การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) - ตอนที่ 53
ในห้องบัลลังก์, จักรพรรดิและลูกๆของเขาได้มารวมตัวกัน
ที่นั่น, ลีโอได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และในขณะนี้, ฉันก็กำลังคุกเข่าอยู่ข้างหลังเขาอย่างเงียบๆเผื่อในกรณีที่มีคำถามอะไร
“หลังจากเอาชนะมังกรทะเลได้, ราชรัฐอัลบราโทรกับราชรัฐรอนดิเน่ก็กลับมาทำสัญญาเป็นพันธมิตรกันใหม่ ความขัดแย้งทางใต้น่าจะทุเลาลงไปซักพักนึงครับ”
“อืม, ทำได้ดีมาก ดูเหมือนว่าข้าจะให้งานกับเจ้าหนักกว่าที่คิดเอาไว้นะ แต่ถึงอย่างนั้น, เจ้าก็ยังแสดงให้เห็นถึงทักษะในการกอบกู้สถานการณ์ของเจ้า”
“ขอบใจมากจริงๆ”
ท่านพ่อดูพึงพอใจในขณะที่เขาชื่นชมลีโอ
เอาเถอะ, มันก็แน่แหล่ะนะ
พวกเราไม่ต้องจัดการกับความขัดแย้งทางใต้อีกแล้วและชื่อเสียงของจักรวรรดิก็เติบโตขึ้นจากการเอาชนะมังกรทะเล
แถมราชรัฐอัลบราโทรยังประกาศอย่างเป็นทางการด้วยว่าพวกเขาอยากจะสานสัมพันธ์ทางการทูตกับจักรวรรดิ หลังจากจบเหตุการณ์นี้ก็มีแต่เรื่องดีๆเข้ามา
และเครดิตทั้งหมดก็ต้องยกให้ลีโอ
“ดูเหมือนว่าข้าคงต้องมอบรางวัลให้เจ้าด้วยแล้วหล่ะ ลีโอนาร์ด, เจ้าอยากได้อะไรรึเปล่า? สำหรับความสำเร็จระดับนี้, เจ้าจะขอตำแหน่งรัฐมนตรีก็ยังได้เลยนะรู้ไหม?”
ในตอนนั้นเอง, ใบหน้าของรัฐมันตรีพร้อมกับพวกพี่ๆของเราต่างก็ตัวแข็งทื่อ
เอริคเป็นราชวงศ์คนเดียวที่มีตำแหน่งรัฐมนตรีและท่านพ่อก็พึ่งพูดออกมาว่าเขาจะมอบตำแหน่งที่มีอำนาจเทียบเท่ากันนี้ให้กับลีโอ
แน่นอนว่าการพัฒนานี้สร้างความไม่พอใจให้กับกอร์ดอนและซานดร้าซึ่งเป็นขุมอำนาจที่อยากจะเอาคนของตัวเองเข้าไปนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรี
ส่วนเอริค, สีหน้าของเขาไม่มีอะไรเปลี่ยนแต่สายตาที่อยู่ข้างหลังแว่นนั้นเย็นชากว่าปกติ
อย่างไรก็ตาม, การได้รับอำนาจครึ่งๆกลางๆแบบนี้จะก่อให้เกิดปัญหาโดยไม่จำเป็น, พวกเราอาจจะตกเป็นเป้าโจมตีจากทุกด้านก็ได้
รัฐมนตรีกระทรวงวิศวะกรรมเป็นของเราแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอาคนไปลงตำแหน่งนี้เพิ่มอีก ฉันได้คุยกับลีโอเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว
“ข้ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับข้อเสนอนี้จากท่านนะครับแต่ตัวข้าในตอนนี้ยังไม่เหมาะสมกับหน้าที่ระดับนั้น”
“เข้าใจหล่ะ ถ้างั้นมีอยากอื่นที่เจ้าต้องการไหม?”
ท่านพ่อเองก็ไม่สามารถปล่อยผ่านไปโดยไม่ให้รางวัลได้
ถ้าเขาไม่ทำ, เขาก็จะไม่สามารถให้รางวัลกับความสำเร็จที่รองลงมาจากลีโอได้ ในบรรดาผู้คนที่ถูกเสนอให้รับรางวัลคงทำได้แค่ปฏิเสธเพราะเจ้าชายลีโอนาร์ดเองก็ปฏิเสธ
“ครับ ก่อนที่ข้าจะออกไปทำภารกิจ, ข้าได้ถูกเด็กสาวจากเขตใต้คนนึงขอร้องให้ช่วยตรวจสอบเหตุการณ์ที่หมู่บ้านของเธอ ข้าบอกเธอไปว่าข้าไม่สามารถทำได้เพราะข้าต้องออกนอกประเทศในฐานะทูตแต่เนื่องจากข้าสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย, ข้าก็เลยอยากจะช่วยเธอครับ”
“หืม? นี่เจ้าจะของานเพิ่มเป็นรางวัลหรอเนี่ย เจ้านี่ขยันจริงๆนะ เจ้าเองก็คิดเหมือนกันรึเปล่า? อาร์โนลด์
“ครับ, ข้าเลียนแบบเขาไม่ได้เลย”
“หึ, ก็คงจะจริงนะ แล้ว? เหตุการณ์อะไรที่เธออยากให้เจ้าช่วย?”
“ดูเหมือนว่าผู้คนในหมู่บ้านของเธอจะถูกลักพาตัวครับ”
“ทำไมเธอไม่ไปหาลอร์ดท้องถิ่นหล่ะ, ทำไมเธอถึงเข้าหาเจ้าโดยตรง?”
“…..เธอบอกว่าลอร์ดไม่ยอมเคลื่อนไหวแม้ว่าเธอจะรายงานสถานการณ์ไปแล้วก็ตาม”
“อะไรนะ?”
สีหน้าของจักรพรรดิที่เต็มไปด้วยความสุขจนถึงตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นความขุ่นเคืองในทันที
เมื่อสิบเอ็ดปีก่อน
ท่านพ่อได้รับผู้ลี้ภัยทุกคนมาเป็นประชากรของจักรวรรดิเพื่อต่อต้านข้อเรียกร้องจากจักรวรรดิโซคัล หรือพูดอีกนัยนึงก็คือ, หมู่บ้านทั้งหลายของทุกเผ่าพันธุ์ที่อยู่ในจักรวรรดินั้นได้ถูกยอมรับว่าเป็นหมู่บ้านของจักรวรรดิมาตั้งแต่ตอนนั้น
“หมู่บ้านนั่นสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เนื่องจากเด็กสาวบอกว่าเธอเกิดในหมู่บ้านนั้น, หมู่บ้านก็น่าจะมีอยู่มานานกว่าสิบเอ็ดปีแล้วครับ”
“เจ้าพวกชั่ว! พวกมันกล้าละเลยประกาศิตของข้าอย่างนั้นหรอ!?”
จักรพรรดิที่เดือดดาลลุกขึ้นมาจากบัลลังก์
ทุกคนที่อยู่ในห้องบัลลังก์คุกเข่าลงและขอขมาองค์จักรพรรดิ
นายกรัฐมนตรีฟรานซ์พยายามจะสงบสติอารมณ์ของเขา
“โปรดระงับความโกรธลงก่อนเถอะครับ, ฝ่าบาท”
“จะให้ข้าใจเย็นกับเรื่องแบบนี้ได้ยังไง? เมื่อสิบเอ็ดปีก่อนข้าได้มอบประกาศิตให้กับลอร์ดทุกคน! ข้าบอกไปว่าผู้ลี้ภัยทุกคนถือเป็นประชากรของจักรวรรดิ! และตอนนี้พวกมันก็มาขัดคำสั่งของข้าอย่างโจ่งแจ้ง! การขัดประกาษิตของข้ามันก็เหมือนกับการดูถูกข้านั่นแหล่ะ!”
“พวกเรายังไม่แน่ใจนะครับ นี่คือสาเหตุที่ทำไมองค์ชายลีโอนาร์ดถึงบอกว่าเขาอยากจะตรวจสอบเรื่องนี้”
“ไม่! ข้าจะเป็นหัวหน้าการตรวจสอบนี้เองและถ้ามันเป็นเรื่องจริงข้าจะตัดหัวลอร์ดพวกนั้นซะ!”
“ประเทศจะเดินหน้าด้วยตัวเองไม่ได้นะครับถ้าจักรพรรดิลงไปแทรกแซงปัญหาที่ชายแดนด้วยตัวเองแบบนั้น ได้โปรดฝากเรื่องนี้เอาไว้กับองค์ชายลีโอนาร์ดเถอะครับ, ฝ่าบาท”
คำแนะนำของฟรานซ์สามารถทำให้ความพิโรธของจักรพรรดิสงบลงได้
ฉันคิดว่านี่คงจะจบลงด้วยการที่ลีโอถูกสั่งให้ไปตรวจสอบเขตใต้แต่ถึงอย่างนั้น, กลับมีสองคนที่เสนอตัวรับหน้าที่นี้
“ฝ่าบาท ลีโอนาร์ดพึ่งจะทำภารกิจเสร็จ ให้ข้าจัดการเรื่องนี้เองเถอะค่ะ”
“ไม่ครับ, ฝ่าบาท ลีโอนาร์ดพึ่งจะกลับมาและซานดร้าก็เป็นผู้หญิง, เดี๋ยวข้าจัดการให้เองครับ, ข้าสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ ข้าไม่ได้ออกแรงซะนานจนร่างกายเริ่มหย่อนยานแล้ว ข้าจะแสดงให้พวกเขาได้เห็นถึงความสำคัญของกฏหมายจักรวรรดิเองครับ”
คนแรกที่เสนอตัวก็คือซานดร้า แน่นอนว่า, เขตใต้คือสถานที่ที่ครอบครัวฝั่งแม่ของซานดร้ามีอิทธิพลอยู่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นทางใต้, ขุมอำนาจของซานดร้าก็จะได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ส่วนทางด้านของกอร์ดอนนั้น, เขาแค่อยากรีบสร้างความสำเร็จให้ตัวเอง กอร์ดอนเป็นแม่ทัพแต่ถ้าเกิดไม่มีสงคราม, มันก็ไม่มีทางเลยที่เขาจะได้แสดงพรสวรรค์ทางการทหารของเขา
อย่างไรก็ตาม, พวกเขาทั้งคู่ควรจะดูอารมณ์ของท่านพ่อให้ดีก่อน
“พวกเจ้าทั้งสองคน! นี่พวกเจ้าคิดใจเอาเรื่องนี้มาใช้ประโยชน์ในสงครามผู้สืบทอดอย่างนั้นหรอ!?”
พอพูดจบ, ความโกรธของท่านพ่อก็ถูกจุดอีกครั้ง
พวกเขารีบร้อนจะสร้างความสำเร็จจนทำตัวสะเพร่าเกินไป ปัญหาผู้อพยพคือเรื่องที่ท่านพ่อกังวลมาโดยตลอด
แค่เพราะจักรพรรดิประกาศออกมาแบบนั้น, มันก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะมองผู้อพยพเป็นประชาชนของจักรวรรดิ นอกจากเมืองหลวงของจักรวรรดิและเขตปริมณฑล, การเลือกปฏิบัติกับผู้อพยพพวกนี้ยังมีอยู่, โดยเฉพาะที่ชายแดน เรื่องราวของหมู่บ้านที่ลินเฟียอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย
แต่สิ่งที่ผิดปกติในครั้งนี้ก็คือการที่ลินเฟียมาถึงเมืองหลวงของจักรวรรดิด้วยตัวเองด้วยความคิดที่ว่าเรื่องนี้จะได้รับการแก้ไขถ้ามันไปถึงหูของคนในราชวงศ์
และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ นี่คือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของท่านพ่อโดยตรง ใครก็ตามที่คลี่คลายปัญหานี้ได้จะต้องเพิ่มความประทับใจของท่านพ่อได้อย่างแน่นอน
“นี่ไม่ใช่ปัญหาของพวกเจ้า, แต่มันเป็นปัญหาของข้า! ข้าจะไม่ให้พวกเจ้าใช้มันเพื่อสงครามผู้สืบทอดหรอก! โง่จริงๆ! แล้วก็ซานดร้า! แม่ของเจ้ามาจากทางใต้ไม่ใช่รึไง! เจ้าอาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยก็ได้! ส่วนกอร์ดอน! เจ้ามักจะใช้กำลังในการแก้ไขปัญหาดังนั้นไม่มีทางที่ข้าจะฝากฝังเรื่องที่ละเอียดอ่อนแบบนี้เอาไว้กับเจ้าหรอก! หัดใช้หัวซะบ้าง, พวกเจ้าทั้งคู่เลย!”
““ป, โปรดอภัยให้พวกเราด้วยครับ/ค่ะ…..””
ทั้งสองคนถอยลงไปด้วยการตำหนิของท่านพ่อ
เพราะท่านพ่อค่อนข้างโกรธพวกเขา, เขาจึงถอนหายใจออกมาเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองก่อนที่เขาจะหันไปมองลีโอ
“ลีโอนาร์ด ข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นผู้ตรวจสอบ จงไปตรวจสอบเรื่องนี้ให้ละเอียดหล่ะ”
“ครับ, ฝ่าบาท!”
“ห้ามให้มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น จงลากคอพวกคนบาปออกมา การลักพาตัวถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงในจักรวรรดิ และการละเลยพวกมันก็ถือเป็นอาชญากรรมเหมือนกัน ห้ามแสดงความเห็นใจกับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หล่ะ”
ท่านพ่อสั่งลีโอด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว
ด้วยการเหลือบมองซานดร้า, ฉันก็เห็นสีหน้ากังวลของเธอ
อาการแบบนี้ก็หมายความว่าครอบครัวฝั่งแม่ของเธอน่าจะมีส่วนเอี่ยวด้วย ถ้าสิ่งที่ลินเฟียพูดเป็นความจริงและลอร์ดท้องถิ่นเกี่ยวข้องกับคดีลักพาตัวพวกนี้มันก็แสดงว่าครอบครัวฝั่งแม่ของซานดร้าน่าจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง
นี่เป็นคดีที่ถือได้ว่าหินมากแต่ถ้าพวกเราคลี่คลายได้มันก็จะเป็นการโจมตีขุมอำนาจของซานดร้าอย่างรุนแรง
ตอนนี้เธอเตรียมเสียใจได้เลยที่ไม่สามารถขยี้ขุมอำนาจของลีโอได้ในช่วงที่พวกเราไม่อยู่
ด้วยคดีนี้, ลีโอก็จะกลายเป็นตัวเต็งจักรพรรดิทั้งในนามและในความเป็นจริง ผู้คนจะเข้ามาอยู่ฝั่งเขามากขึ้นและขุมอำนาจของพวกเราก็จะไม่มีทางถูกขยี้ได้ง่ายๆ
ขุมอำนาจของพวกเราจะมั่นคงและนับจากนี้ไปมันคือการต่อสู้ของจริง
“การประชุมจบลงเพียงเท่านี้ ทุกคนแยกย้ายได้”
ในตอนที่ท่านพ่อพูดออกมาแบบนั้น, ฉันก็เตรียมตัวออกไป
แต่ว่า
“อาร์โนลด์ ช่วยอยู่ต่ออีกสักแปบนึงได้ไหม”
“ครับ?”
“อยู่เถอะหน่า”
“ครับ……”
ไหงเป็นเราคนเดียวหล่ะ……
ด้วยความคิดนี้, ฉันก็อยู่ในห้องบัลลังก์ต่อ
จากนั้น, ก็เหลือแค่ฉัน, ท่านพ่อและนายกรัฐมนตรีฟรานซ์ที่ยังอยู่ในห้องบัลลังก์
ในขณะที่ฉันกำลังสงสัยอยู่ว่าเขาจะพูดอะไร, ท่านพ่อก็ขยับปากเหมือนจะพูดอะไรอยู่สองสามครั้งแต่เขาก็ถอดใจแล้วโยนเรื่องนี้ให้ฟรานซ์เป็นคนจัดการ
“ฝากเจ้าอธิบายแล้วกันนะ! ฟรานซ์!”
“ท่านบอกจะพูดเองไม่ใช่หรอครับ”
“ช่างมันเถอะหน่า, เจ้านั่นแหล่ะอธิบายซะ!”
“เห้อ……องค์ชายอาร์โนลด์ เหตุผลที่พวกเราอยากให้ท่านอยู่ที่นี่ต่อคนเดียวก็คือว่ามันมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับองค์หญิงลำดับหนึ่งที่ตอนนี้อยู่ที่ชายแดนตะวันออกครับ”
“มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอหรอ?”
“อันที่จริงคือ….พวกเรารับคำขอแต่งงานมาให้เธอ”
“ข้าขอปฏิเสธ”
พอได้ยินการปฏิเสธอย่างทันควันของฉัน, ท่านพ่อกับฟรานซ์ก็มีสีหน้าทุกข์ใจ
จริงๆเล้ย, คงไม่มีใครคาดคิดหรอกว่าสีหน้าแบบนี้จะแสดงออกมาจากจักรพรรดิกับนายกรัฐมนตรีของจักรวรรดิ
“ช, ช่วยอย่าพูดแบบนั้นเลยนะครับ…..ฝ่าบาทมีลูกสาวแค่สามคน องค์หญิงคริสต้ายังเด็กเกินไปส่วนองค์หญิงซานดร้าก็เอาแต่พูดว่าจะไม่ยอมแต่งงานลูกเดียว”
“นี่แหล่ะครับคือสาเหตุที่ทำไมการให้เธอแต่งงานถึงเป็นเรื่องไร้สาระ ท่านก็รู้ไม่ใชหรอว่าเธอเป็นจอมพลที่มีหน้าที่ดูแลแนวหน้าทางฝั่งตะวันออกทั้งหมด? จักรวรรดิของเรามีจอมพลอยู่แค่สามคนเท่านั้นเองไม่ใช่หรอครับ? และคนๆเดียวที่สามารถให้คำสั่งเธอได้ก็คือท่านพ่อไม่ใช่หรอ?”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ, แต่ถ้าปล่อยไปแบบนี้เธอจะไม่มีวันได้เป็นเจ้าสาวนะ! เธอก็อายุตั้งยี่สิบห้าแล้วเจ้าก็รู้นี่!?”
“ถ้าท่านคิดแบบนั้นทำไมไม่ไปบอกเธอด้วยตัวเองหล่ะครับ?”
“ข้าส่งจดหมายไปเยอะแล้ว! แต่เธอก็ปฏิเสธกลับมาทุกครั้ง! ยัยลูกสาวเนรคุณนั่น! เธอบอกว่าเธอจะเลิกเป็นราชวงศ์ถ้าพวกเราบังคับให้เธอแต่งงาน!”
“ในเมื่อเธอไม่อยากแต่งงานก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ครับ……..”
“ข้าเป็นพ่อของเธอนะ! ข้ามีหน้าที่ต้องเป็นห่วงอนาคตของลูกสาว! ฟังให้ดีๆหล่ะ, อาร์โนลด์! เจ้าสนิทกับคริสต้าและพี่สาวคนโตของเจ้า เขียนจดหมายไปหาเธอและโน้มน้าวให้เธอกลับมาที่จักรวรรดิซะ หรือถ้าเจ้าโน้มน้าวเธอไม่ได้เจ้าก็ต้องไปที่ชายแดนตะวันออกด้วยตัวเอง!”
นี่มันเป็นคำสั่งที่ไร้เหตุผลชะมัด
ถ้าจะทำถึงขนาดนั้นแค่สั่งให้เธอมาที่นี่ในฐานะจักรพรรดิก็ได้ไม่ใช่หรอ?
แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็เข้าใจเหตุผลของเขา เขาไม่อยากถูกเกลียด
พี่สาวคนโตของฉันกับคริสต้าเป็นลูกสาวของภรรยาลำดับสองที่ท่านพ่อรักมากเป็นพิเศษ และด้วยความพิเศษนี้เอง, ท่านพ่อถึงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงกับลูกสาวคนโตที่มีใบหน้าแทบจะเหมือนกับภรรยาลำดับสอง
ฉันถอนหายใจและพยักหน้าให้เขาเหมือนกับไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว แย่ชะมัด, มันไม่มีอะไรที่ฉันทำได้ที่นี่นอกจากพยักหน้ารับคำ
เห้ออ, รู้สึกว่าจะเจอปัญหาอีกแล้วสิ