การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) - ตอนที่ 76
“เยอร์เกนอยู่ไหน!?”
พอกลับมาถึงคฤหาสน์, นี่คือสิ่งแรกที่ท่านพี่ลีเซถาม
เยอร์เกน, ที่น่าจะอยู่ที่คฤหาสน์นั้นไม่อยู่แล้ว
“ดยุคพาทหารออกไปเพื่อตอบสนองต่อภัยเร่งด่วนแล้วครับ”
“เขาออกไปแล้วหรอ!?”
สมกับเป็นเขา, การตอบสนองช่างรวดเร็วจริงๆ
แต่ว่ามันเร็วเกินไป
มันหมายความว่าเขาออกไปพร้อมกับพวกอัศวินแค่ที่เตรียมพร้อมออกเดินทาง
“เรียกเขากลับมาเดี๋ยวนี้เลย! พวกเรายังไม่รู้เลยไม่ใช่รึไงว่าเกิดอะไรขึ้นทางใต้? ทำไมเขาถึงออกไปโดยไม่ยืนยันให้แน่ใจก่อนหล่ะ!?”
“พวกเราพยายามห้ามเขาแล้วครับแต่….ดยุคบอกว่าเขาจะไปกรุยทางให้ท่านครับ, องค์หญิง…..”
“กรุยทางหรอ!? นี่เขาคิดจะทำอะไรกัน!?”
“ดยุคบอกว่าเขาจะกำจัดมอนส์เตอร์ที่ขวางทางท่านครับ…..”
แบบนี้เองสินะ
ถ้างั้นมันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้แล้วว่าทำไมเขาถึงออกไปแค่กับอัศวินที่ประจำการอยู่
แต่มันก็ยังคงอันตรายอยู่ดี เส้นทางจากที่นี่ไปทางใต้นั้นค่อนข้างเดินทางยาก
ไม่ต้องพูดถึงระยะทางที่ค่อนข้างไกล, ทางใต้นั้นเป็นป่าหนาทึบ และเนื่องจากไม่ได้มีการทำเส้นทางปูเอาไว้, มอนส์เตอร์จึงมักจะปรากฎตัวจากป่า
“ท่านพี่ แล้วพวกทหารที่ทำการฝึกอยู่หล่ะครับ?”
“พวกเราใช้ทหารเกณฑ์ไม่ได้ พวกที่ข้าใช้ได้ที่นี่น่าจะมีแค่กองทหารม้าที่ข้าพามาด้วยเพื่อให้มาเป็นคู่ฝึกซ้อม”
ทหารเกณฑ์นั้นมีอยู่ทั้งหมดห้ากอง โดยหนึ่งกองจะมีประมาณสองร้อยคน, ดังนั้นกองทหารม้าก็น่าจะมีทหารม้าประมาณพันคน เอาเถอะ, มันอาจจะไม่ใช่จำนวนที่แน่นอนเพราะพวกเราต้องนับคนเจ็บและตำแหน่งที่ว่างด้วยแต่จำนวนก็น่าจะเกือบๆพันคน
“แค่หนึ่งกองเองหรอครับ?…..น้อยจังเลยนะครับ”
“ถ้ารีบไปที่จุดเกิดเหตุมันก็ถือว่าพอไหวอยู่หรอกแต่ว่า….พอไปถึงแล้วก็คงจะมีเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างน้อยอยู่”
สัญญาณไฟสีม่วงคือเรื่องใหญ่ในประเทศนี้
คนที่ออกคำสั่งในจุดนั้นน่าจะเป็นลีโอ ในตอนนี้, มีแค่แม่ทัพที่ชายแดนใต้หรือไม่ก็ลีโอซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบของจักรวรรดิที่มีอำนาจระดับนี้
สัญญาณไฟนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่
ฉันไม่รู้ว่าจะมั่นใจได้รึเปล่าแต่นี่คือสัญญาณไฟที่อาจจะถูกจุดในกรณีที่ลีโอตายก็ได้
หรือถ้ามีเหตุการณ์ที่เร่งด่วนกว่านั้นเกิดขึ้นทางใต้สถานการณ์ที่นั่นก็คงอันตรายกว่ามาก
“อย่างดีที่สุดพวกเราก็มีคนพอแค่สำหรับการลาดตระเวณสินะครับ”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ, การตรวจสอบสถานการณ์ให้แน่ชัดก็ยังถือเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับพวกเรา ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่น, พวกเราอาจจะต้องเคลื่อนไหวกองทัพทางใต้ก็ได้ แต่ไม่ว่ายังไง, พวกเราก็ไม่มีทางเลือกนอกจากไปที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง”
ท่านพี่มีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในตอนที่เธอพูดออกมาแบบนั้น
นี่คือพี่สาวของฉัน, จอมพลแห่งจักรวรรดิ
ตอนนี้, ฉันควรจะเอายังไงดีนะ?
มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับฉันในการเดินทางลงใต้ด้วยเวทย์เคลื่อนย้าย จะให้ฉันพาท่านพี่ไปด้วยก็ยังได้ อย่างไรก็ตาม, มันเป็นไปไม่ได้ที่จะกำหนดจุดเคลื่อนย้านที่แม่นยำ ฉันไม่รู้ว่าเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ว่านี้เป็นยังไงหรือเกิดขึ้นที่ไหน มันมีต้นกำเนิดมาจากหมู่บ้านของลินเฟียหรือว่าเป็นที่อื่น? สถานที่นั้นอาจจะไม่มีจุดสังเกตุที่สำคัญด้วยซ้ำ
อย่างเลวร้ายที่สุด, ฉันอาจต้องพิจารณาเรื่องการเปิดเผยตัวตนในฐานะซิลเวอร์และพาท่านพี่กับกองทหารม้าทั้งหมดไปทางใต้ นี่คือลักษณะของสถานการณ์ที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม, ถ้าฉันพาทหารพันคนไปทางใต้, มันก็จะใช้พลังเวทย์อย่างมาก มันแตกต่างจากการไปคนเดียวคนละเรื่อง
แต่ถึงกระนั้น, ถ้าฉันต้องสร้างประตูเคลื่อนย้าย, ฉันก็อยากได้จุดหมายปลายทางที่แน่นอนก่อน
“ไม่ว่ายังไง, พวกเราก็ต้องรอให้กองทหารมาถึงก่อนถูกไหมครับ”
“นั่นสินะ…..”
ในขณะที่เธอตอบกลับ, สีหน้าของท่านพี่ก็เต็มไปด้วยความกังวล
“ท่านจอมพล, กองทหารม้าหน่วยที่เจ็ดมาถึงแล้วครับ”
“ดีมาก, หัวหน้าหน่วย”
พอได้ฟังแบบนั้นหัวหน้าหน่วยก็ทำท่าวันยาหัตถ์, เพื่อแสดงความเคารพ และเมื่อเห็นแบบนั้นท่านพี่เองก็วันยาหัตถ์กลับ
การได้เห็นเธอในสภาพนี้, มันทำให้ฉันคิดว่าเธอเป็นทหารจริงๆ
“แล้วพวกทหารเกณฑ์หล่ะ?”
“พวกเขาเตรียมพร้อมรออยู่ที่สนามฝึกครับ ข้าได้ส่งผู้ส่งสารไปที่ชายแดนตะวันออกแล้วแต่ก่อนที่ผู้ส่งสารจะไปถึงพวกเขาน่าจะส่งกำลังเสริมออกมาแล้วครับ ข้าว่าพวกเรารีบเร่งไปที่เกิดเหตุตอนนี้เลยน่าจะดีกว่า”
กองทัพของจักรวรรดินั้นมักจะกระจุกกำลังไปที่ชายแดน
แน่นอนว่า, พวกเขามีคนประจำการอยู่ที่ส่วนกลางของประเทศด้วยแต่ลอร์ดแต่ละคนก็มีอัศวินของตัวเองอยู่ในดินแดนในขณะที่เมืองหลวงของจักรวรรดิเองก็ได้รับการคุ้มครองจากภาคีอัศวินหลวง
ซึ่งนี่ก็คือสาเหตุที่กองทัพของจักรวรรดินั้นโดยหลักแล้วจะมีไว้เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามจากต่างแดน
ชายแดนตะวันออกกับตะวันตกจะมีทหารระดับสูงประจำการอยู่ซึ่งจอมพลจะมีอำนาจควบคุมอย่างเต็มที่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นที่ชายแดนอื่น, พวกเขาก็มีความสามารถพอที่จะส่งกำลังเสริม พวกเขาน่าจะมีการฝึกนับไม่ถ้วนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์แบบนี้
ในอดีต, ขณะที่ไปเยี่ยมแนวหน้าทางทิศเหนือ, เจ้าชายก็บังเอิญเจอกับการต่อสู้และได้ตายไปในขณะที่คอยบัญชาการ ท่านพี่รู้สึกเสียใจที่เธอไม่สามารถอยู่เคียงข้างเขาได้ในตอนนั้น
มันเป็นเพราะเหตุผลนี้เองความเร็วในการพัฒนาชายแดนตะวันออกถึงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม
“ถ้าดูจากเวลาแล้ว, ข้าคิดว่าพวกเราคงออกเดินทางด้วยความเร็วเต็มที่ไม่ได้หรอก”
“ไม่มีทางอื่นแล้วสินะ เอาเป็นว่าพวกเราต้องรีบไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วกัน”
ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว
และมันจะมืดขึ้นเรื่อยๆนับจากนี้เป็นต้นไป
การออกเดินทางในตอนกลางคืนนั้นอันตราย พวกเขาสามารถใช้ทางลัดผ่านป่าได้แต่มีมอนส์เตอร์มากมายที่ออกล่าในตอนกลางคืน
ส่วนการเดินอ้อมจะสามารถหลีกเลี่ยงได้แต่มันก็ต้องใช้เวลาเดินทางเพิ่มขึ้น
ฉันกำลังพิจารณาตัวเลือกของฉัน
ฉันควรเปิดเผยว่าตัวเองเป็นซิลเวอร์ซะตอนนี้เลยแล้วพาพวกเขาเคลื่อนย้ายไปรึเปล่านะ
แต่ถ้าพวกเราเคลื่อนย้ายไปที่เมืองทางใต้เลยก็อาจจะเป็นปัญหากับลอร์ดท้องถิ่นและถ้าพวกเราไปในที่ที่ห่างไกลจากจุดเกิดเหตุพวกเราก็ยังต้องเดินทัพตอนกลางคืนอยู่ดี
ในขณะที่ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะเอายังไงดี, พ่อบ้านของดยุคก็วิ่งมาหาพวกเราด้วยสภาพหืดหอบ
“เกิดอะไรขึ้น?”
“เห้อ…..แฮ่ก, แฮ่ก…การเตรียมการเสร็จเรียบร้อยแล้วครับข้าก็เลยมาแจ้งพวกท่าน……”
“เตรียมการหรอ? เตรียมการอะไร?”
“พวกท่านไม่รู้เรื่องกันหรอครับ…..?”
พ่อบ้านแสดงสีหน้าไม่อยากเชื่อในขณะที่จ้องมองท่านพี่
ซึ่งท่านพี่เองก็ทำหน้าสงสัยแต่พ่อบ้านก็กลับเป็นปกติในทันที
“สมกับเป็นท่านดยุคจริงๆ…..โปรดเชิญทางนี้ครับ”
พอพูดจบ, พ่อบ้านก็นำทางพวกเราไปที่ชั้นบน
ที่นั่น, พวกเราเห็นฉากที่ไม่น่าเชื่ออยู่
“นี่คือ….ถนนหรอ?”
มีถนนกำลังเปล่งประกายอยู่ซึ่งมันมุ่งหน้าไปทางใต้
มันทอดยาวออกไปเรื่อยๆ
“เมื่อสามปีก่อน, ท่านดยุคได้ร่วมมือกับลอร์ดในพื้นที่ใกล้เคียงและสร้างเส้นทางแห่งแสงนี้ขึ้นมา มันยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างแต่มันก็ขยายออกไปทั้งทางเหนือและทางใต้ เมื่อไหร่ที่มันสร้างเสร็จมันก็จะเป็นถนนที่เชื่อมต่อทั้งสองพรมแดนเข้าด้วยกันโดยตรงครับ”
“ทำไมเขาถึงได้…..?”
“เหตุผลของเขาก็คือเพื่อสร้างเส้นทางขนส่งที่ปลอดภัยสำหรับพ่อค้าครับแต่ว่า…..”
“เป้าหมายจริงๆของเขาก็คือเพื่อให้ท่านพี่สามารถมุ่งหน้าไปที่ชายแดนเหนือกับใต้ได้ในทันทีสินะ…..”
พ่อบ้านพยักหน้าอย่างเงียบๆ
ในวันนี้เมื่อสามปีก่อน
ความคิดที่ว่า, ถ้ามีเส้นทางแบบนี้มันก็คงจะดี ต้องผุดขึ้นมาในหัวของเยอร์เกนแน่ๆ
เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบวั้นนั้นเกิดขึ้นอีก, และเพื่อป้องกันไม่ให้ท่านพี่ต้องเสียใจไปมากกว่านี้
“คนๆนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ…..”
“ท่านจอมพล! ถ้าพวกเราใช้เส้นทางนี้พวกเราจะเดินทางลงใต้ด้วยความเร็วเต็มที่ได้นะครับ!”
“น, นั่นสินะ…..ถ้างั้นเริ่มเตรียมการเดี๋ยวนี้เลย”
ท่านพี่ออกคำสั่งและหัวหน้าหน่วยก็เริ่มเคลื่อนไหว เมื่อเห็นแบบนี้, พ่อบ้านก็เดินออกไปอย่างเงียบๆ
เป็นเวลาพักนึงที่ท่านพี่ได้มองเส้นทางแห่งแสงนี้แล้วพึมพำออกมา
“เขานี่โง่จริงๆ….คิดเหมือนกันใช่ไหม? อัล”
“นั่นสินะครับ ดยุคไรน์เฟลด์ค่อนข้างรวยอยู่แล้ว ถึงยังไงถ้าเส้นทางนี้สร้างเสร็จหล่ะก็, คนที่จะได้ประโยชน์จากมันเพิ่มขึ้นก็คงจะเป็นลอร์ดที่อยู่บริเวณใกล้เคียง”
แน่นอนว่า, ดยุคไรน์เฟลด์จะได้ประโยชน์จากมันด้วยแต่พิจารณาจากสเกลการก่อสร้างนั้น, มันค่อนข้างจะเป็นผลลบกับเขาซะมากกว่า
สิ่งนี้จะต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อชดเชยกับที่เขาเสียไปอย่างแน่นอน
ลอร์ดที่อยู่บริเวณนี้ไม่ค่อยจะมีอิทธิพลอะไรนัก ดังนั้นค่าใช้จ่วยส่วนใหญ่น่าจะมาจากกระเป๋าของเยอร์เกน
“ทำไมกัน….ทำไมเขาถึงลงทุนขนาดนี้?”
“นั่นสินะครับ แม้แต่ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ท่านพี่ลองไปถามเขาด้วยตัวเองดีไหมครับ?”
นี่เป็นเรื่องโกหก
คำตอบนั้นเห็นได้ชัดอยู่แล้ว
ข้ารักท่าน เขายังคงยึดมั่นกับคำพวกนี้ เพื่อให้คนที่เขารักไม่ต้องมาเสียใจอีก
เมื่อสามปีก่อน, เยอร์เกนอาจจะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวท่านพี่ ไม่สิ, มันน่าจะเป็นเขานั่นแหล่ะที่รู้สึกถึงมันมากที่สุด
“……อัล”
“ว่าไงครับ?”
“ข้าควรทำยังไงดี……?”
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ข้าคิดว่าท่านพี่น่าจะเป็นตัวของตัวเองให้มากกว่านี้ ถ้าท่านพี่ยอมรับคำขอแต่งงานของเขาเพียงเพราะรู้สึกผิดกับเขา, ดยุคก็อาจจะรู้สึกค่อนข้างผิดหวังก็ได้นะครับ เขาคงจะบอกว่า, ข้าไม่ได้ตกหลุมรักกับคนแบบนี้หรืออะไรเทือกๆนั้น”
“เป็นคนที่น่ารำคาญจังเลยนะ…..”
“นั่นสินะครับ ข้าคิดว่าเขาคือหนึ่งในสามคนที่น่ารำคาญที่สุดในจักรวรรดิ เขาทำทั้งหมดนี้และไม่เคยบอกท่านพี่เลยซักคำเดียว คนส่วนใหญ่คงจะบอกว่าพวกเขาทำถึงขนาดนี้แล้วนะเพราะฉะนั้นท่านพี่ต้องแต่งงานกับพวกเขา”
ข้าทำแบบนี้เพื่อเจ้าเพราะฉะนั้นจงมาแต่งงานกับข้า นี่ไม่ใช่แนวคิดของเขาเลย เขาไม่ได้ทำมันเพื่อหวังผลตอบแทนบางอย่าง
ไม่ใช่สำหรับเขาเอง, แต่สำหรับคนที่เขารักต่างหากหล่ะ
ในตอนที่เขาบอกว่าเขาอยากเป็นคนที่จริงใจกับความรัก, ฉันคิดว่าความรู้สึกของเขามันหนักหน่วงสุดๆแต่ตอนนี้ฉันพอเข้าใจแล้ว
ในเมื่อเขาลงทุนทำเพื่อเธอถึงขนาดนี้, ฉันก็รู้สึกอยากจะสรรเสริญเขาแทน
เขาเป็นคนที่ซื่อตรงจนเข้าขั้นน่ากลัว
“ข้าว่าอย่ารู้สึกผิดกับเขาแล้วเริ่มคิดว่าแต่งงานกับคนแบบนี้ก็ดีเหมือนกันน่าจะดีกว่านะครับ, แบบนี้ไม่ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีหรอ?”
“ไม่หรอก ไม่ว่าเขาจะลงทุนทำถึงขนาดไหน, เยอร์เกนก็ยังคงเป็นแค่เพื่อนที่ดีของข้า
“งั้นหรอครับ เอาเถอะ, มันเป็นปัญหาของท่านพี่เพราะฉะนั้นข้าคิดว่าท่านพี่ควรจะเป็นคนที่ตัดสินใจว่าอยากให้เรื่องนี้ออกมาเป็นยังไงแต่ว่า”
“แต่อะไร?”
ฉันหันหลังกลับแล้วเดินจากไปอย่างเงียบๆ
ถึงยังไงมันก็จะได้เวลาที่กองทหารม้าเตรียมพร้อมเสร็จแล้ว
ในขณะที่ฉันกำลังมองพวกเขา, ท่านพี่ก็ตามฉันมา
“แต่อะไร?”
“คาใจหรอครับ?”
“ก็แน่หล่ะสิ, พูดมาเถอะหน่า”
“นั่นสินะครับ….ข้าก็แค่คิดว่าถ้าได้เรียกเขาว่าพี่เขยก็คงจะดี ในเมื่อเขาลงทุนทำถึงขนาดนี้ข้าก็คงจะยอมรับคนอื่นมาเป็นพี่เขยของข้าไม่ได้แล้ว”
“เห้ออ….อย่างงั้นหรอกหรอ”
ท่านพี่เผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยให้กับคำพูดของฉัน ผ้าคลุมสีน้ำเงินของเธอพริ้วไหวในขณะที่เธอเร่งฝีเท้า
ท่าทีของเธอนั้นงดงามและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
นี่คือตัวตนของพี่สาวที่ฉันคุ้นเคยดี
“ไปกันเถอะ, ลีโอกำลังรออยู่”
“ครับ”
ด้วยประการฉะนี้เอง, ท่านพี่ลีเซกับฉันก็ตรงไปทางใต้