การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) - ตอนที่ 45
“ท่านพ่อ! เทราก็อตต์มีเรื่องอยากจะขอท่านครับ! ได้โปรด!”
“ไร้มารยาทที่สุด! เจ้าจะโผล่โพล่งเข้ามาในระหว่างการประชุมแบบนี้ไม่ได้! และเจ้าก็เสียงดังเกินไปแล้ว!”
“เหวออ!!?? ขะ, ข้าขอโทษด้วยครับ!!”
“เห้อ….”
ท่านพี่เทราที่เปิดประตูห้องบัลลังก์ด้วยเสียงดังสนั่นถูกพ่อตะหวาด ในตอนที่เขาถูกตะหวาดแบบนั้นอย่างกระทันหัน, เขาก็กลับออกไปข้างนอกในทันที
มันค่อนข้างน่ากลัวจริงๆ
“แฮ่ก…แฮ่ก……ข้าเข้าไปลุยซะเต็มที่เลยหล่ะ…..”
“ไม่เป็นไรครับ, ทำได้เท่านี้ก็ยอดเยี่ยมแล้ว….”
ว่าแล้วเชียว, คนๆนี้ไม่มีพรสวรรค์เลยจริงๆ
ไอ้คำว่า ‘ลุย’ นี่อธิบายสถานการณ์เมื่อสักครู่นี้ยังไงกัน? เห็นได้ชัดเลยว่าคนที่โดนลุยหน่ะมันท่านพี่เทราไม่ใช่หรอ?
ฟีเน่เองก็ยิ้มแหยๆ
ให้ตายเถอะ….เขาเป็นลูกขององค์ราชินีและหัวของเขาก็ไม่ได้แย่ ถ้าเขาไม่ได้มีนิสัยแบบนี้ฉันคงไม่ประหลาดใจเลยถ้าเขาเข้าร่วมสงครามผู้สืบทอดอย่างจริงจัง
ด้วยความเหนื่อยใจ, ฉันก็เปิดประตูห้องบัลลังก์อย่างเงียบๆ
แน่นอนว่ามีคนคุ้มกันประตูอยู่ด้วยแต่ไม่มีใครพยายามจะหยุดฉันเลย เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของฉัน, ในเมืองหลวงของจักรวรรดินี้คงไม่มีใครไม่รู้หรอกว่านี่คือซิลเวอร์
“ขออนุญาตครับ องค์จักรพรรดิ”
“หืม….ดูเหมือนจะมีแขกที่คาดไม่ถึงมาหานะเนี่ย”
“ข้า, ซิลเวอร์มาที่นี่เพื่อขอเข้าพบองค์จักรพรรดิ”
“เข้าพบอะไรกัน ถ้าเจ้าเดินผ่านประตูปราสาทมาอย่างถูกต้องข้าก็น่าจะได้รับรายงานอะไรมาบ้างไม่ใช่หรอ?”
“พอดีว่ามันเป็นเรื่องเร่งด่วน, ข้าเลยต้องเข้ามาในปราสาทอย่างเสียมารยาท”
“ปราสาทแห่งนี้คือศูนย์กลางของจักรวรรดิ ถ้ามีคนย่างกรายเข้ามาที่นี่โดยไม่ได้รับอนุญาต, การจะถูกตัดสินโทษประหารก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเจ้ารู้รึเปล่า? นี่ไม่ใช่แค่การเสียมารยาทนะ เจ้ามาที่นี่เพื่อฆ่าข้ารึเปล่า? หรือเจ้ากำลังบอกเป็นนัยๆว่าเจ้าสามารถลอบสังหารข้าได้ทุกเมื่อที่ต้องการ?”
“ความระวังของท่านนั้นไม่จำเป็นเลย ถ้าท่านเป็นผู้ปกครองที่เบาปัญญา, ข้าคงไม่สามารถเข้ามาในปราสาทในลักษณะนี้ได้หรอก ผู้ปกครองที่ชาญฉลาดอย่างองค์จักรพรรดินั้นรู้วิธีจัดการกับข้าดีอยู่แล้ว, และท่านก็ต้องมีสิ่งที่ช่วยรับประกันว่าการลอบสังหารท่านนั้นมันเป็นไปไม่ได้ด้วย นี่คือเหตุผลที่ถึงแม้มันจะไร้มารยาท, แต่ข้าก็เลือกที่จะขอเข้าพบท่านอย่างไม่เป็นทางการเช่นนี้ โปรดอภัยให้ข้าสำหรับเรื่องนี้ด้วย”
ชั้นบนของปราสาทดาบหลวง พูดอีกนัยนึงก็คือ, ที่พักอาศัยของจักรพรรดินั้นมีบาเรียที่แข็งแกร่งคอยคุ้มกันอยู่ซึ่งทำให้เวทย์เคลื่อนย้ายไม่สามารถใช้ได้
เมื่อผนวกกับอัศวินหลวงที่คอยคุ้มกันพื้นที่อยู่, ใครก็ตามที่วางแผนจะเข้ามาลอบสังหารในพื้นที่แห่งนี้ก็น่าจะไปให้หมอตรวจสมองซักหน่อยแล้ว
ถ้าฉันลองทำดูจริงๆ, ฉันจะสามารถทำได้รึเปล่านะ? ถึงจะพูดอย่างนั้น, แต่ในปราสาทแห่งนี้มีลูกเล่นต่างๆมากมายที่แม้แต่ฉันเองก็ไม่รู้ มันต้องมีเส้นทางหนีสำหรับกรณีที่มีคนลอบสังหารเก่งๆด้วย ถ้าฉันพลาดโอกาสนั้นแล้วปล่อยให้เขาหนีไปได้, ฉันเนี่ยแหล่ะที่จะกลายเป็นคนที่จะถูกไล่ล่าจนสุดขอบโลก
ฉันไม่มีความคิดที่จะทำเรื่องโง่ๆแบบนั้น
“ถ้าไม่ว่ายังไงก็ยกโทษให้ข้าสำหรับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆก็ได้โปรดยอมยกความผิดให้ข้าด้วยหนี้ที่ท่านเคยพูดเอาไว้ในตอนที่ข้าช่วยชีวิตของท่านเมื่อครั้งก่อน”
“หึ, ก็ได้ ที่เจ้ามาที่นี่ก็เพื่อพูดเรื่องสถานการณ์ทางใต้สินะ?”
“ครับ ความลับของกิลด์ได้รั่วไหลมาถึงจักรวรรดิด้วย ‘สาเหตุบางอย่าง’ ทางกิลด์หวังว่าทางฝั่งจักรวรรดิจะไม่ทำเรื่องที่ไม่จำเป็นกับมัน
ในตอนที่ฉันใช้คำว่า ‘สาเหตุบางอย่าง’, ท่านพ่อก็ยิ้มเยาะ
แบบนี้ก็แสดงว่าเขารู้สินะ ตอนนี้, เอริค, กอร์ดอน, กับซานดร้าได้มาอยู่ต่อหน้าท่านพ่อ หนึ่งในสามคนนี้ต้องเอาข้อมูลมารายงานเขาแน่ๆ
“ใช้คำว่าเรื่องไม่จำเป็นนี่มันค่อนข้างแรงนะ ที่พวกเราพยายามจะช่วยทางใต้มันไม่ได้รึไง?”
“ข้าไม่ได้ใส่ใจตรงจุดนั้น ข้าไม่รู้ว่ากิลด์จะว่ายังไงกับเรื่องนี้แต่ถ้าท่านทำในสิ่งที่ถูกต้อง, ท่านจะสามารถช่วยผู้คนได้มากมายอย่างแน่นอน สิ่งที่ข้ากังวลก็คือว่าท่านจะเลือกทำการตัดสินใจผิดรึเปล่า”
“สมกับที่เป็นนักผจญภัยแรงค์ SS เจ้านี่อวดดีใช้ได้เลยนะ เจ้าเป็นใครกันถึงกล้ามาตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิดสำหรับจักรวรรดิ?”
“สิ่งที่ตัดสินเรื่องนั้นไม่ใช่ข้าแต่เป็นผลลัพธ์ต่างหาก มันเป็นทางเลือกที่ผิดรึเปล่านั้นแค่มองดูก็ชัดเจนแล้ว”
ฉันจ้องตรงไปที่ท่านพ่ออยู่พักนึง
มันอาจจะดูลบหลู่แต่มันก็ยังยอมรับได้เพราะฉันเป็นนักผจญภัยแรงค์ SS ตัวตนของฉันสามารถช่วยเหลือจักรวรรดิให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามมอนส์เตอร์ต่างๆได้ ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นทางใต้ ณ ตอนนี้มาเกิดขึ้นข้างในจักรวรรดิ, ผู้คนก็คงไม่ได้ตื่นตระหนกซะเดี๋ยวนั้นเพราะมีตัวตนของฉันอยู่
นี่คือสาเหตุที่ทำไมการลบหลู่อย่างการจ้องเขาตรงๆแบบนี้ถึงยอมรับได้ เอาเถอะ, มันก็เพราะนิสัยของท่านพ่อด้วยหล่ะ, เขาคงไม่ลงโทษคนอื่นแค่เพียงเพราะทำตัวไม่เคารพตั้งแต่แรกหรอก
“ถ้างั้นข้าขอฟังหน่อยสิ อะไรคือสิ่งที่ถูกและอะไรคือสิ่งที่ผิดอย่างที่เจ้าว่า?”
“ข้าไม่ได้มีหน้าที่อธิบาย ข้าทำตัวเหมือนผู้ส่งสารมามากพอแล้ว จากนี้ไป, มันเป็นหน้าที่ของทั้งสองคนที่อยู่ข้างหลังข้า”
พอพูดจบฉันก็ก้าวถอยออกไป
จากนั้นท่านพี่เทรากับฟีเน่ก็ก้าวขึ้นมาอยู่ข้างหน้าท่านพ่อแทนที่ฉัน
ด้วยความที่รู้จักกับฟีเน่, สีหน้าของท่านพ่อจึงอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย
“เจ้าดูสบายดีนะ ฟีเน่”
“ค่ะ, ฝ่าบาท โปรดอภัยให้ข้าด้วยที่มาขอเข้าพบพระองค์ด้วยวิธีแบบนี้”
“ไม่เป็นไร ถ้าเป็นเจ้าข้าอนุญาตให้มาหาได้ตามที่ต้องการอยู่แล้ว”
เขาดูเหมือนกับพ่อที่ลูกสาวสุดที่รักพึ่งมาเยี่ยม
แต่ไม่ว่ายังไง, ฟีเน่ก็ไม่ได้เด็กจนถึงขนาดเชื่อในคำพูดรักษาหน้าขององค์จักรพรรดิแล้วคิดจะมาเข้าพบองค์จักรพรรดิตามใจชอบ ฉันเองก็ไม่ได้คิดจะใช้เรื่องนี้เพื่อสร้างข้อได้เปรียบของเราในสงครามผู้สืบทอดด้วยซ้ำ
พ่อของฉันเป็นจักรพรรดิที่จะลงโทษคนที่กระทำความผิดไม่ว่าเขาจะชื่นชอบคนๆนั้นมากแค่ไหนก็ตาม ต่อให้เป็นฟีเน่ที่เขาโปรดปราน, เขาก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรที่เอื้อแก่พวกเราเพียงเพราะเรื่องนี้
“ขอบคุณสำหรับความเมตตาของท่านค่ะ”
“ทะ, ท่านพ่อครับ ข้า..”
“เรียกฝ่าบาทสิ เทรา”
“ขอโทษครับ ฝ่าบาทขอข้าเข้าเรื่องเลยนะครับ, ได้โปรดช่วยแต่งตั้งข้าเป็นตัวแทนของท่านแล้วส่งข้าไปทางใต้ด้วยเถอะ”
ในขณะที่ฟีเน่เริ่มทักทายเขาและสร้างเจตคติที่ดีกับเขาในตอนแรก, เจ้าชายลำดับสี่ที่ไม่สามารถอ่านอารมณ์ได้ก็ทำทั้งหมดพังครืนในทันที
เอาเถอะ, เขาคงมองแล้วว่ามันเสียเวลาเปล่าถ้ามั่วแต่พูดอ้อมๆเมื่ออีกฝ่ายเป็นท่านพ่อ แต่ก็นะ, ฉันก็อยากจะคิดแบบนี้อยู่หรอก
“เก็บคำพูดในฝันเอาไว้พูดตอนหลับจริงๆเถอะ เจ้าหมู”
“การเข้ามารบกวนการประชุมไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะโอเคด้วยหรอกนะ”
“ถ้าคิดมาขวางทางข้า, ข้าจะขยี้เจ้าซะ”
ทั้งสามคนที่เงียบอยู่จนกระทั่งตอนนี้ระบายความไม่พอใจของพวกเขาออกมา
การถูกพวกเขาสามคนตำหนิอย่างกระทันหันนั้น, ทำให้ท่านพี่เทราสะดุ้งเล็กน้อยแล้วพูดสวนพวกเขาไป, แต่ว่า, เขาก็ยังคงอ่านอารมณ์ไม่เป็นอยู่ดี
“นะ, น้ำเสียงแล้วก็สายตาของเจ้ายังไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ, คุณซานดร้า…. บางทีนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่เจ้ายังไม่มีใครมาขอแต่งงานรึเปล่า?”
“เจ้าอยากถูกทำเป็นเนื้อบดแล้วเอาไปให้หมูกินรึไง?”
“เหวอ!!??”
พวกเขากล้าพูดเรื่องแบบนั้นออกมาต่อหน้าท่านพ่อเลยหรอ ทั้งสองคนนี่กล้าจริงๆ
ในตอนที่ความตึงเครียดค่อยๆเพิ่มสูงขึ้น, ฟีเน่ก็กระแอมแล้วดึงความสนใจกลับมาที่เธอ
จากนั้น
“ขอข้าพูดได้ไหมคะ?”
“เชิญเลย”
“ขอบคุณมากค่ะ คนที่โน้มน้าวองค์ชายเทราก็อตต์ก็คือข้าเอง ซึ่งเหตุผลที่ข้าทำแบบนั้นก็เพราะว่าการเอากองทัพไปแทรกแซงทางใต้นั้นจะไม่เป็นผลดีกับจักรวรรดิ”
“โฮ่? ฟีเน่พูดเรื่องทางการทหารหรอเนี่ย”
“นี่อาจจะเป็นความคิดตื้นๆของผู้หญิงคนนึงก็ได้ค่ะแต่ช่วยรับฟังหน่อยนะคะ ถึงแม้ว่าจักรวรรดิจะส่งกองทัพไปช่วยกู้สถานการณ์ทางใต้มันก็ยังคงต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะไปถึง ถ้ามังกรทะเลถูกจัดการลงได้ก่อนในระหว่างนั้น, การส่งทหารของพวกเราออกไปก็จะสูญเปล่าและต่อให้ทหารของเราไปถึงทันเวลา, แต่ศัตรูในครานี้คือมังกรทะเล ข้าเกรงว่าต่อให้ส่งกองทัพของเราออกไปก็คงจะกำจัดมันไม่ได้ง่ายๆค่ะ พวกเราไม่ได้ส่งกองทัพไปกำจัดมังกรมาตั้งแต่อดีตกาลแล้ว ซึ่งนี่เป็นเพราะคุณภาพนั้นสำคัญกว่าปริมาณยามเมื่อคู่ต่อสู้เป็นมังกร ดังนั้น, ข้าจึงคิดว่าการส่งองค์ชายเทราก็อตต์ออกไปในฐานะตัวแทนขององค์จักรพรรดิและอนุญาตให้ท่านเอลน่าที่อยู่ทางใต้ใช้ดาบศักสิทธิ์ต่อสู้กับมังกรจะเป็นผลดีกับจักรวรรดิมากกว่าค่ะ”
“ที่ฟีเน่พูดมานั้นมีประเด็นอยู่แต่ก็ตามที่คาดไว้, ฟีเน่ไม่ได้คิดขึ้นมาด้วยตัวเอง ฟีเน่มีแนวคิดที่คล้ายๆกันอยู่แต่เธอคงไม่สามารถนำเสนอประเด็นของเธอออกมาได้อย่างมีเหตุผลแบบนี้
ก่อนที่พวกเราจะมาถึงที่นี่, ฉันได้บอกกับฟีเน่ว่าเธอจะต้องเป็นคนอธิบายเรื่องนี้กับองค์จักรพรรดิ ดังนั้นพวกเราก็เลยให้ลินเฟียคิดประเด็นที่เธอจะสามารถใช้เพื่อโน้มน้าวองค์จักรพรรดิได้ขึ้นมาและให้ฟีเน่เป็นคนนำเสนอ
“อืมม, เข้าใจหล่ะ ก็ฟังดูมีเหตุผลอยู่นะ แต่ว่าฟีเน่ ทำไมข้าถึงต้องแต่งตั้งเทราเป็นตัวแทนของข้าหล่ะ?”
“องค์ชายกับองค์หญิงทั้งสามคนที่อยู่ที่นี่มีสถานะสูงเกินไปค่ะ หน้าที่ของผู้ที่ได้รับมอบหมายในครั้งนี้มีแค่การส่งดาบศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ถ้าพวกเราฝากเรื่องนี้เอาไว้กับหนึ่งในองค์ชายหรือองค์หญิงทั้งสามคน, นี่จะเป็นการสร้างผลเสียต่อชื่อเสียงของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัยค่ะ ข้าขออภัยด้วยแต่ถ้าพวกเราฝากเรื่องนี้เอาไว้กับองค์ชายเทราก็อตต์, พวกเราก็จะไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ค่ะ”
“ที่คุณฟีเน่พูดมามันฟังดูโหดร้ายจังเลยนะ…..แต่ในเมื่อคุณน่ารัก, ข้ายอมยกโทษให้ก็ได้ ถึงยังไงความน่ารักก็คือความยุติธรรมอยู่แล้ว”
“เทรา, เพลาๆลงบ้างเถอะนะ…..”
ด้วยการอดทนกับอาการปวดหัว, ท่านพ่อก็ตักเตือนท่านพี่เทราในขณะที่เอามือกุมขมับ เอาเถอะ, ก็แน่แหล่ะนะที่เขาจะปวดหัว ฉันเองก็ปวดหัวเหมือนกัน
“ฝ่าบาท ข้ามีคำถามนึงอยากจะถามเจ้าหญิงนกนางนวลสีน้ำเงินครับ”
“ข้าอนุญาต”
“องค์หญิงนกนางนวลสีน้ำเงิน ถ้าพวกเราทำตามความคิดของเจ้า, มันก็ได้ผลลัพธ์แบบเดียวกันไม่ใช่หรอถ้าข้านำกองทัพไปพร้อมกับดาบศักดิ์สิทธิ์? ทำไมเจ้าถึงไม่อยากให้พวกเราใช้กองทัพถึงขนาดนั้นหล่ะ? นี่เจ้ากำลังจะพูดเปรยว่าการผนวกกำลังของผู้ใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์กับกองทัพของพวกเราจะพ่ายแพ้ให้มังกรทะเลหรอ?”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ, องค์ชายกอร์ดอน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้ชนะจะเป็นกองทัพของพวกเรา แต่ว่า, มันใช้เวลานานเกินไป ซึ่งก็ถือว่าเป็นโชคดี, ที่พวกเรามีท่านซิลเวอร์อยู่กับพวกเราด้วย ถ้าเป็นท่านซิลเวอร์หล่ะก็เขาสามารถพาตัวแทนกับผู้คุ้มกันลงใต้ได้ในทันทีด้วยเวทย์เคลื่อนย้ายของเขา วิธีนี้จะทำให้ส่งกองทัพของเราไปได้ไวกว่า ยิ่งกว่านั้น, พวกเราก็มีผู้ใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดและนักผจญภัยที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิอยู่ด้วย เมื่อทั้งสองคนนี้รวมพลังกัน, การส่งกองทัพของเราออกไปก็ไม่จำเป็นแล้วถูกไหมคะ และแน่นอนว่า, ชื่อเสียงของจักรวรรดิจะเพิ่มขึ้นทั่วทั้งทวีป, แถมมันยังไม่มีข้อเสียกับจักรวรรดิด้วย”
สมบูรณ์แบบ
ดูเหมือนว่ากอร์ดอนจะพยายามใช้หัวเพื่อเถียงกลับไปอยู่ครั้งนึง อย่างไรก็ตาม, ในสถานการณ์แบบนี้, พวกเขาไม่มีโอกาสชนะหรอก
มันไม่มีวิธีไหนที่จะดึงดูดความสนใจของจักรพรรดิได้ดีไปกว่านี้แล้ว
ไม่มีความเสียหายกับจักรวรรดิและชื่อเสียงของพวกเราก็จะเพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น, เหมือนกับที่ฟีเน่พูดไปแล้ว ด้วยหน้าที่กับแค่ส่งมอบดาบศักดิ์สิทธิ์ของตัวแทน, มันมีแต่จะต้องใช้คนอื่นมาทำหน้าที่แทนเท่านั้น ความภาคภูมิใจและชื่อเสียงของทั้งสามคนสูงเกินกว่าจะมาจัดการเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม
“หลอกลวงกันชัดๆ ชื่อเสียงของจักรวรรดิจะแผ่ขยายไปทั่วทวีปได้ก็แค่ตอนที่พวกเราช่วยเหลือทางใต้ด้วยพลังของพวกเราเองเท่านั้น ขอเถอะเรื่องที่ให้ร่วมมือกับกิลด์นักผจญภัยหน่ะ ถ้ามันเป็นแบบนั้นก็ให้กิลด์นักผจญภัยจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองไปสิ”
“อืมม, เอริค เจ้าคิดว่าไง?”
“ข้าเห็นด้วยกับความคิดของฟีเน่ครับ ทางเลือกนี้จะเป็นประโยชน์กับจักรวรรดิมากที่สุด ถ้าพวกเราทำแบบที่ซานดร้าพูด, ความสัมพันธ์ของเรากับกิลด์นักผจญภัยจะยิ่งเลวร้ายกว่าเดิมและมันจะเพิ่มข่าวลือว่าฝ่าบาทเป็นคนใจแคบด้วย”
สมกับที่เป็นเอริค
เขาประเมินสถานการณ์แล้วกระโดดขึ้นเรือลำที่ชนะในทันที ยิ่งไปกว่านั้น, เขายังฉวยโอกาสโจมตีซานดร้าด้วย
ซานดร้าจ้องเอริคตาเขม็งแต่เอริคไม่สนใจเธอ
ในขณะนั้นเอง, กอร์ดอนก็มองตรงไปที่ท่านพ่อ
“ฝ่าบาท ฝากเรื่องนี้ให้ข้าจัดการเองเถอะ ข้าจะถือโอกาสนี้ชิงภูมิภาคทางใต้มาให้ท่านเอง”
คำพูดของเขาซื่อตรงไม่มีปิดความตั้งใจของตัวเองเลย
กอร์ดอนพูดออกมาว่าเขาจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ในการบุกแดนใต้
เพื่อเป็นการตอบสนอง, ท่านพ่อทำได้แค่ยิ้มอย่างระเหี่ยใจเท่านั้น
“เจ้านี่เป็นคนตรงจังเลยนะ แต่ตอนนี้ข้ายังไม่ต้องการภาคใต้หรอก ถ้าเจ้าอยากได้มันก็ค่อยไปยึดในตอนที่เจ้ากลายเป็นจักรพรรดิ พวกเราจะทำตามข้อเสนอของฟีเน่และถือว่าเป็นการจบเรื่องนี้ ตอนนี้, การยึดภาคใต้ไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้นและก็ไม่มีอะไรที่เราจะได้จากการส่งกองทัพของเราไปด้วย
“แต่ท่านพ่อคะ!”
“เรียกฝ่าบาทสิ, ซานดร้า”
“ชิ! ฝ่าบาทคะ! พวกเราไม่เห็นต้องไปพึ่งพากิลด์นักผจญภัยเลยนี่คะ!”
“ครั้งก่อน, พวกเราได้รับบทเรียนจากการกดดันกิลด์นักผจญภัยมาแล้ว ครั้งนี้, พวกเราจะใช้หน้าของซิลเวอร์และร่วมมือกับกิลด์นักผจญภัย ถึงยังไงเขาก็ลงทุนดั้งด้นมาถึงที่นี่ มันคงจะง่ายขึ้นถ้ามีเอลน่าอยู่กับเจ้าถูกไหม?”
“ครับ, ถ้าข้าลุยคนเดียวคงจะสาหัสแน่ๆ”
“ถ้างั้นก็ถือว่าเป็นอันตัดสิน เทรา, ก้าวออกมาข้างหน้าซะ”
พอพูดจบ, ท่านพ่อก็ถอดแหวนที่นิ้วของเขา
มันคือแหวนเวทมนตร์ที่ถูกส่งต่อกันมาให้จักรพรรดิรุ่นต่อรุ่น มันไม่ได้มีผลพิเศษในตอนที่สวมใส่แต่มันสามารถมอบอำนาจบางส่วนของจักพรรดิให้กับผู้อื่นได้ พูดอีกนัยนึงก็คือ, มันคือสิ่งที่ใช้ในการแต่งตั้งตัวแทน
“เทราก็อตต์ เลคส์ แอดเลอร์, ฟังรับสั่ง จงมุ่งหน้าลงใต้แล้วส่งดาบศักดิ์สิทธิ์ให้กับผู้กล้า”
“รับทราบครับ, ฝ่าบาท”
สมกับที่เป็นช่วงเวลาแบบนี้, เขาไม่ได้เริ่มพูดโพล่งเรื่องแปลกๆออกมา
ฉันถอนหายใจเพราะฉันค่อนข้างกังวล
ในขณะเดียวกัน, ผู้ส่งสารก็เข้ามาในห้องบัลลังก์
“รายงานครับ! มังกรทะเลถูกพบเห็นในราชรัฐอัลบราโทร! ตอนนี้กิลด์นักผจญภัยกำลังตามหาตัวซิลเวอร์อยู่!”
“มาแล้วสินะ…….”
“ข้าจะจัดอัศวินหลวงให้ตามไปคุ้มกันด้วยแต่ว่าซิลเวอร์, ช่วยดูแลลูกชายของข้าด้วย”
“ไว้ใจได้เลยครับ ข้าจะพาเขากลับมาโดยไม่มีรอยขีดข่วน”
“ถ้าข้ากำลังจะมีคนคุ้มกัน, มันคงเยี่ยมไปเลยนะถ้าได้เด็กสาวสวยๆมา”
“ผู้หญิงที่มีความแข็งแกร่งผิดมนุษย์มนาแบบนั้นไม่ใช่สเป็คข้าหรอก”
ถ้าเอลน่าได้ยินหล่ะก็, เธอของขึ้นแน่ๆ
ด้วยความคิดนี้, ฉันกับท่านพี่เทราก็มุ่งหน้าไปที่กิลด์นักผจญภัยสาขาเมืองหลวงของจักรวรรดิ