีกอน “ฉันเห็นเขาเดินไปมาพร้อมกับหน้ากากลีกอนนิม ฉันว่าเขาน่าจะรู้นะ!” ชุนซองแจเห็นในข่าว เขาคิดว่าชายคนนี้น่าจะเป็นผู้คลั่งไคล้ลีกอน
คนเหล่านี้ไม่ได้ต่อต้านสังคม แต่พวกทำให้เซนต์ทั้งสิบสองคนต้องหัวปั่น พวกนั้นตำหนิเซนต์สิบสองราศีเพราะการตายของลีกอน กลุ่มนี้ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากสักเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเซนต์ทั้ง 12 ราศีพยายามจะเยาะเย้ยชื่อของลีกอน กลุ่มคนพวกนี้ก็จะลุกฮือขึ้นมาเหมือนไฟป่า พวกเขาโจมตีเซนต์สิบสองราศีเพื่อตอบโต้ จากนั้นก็มีปัญหาของผู้แอบอ้างว่าเป็นลีกอนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อไม่นานมานี้ มีเด็กแรกเกิดจำนวนมากที่ชื่อกอน ดังนั้นเรื่องนั้นจึงไม่ได้สำคัญ
“นี่คุณ ผมบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ควรพูดชื่อนี้ทุกที่ที่คุณไปนะครับ” ฮานจีมินพูดกับลีกอน
“ทำไมล่ะ” ลีกอนถาม
“หมายความว่าไงกันครับ ทำไมล่ะหรอ คุณจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสาวกระดับ S ที่สนับสนุนเซนต์ทั้งสิบสองคนน่ะสิครับ! คุณรู้มั้ยว่าเหล่าเซนต์จักรราศีพยายามหลีกเลี่ยงการพูดถึงลีกอนมากแค่ไหนน่ะครับ”
เซนต์สิบสองราศีเป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุด เพราะฉะนั้น ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา พวกเขาเลยได้รับการเปรียบเทียบกับมาตรฐานที่กำหนดโดยลีกอนอย่างไม่หยุดหย่อน
“ฉันอ่านมาว่าแฟนบอยแล้วก็แฟนเกิร์ลบางคนก็เปลี่ยนชื่อเป็นลีกอนหนิ” ไม่น่าแปลกใจเลยที่ชุนซองแจรู้สึกงุนงงกับการเรื่องนี้ “ชื่อของนายคือลีกอนจริงๆหรอ นั่นคือชื่อจริงของนายใช่มั้ย”
“อ่า! ชื่อนั้นมันไม่ดีใช่มั้ย ฉันจะได้ไม่พูด” ลีกอนพึมพำ
“แล้วไง” ชุนซองแจรอให้เขาพูดจบ
“งั้นเรียกฉันว่าลีกอนนิมแทนก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“เฮ้!”
ลีกอนหัวเราะคิกคัก ชุนซองแจระงับความโกรธของตัวเองลง เขาทำเพราะชายที่อยู่ตรงหน้าได้ช่วยชีวิตเพื่อนของเขาเอาไว้ “นี่เป็นคำถามสุดท้ายที่ฉันจะถาม นายเป็นอะไรกับลีกอน”
“ก็ฉันคือเขา!”
ในท้ายที่สุด ชอนซองแจก็ระเบิดด้วยความโกรธออกมา เขาหันไปหาเพื่อนของเขา “เฮ้! นี่นายเจอเขาที่ไหน ทำไมนายถึงพาเขามาที่บ้าน”
“ซองแจ! ใจเย็นๆก่อน!” ฮา จีมินพยายามทำให้เขาเย็นลง
ชุนซองแจจ้องไปที่เพื่อนของเขาที่เป็นคนพาคนบ้าเข้าบ้าน “หมอนี่ทำลายสิ่งของในบ้านนี้ แล้วก็ยังกล้าปลอมตัวเป็นลีกอนนิมอีก! ชัดเลยล่ะ! มันเป็นมิจฉาชีพที่พยายามหาเงินโดยใช้ชื่อของคุณลีกอน!”
เขาจ้องมองไปที่ลีกอนแล้วพูดต่อ “ออกไปซะก่อนที่ฉันจะโทรหาตำรวจข้อหาแอบอ้างเป็นคนอื่น!”
เมื่อฮานจีมินได้ยินคำนี้ ดวงตาของเขาก็หันไปมองทันที ‘ทำไมเขาถึงพูดแบบนี้เล่า’ “เฮ้ๆๆ ซองแจ ความจริงที่ว่าเขาทำลายข้าวของของนายน่ะมันสำคัญกับนายมากกว่าไม่ใช่หรอ”
“นายกล้าดียังไงมาเลียนแบบเขา! เพราะว่าเพื่อนฉันติดหนี้นายอยู่ ฉันจะไม่โทรหาตำรวจก็ได้! แต่ยังไงก็เถอะ ฉันอยากให้นายออกไปซะ!” ชุนซองแจตะโกนใส่ลีกอน
ลีกอนที่กำลังถูกถามอยู่กำลังนอนอยู่บนพื้น ไม่มีทางที่เขาจะจากไปโดยไม่เอะอะโวยวาย “เฮ้ เรามาคุยกันเรื่องนี้หลังจากที่เราไปนอนกันแล้วดีกว่า พรุ่งนี้ฉันต้องไปที่ไหนสักที่แต่เช้าเลยน่ะ ฉันคุยกับคนอื่นมาเยอะแล้ว ตอนนี้ฉันเหนื่อยแล้วล่ะ”
ชุนซองแจได้ยินประโยคสุดท้ายและมันทำให้เขาตกตะลึง
“นายไม่ใช่คนเดียวที่เหนื่อยโว้ย เร็วเข้าออกไปได้แล้ว!” ชอนซองแจเริ่มรำคาญ
“ก็ได้ๆ ฉันเข้าใจ ก็ช่วยไม่ได้หนิเนอะ” ลีกอนลุกขึ้นและเดินออกไปที่ประตูหน้า
“นายไปนอนข้างนอก” เขาพยายามส่งชุนซองแจออกไปที่ประตูหน้า ชายคนนี้ไร้ยางอายพอที่จะไล่เจ้าของออกจากบ้านของเขาเอง
ความไร้ยางอายของลีกอนทำให้ชุนซองแจประหลาดใจ ชุนซองแจรู้สึกงงงัน แต่ก็ไม่สำคัญ “ใช่ ฉันบอกให้นายออกไปไงเล่า”
ฮานจีมินรู้สึกหวาดกลัวต่อพลังเวทย์มนตร์ป่าเถื่อนของเพื่อนเขา
ดวงตาของชุนซองแจเป็นประกาย “นายคงเป็นคนที่ทำให้เศรษฐีโง่นั่นในวิหารของเรากลายเป็นมัมมี่สินะ” เขาพูดด้วยความโกรธจัด
“!” ฮานจีมินตกตะลึง เขาพูดเรื่องโกหกไปแต่ดูเหมือนเขาจะหลอกเพื่อนของเขาไม่ได้ “นี่นายพยายามจะสั่งสอนเขาหรอ ซองแจ”
“ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยไอ้เจ้าเล่ห์นั่นไว้แน่!”
“แต่ว่า…”
“แต่อะไร! นายบอกว่าเขาฆ่าปีศาจด้วยมือเปล่า เขาทำร้ายสาวกด้วยการดีดนิ้ว ยิ่งไปกว่านั้น นายยังบอกว่าเขาทำลายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านของฉันอีก ตอแหลสิ้นดี! เขาอาจจะแค่ใช้สกิลปั่นหัวนายก็ได้!”
ชุนซองแจกระแทกเปิดประตูหน้าขณะที่มีพลังความร้อนเล็ดลอดเข้ามาในห้อง
กว๊าง!
เมื่อประตูเปิดออก ลีกอนซึ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นก็ขมวดคิ้ว
“ไฟงั้นหรอ” เขาสัมผัสได้ถึงความร้อนแรงและคลื่นพลังงานอันทรงพลังที่โหมกระหน่ำไปทั่ว มันเป็นพลังเวทย์มนตร์และสกิลที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ยิ่งกว่านั้น นี่คือพลังงานที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขารู้สึกได้ในวันนี้
[คำเตือน! พลังงานเวทย์มนตร์ศักดิ์สิทธิ์ของคู่ต่อสู้ของคุณกำลังจะระเบิด!]
[พลังเวทย์มนตร์ของเขาถูกยืมมาจากราศีเมถุน!]
[คุณสามารถดูดซับพลังงานเวทย์มนตร์ของเซนต์คู่ต่อสู้ของคุณบางส่วนเพื่อการฟื้นฟูได้!]
[คุณสามารถยึดข้อมูลของเขาได้!]
ปั้ง!
เกิดไฟลุกโชนขึ้นใต้เท้าของชุนซองแจ กองไฟเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเพดาน มันดูเหมือนลูกปืนยักษ์ที่มีไม้กางเขนขนาดมหึมาและมีตราสัญลักษณ์วงกลมอยู่ด้านหลัง ไฟดูเหมือนผู้สอบสวนที่กำลังตามล่าพวกนอกรีต เสียงคำรามดังขึ้นในขณะที่มือใหญ่ๆของยักษ์พยายามจะโอบรอบตัวลีกอน
กู-กู-กู๊ง!
ชายหนุ่มที่กำลังตกใจรีบตะโกนใส่ลีกอน “คุณครับ รีบวิ่งหนีไปเร็ว! ซองแจอาจจะดูไม่มีอะไรแต่เขาเป็นถึงบิชอปเลยนะครับ! มีแค่ไม่กี่คนในเกาหลี! แล้วเขาก็ยังเป็นนักเวทย์อัจฉริยะที่ชาวราศีเมถุนรู้จักด้วยนะครับ!”
“อะไรนะ ก็ไม่ได้เท่าไหร่หนิ” ลีกันไม่ใส่ใจ
“อ่า! นี่คุณไม่รู้จริงๆหรอเนี่ย แม้แต่คุณลีกอนก็ต่อสู้กับนักเวทย์ระดับ A ได้ยากเลยนะครับ” ก่อนที่ฮานจีมินจะพูดจบ มือใหญ่ของยักษ์ก็ก้มลงมาอย่างน่ากลัว
กวาง!
“ฮยอง!’
ความร้อนที่หมุนวนทำให้ขวดโค้กละลายในทันที
ชุนซองแจหัวเราะ “นี่น่าจะเพียงพอที่จะทำให้หมอนั่นกลัวได้แล้วล่ะนะ” สกิลศักดิ์สิทธิ์ที่เขาใช้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นในวิหารราศีเมถุน มันถูกเรียกว่า “เสาไฟของแม่มด” มันเป็นสกิลระดับ S ที่เคยไล่ล่าจักรราศีที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างเซนต์ราศีสิงห์มาแล้ว
แน่นอนว่าชุนซองแจใช้มันแค่กับพวกภัยพิบัติและทำให้แน่ใจว่าเป้าหมายของเขาจะไม่ได้รับอันตราย อย่างไรก็ตาม นั่นก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้ชายคนนั้นร้องไห้หนีไปได้แล้ว แต่เหตุการณ์ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด
“อะไรกัน ลีกอนนิมไม่กลัวอะไรแค่นี้หรอน่า”
“?!” ชุนซองแจเริ่มกลัว
ลีกอนไม่ได้ถูกความร้อนแผดเผา อันที่จริงมันก็แค่เหมือนกับว่าเขาอยู่ในห้องอบซาวน่าก็เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เขาดูโกรธเล็กน้อย “ฉันไม่สนใจอบซาวน่าหรอน่า แต่ว่านายกำลังเผาขนมที่ฉันเอาไว้กินตอนเที่ยงคืนของฉันไปหมดแล้ว!”
“!?”
ลีกอนชี้ไปที่เท้าของยักษ์ซึ่งกำลังเหยียบย่ำและเผากล่องไก่ทอดของเขาอยู่ จากนั้น… “เอาเท้าที่ไร้ประโยชน์พวกนั้นออกไปจากตรงนั้นซะ”
บัก!
“!”
ลีกอนส่งยักษ์บินกระเด็นไปด้วยการเตะเพียงครั้งเดียว เขาเตะเข้าไปที่ยักษ์แบบจังๆ แล้วเจ้ายักษ์ก็ล้มลงกับพื้นพร้อมกับเสียงกรีดร้อง ไม่ใช่แค่นั้นจากนั้นลีกอนก็แว๊บไปปรากฏตัวต่อหน้าชุนซองแจอย่างกับกับผี “นี่ไอ้หนู”
ชุนซองแจที่หวาดกลัวพยายามเรียกตัวยักษ์ อย่างไรก็ตาม ลีกอนไม่ได้สนใจสิ่งที่เขาทำ เขากางนิ้วของเขาออก
มันน่าอายที่ชุนซองแจเป็นแฟนบอยของเขา ยิ่งไปกว่านั้น ชุนซองซองแจก็ยังไม่ยอมเชื่อว่าเขาคือลีกอนแม้ว่าเขาจะพูดด้วยความจริงใจก็ตาม เพราะแบบนั้นลีกอนจึงตัดสินใจปล่อยเขาไป “ถ้านายยังไม่หยุดอีกฉันว่านายได้เรียกพนักงานดับเพลิงแน่ หยุดกันก่อนเถอะ ดีมั้ย”
“อะไรนะ!’
ลีกอนหัวเราะกับความประหลาดใจของชายหนุ่ม เขาดีดนิ้วออกในพริบตา
บัก!
“อ้ากกกกกก!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นขณะที่ชุนซองแจกำลังกระเด็นถอยหลังไป หลังจากโดนดีดเข้าที่หน้าผาก ชุนซองแจก็กระแทกเข้ากับกำแพงและทรุดตัวลงกับพื้น
ก๊อง!
ในเวลาเดียวกัน ยักษ์และไฟก็หายไป ลีกอนกระดิกนิ้วในขณะที่เขากำลังหัวเราะ เขาจะยอมไปง่ายๆเพราะเด็กคนนี้เป็นเจ้าของที่นี่หรือไม่ หรือบางทีเขาอาจทำตัวสบายๆกับเด็กนี่เพราะเด็กนี่เป็นแฟนบอยของเขา ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรแต่การกระทบกระเทือนนี้ทำให้ชุนซองแจเลือดกำเดาไหลออกมา
ถึงกระนั้น ชุนซองแจก็ไม่สามารถหยุดสั่นได้ เขาสับสนจนลุกไม่ขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น เขากำลังแย่กับการทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ ‘อะไรกัน นี่เขาโจมตีฉันโดยใช้แค่นิ้วเดียวจริงๆหรอ’
ชายที่อยู่ตรงหน้าเขามีพละกำลังมหาศาล ‘นี้มันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด เขาเป็นสายผลิตจริงๆหรอ คนที่เป็นคลาสนั้นไม่น่าจะสามารถทำอะไรกับภัยพิบัติได้หนิ แต่ว่าไอ้หมอนี่กลับทำอะไรแบบนี้ได้เนี่ยนะ ความแข็งแกร่งของนายอยู่ในระดับไหนกันแน่!’
‘ไม่สิ นั่นไม่ใช่ปัญหา แม้แต่เซนต์สิบสองราศีก็ทำแบบนั้นไม่ได้!’ ชุนซองแจอยู่ในความสับสน
สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดยังไม่หมดแค่นั้น ลีกอนหยิบของศักดิ์สิทธิ์ที่เขาพึ่งทำลายไปขึ้นมา ชุนซองแจอ้างว่าของจำลองพวกนี้เป็นไอเท็มของลีกอนและเขาจะร้องไห้เมื่อเห็นมันถูกทำลาย
เมื่อลีกอนหยิบชิ้นส่วนที่แตกหักขึ้นมา ก็มีบางอย่างที่น่าประหลาดใจเกิดขึ้น สิ่งของศักดิ์สิทธิ์ที่แตกสลายไปกลับคืนสู่สภาพเดิม นั่นทำให้ชายหนุ่มทั้งสองต้องตกตะลึง
“ข-เขาเอาของที่แต่แตกหักพวกนั้นกลับมารวมกัน!”
“ทำได้ยังไงกันเนี่ย!”
ลีกอนรู้สึกขบขันหลังจากที่เขาใช้ความสามารถในการฟื้นฟูของเขา เหตุผลก็ง่ายๆ
[ส่วนหนึ่งของพลังงานเวทย์มนตร์ของราศีเมถุนได้รับการฟื้นฟู]
[คุณลักษณะพิเศษของ “ชายผู้พิชิตทุกสรรพสิ่ง” ได้รับส่วนหนึ่งของข้อมูลของคู่ต่อสู้แล้ว]
[สกิลการจ้องมองของเทพเจ้า (F) ถูกเปิดใช้งาน]
– ชุนซองแจ
– ชื่อที่ถูกปลุก (ฉายา): ผู้ลงทัณฑ์
– ลงโทษความชั่วร้ายที่หลบหนีความยุติธรรม
– เอฟเฟกต์: สร้างความเสียหายร้ายแรงหรือทำให้อยู่ในสถานะอัมพาตแก่ทุกคนที่มีแนวโน้มจะชั่วร้าย
สกิลของผู้ลงทัณฑ์
[การเดิมพันอันเร่าร้อนของแม่มด! ระดับ S (ราศีเมถุน)]
[ผนึกน้ำแข็งจับกุม! ระดับ A (ราศีเมถุน)]
สกิลเช่า
[การป้องกันที่ซ่อนอยู่! ระดับ A (ราศีเมถุน)]
[ผู้สร้างภาพเหมือน! ระดับ B (ราศีกันย์)]
[ผู้สร้างร่าง! ระดับ C (ราศีเมษ)]
ข้อมูลแปลกๆเกี่ยวกับคู่ต่อสู้ของเขาปรากฏขึ้น อย่างไรก็ตาม ลีกอนก็สนใจแต่อย่างอื่น
คุณสมบัติส่วนบุคคลของชุนซองแจ
[อัจฉริยะ: พลังการเรียนรู้ 200%]
[การทำนายอนาคต: รู้อนาคตก่อน 1 วินาที]
[ความลุ่มหลงแบบถาวร: ความเชี่ยวชาญในการติดตาม, ความรอบคอบที่เพิ่มขึ้น, อัตราความสำเร็จที่เพิ่มขึ้น]
[การบูชาไอดอล: คุณลักษณะส่วนบุคคลทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นเมื่อทำงานกับไอดอล]
คุณลักษณะส่วนบุคคลจะแสดงให้เห็นถึงนิสัยของแต่ละบุคคล
สกิลพวกนั้นเป็นร่างของการบัฟ ยิ่งไปกว่านั้น สกิลยังมีโอกาสพัฒนาเป็นสกิลขั้นสูงได้เมื่อบุคคลนั้นๆไปถึงระดับมาสเตอร์ เหมือนกับลีกอน
ลีกอนไม่ได้อ่านอะไรมาก แต่เขารู้ว่าคนอื่นไม่สามารถรับรู้ถึงข้อมูลดังกล่าวได้แม้ว่าพวกเขาจะต้องการอยากรู้มันก็ตาม มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ แต่เขาก็สามารถเห็นมันได้ ลีกอนรู้สึกขบขัน เขาหยิบคริสตัลสีแดงขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
แต่ว่าตอนนี้เรื่องนั้นมันก็ไม่ได้สำคัญแล้วล่ะ
“ฉันบอกแบบนี้ตั้งแต่เจ้าของห้องอยู่ที่นี่แล้ว” จู่ๆ เขาก็พูดขึ้น
“?”
ลีกอนเข้าไปในห้องของชุนซองแจ เขายิ้มและเขาก็หยิบบางอย่างขึ้นมา มันเป็นหนึ่งในตุ๊กตาของเขาที่เท่มากเกินไป “ฉันมีปัญหาบางอย่างกับของพวกนี้”
ชุนซองแจรู้สึกว่ามันเป็นลางไม่ดี แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
“ขอฉันถอดหัวมันออกก่อนละกัน” ทันทีที่ลีกันพูดคำนั้นเสียงแตกก็ดังขึ้น เสียงของหุ่นที่ถูกดึงหัวออกดังก้องอยู่ในห้อง
ชุนซองแจกรีดร้อง “อ๊ากกกก! นั่นมันลีกอนนิมของฉันนนน!”
ลีกอนดูราวกับว่าเขาโล่งใจขึ้น ในที่สุดเขาก็คลานไปที่เตียงและนอนลง “อ่า! ตอนนี้ฉันนอนหลับได้อย่างสบายใจแล้วล่ะ”
ชุนซองแจรู้สึกงุนงง “เฮ้! นี่หมายความว่าไงจะนอน นายรู้มั้ยว่านายเพิ่งทำอะไรลงไป!”
“อะไรเล่า ก็มันดูน่าหงุดหงิดเพราะหน้ามันเท่เกินไปนี่น่า” ลีกุนพูดอย่างเฉยเมย
“อะไรนะ”
“แค่เปลี่ยนหน้าก็ได้นี่! ทำไมต้องทำขนาดนั้นด้วย”
“อะไรกันวะ เฮ้ย!”
ขณะที่ชุนซองแจกำลังแสดงความโมโหออกมา ลีกอนก็เผลอหลับไปอย่างไร้ยางอาย
* * *
ตื้ดดดด! ตื้ดดด!
เวลาสิบโมงเช้าชุนซองแจเงยหน้าขึ้นมาเมื่อเขาได้ยินโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น พี่สาวของเขายังไม่ได้กลับบ้าน เขาเลยพยายามไล่ลีกอนอีกครั้ง แต่ทว่า มันก็กลับทำให้เขาถูกซัดอีกรอบ
ต้องขอบคุณการโดนซัดนั่นที่ทำให้เขานอนหลับสบาย มีคนโทรมาหาเขาแต่เช้าตรู่ของวันอาทิตย์ แต่ว่านั่น… แต่ว่านั่น นั่นมันไม่ใช่โทรศัพท์ของเขาน่ะสิ
‘ไอ้บ้า ฮานจีมิน! นายไปรับไอ้หมอนั่นมาจากไหนกันวะ นายไปยืมเงินจากหมอนั่นมารึป่าวเนี่ย’ ชุนซองแจขยับตัวเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์สั่นไม่หยุดมากกว่าสี่สิบครั้ง “แม่งเอ้ย! เฮ้ย ฮานจีมิน! โทรศัพท์นายเนี่ย!”
ในที่สุด เขาก็ต้องบุกเข้าไปในห้องของเพื่อนเขาและรับโทรศัพท์ เพื่อนของเขากำลังหลับอยู่
ใบหน้าของชุนซองแจยู่ยี่ในลักษณะแปลกๆเมื่อเขาตรวจสอบโทรศัพท์ของเพื่อน ผู้ที่โทรนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซนต์ราศีธนู ฮิวโก้ ออสทิส ฮิวโก้กำลังตามหาลีกอนและเขาก็โทรหาโทรศัพท์เครื่องนี้จากโทรศัพท์ส่วนตัวของเขา
ชุนซองแจขมวดคิ้วเมื่อเห็นหมายเลขนี้ “พระเจ้า! นี่นายไปรู้เบอร์ของเขามาได้ยังไงเนี่ย” เขาตัดสายแล้วก็บล็อคเบอร์ไป
ในขณะนั้นเอง…
-คุณไม่สามารถติดต่อเบอร์ดังกล่าวได้ในขณะนี้
ฮิวโก้ซึ่งมาถึงสนามบินอินชอนของเกาหลีแล้วก็วางมือบนใบหน้าด้วยความสิ้นหวัง ในที่สุดเขาก็มาถึงเกาหลีหลังจากเที่ยวบินสิบเอ็ดชั่วโมง แต่ความพยายามของเขาในการติดต่อกับลีกอนก็สูญเปล่า
[เฮ้อาร์เชอร์ นี่เขารับโทรศัพท์รึยัง]
กลับกัน คนที่เขาไม่ได้ต้องการให้เขาติดต่อกลับมากลับส่งข้อความหาเขา เมื่อถึงจุดนี้ ฮิวโก้กำลังเสียสติ เขามีปัญหากับลูกชายของเขาซึ่งอยู่ในช่วงวัยรุ่น ปัญหาอื่นนี้ก็กำลังเริ่มรุมเร้าเขาเช่นกัน ‘ไม่มีทางที่เขาจะซ่อนตัวอยู่แน่ ฉันแน่ใจว่าเขาจะต้องทำให้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่นอน’
“!” ฮิวโก้ติดตามบอร์ดข้อความของชุมชนและข่าวสารเพื่อดูว่ามีการพบเห็นลีกอนหรือไม่ เขากำลังมองหาข้อมูลจากทุกบิต หลังจากการค้นหาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เขาก็พบบทความหนึ่งที่ทำให้เขาตกใจ มันเป็นบทความเกี่ยวกับลีกอน