The Return of The Disaster-Class Hero การกลับมาของฮีโร่ระดับหายนะ - ตอนที่ 4 พวกแกสนุกมากมั้ยตอนที่ฉันไม่อยู่น่ะ
- Home
- The Return of The Disaster-Class Hero การกลับมาของฮีโร่ระดับหายนะ
- ตอนที่ 4 พวกแกสนุกมากมั้ยตอนที่ฉันไม่อยู่น่ะ
ตอนที่ 4 พวกแกสนุกมากมั้ยตอนที่ฉันไม่อยู่น่ะ
ลี กอน ตบไปที่หูของตัวเองเมื่อเขาเริ่มได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคย
ปั้ง!
ทุกคนมองไปที่เขาด้วยความตกใจ มันต้องเจ็บแน่เลย แต่ถ้าทีของเขาดูไม่เจ็บปวดเลยสักนิด
‘นี่ฉันไม่ได้ฝันไปหนิ’
เขาได้ยินเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมา อย่างไรก็ตาม เสียงนั้นเป็นเสียงที่เขาไม่คุ้นเคย มันเป็นเสียงที่เขาไม่เคยได้ยินเลยหลังจากที่ได้เป็นผู้ตื่นของพลังคนที่สิบสาม ลี กอน มองไปรอบๆตัวเขา แต่เสียงประหลาดนั่นก็ยังคงพูดต่อไป
[คุณได้ทะลวงผ่านกับดักมรณะมาแล้ว]
[คุณได้บรรลุ ‘ความสำเร็จที่เป็นไปไม่ได้’]
[คุณได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าของรังของ ]
[ความสำเร็จทั้งหมดของคุณในหอคอยจะถูกแปลงเป็น EXP และเนื่องจากคุณได้รับ EXP เป็นจำนวนมาก การแปลงเลยจำเป็นจะต้องใช้เวลาเล็กน้อย…การแปลงเสร็จสมบูรณ์!]
[คุณได้พัฒนาสกิลศักดิ์สิทธิ์อันใหม่]
[สกิลศักดิ์สิทธิ์นี้จะสามารถใช้งานได้ในทันที!]
[สกิลขั้นสูงและคุณสมบัติทั้งหมดของคุณได้วิวัฒนาการขึ้นแล้ว!]
ทันทีที่เสียงนั้นหยุดลง ก็มีสิ่งที่น่าอัสจรรย์เกิดขึ้น
แสงจ้า!
รูปร่างแปลกๆที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนกำลังเรืองแสงและปรากฎขึ้นบนฝ่ามือข้างซ้ายของ ลี กอน เมื่อเขามองแวบหนึ่ง มันก็ดูเหมือนงูที่กำลังขดอยู่ ขณะที่ ลี กอน จ้องมองขึ้นไปก็มีข้อความแปลกๆปรากฎขึ้นเหนือมัน
[ลี กอน : มนุษย์]
[ตำแน่งผู้ครอบครองอสรพิษแห่งจักรราศีที่ 13 โอฟิอูคัส ]
[ชื่อของผู้ตื่นของพลัง : บุรุษผู้พิชิตทุกสรรพสิ่ง]
[ลักษณะส่วนตัว : อัจฉริยะที่แสนประหลาด, ปรมจารย์ช่างฝีมือ, ดวงตาสุดวิปลาส, ผู้ลงโทษในตนเอง, จิตสัมผัสที่ยอดเยี่ยม >> ความคล่องแคล่วของเทพเจ้า]
[สกิลระดับสูง]
[สุดยอดทักษะการสังเกตุ (เลเวล 99) >> การจ้องมองของพระเจ้า]
[เวิร์กชอปห้องเดียว (เลเวล 99) >> เวิร์กชอปการสร้าง]
[สัมผัสเหนือธรรมชาติ (เลเวล 99) >> สัมผัสที่ 13]
[สัญชาตญาณกระทิง (เลเวล 99) >> สัญชาตญาณการฆ่าตัวตาย]
[ครอบครัว : ไม่มี]
[วิหาร : ไม่มี]
[สกิลศักดิ์สิทธิ์ของผู้ถือครองอสรพิษ]
[(1/???)]
[การฟื้นฟูขั้นสูง (ระดับ F) : (พลังงานไม่เพียงพอ)]
-ร่างกายของคุณเพิ่งได้รับการเปลี่ยนแปลงจากสภาพที่น่ากลัว
– เนื้อเยื่อที่หายไปของคุณถูกกู้คืนกลับมาสู่สถานะพื้นฐานแล้ว
– เซลล์ที่แก่ชราของคุณได้รับการสร้างขึ้นใหม่ให้เป็นสถานะพื้นฐานแล้ว
– มีสิ่งแลกเปลี่ยนเล็กน้อยสำหรับคุณเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงร่างกายของคุณได้เสร็จสมบูรณ์!
– บทลงโทษ : ลดความสามารถทางกายภาพลง 50%! (เวลาที่เหลืออยู่: 1,032 ชั่วโมง)
ทันทีที่ ลี กอน หยุดดูที่มัน สถิติและข้อมูลนั่นก็หายไป เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ในไม่ช้าเขาก็เริ่มมีลางสังหรณ์ ‘นี่คือระบบศักดิ์สิทธิ์ที่สิบสองคนนั่นพูดถึงมั้ยนะ’
เมื่อมนุษยชาติกำลังจะพ่ายแพ้ต่ออารยธรรมที่ไม่ทราบชื่อ สิ่งมีชีวิตลึกลับก็ได้ปรากฏตัวขึ้นจากสิบสองจักรราศีบนท้องฟ้า
ร่างสวรรค์ทั้งสิบสองนี้มอบพลังให้กับมนุษย์ และพวกเขาก็บอกให้มนุษย์ต่อสู้กับปีศาจโดยใช้พลังเหล่านี้
มนุษย์เหล่านั้นถูกเรียกว่า เซนต์สิบสองราศี
พวกเขาทั้งสิบสองคนนี้บอกว่าพวกเขารับใช้พวกจักรราศีและถูกเรียกว่า เซนต์จักรราศี
ลี กอน มักจะหัวเราะออกมาด้วยเสียงดังเสมอเมื่อเขาได้ยินคำนี้
‘ร่างสวรรค์งั้นหรอ ไอ้เวรเอ้ย! พวกโง่นั่นคงเข้าใจผิดว่าตัวเองเป็นผู้รับใช้แล้วก็เป็นเซนต์สินะ’
สิ่งนี้มันก็เริ่มสมเหตุสมผลเมื่อเขาได้พิจารณาว่าบุคคลทั้งสิบสองคนนี้ได้รับพลังจากเหล่าจักรราศีที่เป็นผู้อุปถัมภ์ของพวกเขามาได้ยังไง และเหล่าจักรราศีทั้งสิบสองก็ต้องเรียกร้องราคาบางอย่างเป็นค่าตอบแทน มันจึงทำให้เกิดบุคคลทั้งสิบสองคนนี้ที่ถูกเรียกว่า ผู้พิเศษ แต่มันไม่ใช่แบบนั้น
‘นี่มันแปลกมาก ‘พวกนั้นไม่เคยพูดว่ามันเห็นข้อความแบบนี้ได้’
ยิ่งกว่านั้น ทั้งสิบสองคนไม่เคยบอกเลยว่าพวกเขาสามารถเห็นข้อมูลหรือรายละเอียดพวกนี้ได้ ตามที่พวกนั้นเคยบอก ข้อความพวกนี้จะเป็นการแจ้งเตือนทางเดียวที่จะได้รับจากพวกจักรราศี ข้อความของพวกจักรราศีนี้จะเป็นเหมือนคำสั่งที่คอยเรียกร้องให้ทั้งสิบสองคนออกปฏิบัติหน้าที่ตามความต้องการของพวกเขา และทั้งสิบสองคนก็ต้องยอมรับคำขอเหล่านี้ นี่ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะบอกว่าทั้งสิบสองคนเป็นผู้รับใช้ของจักรราศีจริงๆ
‘อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าร่างกายฉันจะผ่านการเปลี่ยนแปลงบางอย่างจากสกิลศักดิ์สิทธิ์’
สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนเลยก็คือสกิลของเขานั้นดีกว่าของคนอื่นๆ และสกิลดั้งเดิมของเขาก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน แต่ยิ่งไปกว่านั้น
ลี กอน ที่ตระหนักถึงเรื่องนี้ เขาก็ยิ่ง งง
‘ทำไมฉันไม่รู้สึกว่าจักรราศีของฉันปรากฎขึ้นมาล่ะ’ ลี กอน กำลังนึกถึงความรู้สึกที่เขารู้สึกเมื่อตอนที่อยู่กับพวกคนทรยศทั้งสิบสองคนนั่น และเขาก็ไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับราศีที่ 13 ที่อยู่ในข้อความนั้นเลย
‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น’
เมื่อเขานึกถึง มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่อาจจะเป็นไปได้
‘มีกลุ่มดาวซ่อนอยู่ที่ไม่รวมอยู่ในสิบสองจักรราศีหนิ’
เขากำลังสงสัยว่าเขาพลาดการปรากฏตัวของจักรราศีของเขาหรือไม่ เขาเลยตั้งสมาธิอีกครั้ง
‘อย่างที่คิดไว้เลย ฉันสัมผัสได้แค่สิบสองเท่านั้น’
ไม่มีทางที่เขาจะสัมผัสได้ถึงความชั่วร้ายของพวกเขา!
นี่หมายความว่าจักรราศีไม่ได้อยู่กับตัวของเขา ยิ่งไปกว่านั้น เสียงก่อนหน้านี้บอกว่าเขาได้พัฒนาสกิลศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเขาเอง ไม่ได้มีใครมอบมันให้เขานั่นเลยเป็นเหตุผลที่เขาคิดว่ามันแปลก
‘ถ้าอย่างนั้นเป็นไปได้ไหมที่จะใช้สกิลศักดิ์สิทธิ์ โดยที่ไม่ทำสัญญากับหนึ่งในเหล่าจักรราศี’ สิ่งนี้ไม่ได้เป็นปัญหากับลี กอนเลย เพราะตั้งแต่เริ่มต้น เขาก็ได้ตื่นขึ้นเองโดยธรรมชาติโดยปราศจากการอุปถัมภ์จากเหล่าจักรราศี เพราะแบบนั้น ข้อมูลพวกนี้จึงไม่ทำให้เขาประหลาดใจมากนัก ไม่ว่ามันจะเป็นสกิลหรือเวทย์มนตร์อะไรของเขา เขาก็ไม่ได้รับมันมาจากเหล่าจักรราศี
‘สิ่งที่แน่นอนอีกอย่างคือฉันตาย การที่ฉันทำอย่างนั้น ฉันก็จะได้สนองความต้องการบางอย่างของฉันแล้วล่ะ’ ดูเหมือนว่า ลี กอน จะไม่จำเป็นต้องเอาชนะเพื่อนจอมหลอกลวงของเขา เหนือสิ่งอื่นใด… ‘ฉันไม่มีเหตุผลที่จะต้องรีบไปโค่นไอ้พวกชั่วนี่’
ลี กอน เงยหน้าขึ้นด้วยใบหน้าดุร้าย ดูเหมือนว่าเขากำลังจะหัวเราะ แต่รอยยิ้มของเขาเหมือนเป็นรอยยิ้มที่มีเจตนาอยากจะฆ่าใครสักคนอยู่
เขาคงไม่ลืมความรู้สึกของใครบางคนที่ผลักหลังเขาไปได้ง่ายๆแบบนั้นหรอก
‘ฉันแน่ใจว่าเป็นคนแน่ๆที่ยืนอยู่ใกล้ฉันตอนนั้น’ เขารู้สึกสงสัย เมื่อทุกอย่างมันกลับกลายเป็นแบบนี้ ในใจของเขาก็ตั้งมั่นว่า ‘อย่างน้อยที่สุด ฉันจะต้องฆ่าไอ้คนที่มันผลักฉันให้ได้’
ลี กอน ไม่ได้อยากให้คนร้ายตายอย่างรวดเร็ว แต่เขาต้องการทำให้คนๆนั้นรู้สึกทรมาณเหมือนกับอยู่ในนรก อย่างไรก็ตาม ก่อนอื่นเขาต้องค้นหาว่าใครเป็นเป็นคนทำเขา ส่วนเขาจะทำอะไรกับคนอื่นๆที่เหลือ คำตอบจะขึ้นอยู่ว่าพวกนั้นเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดที่ทำแบบนั้นกับเขาหรือไม่
‘ฉันอยากขอบคุณสำหรับสิ่งที่พวกนั้นทำนะ’
ดวงตาของ ลี กอน เป็นประกายแบบน่ากลัว ผิวหนังของเขาที่ดูน่ากลัวเพราะมีแต่รอยไหม้ในตอนนี้กลับอ่อนนุ่มราวกับผิวเด็ก เขายังรู้สึกว่าตอนนี้เขาตัวเบากว่าเขาในตอนแรกซะอีก มันรู้สึกแปลกที่ถูกเปลี่ยนจากคนแก่ให้กลายเป็นชายหนุ่ม ร่างกายของเขาที่อายุเจ็ดสิบปีได้หายไปแล้ว ดังนั้นไม่อะไรที่ ลี กอน ค้องเสียดายที่ได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลย
ต่อให้พวกนั้นไม่ใช่คนที่สมรู้ร่วมคิดแลัวก็ร่วมมือล่ะก็…
‘ก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกนั้นจะทำยังไง ฉันจะให้อภัยพวกนั้นสักนิดนึงละกัน…’ อย่างไรก็ตาม ความคิดนั้นก็เกิดขึ้นแค่แปปเดียว
“ไม่มีทางหรอน่า! ไม่มีทางที่ ลี กอน นิม จะยังมีชีวิตอยู่!”
นักล่าพูดตะโกนขณะที่พวกเขากำลังดูอะไรบางอย่าง “ถ้ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ออกจากที่นั่นมันก็ต้องเป็นพวกปีศาจแน่ๆ ไอ้โง่เอ้ย!”
พวกเขาคร่ำครวญออกมาเมื่อได้อ่านบทความบนสมาร์ทโฟน ลี กอน เอียงคอเพื่อดูว่าพวกเขากำลังดูอะไรอยู่ เด็กหนุ่มเลยยื่นโทรศัพท์ให้ ลี กอนดู ลีกอนที่พึ่งเคยเห็นสมาร์ทโฟนครั้งแรกก็สะดุ้งด้วยความประหลาดใจ
‘นี่มันอะไรกันวะเนี่ย’ ในฐานะคนที่มาจากปี 2005 เขาตกใจกับสมาร์ทโฟนมาก แต่อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่สิ่งที่สำคัญในตอนนี้
“เฮ้! ลองคิดดูสักนิดเส้ จากคอมม่อนเซนส์เลยนะ นายคิดว่ามันเป็นไปได้รึไงที่จะอยู่รอดในหอคอยนั่นได้ตั้งยี่สิบปีน่ะ” นักล่ายังคงอธิบายต่อไป
ลีกอน สะดุ้งกัยหน้าจอโทรศัพท์เครื่องนั้นที่เต็มไปด้วยข้อความที่น่าตกใจ
ในขณะนั้น ลี กอน ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เขากำลังอ่านอยู่ ‘ยี่สิบปีงั้นหรอ’
เขารีบหันไปมองข้างนอกและจ้องมองไปที่ถนนที่อยู่ด้านหน้าโลโก้ Kimbap Heaven
เขาพึ่งตื่นขึ้นที่นี่เลยไม่มีโอกาสได้มองไปรอบๆ แต่เห็นได้ชัดว่าข้างนอกตอนนี้มันเป็นฤดูร้อน
แน่นอนเลยล่ะ เวลาที่ผ่านไปต่างกันทั้งในและนอกหอคอย นั่นคือเวลาก่อนที่เขาจะเริ่มการโจมตี เขาหยิบไอเทมที่สามารถบอกความแตกต่างของเวลาได้ขึ้นมา ถ้าสิ่งที่เขาคิดถูกต้อง เวลาก็น่าจะผ่านไปแค่ 5 ปีนอกหอคอย มันจะ 20 ปีได้ยังไง? ‘นี่มันบ้าไปแล้ว’
ถ้าเป็นยี่สิบปีจริงๆ เขาก็จะไม่ถูกแจ้งแค่ว่าหาย แต่จะถูกบอกว่าตายแล้วแน่ๆ! ดูเหมือนว่าเขาจะใช้เวลานานกว่าที่เขาคาดไว้ในการค่อสู้กับพวกปีศาจ
เด็กหนุ่มดูการจ้องมองของ ลี กอน ราวกับว่าเขามีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากนั้นเด็กหนุ่มก็ถาม ลีกอน อย่างกระตือรือร้นว่า “คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้มั้ยครับ เห็นคุณมาจากทางหอคอยหนิ”
ชายอีกคนเยาะเย้ยเด็กหนุ่ม “มันก็จริงอยู่ว่าโลกคิดถึงวีรบุรุษ แต่นายเป็นแฟนตัวยงของ ลี กอน เลยนะ นี่นายบอกไม่ได้รึไงว่าที่พวกเขาคอมเมนต์มันคืออะไรน่ะ”
“เอ๊ะ? แต่ถึงอย่างนั้น….”
“คอมเมนต์กันสนุกปากเลยนะ พวกนักข่าวขยะพวกนั้นคงจะสนุกมากแน่ๆ” ชายคนนั้นกล่าว
ลี กอน เลื่อนโทรศัพท์ลงมาเรื่อยๆ นี่มันเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ
– บางทีเขาอาจจะกำลังหลับอยู่ก็ได้
└ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
└ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
└ บ้าไปแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ หยุดพูดเรื่องล้อเล่นได้แล้วน่า ฮ่าๆๆๆๆ
– พวกนั้นมันทำบ้าอะไรกันหลังจากได้เงินสนับสนุนนั่นกันนะ
└ เราจะกู้คืนดินแดนทั้งหมดของเราได้มั้ยครับถ้าหาก ลี กอน ยังอยู่ที่นี่
└ㅇㅇเขาสุดยอดมากแม้ว่าเขาจะอยู่ตัวคนเดียว เขาเหนือกว่าเหล่าอัครสาวกทั้งสิบสองซะอีก
└ ไร้สาระน่า เขาเทียบกับอัครสาวกทั้งสิบสองไม่ได้หรอก
└ ทำไมเขาจะเทียบไม่ได้ล่ะ
└ ㄴㄴ เขาไม่ใช่ตัวหลักสักหน่อย ไม่ต้องสนหรอกน่าว่า ลี กอน มันจะเป็นยังไง สุดท้ายแล้วเซนต์สิบสองราศีก็เป็นผู้ที่สังหารเรดอาย
└ㅇㅇเซนต์ราศีสิงห์จากอเมริกา เป็นคนตัดหัวมัน!
└ เขาบอกว่า ลี กอน แค่ช่วยทำให้พวกมันอ่อนแอลง ฮ่าๆๆ
– เรดอายเป็นปีศาจที่น่าทึ่งจริงๆเหรอ
└ มันแข็งแกร่งมาก ถ้าเจ้านั่นมันยังไม่ตาย มนุษยชาติก็คงถูกกำจัดไปตั้งแต่ยี่สิบปีที่แล้วแล้ว
└ อย่างไรก็ตาม… เซนต์ทั้งสิบสองก็เป็นคนที่ฆ่าบอสในหอคอยปีศาจ >>>>>>> ช่องว่างขนาดใหญ่ >>> ลี กอน
– มีทฤษฎีหนึ่งนะที่บอกว่า ลี กอน เป็นคนฆ่าบอส
└ นี่คุณเชื่อแบบนั้นจริงๆหรอ ฮ่าๆๆๆๆ
└ แฟนบอยของ ลี กอน ที่กำลังสิ้นหวังทุกคนต่างก็เชื่อในสิ่งที่อยู่หนังสือพิมพ์ทั้งนั้นแหละ ฮ่าๆๆๆๆๆ
└ อะไรนะ ข่าวนั่นอาจจะถูกต้องงั้นหรอ
ㄴㄴ ข้อเท็จจริงก็คือทั้งสิบสองคนเอาชีวิตรอดออกมา แต่ ลี กอน เสียชีวิตด้วยตัวเขาเองยังไงเล่า
└ เซนต์ทั้งสิบสองคนฆ่าเรดอาย ไชโยให้กับวีรบุรุษของมนุษยชาติ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในร้านอาหารทันที
“ขะ ขอโทษนะครับ” เด็กหนุ่มพูดด้วยความประหม่า
ลี กอน เต็มใจที่จะมองข้ามความจริงที่ว่าเวลาผ่านไปยี่สิบปีแล้ว ถ้าบอกตรงๆก็คือมันทำให้รู้สั่นคลอน แต่มันก็ยังดูสมเหตุสมผล แต่เขายังรู้สึกขอบคุณมากที่มันผ่านไปแค่ยี่สิบปีเมื่อเขาได้ลองคิดว่าเขาถูกขังอยู่ในหอคอยนั่นมานานแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อมูลอื่นๆก็…
‘ใครฆ่าเรดอายงั้นหรอ’ เปลวไฟปะทุขึ้นในดวงตาของ ลี กอน ไอ้พวกนั้นมันหนีหางจุกตูดเลยต่างหากเล่า! ‘ไอ้พวกปรสิตเอ้ย’
เด็กหนุ่มที่ให้เขายืมมือถือของเขารู็สึกกระสับกระส่าย แต่ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ลี กอน มีความคิดบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าเขาได้เห็นข้อมูลที่ซับซ้อนมากมายนี้ในช่วงแค่เวลาสั้นๆเท่านั้น มันพอให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนแท้จริงยิ่งขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ยากเกินไปที่จะเชื่อมโยงจุดต่างๆเข้าด้วยกัน
‘ไอ้พวกนั้นบอกว่าตัวเองเป็นคนฆ่าเรดอายแล้วก็ทำตัวเหมือนกับว่าตัวเองเป็นวีรบุรุษตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมางั้นหรอ มันเป็นแบบนี้เองสินะ’ ลี กอน หัวเราะด้วยความขยะแขยง เขาดูน่ากลัวจนทำให้คนที่ดูเขาแทบจะกัดลิ้นตัวเองด้วยความกลัว ลี กอน หัวเราะเยาะให้กับความโง่เขลาของคนพวกนั้น
‘ใช่ เก่งจังเลย’ เก่งกันจริงๆ เขาขายข่าวไอ้พวกชั่วนี้ในเพื่อหากำไรงั้นหรอ
‘อย่างแรกเลยนะ ฉันจะหักฟันพวกมันแล้วก็แก้เรื่องทุกอย่างให้มันถูกต้องซะ…’ ในขณะนั้น…
– เกาหลีถือเป็นดินแดนที่อยู่ในอันดับที่ต่ำที่สุด พวกเขาไม่มีเซนต์ที่สามารถยืมพลังของสิบสองจักรราศีราศีได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาคิดนี้กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพราะมีข่าวลือว่า ลี กอน ยังมีชีวิตอยู่ นี่คือเหตุผลที่โลกให้ความสำคัญกับเกาหลีมากยิ่งขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ชมควรสนใจ
– งั้นหรอ?
– มันเป็นเรื่องของโชคชะตาของ ลี กอน คุณยังจำพินัยกรรมที่เซนต์คนที่สิบสามเขียนทิ้งไว้ได้มั้ย
ดวงตาของ ลี กอน หันกลับมาเมื่อเขาได้อ่านเรื่องราวที่ไม่คาดคิด
‘พินัยกรรมงั้นหรอ’ แน่นอนเขาไม่รู้เลยว่าเขาจะตายเมื่อไหร่ เพราะแบบนั้นเขาเลยทำพินัยกรรมผ่านสำนักงานกฎหมายเอกชนไว้ ‘ทรัพย์สินของฉันควรจะได้บริจาคให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นทุนการศึกษาสิ…’
– พินัยกรรมของเขาบอกว่า “ฉันต้องการจะมอบทรัพย์สินและเงินทองทั้งหมดของฉันให้กับเซนต์ทั้งสิบสองคนเพื่อเอาไว้ช่วยมนุษยชาติ ฉันหวังว่าพวกเขาจะใช้มันเพื่อประโยชน์ของพวกเขาให้ดีที่สุด”
ลี กอน ยิ้มอย่างสดใส ใช่ เขาตัดสินใจแล้ว “ฉันจะฆ่าพวกมันให้หมด” ให้อภัยงั้นหรอ เขาไม่สนใจเรื่องนั้นเลยสักนิด
ตาของเขาเป็นประกายเมื่อเขาส่งโทรศัพท์คืนให้กับเด็กหนุ่ม “เฮ้ เจ้าหนู”
“ครับ เรียกผมเหรอครับ” นักล่าหนุ่มถาม
ลีกอนตอบ “ใช่! โทรหาคนคนหนึ่งให้ฉันที”
“จะ จะให้โทรหาใครหรอครับ”
“ฉันมีในใจอยู่คนหนึ่งน่ะ เขาจะเป็นคนแรกที่จะได้รับการลงโทษจากสวรรค์เลยล่ะ”
ผ่านไปครู่หนึ่ง เด็กหนุ่มก็ยื่นโทรศัพท์ให้ ลี กอน อีกครั้ง เมื่อ ลี กอน ยกโทรศัพท์แนบหู เขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยที่เป็นเวลากว่ายี่สิบปีแล้วที่เขาไม่ได้ยินเสียงนี้