[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า - ตอนที่ 8
ฉันวิ่งหนี วิ่งหนีมาเรื่อยๆ
ฉันทิ้งคุณพ่อ ทิ้งคุณแม่ ทิ้งเพื่อนๆ ทิ้งเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ไว้ข้างหลัง
ฉันวิ่งลึกเข้าไปในป่าอย่างสุดชีวิต คอยหลบพวกสัตว์ป่าที่ออกมาขวางทางเป็นบางครั้ง บางครั้งก็จำเป็นต้องล้มพวกมันลง แล้วออกวิ่งต่อ
ฉันวิ่งมาตลอดเป็นชั่วโมง เหนื่อยหอบจนหายใจไม่เข้าปอด ใช้ศักยภาพทางกายที่สูงตามธรรมชาตินั่นวิ่งจนกระทั่งมาถึงหน้าผา
“ฮะ…ฮะ…ฮะ…”
ทันทีที่ฉันหยุดวิ่ง ความเหนื่อยล้าทั้งหมดก็กลับมาจนทำให้ฉันทรุดลงตรงนั้นอย่างห้ามไม่ได้
ทำไมเรื่องพวกนี้ถึงเกิดขึ้นกันล่ะ? วันนี้เป็นวันที่สงบสุขแท้ๆ เหมือนอย่างทุกวัน จนกระทั่งเมื่อเช้า
“…คุณพ่อ…คุณแม่…”
ฉันหวังว่าทั้ง 2 ท่านจะยังปลอดภัย ฉันอยากให้ทั้งคู่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่ายังไงก็ตาม
แต่เสียงที่ดังก้องในหัวนั่นก็ทำลายความหวังเล็กๆ ของฉันลงจนไม่เหลือซาก
*เงื่อนไขครบถ้วนสมบูรณ์ คุณได้วิวัฒนาการเผ่าพันธุ์ขึ้นเป็น [แวมไพร์ลอร์ด]*
“…เอ๋?”
ใช้เวลาหลายวินาทีอยู่กว่าฉันจะเข้าใจความหมายของคำๆ นั้น
แวมไพร์ลอร์ดไม่สามารถมีปรากฏตัวเกิน 2 ตนในเวลาเดียวกันได้
และเพราะมันคือ ‘การวิวัฒนาการเผ่าพันธุ์’ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเลิกเป็นหัวหน้าเผ่าและส่งตำแหน่งนั้นให้แวมไพร์ตนอื่นได้ ไม่งั้นจะเกิด ‘การวิวัฒนาการถดถอย’
และแวมไพร์ลอร์ดนั้นต้องมาจากการแต่งตั้ง แวมไพร์ลอร์ดในแต่ละรุ่นนั้นจะถูกเลือกไว้ก่อนแล้วว่าใครจะได้เป็นหัวหน้าเผ่ารุ่นต่อไป และทันทีที่หัวหน้ารุ่นก่อนตายลง แวมไพร์ที่ถูกเลือกไว้ก็จะได้รับการแต่งตั้งเป็นแวมไพร์ลอร์ดรุ่นต่อไป
ใช่ มีแค่กรณีที่ ‘หัวหน้ารุ่นก่อนตายลง’ เท่านั้นจึงจะทำให้สถานะแวมไพร์ลอร์ดสิ้นสุดลงได้
หรือก็คือ…ตอนนี้…คุณพ่อของฉันตายแล้ว
แต่ไม่ใช่แค่นั้นสิ ไม่มีทางที่คุณพ่อ ตาแก่งี่เง่านั่น จะเลือกฉันเป็นหัวหน้าเผ่าคนต่อไปในขณะที่ฉันยังเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ แน่นอน
ถ้างั้น คุณพ่อจะเลือกใครให้สืบทอดตำแหน่งล่ะ?
…แน่นอน ก็ต้องคุณแม่อยู่แล้ว
ถึงอย่างงั้น เผ่าพันธุ์ของฉันก็วิวัฒนาการขึ้นเป็น [แวมไพร์ลอร์ด] นั่นหมายความว่า―――ไม่ ฉันไม่อยากพูดออกมาเลย
แสดงว่า ในตอนนี้ ฉันมั่นใจ ฉันเสียทั้งคุณพ่อทั้งคุณแม่ที่รักของฉันไปแล้ว
“อะ…ฮะ…อะ…อาาาาาาาาาา……”
…ทำไมล่ะ?…ทำไมพ่อกับแม่ฉันต้องตายด้วย?
ฉันอุตส่าห์ได้เจอกับที่ของฉันซะที อุตส่าห์ได้เจอกับครอบครัวที่แสนมีค่านี้ซะที
ทำไมพวกนั้นต้องพรากพวกเขาไปจากฉันด้วย?
“อาาาา……อ๊าาาาาาาาาาาา……! คุณแม่…! คุณพ่อ…!”
น้ำตาของฉันไหลออกมาไม่หยุด คุณพ่อคุณแม่ที่เพิ่งคุยกันเรื่องของวันพรุ่งนี้ไปเมื่อวานนั้น ตายหมดแล้ว เหลือฉันรอดอยู่แค่คนเดียว
นี่มันอะไรกัน? ความฝันเหรอ? ถ้ามันเป็นฝันจริงๆ ก็ตื่นซะทีเถอะ ตัวฉัน!
ทำไมกัน? ทำไม? ทำไมล่ะ?
ชาติก่อนของฉัน ฉันถูกรังแก โดนดูถูก แถมยังถูกฆ่า ‘แค่เพราะ’ ความเห็นแก่ตัวของเทพที่ทำไปเพราะเรื่องส่วนตัว
ครั้งนี้ ในชาตินี้ ฉันอุตส่าห์ตัดสินใจจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแท้ๆ
แต่สุดท้าย แค่ความฝันเล็กๆ แค่นี้ ฉันก็ยังมีไม่ได้ยังงั้นเหรอ?
ฉันถูกทรมานจากความโกรธ จากความเศร้า จากความเสียดาย และจากความสิ้นหวัง ฉันร้องไห้อยู่ตรงนั้นอยู่จนเวลากลางคืนมาถึง ร้องไห้จนน้ำตาฉันมันแห้งไปเอง
ฉันร้องไห้ไปจนไม่มีน้ำตาไหลออกมาอีกแล้ว ตอนนั้นก็กลางคืนแล้ว ฉันเลยกลับมาตามทางที่ฉันวิ่งผ่านมา
แวมไพร์เป็นเผ่าพันธุ์ที่ใช้ชีวิตในเวลากลางคืน ถ้าเกิดว่ายังมีแวมไพร์ตนไหนยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาก็น่าจะกลับไปที่หมู่บ้านในเวลาประมาณนี้แหละ
เวลากลางคืนแบบนี้ มนุษย์จะเสียเปรียบในการต่อสู้ เพราะพวกนั้นมองในความมืดได้ไม่ชัด
ถึงจะมีเจ้าพวกนั้นยังอยู่แถวนั้น พวกนั้นก็ต้องเจอกับฉันที่มีพลังจาก [แวมไพร์ลอร์ด] และได้รับการอวยพรจากดวงจันทร์ ฉันน่าจะลากเจ้าพวกนั้นตามฉันไปด้วยได้ ฉันจะไม่ยอมตายเด็ดขาด จนกว่าจะได้ฉีกไอ้คนที่ฆ่าพ่อกับแม่ของฉันเป็นชิ้นๆ
ฉันวิ่ง ใช้เวลาน้อยกว่า 20 นาทีก็เห็นที่ที่หมู่บ้านตั้งอยู่แล้ว ทั้งๆ ที่เมื่อเช้าฉันใช้เวลามากกว่า 1 ชั่วโมงในการวิ่งด้วยระยะทางที่เท่ากันนี้
ฉันไม่ได้ยินเสียงของความวุ่นวายแบบที่ฉันได้ยินเมื่อเช้าเลย
พวกมนุษย์น่าจะทิ้งพวกแวมไพร์เอาไว้ที่นี่ เพราะพวกนั้นน่าจะสัมผัสถึงพวกเราไม่ได้ในเวลานี้ด้วยประสาทสัมผัสที่พวกนั้นมีมา หรือเต็มที่เลย ก็คงทิ้งคนเอาไว้ไม่มากนัก
ฉันเตรียมพร้อมต่อสู้และมุ่งหน้าออกจากป่า ก่อนที่ฉันจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
“อะ…ตรงนั้น…”
นี่มันที่ที่แม่ให้ฉันหนีมานี่นา แต่สภาพพื้นที่นี่เปลี่ยนไปเลย ต้นไม้ทั่วบริเวณหักโค่นลงล้มระเนระนาด แถมมีรอยไหม้อยู่ทั่วไปหมด และก็มีร่องรอยวงกลมประหลาดบนพื้นที่ไม่มีรอยไหม้อยู่เลยซักนิดเดียว หยั่งกับครอปเซอร์เคิล (Crop circle) เลย
แล้วตรงนั้น
ฉันเจอกับ… ร่าง…? เงา…? ของ…
“…! ม- แม่ แม่!!!”
ฉันร้องตะโกนและวิ่งไปหาแม่ ผมของแม่ไหม้เป็นหย่อมๆ ไม่เห็นร่องรอยความสวยที่แม่เคยมีเหลืออยู่เลย แต่ฉันไม่สงสัยซักนิดว่านี่จะต้องเป็นคุณแม่แน่ๆ
“แม่! แม่คะ! คุณแม่!!!”
ฉันใช้แขนโอบร่างของแม่เอาไว้และเขย่าตัว…แล้วฉันก็สังเกตได้
แม่ไม่หายใจแล้ว หัวใจแม่หยุดเต้นแล้ว
…แม่…ตายแล้ว
“อา…อะ…อาาาาา…”
ฉันเตรียมใจมาแล้วนะ ฉันรู้อยู่แล้วว่านี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้น
แต่พริบตาที่ฉันเห็นจริงๆ ฉัน-ฉันก็กลั้นมันเอาไว้ไม่อยู่
“อาาา….อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!”
ทำไม! ทำไมคุณแม่ต้องตาย!
ใคร! ใครที่มันทำกับคุณแม่แบบนี้!
“มัน…ไอ้ผู้ชายคนนั้น!”
ใช่! ฉันรู้! ไอ้นักเวทคนนั้น! ไอ้ผู้ชายที่เรียกตัวเองว่า 12 อัครสาวกหรืออะไรซักอย่างนั่น!
“…ให้ได้…ฉันสาบานต่อเทพเลย! ฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้!”
“…ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ?”
หลังจากที่ฉันตะโกนคำสาบานออกมา ก็มีใครบางคนเรียกฉันจากข้างหลัง
พอหันกลับไป ก็เห็นผู้ชาย 3 คน แต่งตัวคล้ายอัศวินในเกราะสีเงิน ติดตราของซักประเทศนึงอยู่บนอก
―――พวกมนุษย์ที่บุกโจมตีที่หมู่บ้านของฉัน
“อะ? นั่นแวมไพร์เด็กงั้นเหรอ? มีเจ้านี่รอดมาด้วยแฮะ…”
“ไหนๆ…โอ้ จริงด้วยๆ นี่ฉันได้ยินเสียงดังอะไรซักอย่างก็เลยแค่แวะเดินมาดูนะเนี่ย…”
“โอ้พระเจ้า…นั่นซากแวมไพร์ที่ท่านนอร์นฆ่าทิ้งไปสินะ? แล้วนั่นแกจะไปเกาะแกะไอ้ซากนั่นทำไมเล่า ให้ตายเถอะ น่าขยะแขยงชิบ”
“…แกว่าอะไรนะ?”
คุณแม่ ที่ปกป้องฉัน แกเพิ่งจะบอกว่าแม่ฉัน ‘ขยะแขยง’ งั้นเหรอ ดูท่าคลังคำศัพท์ในหัวจะมีน้อยจนหาคำที่มันดีกว่านี้มาใช้ไม่ได้แล้วสินะ ใจกล้าดีนี่ ฉันชอบเลย~
―――ไปตายซะ
ฉันก้าวเท้าและพุ่งตัวหาคนที่กล้ามาบอกว่าแม่ฉันขยะแขยง ก่อนจะ ‘บิด’ คอของเจ้านั่นอย่างไม่ลังเล
“อั่ก…!?”
*ค่าประสบการณ์ของคุณถึงเกณฑ์แล้ว*
*เลเวลของคุณเพิ่มขึ้นแล้ว*
“หวา!?”
“อ- ไอ้เด็กเวรนี่!?”
คนนึงในนั้นฟันดาบใส่ฉัน แต่ฉันก็พุ่งเข้าหาเจ้านั่นก่อนจะทันวาดดาบลงมา ก่อนจะชกเข้ากลางอกไปสุดแรง เกราะอกของมันระเบิดออก อกของมันแทบจะระเบิดตามเกราะนั่นไป
ก่อนที่เจ้านั่นจะกระเด็นไป ฉันก็คว้าตัวไว้ก่อนจะซัดตรงเข้าที่อกซ้ำไปอีก 1 หมัด
ซี่โครงเจ้านั่นแตกละเอียด และแรงกระแทกบดขยี้หัวใจจนแหลกคาที่
“กะอักกกกก!!!”
คนที่ 2 ตายไปพร้อมทิ้งเสียงครางอู้อี้เอาไว้
*ค่าประสบการณ์ของคุณถึงเกณฑ์แล้ว*
*เลเวลของคุณเพิ่มขึ้นแล้ว*
“บ- บ้าน่า…!?”
คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ออกวิ่งหนีไปสุดแรง แต่ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยให้เจ้านั่นหนีไปหรอก
ฉันเข้ากระชับระยะอีกครั้งในชั่วพริบตา ก่อนจะเข้าเตะตัดขา ฉันอยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไงก็เลยลองเตะไปสุดแรงดู ซึ่งนั่นก็ทำให้เกราะขากับกระดูกขาขวาของเจ้านั่นแตกละเอียดไปพร้อมกันทันที
“อ๊าาากกกกก!!!”
หุบปากน่า อย่าส่งเสียงต่ำทรามพรรค์นั้นออกมาสิ
…ก็อยากจะพูดแบบนั้นอยู่หรอก แต่ฉันอยากจะถามอะไรเจ้านี่ซักหน่อย
“เฮ้!”
“อี๊…!?”
“อย่าตะโกน มันหนวกหู แค่ตอบคำถามฉันมา แล้วฉันจะไว้ชีวิตแก”
เอาล่ะ… มาเริ่มการล้างแค้นกันเลย…
TN: อยู่ดีไม่ว่าดีหนอ ไอ้พวกนี้…