การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) - ตอนที่ 59
“ลีโอนาร์ด ข้าขอฝากเรื่องนี้เอาไว้กับเจ้านะ”
“ครับ ข้าจะทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาขององค์จักรพรรดิเอง ถ้ามีความอยุติธรรมเกิดขึ้นที่ทางใต้จริงๆ, ข้าก็จะนำมันออกมาอยู่ในที่สว่างเอง”
“อืม”
ลีโอรับผ้าคลุมสีม่วงจากท่านพ่อ
มันคือหลักฐานที่บ่งบอกว่าเป็นผู้ตรวจสอบของจักรวรรดิ
ตราบใดที่เขามีผ้าคลุมนี้อยู่, ก็จะไม่มีใครขวางทางลีโอได้
“ห้ามปราณีหล่ะ ตรวจสอบเรื่องนี้ให้ละเอียดจนเจ้าพอใจเลย”
“ครับ”
ลีโอสวมผ้าคลุมแล้วออกไปจากห้องบัลลังก์
คนอื่นๆเองก็เริ่มออกไปเหมือนกันแต่ฉันยังคงอยู่ในห้อง
ซึ่งเหตุผลก็คือว่าดูเหมือนท่านพ่อจะอยากให้ฉันอยู่ต่อ
“เจ้าเป็นห่วงหรอ?”
“ไม่จำเป็นหรอกครับ ลีโอเป็นคนเก่งอยู่แล้ว”
“เขาเป็นคนที่ขาดความยืดหยุ่น ซึ่งเจ้าก็คือคนที่เข้ามาช่วยชดเชยตรงส่วนนั้น แต่ครั้งนี้เจ้าไม่ได้อยู่กับเขานะ”
“ฝ่าบาทกำลังคิดว่าลีโอจะจัดการด้วยตัวเองไปได้ไกลแค่ไหนสินะครับ? ข้าขอบอกเลยว่ามันไม่ได้ผลหรอก”
“โฮ่? ทำไมถึงคิดอย่างนั้นหล่ะ?”
“หมอนั่นเก่งเรื่องช่วยเหลือคนอื่น เขาคือคนที่สามารถเคลื่อนไหวผู้คนได้ นี่คือเหตุผลที่ต่อให้ไม่มีข้าอยู่ที่นั่น, ก็จะมีคนอื่นอยู่ที่นั่นเพื่อเขา”
“เข้าใจหล่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี แต่ว่าตัวเจ้าหล่ะ?”
ฉันขมวดคิ้วให้กับคำพูดของท่านพ่อ
เหมือนกับลีโอ, ฉันเองก็มีงานของตัวเอง งานที่เบาเกินกว่าจะเรียกว่าภารกิจ
“ก็ไม่รู้สินะครับ เอาเป็นว่าข้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถแต่ช่วยอย่าคาดหวังในตัวข้ามากเกินไปหล่ะ”
“แบบนั้นไม่ได้หน่า การแต่งงานของพี่สาวเจ้าขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว ถ้าเธอไม่ได้แต่งงาน, ซานดร้าก็คงจะแต่งงานไม่ได้เหมือนกัน”
“แบบนั้นมันดูเป็นความรับผิดชอบที่ค่อนข้างหนักอยู่ไม่ใช่หรอครับ ถ้าเกิดข้าล้มเหลวก็ช่วยอย่าโกรธข้าแล้วกันนะครับ ถึงยังไงสิ่งที่ข้าจะทำนั้นมันก็คือการขัดใจเธอ”
“ก็ได้, ข้าเข้าใจอยู่ แต่ว่านะอาร์โนลด์ ข้าเองก็อายุห้าสิบแล้ว คงเหลือเวลาใช้ชีวิตอยู่ไม่มาก นี่คือเหตุผลที่ข้าอยากจะเห็นลูกสาวแต่งงาน”
“แต่ข้าจำไม่เห็นได้เลยนะครับว่าท่านป่วย?”
“ข้าไม่ได้ป่วยหรอกแต่ข้ากำลังแก่ขึ้นเรื่อยๆ ข้าคงแข็งแรงแบบนี้ต่อไปได้อีกไม่นาน สุดท้ายแล้วข้าก็จะต้องร่วงโรยซักวันนึง ใครจะได้เป็นจักรพรรดิคนต่อไป, นั่นคือทั้งหมดที่ข้ากำลังคิดอยู่”
ด้วยสายตาที่ค่อนข้างเหม่อลอย, ท่านพ่อก็ทอดสายตาออกยังเขตย่อยต่างๆที่อยู่รอบปราสาท
ข้าจะได้เพลิดเพลินทัศนียภาพนี้ไปอีกนานแค่ไหนนะ? บางทีนี่คงเป็นสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่ในตอนนี้
ลูกๆของเขากำลังทำสงครามตีกันเองอยู่และเป้าหมายของพวกเขาก็คือบัลลังก์ที่เขานั่งอยู่ในตอนนี้
แน่นอนว่า, ผู้ชนะก็จะถูกย้ายตำแหน่งมาแทนที่พ่อ และด้วยเหตุนี้เอง, เขาถึงบอกว่าไม่มีเวลาก็เลยอยากเห็นลูกสาวกลายเป็นเจ้าสาวก่อน
“วันนี้ฝ่าบาทดูนอยๆผิดปกตินะครับ”
“วันนี้, ข้าฝันถึงภรรยาลำดับสองกับมงกุฎราชกุมาร มันทำให้ข้านึกถึงความหลัง….ข้ากำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะต้องมีอีกซักกี่คนที่ข้าต้องมาหวนคิดถึงแบบนี้”
“ถ้าฝ่าบาทไม่ชอบฝ่าบาทก็ยกเลิกสงครามผู้สืบทอดไปเลยก็ได้นี่ครับ แต่งตั้งมงกุฎราชกุมารคนใหม่และในขณะที่ฝ่าบาทยังมีอำนาจอยู่ก็ส่งลูกๆไปอยู่บ้านนอกซะ, ฝ่าบาทจะสามารถรักษาชีวิตของพวกเขาเอาไว้ได้ด้วยวิธีนี้”
“เป็นไปไม่ได้หรอก คุ่นค่าของผู้ชนะกับคุณค่าของคนที่ได้รับสืบทอดมานั้นไม่เหมือนกัน บัลลังก์คือสิ่งต้องชนะได้มา เพราะวิธีนี้ถึงจะได้จักรพรรดิที่มากความสามารถ และเพราะวิธีนี้จักรวรรดิถึงจะอยู่รอดปลอดภัย”
“ถ้างั้นก็ช่วยหยุดนอยเถอะครับ ฝ่าบาทมีอำนาจที่จะใช้หยุดเรื่องทั้งหมดนี้แต่ฝ่าบาทกลับเลือกที่จะไม่ทำ เพราะเหตุนี้เอง, น้องของข้าถึงต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งโง่ๆนี่ มีคนอีกมากมายที่คิดเหมือนกับฝ่าบาทแต่เหตุผลที่ไม่มีใครออกมาคัดค้านก็เพราะตัวฝ่าบาทเองยังเห็นชอบอยู่ พวกเขาโน้มน้าวตัวเองว่านี่คือสิ่งสำคัญและทนอยู่กับมัน อาการนอยของฝ่าบาทในตอนนี้ก็คือการดูถูกทุกคนที่เข้าร่วมในสงครามผู้สืบทอด ถ้าฝ่าบาทล้มเลิกหลังจากที่ผ่านมาขนาดนี้, ข้าจะไม่มีวันยกโทษให้ฝ่าบาทแน่…….”
ความขัดแย้งเช่นนี้คงจะไม่เกิดขึ้นถ้าจักรพรรดิแต่งตั้งผู้สืบทอดบัลลังก์
อย่างไรก็ตาม, จักรพรรดิที่ผ่านพ้นความขัดแย้งมาได้จะแข็งแกร่งกว่าคนที่ถูกแต่งตั้ง ฉันเข้าใจเหตุผลตรงจุดนี้ ผู้ชนะจะไม่ยอมให้สิ่งที่ชนะได้มาถูกพรากไป แต่พวกที่ได้รับส่งต่อมานั้นจะตระหนักถึงเรื่องนี้น้อยมาก และตรงนี้เองก็ทำให้เกิดความแตกต่างในการรับรู้
ถ้าอยากสร้างจักรพรรดิที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องจักรวรรดิได้, สงครามผู้สืบทอดก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะเหตุนี้เอง, ความขัดแย้งโง่ๆนี่จึงเกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาในทุกยุคทุกสมัย
“……ไม่นึกเลยว่าข้าจะต้องมาถูกลูกของตัวเองสั่งสอน แถมลูกคนนั้นยังเป็นอาร์โนลด์ด้วย”
“โปรดอภัยให้กับความไร้มารยาทของข้าด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอก พอดีฟรานซ์ไม่ได้อยู่ที่นี่ข้าก็เลยเผลอแสดงด้านที่อ่อนแอแบบนี้ให้เจ้าได้เห็น ข้าขอโทษนะ ลืมสิ่งที่ข้าพูดไปเถอะ”
“ครับ”
“…..อาร์โนลด์ เจ้ายังจำสิ่งที่ข้าเคยแสดงให้ดูได้อยู่รึเปล่า?”
“วางใจได้ครับ ข้าไม่มีวันลืมหรอก ข้ายังจำคำพูดที่ท่านบอกข้าเมื่อตอนนั้นได้เหมือนกับพึ่งผ่านมาเมื่อวาน”
“เข้าใจหล่ะ….แบบนั้นค่อยโล่งใจหน่อย”
พอพูดจบ, ท่านพ่อก็ให้ฉันกลับไปได้
เนื่องจากสงครามผู้สืบทอดรุนแรงขึ้น, ท่านพ่อถึงมีเรื่องหลายอย่างที่ต้องคิด
ถ้าลีโอกลายเป็นจักรพรรดิ, ท่านพ่อก็จะปลอดภัยแต่เขาคงไม่มีวันแต่งตั้งลีโอเป็นมงกุฎราชกุมารเพราะเรื่องนั้นแน่ๆ
ต่อให้เขาจะแสดงด้านที่อ่อนแอให้ฉันเห็น, แต่เขาก็ยังเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบในฐานะจักรพรรดิมาก่อนตัวเองเสมอ
“ว่าแล้วเชียว, มีแต่ต้องชนะให้ได้สินะ”
ฉันพึมพำออกมาแบบนั้นแล้วออกไปส่งลีโอ
“ดูแลตัวเองให้ดีๆหล่ะ”
“ครับ, ข้าจะพยายามให้เต็มที่ครับ, ท่านพี่”
“เอาแค่พอประมาณก็พอ”
หลังจากที่พูดคุยกันเสร็จ, พวกเราก็บอกลากัน
พวกเราไม่จำเป็นต้องคุยกันยืดยาว มันไม่ใช่ว่าพวกเรากำลังจะบอกลาเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต
“องค์ชายอาร์โนลด์คะ”
“ยังใช้วิธีเรียกน่าเบื่อเหมือนเดิมเลยนะ, ลินเฟีย”
“ข้าไม่ได้มีสถานะที่สูงพอจะเรียกองค์ชายอย่างสนิทชิดเชื้อเหมือนกับคนอื่นๆได้หรอกค่ะ”
“ข้าไม่ได้สนเรื่องสถานะซักหน่อย แต่ก็เอาเถอะ, ถ้าเจ้าสบายใจก็เอาตามที่เจ้าชอบเถอะ ถึงยังไงเจ้าก็อุตส่าห์ดั้งด้นมาถึงที่นี่, ข้าขอโทษด้วยนะที่ต้องให้เจ้ารอซะนานเลย”
“ไม่หรอกค่ะ, ข้าต่างหากหล่ะที่ต้องขอบคุณท่านสำหรับเรื่องทุกอย่าง”
“มันคือสิ่งตอบแทนจากการที่เจ้าช่วยชีวิตของข้าและคอยปกป้องฟีเน่ในระหว่างที่พวกเราไม่อยู่ สิ่งที่ข้าทำให้นั้นมันยังไม่พอที่จะชดเชยด้วยซ้ำ”
“ข้าเองก็ไม่ได้มีประโยชน์ขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่ถึงอย่างนั้น, องค์ชายก็ยังคงดีกับข้ามาก พูดตามตรง, ข้ารู้สึกผิดกับตัวเองจริงๆ”
พอพูดจบ, ลินเฟียก็ดูสลด
อย่างไรก็ตาม, นี่มันก็แค่การถ่อมตัวของเธอ
เธอปกป้องฟีเน่แทนฉันได้เป็นอย่างดี นี่มันก็เหมือนว่าเธอช่วยพวกเรากอบกู้วิกฤติครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเจอมา
แค่การที่พวกเราส่งนักผจญภัยไม่กี่คนไปคอยปกป้องหมู่บ้านของเธอและตรวจสอบคดีของเธอนั้นมันยังไม่เพียงพอที่จะชดใช้หนี้ในครั้งนี้หรอก
“เอาเถอะ, เจ้าอาจจะคิดอย่างนั้น, แต่ว่านะลินเฟียพวกเรารู้สึกขอบคุณเจ้าจริงๆ นี่คือเหตุผลที่พวกเราจะช่วยหมู่บ้านของเจ้าให้ได้อย่างแน่นอน”
ฉันเอาถุงเงินที่ใหญ่กว่ากำปั้นของฉันเล็กน้อยให้ลินเฟีย
ด้วยความที่มันค่อนข้างหนัก, ลินเฟียจึงแอบดูข้างใน
มีเหรียญทองอยู่ข้างในนั้น
นอกจากนี้, ข้างในถุงเงินยังใหญ่กว่าหน้าตาของมันด้วย
“น, นี่คือ…..!?”
“มันคือถุงเงินเสริมเวทมนตร์ ข้างในจะกว้างกว่าหน้าตาของมันถึงสิบเท่า และเหรียญทองที่อยู่ข้างในก็เป็นของข้าเอง ข้าไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้เงินนักหรอกแต่ประเทศก็ยังคงจัดสรรให้ข้าอยู่ดี ข้าคิดว่าข้าจะใช้มันเพื่อเป็นเงินทุนในสงครามผู้สืบทอดแต่พอผ่านมาถึงตอนนี้, ข้าไม่จำเป็นต้องใช้มันแล้วหล่ะ, ถึงยังไงเจ้าก็ลงทุนสร้างเส้นสายกับบริษัทนั้นเพื่อพวกเรานี่นะ ข้าขอยกมันให้เจ้าก็แล้วกัน”
“ม, ไม่เอาหรอกค่ะ! ข้าจะใช้เงินทั้งหมดนี้หมดได้ยังไงกัน!?”
“ต่อให้ข้ายกมันให้ลีโอ, เจ้านั่นก็คงใช้มันไม่ค่อยคุ้มหรอก แต่ถ้ามันอยู่กับเจ้าข้ามั่นใจว่าเจ้าจะสามารถใช้มันได้เป็นอย่างดี ลีโอเป็นคนซื่อๆ ข้าอยากให้เจ้าคอยช่วยเหลือเขา ข้าคิดว่าสุดท้ายแล้วมันจะเป็นตัวช่วยในการกอบกู้หมู่บ้านของเจ้า เจ้าไม่ต้องงกในตอนที่อยากจะใช้มัน และเจ้าก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเอามาคืนข้า, ใช้มันเพื่อช่วยฟื้นฟูหมู่บ้านของเจ้าเถอะ, เข้าใจไหม?”
“องค์ชาย…..”
“ข้าเองก็อยากจะไปกับเจ้านะแต่ครั้งนี้คงทำไม่ได้ ข้าขอโทษด้วยที่ข้าไม่สามารถช่วยเหลือได้ยันจบแต่อย่างน้อยก็ขอให้ข้ายกสิ่งนี้ให้เจ้าเถอะ”
“…..ขอบคุณมากค่ะ ข้าจะไม่มีวันลืมบุญคุณนี้ ข้าจะทำตัวให้มีประโยชน์กับองค์ชายลีโอนาร์ดเพื่อท่านค่ะ”
พอพูดจบ, ลินเฟียก็ก้มศรีษะให้
มันก็แน่หล่ะนะ ข้างในถุงเงินนั่นมีเหรียญทองที่มีค่าเท่ากับเงินสิบปีสำหรับเจ้าชายอยู่
แน่นอนว่า, การส่งให้ง่ายๆแบบนี้อาจจะเป็นความคิดที่ไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่แต่ฉันก็ยังมีเงินที่ฉันได้รับในฐานะซิลเวอร์อยู่ เงินส่วนนั้นมีเซบาสเป็นคนบริหารและมูลค่าของมันก็มากกว่าเงินเดือนเจ้าชายซะอีก
แต่ถึงอย่างนั้น, มันก็ไม่ได้หมายความว่านี่จะเป็นจำนวนเงินที่จะเอาไปมอบให้คนอื่นได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตาม, ด้วยเงินก้อนนี้, พวกเขาจะสามารถผลักดันขุนนางทางใต้ให้เคลื่อนไหวได้ ถ้าเป็นลินเฟียหล่ะก็เธอจะสามารถใช้มันด้วยวิธีที่ลีโอคิดไม่ถึงได้อย่างแน่นอน
“เจ้าก็ถ่อมตัวเกินไป พวกเราเป็นหนี้เจ้าอยู่นะ ถือซะว่าเป็นคำขอบคุณของพวกเราแล้วกัน เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก”
“….มันอาจจะดูไม่ดีที่ข้าจะพูดแบบนี้แต่ข้ารู้สึกดีใจที่ท่านถูกโจมตีในตอนนั้นนะคะ เพราะเหตุการณ์นั้น, พวกเราถึงได้มาเจอกันแบบนี้ ความโล่งอกและความสุขที่ข้ารู้สึกในตอนที่ท่านเสนอความช่วยเหลือให้ข้าในตอนนั้นคือสิ่งที่มีแต่ข้าเท่านั้นที่เข้าใจได้ ตอนนี้ข้ารู้แล้วหล่ะค่ะว่าทำไมท่านฟีเน่ถึงเชื่อใจท่านถึงขนาดนี้ หลังจากที่หมู่บ้านปลอดภัยแล้ว, ข้าจะกลับมาเข้าร่วมกับท่านอย่างแน่นอน โปรดฝากองค์ชายลีโอนาร์ดเอาไว้กับข้าได้เลยค่ะ”
“เห้อ, เป็นทางการจังเลยนะ แต่ในเมื่อเจ้าต้องการแบบนั้น, ข้าก็ขอฝากเจ้าหมอนั่นด้วย ลินเฟีย, ดูแลน้องชายของข้าให้ดีหล่ะ”
“ค่ะ ไว้ใจข้าได้เลย”
ลินเฟียโค้งคำนับจนสุดตัวและขึ้นรถม้าที่ลีโอพึ่งขึ้นไป
มีอัศวินหลวงคอยคุ้มกันลีโออยู่แต่ผู้คุ้มกันส่วนตัวของลีโอนั้นถูกฝากฝั้งเอาไว้กับลินเฟีย ซึ่งนี่ก็แสดงให้เห็นว่าลีโอเองก็ไว้ใจเธอมากเหมือนกัน
“เอาหล่ะ, ข้าไปแล้วนะครับ!”
“อา ถ้าเกิดมันยากเกินไปก็ไม่ต้องฝืนหล่ะ, ยอมแพ้แล้วกลับมาที่นี่ให้ได้ก็พอ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า, ท่านพี่เองก็เหมือนกันครับ, ถ้างานฝั่งพี่ยากเกินไปพี่เองก็ยอมแพ้ได้นะครับ ถึงยังไงขุนนางทางใต้ก็คงจะใจดีกว่าพี่สาวของพวกเราเยอะ”
“นั่นสินะ”
ในขณะที่กำลังพูดคุยกับลีโอที่โผล่ศรีษะออกมาจากรถม้า, ฉันก็มองดูรถม้าที่กำลังขับออกไปอย่างช้าๆ
เอาเถอะ, คงไม่จำเป็นต้องห่วงหมอนั่นแล้วหล่ะ
“ข้าเองก็ควรเริ่มทำงานของตัวเองได้แล้วสินะ”
ก่อนอื่น, ลองไปพบคนที่มาขอพี่สาวของเราก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นข้าจะให้เขาเขียนจดหมายไปให้เธอ, แบบนี้น่าจะสามารถพอโน้มน้าวใจเธอได้บ้าง
เอาเหล่ะ, ถึงเวลายุ่งแล้วสิ