การผจญภัยของจอมเวทย์ที่ชอบเล่นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่ 6 เรนกะผู้ไม่ชินกับการถูกปฏิบัติเหมือนเป็นเด็กผู้หญิง
- Home
- การผจญภัยของจอมเวทย์ที่ชอบเล่นชู้กับเมียชาวบ้าน
- ตอนที่ 6 เรนกะผู้ไม่ชินกับการถูกปฏิบัติเหมือนเป็นเด็กผู้หญิง
ผ่านไปสามเดือน นับตั้งแต่ชินจิได้เข้าร่วมปาร์ตี้ “หมาป่าคะนอง”
วันนี้เขาตัดสินใจหยุดงานผจญภัยหนึ่งวัน และออกจากโรงแรมตอนเช้าเดินเล่นไปรอบเมืองตามลำพัง
เขามีที่อยากจะไป แต่ยังไม่ได้ตัดสินว่าจะซื้ออะไร จึงเดินไปยังย่านการค้า
เขาเดินดูไปรอบๆ แต่ยังไม่พบสิ่งที่ต้องการจะซื้อ ในขณะที่เดินครุ่นคิด ก็มีคนเรียกเขาจากด้านหลัง
“วันนี้นายตื่นเร็วนะชินจิ ฉันคิดว่าตอนเช้าแบบนี้จะยังนอนอยู่ซะอีก”
“อรุณสวัสดิ์ เรนกะ วันนี้ฉันออกมาหาซื้อของบางอย่างน่ะ”
เมื่อชินจิทักทาย เรนกะจึงยิ้มตอบกลับ เวลาผ่านไปสามเดือนก็เพียงพอแล้วที่จะกระชับสัมพันธ์จนแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พวกเขาสามารถพูดคุยและทักทายกันเมื่อบังเอิญเจอกันในเมืองหรือตามถนนหนทาง
“จะว่าไปก็แปลก ปกติถ้าชินจิคิดจะซื้ออะไรก็ซื้อทันที”
“ก็คงจะอย่างนั้น แต่วันนี้ฉันมาเลือกของขวัญวันเกิดให้อัลวิน อีก 1 เดือนกับ 4 วันจากนี้ใช่ไหม?”
ชินจิจำเรื่องวันเกิดได้จากการคุยสัพเพเหระระหว่างทำภารกิจ แน่นอนว่าไม่ใช่แค่วันเกิดของอัลวิน แต่ยังรวมถึงวันเกิดของเรนกะและมีลิสอีกด้วย การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ จะเป็นการสร้างความประทับใจที่ดีในตัวของชินจิ และเรนกะจะยังปลาบปลื้มในความตั้งใจของชินจิที่จะร่วมอวยพรวันเกิดให้ผองเพื่อนอีกด้วย
“ใช่แล้ว ในวันเกิดของทุกปี พวกเราจะร่วมกับเลี้ยงฉลองมื้อค่ำ และปีนี้จะชวนชินจิเข้าร่วมด้วย”
“ช่างเป็นเรื่องน่ายินดี งั้นฝากบอกทั้งสองคนด้วยนะ”
“ฮุฮุ ฉันแน่ใจว่าพวกเขาจะต้องยินดีเช่นกัน”
เรนกะหัวเราะคิกคักเมื่อชินจิรับคำเชิญชวนอย่างสุภาพ
“แล้วอีกสองคนกำลังไปเดทกันอยู่เหรอ?”
“ใช่ พวกเขาออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว ฉันก็เลยว่างออกมาเดินซื้อของเรื่อยเปื่อย”
“ถ้าอย่างนั้น เธอมาช่วยฉันเลือกของขวัญให้อัลวินด้วยกันไหม คงจะดีกว่าถ้ามีตัวช่วย แล้วฉันจะตอบแทน”
“งั้นให้ชินจิเลี้ยงมื้อเที่ยงแล้วกัน”
“ได้เลย”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งคู่ออกไปข้างนอกด้วยกัน แต่ชินจิกับเรนกะมักจะช่วยกันเลือกซื้อของหรือรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับปาร์ตี้อยู่หลายครั้ง
ดูเหมือนว่าเรนกะจะเริ่มไว้วางใจในตัวของชินจิ ที่ตั้งใจทำงานอย่างแข็งขันเพื่อปาร์ตี้ และไม่ก้อร่อก้อติกกับเธอเวลาอยู่ตามลำพัง จนเธอเริ่มลดความระวังตัวลงเพราะไม่รู้สึกอึดอัดใจอีกต่อไปเวลาอยู่กับเขา
“เอาล่ะ เริ่มจากร้านนั้นดีกว่า แล้วจะเลือกซื้ออะไรกันดี?”
“คิดว่าน่าจะเป็นของใช้ในชีวิตประจำวันดีไหม? แต่ถ้าเราจะเลี้ยงฉลองก็คงต้องเป็นของหวาน”
“ปกติ ฉันจะอบเค้กกับมี่”
ขณะที่เดินคุยกัน หากเรนกะเดินนำหน้า ชินจิจะเดินตามหลังหนึ่งก้าว เพื่อรักษาระยะห่างในฐานะเพื่อน
ถึงจะเดินดูอยู่หลายร้านแต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกซื้ออะไร จนเกือบถึงเวลามื้อกลางวัน
“เรนกะ ทานมื้อเที่ยงกันก่อนดีไหม?”
“อืม ไปลานตรงนั้นกันเถอะ ที่นั่นมีแผงขายอาหารอร่อยๆ วันนี้อากาศดี นั่งกินข้าวข้างนอกกันดีกว่า”
“เห็นด้วย”
เมื่อมาถึงลานกว้าง มีผู้คนเดินไปมาพลุกพล่าน และมีคู่รักหลายคู่เดินคุยเล่นหรือนั่งทานอาหารกัน มีที่เหลือไม่มากให้จับจองที่นั่ง และแผงอาหารก็มีคนต่อคิวค่อนข้างมาก คงจะไม่สามารถซื้อมื้อเที่ยงได้ในทันที
“ฉันจะจองม้านั่งตรงนี้ให้ เธอเป็นคนไปซื้อก็แล้วกัน”
“ก็ใช่นะ ถ้าฉันเป็นคนจอง อาจโดนพวกเจ้าชู้เข้ามาจีบ”
“เป็นคนสวยนี่มันลำบากนะ เอ้านี่ กระเป๋าเงินของฉัน”
ชินจิยิ้มแล้วยื่นกระเป๋าเงินให้เรนกะที่กำลังดูหงุดหงิดเมื่อคิดว่าอาจถูกจีบหากเป็นฝ่ายนั่งรอ
“แค่เหรียญเงิน 2 เหรียญก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้มาทั้งกระเป๋าหรอกนะ”
“ถ้าเป็นเรนกะล่ะก็ไม่มีปัญหา?”
“อืม เอาแบบนั้นก็ได้”
ด้วยการจ้องมองอย่างระมัดระวังตัวของเรนกะ ทำให้ชินจิอึ้งไปนิดนึง เมื่อเวลาชินจิจะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น เขามักจะถามอย่างสุภาพ แต่เมื่อเริ่มคุยกันแบบเป็นกันเองมากขึ้น เรนกะที่ไม่ชินก็ดูตระหนกนิดหน่อย แต่ชินจิก็รู้สึกยินดีในใจที่คิดว่าเริ่มได้รับความไว้วางใจจากเธอ
ชินจินั่งลงบนม้านั่งแล้วมองทิวทัศน์ไปรอบๆ อากาศดีและสงบ มีเด็กๆ วิ่งเล่นไปรอบลานกว้าง เมื่อมองไปยังเรนกะที่กำลังต่อแถวซื้ออาหารก็ได้ยินเสียงอันไม่พึงประสงค์ของเธอ
เขาเห็นเรนกะถูกผู้ชาย 2 คนรุมจีบ เนื่องจากแผงอาหารอยู่ไกลจากม้านั่ง พวกนั้นเลยคิดว่าเธอมาคนเดียว ชินจิจึงเดินเข้าไปหาเรนกะ
“ฉันบอกว่ามากับเพื่อนผู้ชายไงล่ะ!”
“ทิ้งเจ้าผู้ชายน่าเบื่อคนนั้นที่ใช้สาวน้อยน่ารักมาซื้ออาหารซะดีกว่า”
“ใช่ ใช่ ไปสนุกกับพวกเราเถอะ”
แม้ว่าเรนกะจะปฏิเสธเสียงแข็ง แล้วจ้องเขม็งไปยังพวกเจ้าชู้ แต่พวกนั้นกลับไม่สนใจเลย และยังคงหัวเราะร่าแล้ววุ่นวายกับเธอต่อไป เรนกะซึ่งถือกล่องอาหารอยู่ทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวก พวกนั้นก็คงรู้เรื่องนี้ดี
เมื่อเรนกะเริ่มหัวร้อนจะอ้าปากโวยวาย ชินจิก็มายืนขวางอยู่ข้างหน้าเธอ
“โทษทีนะ เธอมากับฉัน ช่วยหลบไปที่อื่นได้ไหม?”
ชินจิยิ้มแล้วมองไปยังพวกผู้ชายเจ้าชู้ แต่แววตาของเขานั้นไม่ได้ยิ้ม ทำให้ดูน่าสะพรึงอย่างน่าประหลาด เมื่อพวกนั้นจะอ้าปากจะตอบโต้ ชินจิก็ระเบิดพลังเวทย์มนตร์เพื่อเพิ่มแรงกดดันอันหนักหน่วง
เมื่อตระหนักได้ถึงภัยคุกคามจากชินจิ พวกนั้นจึงเงียบปากแล้วจากไป เมื่อทิ้งระยะไปสักพักพวกนั้นก็เริ่มตะโกนด่า แต่ชินจิไม่สนใจเสียงเห่าหอนของหมาขี้แพ้แต่อย่างใด
“ต้องขอโทษด้วย ฉันไม่คิดว่าเธอจะโดนจีบตอนคลาดสายตา”
“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ขอบคุณที่มาช่วยก่อนฉันจะโวยวายใส่พวกนั้น”
ชินจิมองไปที่เรนกะอย่างสำนึกผิด แต่เรนกะส่ายหัวว่าไม่เป็นไรแล้วยิ้ม
เมื่อเรนกะยื่นกล่องอาหารให้ชินจิ เขาจึงพูดขึ้นว่า
“เพราะว่าเธอดูสวยมากในชุดปกติ แล้วชุดลำลองนี้ก็ดูเหมาะกับเธอมากเลย ลืมเจ้าพวกนั้นแล้วไปนั่งทานข้าวกันเถอะ”
เรนกะรู้สึกประหม่าทันทีกับคำชมอย่างกระทันหันของชินจิ
หัวใจของเรนกะเริ่มเต้นแรงเพราะไม่เคยได้รับคำชมจากเพื่อนที่เป็นเพศตรงข้าม ซึ่งต่างจากมีลิสที่เป็นเพศเดียวกัน เธอมักจะถูกชมว่าสวย แต่ไม่เคยมีใครชมเครื่องแต่งกายของเธอมาก่อน
แต่ด้วยนิสัยของเรนกะ ถึงจะดีใจที่ได้รับคำชม แต่กลับพูดเลี่ยงประเด็นเสียงดังเพื่อปกปิดความเขินอาย
“ร…รู้แล้วล่ะน่า! รีบทานข้าวกันเถอะ! อาหารร้านนี้อร่อยที่สุด!”
“โอ้ ถ้าเรนกะว่าอย่างนั้น ต้องลองสักหน่อยแล้ว”
เรนกะสังเกตรอยยิ้มของชินจิที่ดูเหมือนปกติ แล้วสงสัยว่าเขาคิดอะไรอยู่ในใจ เขาไม่ได้เป็นคนชอบล้อเล่นเหมือนอัลวิน เธอจึงดูสบายใจแล้วเดินตามชินจิไปที่ม้านั่ง
หลังจากทานอาหารมื้อเที่ยงเสร็จ ทั้งคู่จึงเดินกลับเข้าไปในเมือง
แต่ช่วงบ่ายแตกต่างไปจากตอนเช้า
ชินจิเดินนำ และเรนกะเดินตาม
เรนกะซึ่งเคยเป็นคนชี้นำอัลวินและมีลิสมาตลอด เริ่มรู้สึกแปลกใหม่กับการมีผู้นำที่วางใจได้ พ่อของเธอเป็นผู้ชายที่อายุมากกว่าเพียงคนเดียวที่เธอสนิทด้วย เธอจึงตื่นเต้นและยินดีอย่างน่าประหลาดที่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามที่เชื่อถือได้
สุดท้ายทั้งคู่ก็เดินเที่ยวจนค่ำ และยังไม่พบของที่ต้องการจะซื้อ ชินจิจึงพาเรนกะไปส่งที่โรงแรม ตอนแรกเธอปฏิเสธแล้วจะให้แยกกันกลับโรงแรม แต่แล้วก็ยอมทำตามคำแนะนำของชินจิ เพื่อเลี่ยงการถูกจีบ เพราะช่วงเวลาเย็นมักจะมีแต่ผู้ชายที่ดักจีบผู้หญิงเพื่อชวนไปทานมื้อค่ำ หลังจากอยู่ร่วมกันมาครึ่งวัน เรนกะก็ดูจะพึ่งพาชินจิมากขึ้น
“ฉันขอโทษที่พาเธอเสียเวลาไปครึ่งวันแต่ยยังเลือกซื้อของขวัญไม่ได้”
ชินจิก้มหัวอย่างขอโทษ แต่เรนกะส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เป็นไร วันนี้ฉันสนุกมากเลย”
“จริงเหรอ ดีใจจังที่ได้ยินแบบนั้น”
เรนกะรู้สึกอิ่มเอิบเมื่อได้เห็นรอยยิ้มที่ดูโล่งใจของชินจิ
แต่ในใจของเรนกะกลับคิดว่า เธออาจเป็นคนเดียวที่รู้สึกสนุก เพราะเธอไม่มีความเป็นผู้หญิงเหมือนมีลิส
“แล้วชินจิล่ะสนุกไหม?”
เรนกะหลุดปากถามชินจิอย่างไม่ได้ตั้งใจ จนคิดว่าตัวเองนั้นบ้าไปแล้ว แต่คำพูดของชินจิได้เยียวยาเธอ
“แน่นอน มันสนุกมากเลย ขอบคุณมากสำหรับวันนี้นะ เรนกะ”
ฉันดีใจมากที่ได้ยินเช่นนั้น เรนกะคิดในใจ
“แล้วเจอกันใหม่พรุ่งนี้”
“โอ้ แล้วเจอกัน”
จากนั้นชินจิจึงเดินจากไป โดยเรนกะยังคงเฝ้ามองแผ่นหลังของเขาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงเดินกลับไปที่ห้องพักแล้วล้มตัวลงบนเตียงนอน
เมื่อเธอครุ่นคิดอย่างใจเย็นแล้วถึงได้ตระหนักว่า การเดินซื้อของด้วยกันนั้นมันคือการเดท ช่วงเช้าเดินเลือกซื้อของขวัญ ช่วงบ่ายก็ยังคงใช้เวลาอย่างสนุกสนานกับชินจิ ตอนนี้เมื่อแยกจากกันก็รู้สึกเหงาจับใจ….
(ไม่นะ! มันไม่ใช่การเดทสักหน่อย!)
เธอส่ายหัวแล้วกลิ้งไปมาบนเตียง
ชินจิก็ดูเหมือนปกติของเขา เขาเป็นห่วงและปฏิบัติต่อฉันในฐานะเพื่อนเท่านั้น
และแล้ว หัวใจของเรนกะก็เริ่มสั่นคลอน