การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) - ตอนที่ 78
“ปกป้องประชาชนที่กำลังหนี! อย่าปล่อยให้พวกมันไล่ตามประชาชนได้!”
ลีโอใช้พลังเสียงทั้งหมดออกคำสั่ง
ลีโอกำลังมุ่งหน้าไปบัสเซาในตอนที่เขาสังเกตเห็นว่ามีลูกบอลยักษ์สีดำลอยขึ้นมาเหนือเมือง
หลังจากที่เห็นความผิดปกตินี้, ลีโอก็เริ่มเตรียมรับการต่อสู้และรีบออกคำสั่งให้จุดสัญญาณไฟสีม่วง เขาเข้าใจในทันทีว่าลูกบอลนี้คือความผิดปกติและรู้ได้ตามสัญชาตญาณว่ามันอันตราย
มันคือสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ในทำนองเดียวกันนั้นเอง, การปรากฎตัวขึ้นของมันยังเหนือความเข้าใจของเขาด้วย
ทางรอดเดียวในที่นี้ก็คงจะเป็นการป้องกันไม่ให้อัศวินหลวงของเขาทำเรื่องห่ามๆ, และออกคำสั่งให้จุดสัญญาณไฟสีม่วงในทันที
“ชิ!”
ลีโอเหวี่ยงดาบของเขาในขณะที่นั่งอยู่บนหลังม้า
สิ่งที่เขาฟาดฟันใส่ก็คือมอนส์เตอร์ที่ร่างกายมีแต่กระดูก
มันคือมอนส์เตอร์ระดับต่ำที่มีชื่อว่าโครงกระดูก, มอนส์เตอร์ชนิดหายากที่เรียกว่าอันเดดซึ่งจะไม่ปรากฎตัวขึ้นภายใต้สถานการณ์ปกติ
ลีโอขยี้จุดอ่อนของมันที่บริเวณหน้าอกแต่มันก็เหมือนเอาน้ำหยดลงหิน
โครงกระดูกกำลังแห่ออกมาจากบัสเซาเหมือนกับน้ำที่ล้นออกมาจากแก้ว
จากสิ่งที่เขาเห็น, จำนวนของพวกมันนั้นไม่ใช่แค่ร้อยสองร้อย
ตอนนี้ผู้คนของบัสเซากำลังหนีจากกองทัพโครงกระดูก
“องค์ชายลีโอนาร์ด! โปรดถอยกลับไปก่อนเถอะครับ!”
พอพูดจบ, อัศวินหลวงก็ฟันโครงกระดูกที่อยู่รอบตัวลีโอ
อย่างไรก็ตาม, ไม่ว่าพวกเขาจะฟันไปมากแค่ไหน, มันก็ยังมาหาพวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ
“พวกมันออกมาเรื่อยๆเลย! ตอนนี้รีบถอยกันก่อนเถอะครับ!”
“ไม่, พวกเราต้องหยุดพวกมันเอาไว้ที่นี่”
“เอาจริงหรอครับ, องค์ชาย!?”
อัศวินอุทานให้กับการตัดสินใจของลีโอ
มีแค่ลีโอกับอัศวินหลวงเท่านั้นที่ทำหน้าที่เป็นการ์ดให้ที่นี่ นอกเหนือจากนั้นก็มีแค่ลินเฟีย, อาเบลและสมาชิกปาร์ตี้ของเขา หากนับทุกคนรวมกันจำนวนของพวกเขาถึงยี่สิบคนรึเปล่ายังไม่รู้เลย
การหยุดโครงกระดูกนับร้อยนั้นเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาไม่ว่าจะมองยังไงก็ตาม
“ถ้าพวกเราทิ้งที่นี่ไป, ประชาชนที่กำลังหนีคงไม่รอดแน่ พวกเราหนีไม่ได้ แนวหน้าต้องถูกสร้างขึ้นที่นี่”
“ถ้างั้นอย่างน้อยก็ขอแค่ตัวท่านช่วยถอยกลับไปเถอะครับองค์ชาย!”
“ข้าไม่ถอย มีอะไรจะพูดอีกไหม?”
ลีโอถามในขณะที่ฟันโครงกระดูกอีกตัว
การถอยนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การทำแบบนั้นจะส่งผลให้ประชาชนที่เขาอยากปกป้องตกอยู่ในความเสี่ยง
เขาไม่สามารถทำให้ประชาชนตกอยู่ในอันตรายเพียงเพื่อช่วยตัวเองได้
ตอนนี้ลีโอไม่ใช่จักรพรรดิ เขาอาจจะตัดสินใจถอยถ้าเขาต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่เขาจะทำให้กับจักรวรรดิ อย่างไรก็ตาม, ตอนนี้ลีโอเป็นแค่ผู้มีสิทธิได้เป็นจักรพรรดิ
ชีวิตของเขาไม่ได้มีน้ำหนักเท่าจักรพรรดิ
“ข้าลงใต้มาพร้อมกับเป้าหมาย ข้ามาที่นี่เพราะข้าอยากช่วยให้ประชาชนหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมาน แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยน แล้วพวกเจ้าหล่ะ? ในตอนที่พวกเจ้าได้รับดาบของตัวเองในฐานะอัศวินหลวง, พวกเจ้ายังจำคำปฏิญาณที่ให้ไว้กับองค์จักรพรรดิได้รึเปล่า?”
อัศวินที่เรียกร้องให้หนีจากฝูงโครงกระดูกที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆพากันเงียบกริบ
อัศวินหลวงสาบานว่าจะเป็นดาบของจักรพรรดิ พวกเขาสาบานกับดาบและเกียรติของพวกเขา
“ข้าสาบานว่าจะพลีกายให้จักรวรรดิและประชาชน คำสาบานนี้จะไม่มีวันเลือนหายไปจากใจของข้าครับ”
“ดี ถ้างั้นก็จงสู้ซะ เวลาที่พวกเรายื้อเอาไว้ที่นี่จะต้องมีความหมายอย่างแน่นอน!”
“ครับ, องค์ชาย!”
ไม่มีใครเรียกร้องให้ลีโอถอยอีกแล้ว
ที่ลีโอตัดสินใจทำแบบนี้ไม่ได้มาจากความรู้สึกของเขาเพียงอย่างเดียว
โครงกระดูกที่หลั่งไหลออกมาจากเมืองนั้นไม่ได้มีพฤติกรรมแบบสุ่ม พวกมันจะมารวมตัวกันตรงจุดที่ศัตรูที่อยู่ใกล้กับพวกมันมากที่สุด
หรือพูดอีกนัยนึงก็คือ, ลีโอกับคนของเขากำลังดึงดูดความสนใจของโครงกระดูก
ถ้าเขาถอยที่นี่, โครงกระดูกที่สูญเสียเป้าหมายก็จะกระจัดกระจายไปทั่วแดนใต้
ซึ่งในกรณีนั้น, ลอร์ดทางใต้ก็จะถูกบังคับให้ปกป้องดินแดนของพวกเขาด้วยตัวเองและมันก็จะใช้เวลาในการกำจัดนานขึ้น
เขาตัดสินใจว่าจะอยู่ที่นี่ในฐานะ ‘ตัวล่อ’ เพราะเขาพิจารณาแล้วว่าการทำแบบนี้จะส่งผลดีกับจักรวรรดิมากกว่า
“องค์ชายลีโอนาร์ด ข้าขออะไรซักอย่างจะได้ไหมคะ?”
“ว่ามาสิ, ลินเฟีย เจ้าไม่ได้มาขอให้ข้าถอยเหมือนกันใช่ไหม?”
“หมู่บ้านของข้าอยู่ข้างหลังพวกเรา, ข้าขอโทษด้วยแต่มันคงเป็นปัญหาสำหรับข้าได้ถ้าองค์ชายตัดสินใจละทิ้งที่นี่”
“ว่าแล้วเชียว, เจ้าเองก็เข้าใจดีสินะ”
พอรู้ว่าลินเฟียเองก็มีความคิดคล้ายกัน, ลีโอจึงยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
ในบรรดาขุนนางทางใต้ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยนั้น, ถ้าทางใต้ต้องรับภัยจากโครงกระดูก, คนที่จะได้รับความเสียหายหนักสุดก็คงจะเป็นหมู่บ้านผู้อพยพ ที่นี่คงมีลอร์ดอยู่ไม่กี่คนที่อยากปกป้องพวกเขา, ส่วนพวกที่มีความมุ่งมั่นระดับนั้นและมีอำนาจมากพอที่จะปกป้องตัวพวกเขาเองด้วยและหมู่บ้านด้วยคงจะมีน้อยยิ่งกว่า
“แล้วเจ้ามีแผนยังไงบ้าง?”
“เรียกกำลังเสริมค่ะ”
ลินเฟียเก็บกวาดโครงกระดูกที่อยู่รอบตัวพวกเขาในขณะที่พูดกับลีโอ
แค่ช่วงสั้นๆก็ยังดี, เธออยากได้เวลาที่เธอสามารถคุยกับเขาได้อย่างเหมาะสม
“กำลังเสริมหรอ? จากที่ไหน?”
“จากทางใต้ทั้งหมด ตอนนี้พวกเราสามารถส่งผู้ส่งสารไปยังเมืองที่อยู่ใกล้ที่สุดได้ค่ะ”
“เจ้าตั้งใจจะเคลื่อนไหวลอร์ดหรอ?”
“ไม่ใช่ค่ะ, พวกเราคงนับพวกเขาไม่ได้หรอก พวกเราจะพึ่งพานักผจญภัยแทน ถ้าพวกเราจ่ายรางวัล, พวกเขาก็จะไม่ทรยศเราและจะทำงานเพื่อท่านเท่านั้นค่ะ, องค์ชาย เหมือนกับคุณอาเบลและปาร์ตี้ของเขาที่อยู่ที่นี่ยังไงหล่ะคะ”
“อา, นั่นสินะ! พวกเราได้รับรางวัลมาตั้งเยอะนี่หน่า มันไม่มีทางที่พวกเราจะหนีไปเฉยๆได้อยู่แล้ว! ถึงตอนนี้ข้าจะอยากหนีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็เถอะ!”
อาเบลที่กำลังต่อสู้อยู่ใกล้ๆฟันโครงกระดูกในขณะที่พูดออกมาแบบนั้น สมาชิกปาร์ตี้ของเขาเองก็เริ่มบ่นอุบอิบแล้ว
“หัวหน้าของพวกเรานี่ถูกรางวัลล่อลวงง่ายจังเลยนะ……”
“มันเป็นความผิดของข้าหรอ!? พวกเราคุยกันก่อนที่จะรับภารกิจนี้แล้วไม่ใช่รึไง!?”
“ไม่ ไม่, ทุกคนคัดค้านต่างหากหล่ะ ที่พวกเรารับภารกิจนี้ก็เพราะจู่ๆเจ้ารู้สึกรักความถูกต้องขึ้นมาแล้วบอกว่าเจ้าไม่สามารถมองข้ามปัญหาในหมู่บ้านนี้ได้ไม่ใช่หรอ?”
“เห้ย เห้ย!? พวกเราดั้งด้นมาถึงที่นี่เพื่อมาโทษข้ารึไง!? พวกเราเป็นพวกพ้องกันไม่ใช่หรอ!?”
สมาชิกปาร์ตี้ของอาเบลยังคงดำเนินบทสนทนาที่สนุกสนานนี้ต่อไปในขณะที่รักษาตำแหน่งของพวกเขาแล้วคอยระวังให้กัน
นักผจญภัยคือมืออาชีพในการจัดการมอนส์เตอร์
แน่นอนว่า, ถ้าพวกเขามีนักผจญภัยเป็นกำลังเสริมพวกเขาก็จะได้พันธมิตรที่แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม,
“ทางใต้มีแต่กิลด์นักผจญภัยสาขาเล็กๆ, ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะช่วยพวกเราได้นักหรอกนะ”
“ข้าเข้าใจดีค่ะ และมันก็เป็นเหตุผลที่พวกเราจะส่งคำขอไปให้ทุกสาขา”
“เจ้าหมายความว่ายังไง?”
“พวกเราจะออกเรดเควส(Raid Quest)ค่ะ”
เรดเควส ลีโอค้นคำๆนี้จากในความทรงจำของเขา
เขาเคยได้ยินมาก่อน
ที่ส่วนลึกของความทรงจำของเขา, คำๆนี้ออกมาจากเรื่องราวที่แม่ของเขาเคยเล่าในตอนที่เขายังเด็ก
“มันคือเควสใหญ่ที่นักผจญภัยหลายคนสามารถรับได้ใช่ไหม?”
“ค่ะ สมัยนี้คงจะเป็นเควสที่ไม่ค่อยออกมาแล้วแต่นี่แหล่ะค่ะคือช่วงเวลาที่เหมาะสม”
“ว่าแต่, ทำไมสมัยนี้ถึงไม่ค่อยออกกันหล่ะ?”
“ถ้าให้พูดง่ายๆก็เพราะมันเป็นภารกิจที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายจำนวนมากค่ะ”
จากนั้นลีโอก็เข้าใจสิ่งที่ลินเฟียพยายามจะสื่อ
การส่งนักผจัญภัยระดับสูงมาคนนึงนั้นดีกว่าการส่งระดับต่ำมาหลายคน ยกตัวอย่างในกรณีง่ายๆก็นักผจญภัยแรงค์ SS
การขอความช่วยเหลือจากนักผจญภัยแรงค์ SS นั้นถูกกว่าการออกเรดเควสมาก เรดเควสคือคำขอที่ต้องใช้เงินถึงขนาดนั้น
“เจ้ามีเงินทุนพอหรอ? ข้าไม่ได้พกเงินมามากขนาดนั้นนะ”
“องค์ชายอาร์โนลด์ให้ข้ามาเยอะเลยค่ะ เราใช้มันกันเถอะ”
“จริงหรอเนี่ย……เขาไม่เคยใช้จ่ายเงินให้ตัวเองเลยแล้วตอนนี้เขากลับส่งมันให้คนอื่นง่ายๆเนี่ยนะ”
“ก็สมกับเป็นองค์ชายอาร์โนลด์ไม่ใช่หรอคะ เขาเป็นคนใจดีไม่ใช่หรอ”
ลินเฟียยิ้มแล้วส่งถุงเงินที่เธอรับมาจากอัลให้ลีโอ
ลีโอ, ที่คิดว่าลินเฟียจะไปด้วยตัวเอง, ขมวดคิ้ว
“ข้าคิดว่าถ้าเจ้าไปแทนข้ามันจะทำเรื่องไวกว่ารึเปล่า?”
“ข้ารับปากไม่ได้นะคะว่าข้าจะไม่ทรยศท่านเพราะฉะนั้นฝากเรื่องแบบนี้เอาไว้กับอัศวินหลวงน่าจะทำให้องค์ชายสบายใจกว่านะคะ”
ลีโอขมวดคิ้วให้กับคำพูดของลินเฟีย
ลีโอไว้ใจลินเฟียแล้ว เขาคิดว่าตอนนี้ไม่มีทางที่เธอจะทรยศเขา อย่างไรก็ตาม, นี่มันคือความไว้ใจส่วนตัวของลีโอ
ในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้, เขาไม่สามารถฝากงานที่สำคัญนี้ให้กับนักผจญภัยที่ไหนไม่รู้ได้
ข้อเสนอของลินเฟียนั้นอิงจากจุดยืนของลีโอ
“ข้าจะอยู่ต่อสู้เคียงข้างองค์ชายลีโอค่ะ ถึงยังไงข้าก็ให้สัญญากับองค์ชายอาร์โนลด์เอาไว้แล้วด้วยว่าข้าจะกลายเป็นพลังให้ท่านจริงๆ”
“เอาจริงๆเจ้าก็ช่วยข้ามาพอแล้วหล่ะนะ มีใครทำหน้าที่เป็นคนส่งสารได้บ้าง!? ใครก็ได้ที่มั่นใจว่าจะไม่หนีไปคนเดียว!?”
ลีโอถามอัศวินหลวง
อัศวินหลวงไม่ได้ตอบสนองในตอนที่เขาถามหาคนส่งสาร ถึงยังไงมันก็เหมือนกับการวิ่งหนีจากศัตรู ยิ่งกว่านั้นยังเป็นสถานการณ์ซึ่งเจ้าชายที่พวกเขาต้องปกป้องกำลังต่อสู้อยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม, ลีโอได้เพิ่มคำว่าเขาอยากได้คนที่จะไม่ทิ้งงานหนีไปคนเดียว
ถ้าพวกเขาไม่เสนอตัวตรงนี้, มันก็เหมือนกับว่าพวกเขาไม่มีความมั่นใจในเรื่องนั้น
ด้วยเหตุนี้เองอัศวินหลวงทุกคนจึงเสนอตัว ลีโอส่งถุงเงินให้กับอัศวินที่ควบคุมม้าได้ดีที่สุดแล้วให้คำแนะนำ
“มุ่งหน้าไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุดแล้วขอให้กิลด์นักผจญภัยออกเรดเควส! กิลด์สามารถติดต่อกับสาขาทั้งหมดที่อยู่ทั่วทวีปได้! จงทำให้มั่นใจว่าพวกเขาจะกระจายภารกิจนี้ไปยังเมืองหลวงของจักรวรรดิด้วย!”
“ครับ, องค์ชาย! ข้าจะรีบกลับมาที่นี่ให้เร็วที่สุดครับ! ขอให้โชคแห่งสงครามสถิตอยู่กับท่าน!”
“เจ้าก็ด้วย, ตอนนี้ไปได้แล้ว!”
พอพูดจบ, อัศวินก็เริ่มวิ่ง
เมื่อส่งเขาออกไปแล้ว, ลีโอก็หันไปมองเมืองบัสเซา
ลูกบอลสีดำแผ่ความมุ่งร้ายออกมาหนักขึ้นแล้วเขาก็นับจำนวนโครงกระดูกไม่ได้แล้ว
มันเหมือนกับว่าตัวเมืองได้กลายเป็นประตูนรกไปแล้ว
ในขณะที่กำลังรู้สึกเช่นนี้, ลีโอก็เพ่งสมาธิไปที่การเหวี่ยงดาบของเขา