The Return of The Disaster-Class Hero การกลับมาของฮีโร่ระดับหายนะ - ตอนที่ 3 พวกแกจะต้องชดใช้ ไอ้พวกสารเลว (2)
- Home
- The Return of The Disaster-Class Hero การกลับมาของฮีโร่ระดับหายนะ
- ตอนที่ 3 พวกแกจะต้องชดใช้ ไอ้พวกสารเลว (2)
ตอนที่ 3 พวกแกจะต้องชดใช้ ไอ้พวกสารเลว (2)
“นี่นายพูดอะไรของนายน่ะ”
“นี่นายแน่ใจหรอ”
สำนักข่าวทั่วโลกต่างพากันโห่ร้อง ทั้ง PD ที่ไปเจอนักข่าวมานับพันต่อวัน หรือนักข่าวที่กำลังนั่งโต๊ะออกอากาศอยู่ก็ยังไม่สามารถหยุดพูดถึงเรื่องนี้ได้ มันเป็นเพราะว่าข่าวด่วนที่พวกเขาพึ่งได้รับมาเมื่อไม่นานนี้นั่นเอง
“หอคอยนั่นทลายลงแล้วจริงๆหรอ”
“อันที่จริง ผู้คนเริ่มก็รู้ถึงข่าวที่ว่ามีคนหรือบางสิ่งบางอย่างออกมาจากหอคอยแล้ว!”
ผู้อำนวยการสร้างที่อายุน้อยที่สุดคนนึงตะโกนขึ้นเสียงดังว่า “ใช่เลยล่ะ! โลกทั้งใบตอนนี้จะต้องโกลาหลแน่! ทางเราได้ส่งนักข่าวไปลงพื้นที่ที่หอคอยแล้ว!”
“สำนักข่าว CNN และ BBC ได้พาดหัวข่าวว่านี่อาจจะเป็น ลี กอน!”
ผู้กำกับที่ยังทำหน้างุนงงมาจนถึงตอนนี้ เขาถึงกับทำปากกาหล่น วันนี้พวกเราได้ข่าวใหญ่แล้ว ยุนชินวู ผู้ที่โด่งดังมาจากการที่เป็นทายาทของมหาเศรษฐีและเป็นยอดฝีมือแห่งทีมจู่โจมที่แกร่งที่สุดของเกาหลี ทวินสตาร์ ได้กลายเป็นสาวกคลาส A เขายังไม่ใช่สาวกคลาส S แต่เกาหลีก็เป็นดินแดนที่ถูกทอดทิ้งโดยพวกจักรราศี นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการปรากฎตัวของสาวกระดับสูงถึงได้เป็นที่สนใจและสำนักข่าวใหญ่ต่างๆก็พากันจับจ้องไปที่เขา
สำหรับหัวข้อข่าวในคืนนี้ก็ยังคงเป็นหัวข้อเดิม แต่ด้วยสถานการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นนี้ สำนักข่าวเราก็ไม่จำเป็นต้องสนใจชายคนนี้อีกต่อไป มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว ไม่สิ! แม้ว่าผู้ใช้พลังคลาส S จะปรากฎตัวขึ้นมาแบบดื้อๆ เราก็ไม่จำเป็นต้องไปสนใจข่าวอะไรที่เกี่ยวกับผู้ใช้คนนั้นอีก
ทำไมน่ะหรอ?
‘เพี้ยนไปแล้วรึไง คุณหมายความว่ายังไงที่บอกว่านั่นอาจจะเป็น ลี กอน’
ลี กอน เป็นตำนานไปแล้ว เขาเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมการต่อสู้กับเรดอาย เขาเป็นวีรบุรุษที่ยอมตายเพื่อให้มนุษยชาติผ่านพ้นวิกฤติที่เลวร้ายที่สุดไปได้ เขาเป็นหนึ่งในผู้ตื่นของพลังดั้งเดิมทั้งสิบสามคน แน่นอนเวลาผ่านไปยี่สิบปีผู้ตื่นของพลังก็มีมากขึ้นจากแค่สิบสามคนเป็นหมื่นๆคนในทุกประเทศ อย่างไรก็ตาม… พวกเขาก็ยังไม่สามารถเทียบเทียมกับผู้ตื่นของพลังกลุ่มแรกที่เกิดขึ้นได้
<> พวกเขาก็ถูกเรียกว่า เซนต์ทั้งสิบสอง เช่นกัน พวกเขาเป็นตำนานและดวงดาวที่ยังมีลมหายใจ ซึ่งปัจจุบันพวกเขามีอำนาจมากกว่าเจ้าของประเทศ ไม่สิ พวกเขาเป็นผู้ปกครองอย่างเผด็จการ และลี กอน ก็สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกเขา เขาเป็นวีรบุรุษของเกาหลี
หลุมศพของ ลี กอน มีชื่อเสียงดังไปทั่วโลก และได้ทิ้งร่องรอยจารึกไว้ที่หน้าประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ นั่นคือสาเหตุที่การทำลายล้างนี้เกิดผลกระทบไปทั่วทั้งโลก โชคดีที่ไม่มีพวกปีศาจออกมาจากขอคอยนั่น
“ถ้านั่นไม่ใช่ ลี กอน ล่ะ ถ้านั่นเป็นแค่สิ่งที่พวกผู้ก่อการร้ายทำล่ะ”
“อะไรนะ”
“หอคอยนั่นมีชื่อเสียงก็เพราะว่ามันเป็นตัวแทนของความสำเร็จของเซนต์ทั้งสิบสองราศียังไงเล่า และยิ่งตอนนี้ก็มีกองกำลังจำนวนมากที่ต่อต้านเซนต์ทั้งสิบสองราศีนี่อีก”
“ถูกต้องแล้วล่ะ นี่อาจจะเป็นโอกาสในการเรียกร้องความสนใจของพวกเขาก็เป็นได้”
“เซนต์ทั้งสิบสองคนจะว่ายังไงกันนะ”
ผู้อำนวยการสร้างกำลังตรวจสอบบทความต่างๆและได้ยักไหล่ขณะกำลังพูด
* * *
“ขอไม่ออกความเห็นครับ”
ณ Ritzy Resort ในประเทศจีน หยางเว่ย หนึ่งในเซนต์สิบสองราศีกำลังขมวดคิ้ว
หยางเว่ย อยู่ที่เกาหลีตอนที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น และเขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนกแก้วเพราะเขาต้องตอบแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า! แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีนักข่าวพยายามตามหาเขามากขึ้นเรื่อยๆ เขาเลยตัดสินใจที่จะเดินทางออกจากเกาหลี
“บ้าเอ้ย!”
เขารู้ว่าคนอื่นก็น่าจะกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่คล้ายๆกัน แต่เขาก็ไม่เข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น การที่หอคอยพังลงมามันไม่ใช่กงการอะไรของเขา ที่เกาหลีมีปีศาจที่น่ากลัวอยู่เยอะแยะและพวกมันก็สามารถทำลายหอคอยได้ ถ้าเชื่อสายข่าวที่ว่ามาล่ะก็ มันก็อาจจะเป็นแค่พวกผู้ก่อการร้ายที่ทำมันก็ได้ ยังไม่หมดแค่นั้น
‘ที่นั่นมีแต่พวกที่ชื่นชมยกย่อง ลี กอน’
พวกหนุ่มสาวที่ประมาทก็อาจจะทำให้หอคอยนั้นถูกทำลายได้ ยังไงก็เถอะ หอคอยนั่นมันไม่ได้สำคัญแล้ว เขาเลยไม่ได้สนใจมันมากนัก
‘แต่ปัญหาก็คือ…’
ดูเหมือนว่าสื่อมวลชนจะเสียสติกันไปหมดแล้ว สำนักข่าวทั่วโลกต่างพากันพาดหัวข่าวอย่างบ้าคลั่ง
‘พวกขยะนี่มันเป็นอะไรกันวะ พวกมันบ้าไปแล้วรึไง มันจะอยู่รอดในหอคอยนั่นมาตั้งยี่สิบปีได้ยังไงกันวะ’
ลี กอน ไม่ใช่เคานต์แห่งมอนเตคริสโต ยิ่งไปกว่านั้น เซนต์สิบสองราศีก็รู้ถึงความอันตรายของหอคอยนั้นดีกว่าใครๆ
‘หอคอยนั่นมีพวกปีศาจอย่างน้อยก็เป็นหมื่นๆตัวได้’
ในหอคอยนั่นมันเป็นเหมือนกับนรกดีๆนี่เอง การที่พวกเขาหนีออกมาได้หลังจากที่ทำการสังหารเรดอายได้สำเร็จมันก็เป็นราวดั่งปฏิหาริย์แล้ว ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังได้ทำลายประตูเพื่อขังเหล่าปีศาจพวกนั้นไว้แล้ว พวกปีศาจเลยไม่สามารถออกมาได้
ยี่สิบปีผ่านไปตั้งแต่ตอนนั้น
‘มันต้องกลายเป็นอาหารของพวกปีศาจไปแล้วสิวะ!’
มันไม่มีทางเลยที่ลีกอนจะยังมีชีวิตอยู่แต่ก็ทำให้ หยางเว่ย ถึงกับต้องมือสั่น มันเป็นสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง ลี กอน เป็นผู้ตื่นของพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้ตื่นของพลังทั้งสิบสามคน
‘ถ้าไม่ใช่เพราะความอ่อนแอนั่น เขาก็จะเป็นคนที่แข็งแร่งที่สุดอย่างแท้จริงแล้วล่ะ’
โลกให้เครดิตพวกเขาในการเอาชนะ เรดอาย แต่ความจริงแล้ว ลี กอน เป็นผู้ที่ทำทั้งหมดด้วยตัวของเขาเองเพียงคนเดียว
‘ถ้ามันฟื้นขึ้นมาจริงๆล่ะก็ พวกเราจบเห่แน่’
แม้ว่า หยางเว่ย จะคิดแบบนั้น เขาก็ต้องส่ายหัวเพราะว่าสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ได้เกิดขึ้นแล้ว
‘มันฆ่าพวกปีศาจทั้งหมดนั่นทั้งๆที่แขนขาดไปข้างนึงได้ยังไงกันวะ’
แม้แต่พวกเขายังไม่สามารถทำมันได้ ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่มันก็มีโอกาสเป็นไปได้น้อยมาก
-นี่ หยาง! ฟังฉันอยู่รึป่าว
ทูตชาวจีนที่มาเยือนเกาหลีโกรธจัด
ถ้า ลี กอน ยังมีชีวิตอยู่ มันจะเป็นเรื่องยากที่จีนจะเข้ายึดเกาหลีได้นะ เราต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อทำให้ประเทศนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของเรา แต่ไอ้เรื่องบ้านี่มันดันเกิดขึ้นเนี่ยนะ!
ของสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมมือกับสหภาพญี่ปุ่นแล้ว และพวกเขาได้ควบคุมเกาหลี และแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีนต้องเร่งทำงานแล้วก่อนที่เซนต์ของญี่ปุ่นจะตัดหน้าเราไปซะก่อน
ท้ายที่สุด หยางเว่ย ก็ส่ายหัวด้วยความรำคาญ
“อย่ากังวลไปหน่อยเลยน่า สิ่งที่เกิดขึ้นที่หอคอยนั่นมันไม่สำคัญนักหรอก ฉันเป็นถึงวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของจีนเลยนะ”
-แล้ว ลี กอน ล่ะ?
“เจ้านั่นไม่มีทางมีชีวิตอยู่ได้หรอก”
หยางเว่ย ตัดสายเขาแล้วก็หัวเราะ ที่เขามั่นใจแบบนี้เพราะเค้าเองก็เป็นหนึ่งในคนที่คุ้นเคยกับ ลี กอน มากที่สุด ทำไมกันล่ะ?
‘ในตอนท้ายของวันนั้น ลี กอน ก็ยังไม่สมประกอบ’
ใช่เลย
ลี กอน แข็งแกร่งก็จริง แต่เขาก็มีจุดอ่อน
‘ยิ่งเขาใช้ความสามารถมากเท่าไหร่ ร่างกายของเขาก็จะยิ่งแย่ลงไปด้วย’
ทำไมน่ะหรอ?
‘เพราะ ลี กอน ไม่ได้รับการคุ้มครองจากพวกจักรราศียังไงล่ะ’
วีรบุรุษทั้งสิบสองคนจะมีจักรราศีคอยคุ้มครองและเพิ่มพลังให้กับพวกเขา
เดิมที ลี กอน ปรากฎตัวขึ้นในตอนที่โลกควรจะมีวีรบุรุษเพียงแค่สิบสองคน อันที่จริงแล้วเขาเป็นยอดมนุษย์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยไม่ได้มีเหล่าจักรราศีปรากฎมาด้วย
เนื่องจากเขาไม่ได้รับใช้เหล่าจักรราศี ร่างกายของเขาจึงต้องฟื้นฟูเองด้วยความสามารถของเขา
เป็นที่รู้กันดีว่าร่างกายของมนุษย์ธรรมดาไม่สามารถที่จะต้านทานต่อกฎของฟิสิกส์ได้
‘ลี กอน เกือบจะเป็นยอดมนุษย์แล้ว เขาถูกสร้างให้แข็งแกร่งกว่ามนุษย์ทั่วไป แต่ว่า…’
มันเป็นจุดด้อยที่ร้ายแรงมากเมื่อเทียบกับที่พวกเขาได้รับการคุ้มครองจากสวรรค์ ภาพของ ลี กอน ในหนังสือพิมทำให้เห็นถึงประเด็นของเขา
ถ้ามองผ่านๆ ลี กอน ดูเหมือนชายวัยห้าสิบปี ภาพนี้เป็นภาพเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว แต่มันยิ่งตอกย้ำสิ่งที่ หยางเว่ย คิด ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยไหม้ จมูก ริมฝีปากเขาผิดรูปราวกับว่าเขาผ่านการศัลยกรรมที่ผิดพลาดมา เขาดูเหมือนอย่างกับสัตว์ประหลาด การที่ใช้แค่พลังของตัวเองโดยไม่พึ่งพลังของเหล่าจักรราศีมันเสี่ยงมาก เพราะลี กอน มักจะได้รับบาดเจ็บและได้รับผลข้างเคียงกลับมาเสมอ
‘ไอ้เวรนั่นมันต้องใช้พลังงานและอายุขัยของตัวเองเพื่อจะใช้ความสามารถของตัวเอง’
โดยปกติแล้ว ยิ่งลี กอนใช้ความสามารถของเขามากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งแย่มากขึ้นเท่านั้น
‘นั่นเป็นจุดอ่อนอย่างเดียวของไอ้ขี้เหร่นั่น’
ลี กอน แข็งแกร่งมาตั้งแต่แรก เขาได้แสดงให้เห็นตอนที่อยู่ภายในหอคอยปีศาจ แต่ในท้ายที่สุด เขาก็ได้ทำให้ร่างกายของเขาไปจนถึงขีดจำกัด หยางเว่ย ค่อนข้างที่จะรู้สึกแย่เพราะพวกเขาพ่ายแพ้แก่ ลี กอน มันเป็นเรื่องที่น่าเจ็บใจที่ ลี กอน มีความคล่องแคล่วและมีความสามารถในการต่อสู้มาตั้งแต่กำเนิด
ชั่งเป็นสิ่งที่น่าสมเพศจริงๆ
‘ไอ้แก่ที่น่าสงสารนั่น’
อ่า ลี กอน อายุแค่ยี่สิบเอง มันคงจะผิดถ้าจะเรียกเขาว่าไอ้แก่
เมื่อเทียบกับเขาแล้ว เซนต์สิบสองราศีได้ใช้ชีวิตอย่างร่ำรวย มีเกียรติ และมีอำนาจ
“ตั้งแต่เริ่มต้น มันยากที่จะเปรียบเทียบ ลี กอน กับเซนต์ทั้งสิบสองคนนี้
-แล้วยังไง?
“ก็ใช่น่ะสิ มันไม่มีทางที่มันจะยังมีชีวิตอยู่ได้หรอก ฉันเอาชีวิตเป็นประกันได้เลย” หยางเว่ย ตอบกับทูต
ทั้งคู่ยิ้มเยาะกับคำพูดนี้
* * *
ณ ร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ดแห่งหนึ่งใกล้กรุงโซล ชายทั้งสองคนที่พา ลี กอน มาที่นี่ต้องอ้าปากค้าง
งั่ม! งั่ม!
สายตาของพวกเขาจับจ้องไปบนโต๊ะ
โซบะหมักซอสเปรี้ยวหวาน มายองเนส ทูน่า และสาหร่ายที่ใช้ทำข้าวปั้น กลิ่นหอมอบอวนที่ออกมาทุกครั้งที่ข้าวปั้นถูกปั้นออกมา ทงคัตสึที่ถูกชุบไปด้วยซอสเดมิกลาสที่อยู่ในคิมบับ มันทำให้เขาถึงกับต้องทุบจาน เพราะชายคนนี้คนเดียวสามารถกินอาหารทั้งหมดนี้ได้ จานเปล่าที่วางไว้สูงแทบจะเทียบกับคนๆนึงได้เลย
“อ่าาา! ตอนนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะ” ลี กอบ ตบท้องของเขาและพูดออกมา เด็กหนุ่มก็วางจานทงคัตซึที่เขากินเข้าไปลง
“นี่จริงป่ะเนี่ย! คุณกินไปตั้งสอนล้านวอนเลยหรอ” ชายทั้งสองอ้าปากค้างจนแมลงแทบจะบินเข้าไปได้ ‘เขากินไปตั้ง 120 จานเลยงั้นหรอ!’
ลี กอน บ่นในขณะที่เขากำลังเทน้ำลงในแก้วของเขา “เพราะว่าฉันไม่มีเงิน ฉันก็จะกินแบบพอดีๆก็แล้วกันน้า”
“นี่แค่พอดีแล้วงั้นหรอ” ชายชราลูบหลังคอด้วยความตกใจ “ฉันไม่เคยเห็นใครกินได้มากถึงสองล้านวอนในร้านฟาสต์ฟู้กแบบนี้มาก่อนเลย!”
“ห้ะ อะไรนะ นายบอกว่าจะจ่ายเงินให้งั้นหรอ อ่าาา! งั้นขอราเมงเพิ่มเป็นของหวานหน่อยละกันนน” ลี กอนพูด
“เฮ้!” พนักงานพาร์ททามหัวเราะหลังจากได้ยินเสียงจ่ายเงิน “ใครจะไปสนกันเล่า ก็นายบอกว่าฉันช่วยนายจากพวกปีศาจ นี่เป็นการตอบแทบเล็กน้อยจากนายไง นี่แค่เรื่องเล็กน้อยนะถ้าเทียบกับชีวิตของนายน่ะ อ่า! รับอะไรเพิ่มมั้ยคะคุณลูกค้า”
นักล่าตกตะลึง “ทำไมคุณถึงใจดีจัง คุณสนใจรูปลักษณ์ของคนคนนั้นหรอ”
“มีอะไรผิดปกติหรอ มันก็ดีกว่าต้องดูอาจัสซีขี้เหร่อย่างคุณแหละน่า เขาเป็นผู้ศรัทธารึป่าวอะ หรือว่าเป็นเหล่าสาวก” พนักงานพาร์ททามจ้องไปที่หน้าของ ลี กอน
ลี กอน เย้ยหยัน ‘นี่เธอมีรสนิยมแปลกรึไง’ แม้แต่สายข่าวก็ยังลังเลที่จะเปิดเผยใบหน้าของเขาและเขาก็ไม่ชอบเห็นหน้าตัวเองเช่นกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เขามักจะปกปิดใบหน้าของเขา ณ จุดๆนี้ เขาลืมสิ่งที่เรียกว่ากระจกไปแล้วด้วยซ้ำ เขาเลยรู้ว่าสายตาของผู้หญิงคนนั้นสนใจมาที่เขา แต่ก็ไม่สำคัญหรอกตอนนี้
‘ฉันมีแขนแล้ว’ ลี กอน มั่นใจว่าแขนของเขาขาดไปแล้ว แต่ตอนนี้มันกลับมาเป็นปกติ ‘พวกนั้นต้องคิดว่าฝันไปแน่ๆ”
เหล่าจักรราศีผู้หยิ่งผยองไม่สามารถทำเรื่องปาฏิหาริย์แบบนี้ได้แน่ พวกเซนต์โง่นั่นที่รับใช้พวกจักรราศีก็เหมือนกัน ลี กอน ยื่นมือออกมาเพื่อใช้ความสามารถของเขาทันที
วูงงงง!
แสงที่คุ้นเคยหมุนวนอยู่ในฝ่ามือของเขา เขารีบกำมันไว้ทันทีที่ลูกบอลแห่งแสงปรากฏขึ้นจากนั้นเขาก็ทำให้มันหายไป ‘ฉันไม่มีปัญหาในการใช้ความสามารถของฉันแล้วหนิ’
นี่ยิ่งทำให้ทุกอย่างแปลกขึ้นไปอีก ลี กอน เคยคิดว่าเขาตายไปแล้ว แต่ตอนนี้เขายังกลับมีชีวิตอยู่และปกติทุกอย่าง
สิ่งนี้ทำให้เพื่อนนักพยากรณ์ของเขาดูเป็นคนเจ้าเลห์ขึ้นมาทันที เขาอยากที่จะบีบคอเพื่อนของเขา…
“พระเจ้า! แม้คุณจะผ่านช่วงพัฒนาไปแล้ว มันก็ยังไร้สาระสิ้นดี” นักล่าบ่นขณะที่เขากำลังหยิบบัตรเครดิตออกมา
ลี กอน แทบไม่เชื่อหูของเขา ‘ช่วงพัฒนางั้นหรอ’ เขาเลยเข้าใจได้ว่าพวกนั้นจำเขาไม่ได้เลย เขาดูเหมือนอย่างกับขอทาน แต่พวกเขาพูดได้ยังไงว่าเขากำลังผ่านช่วงพัฒนาของเขา ลี กอน มองภาพสะท้อนของเขาที่อยู่บนช้อน และสายตานั่นก็ทำให้เขาสะดุ้ง
“!”
เขาเริ่มจะจริงจังขึ้น “นี่! เอากระจกมาให้ฉัน!”
สื่งที่ ลี กอน ขอทำให้ทุกคนงง แต่พนักงานก็ยื่นกระจกให้เขา เมื่อ ลี กอน ได้เห็นหน้าของตัวเอง สิ่งที่กระจกสะท้อนกลับมาก็ทำให้เขาถึงกับช็อค
‘นี่มันบ้าอะไรวะเนี่ย! เขาไม่เห็นสัตว์ประหลาดหน้าเกลียดอยู่ในกระจก และไม่เห็นชายวัยกลางคนที่ดูแก่กว่าเขา อย่างมากที่สุดเขาแค่ดูเหมือนคนที่อายุยี่สิบต้นๆ เขาดูเหมือนชายวัยรุ่นปลายๆ มันไม่ใช่แค่นั้น
‘หน้าฉัน…’
ใช่ ใบหน้าตรงหน้าของเขาคือใบหน้าเดิมของเขาที่เขาเคยมีมาก่อนที่ร่างกายของเขาจะถูกทำลาย!
เขาเคยรู้สึกอับอายใบหน้าของตัวเองในอดีตที่เขาพยายามจะพูดคุยกับเหล่าเซนต์ทั้งสิบสอง
‘นี่คือฉันในตอนนั้นจริงๆ’ ลี กอน รีบถอดถุงมือและถอดเสื้อออก
พนักงานพาร์ทไทม์เขินหน้าแดงด้วยความประหลาดใจเมื่อได้เห็นกล้ามหน้าท้องของเขา แต่ยังไงก็ตาม ตอนนี้ ลี กอน ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลย
ร่างกายที่เคยถูกแทง แตกหัก เสียหายจนทำให้เขาหายใจลำบาก ตอนนี้กลับหายดีแล้ว
‘ฉันน่าจะรู้สิ’
ส่วนของร่างกายที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดตลอดเวลาตอนนี้ก็ไม่เป็นอีกแล้ว!เขาคิดว่ามันเป็นเพราะประสาทสัมผัสเขายังบกพร่อง ถึงจะยังไงก็ตาม แต่มันไม่ใช่เพราะแบบนั้น
‘ร่างกายของฉันฟื้นฟูงั้นหรอ’ ไม่สิ! ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะบอกว่าร่างกายฉันมันฟื้นฟู ‘เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย’
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่าง
ลี กอน คิดว่าเขากำลังได้ยินอะไรบางอย่าง
[คุณผ่านประสบการณ์แห่งความตาย!]
[ค่าสแตทที่มีอยู่ทั้งหมดจะถูกถ่ายโอนเข้าสู่ร่างใหม่!]
[คุณสามารถใช้พลังของ serpent bearer ได้แล้ว!]