การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 108 แปลก
บทที่ 108 แปลก
บทที่ 108 แปลก
หลังจากที่ถังซวงดึงมือออกแล้ว เฮ่อหลานก็ถามว่า “ซวงเอ๋อร์ อาการบาดเจ็บของคุณจิงเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงค่ะ มันไม่ได้ร้ายแรงอะไร อันที่จริง หลังจากใช้ยาพวกนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ” ในตอนท้าย ถังซวงมองไปที่เฮ่อหลาน และถามว่า “แม่ยังมียาที่ฉันให้ไว้อยู่ไหมคะ? ให้ที่เหลือกับคุณจิงจะดีกว่าค่ะ”
“ยังมีอยู่จ้ะ”
เฮ่อหลานรีบหยิบขวดยาเม็ดและยาผงออกมา จากนั้นส่งให้จิงเจ้อหรง
จากนั้นถังซวงก็พูดต่อว่า “ใช้ผงยานี้ทาแผลทุกวัน ส่วนยาเม็ดก็กินเช้าหนึ่งเม็ดและตอนเย็นอีกหนึ่งเม็ด หลังจากยาเม็ดและผงยาหมดแล้ว แผลก็จะหายดีค่ะ”
เฮ่อหลานยิ้มดีใจเมื่อได้ยิน “ดีจัง”
จิงเจ้อหรงก็ยิ้มออกมาเช่นกันและเอ่ยขอบคุณ “ครั้งนี้ฉันอยากจะขอบคุณคุณเฮ่อกับถังซวงจริง ๆ ถ้าไม่มีพวกเธอ อาการบาดเจ็บของฉันคงไม่หายเร็วขนาดนี้”
“คุณจิงคะ ฉันต่างหากที่ควรจะเป็นคนขอบคุณคุณ แม้ว่าอาการบาดเจ็บของคุณใกล้จะหายแล้ว แต่คุณก็ต้องพักผ่อน คุณจะอยู่ที่นี่สักสองสามก่อนวันไหมคะ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฮ่อหลาน จิงเจ้อหรงพยักหน้า “ครับ ผมจะอยู่ที่นี่อีกสองสามวัน และผมจะออกจากที่นี่หลังจากเสร็จธุระในเมืองซู”
“ที่ทุกคนต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เป็นเพราะเรื่องงานของคุณหรือเปล่าคะ?”
เมื่อเห็นท่าทางกังวลของเฮ่อหลาน จิงเจ้อหรงรีบอธิบาย “ที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรครับ ผมจะให้เหรินอวี่จัดการ แล้วเราจะกลับไปหลังจากที่เขาจัดการเสร็จแล้ว”
เมื่อได้ยินการสนทนาระหว่างเฮ่อหลานกับจิงเจ้อหรง ถังซวงก็มองทั้งสองคนแปลก ๆ เธอไม่รู้ว่าเธอตาฝาดไปหรือเปล่า แต่เธอถึงรู้สึกว่าระหว่างทั้งสองคนดูแปลก ๆ ไปเล็กน้อย…
แต่ตอนนี้ยังมีหลายสิ่งที่ต้องทำ ดังนั้นถังซวงจึงมองข้ามมันไป “แม่คะ ตอนนี้คุณปู่กับเสี่ยวเซวี่ยเป็นห่วงแม่มาก หนูจะหาทางติดต่อพวกเขาก่อนและบอกว่าแม่ไม่เป็นอะไร พวกเขาจะได้สบายใจ อ้อแล้วก็ต้องบอกอาจารย์ซูด้วย”
เมื่อเฮ่อหลานได้ยินเช่นนี้ เธอก็พยักหน้าอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ใช่ ๆ ต้องบอกอาจารย์กับปู่หลี่ด้วย”
โม่เจ๋อหยวนพูดจากด้านข้างว่า “ซวงเอ๋อร์ ฉันจะไปติดต่อเอง ยังไงก็ต้องบอกลุงพานด้วยว่าเจอคุณจิงแล้ว”
“ตกลงค่ะ รบกวนพี่โม่ด้วยนะ”
โม่เจ๋อหยวนส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีปัญหา” จากนั้นเขาก็จากไป
ด้านจิงเจ้อหรงก็เรียกลุงหม่าอีกครั้ง และขอให้เขาเตรียมอาหาร
ก่อนหน้านี้ถังซวงไม่เคยรู้สึกหิวเลย แต่เมื่อทุกอย่างคลี่คลายลงแล้ว เด็กสาวก็รู้สึกหิวขึ้นมา
หลังจากที่บะหมี่ ซาลาเปา และขนมอบต่าง ๆ ออกมาวางตรงหน้า ถังซวงก็เริ่มกินทันที
ด้านเฮ่อหลานกับจิงเจ้อหรงเองก็หิวเช่นกัน ทั้งคู่ก็กินเยอะมาก
ระหว่างที่กิน เฮ่อหลานก็เอ่ยถามถังซวง “ซวงเอ๋อร์ ลูกกับเสี่ยวโม่มาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เรามาที่นี่เมื่อคืนค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฮ่อหลานก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “งั้นลูกสองคนก็ยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนนี้เลยใช่ไหม?”
“ไม่ต้องห่วงค่ะแม่ เมื่อคืนเราพักผ่อนกันเต็มที่แล้ว”
ถังซวงมีผิวที่ขาวใส ดังนั้นรอยคล้ำใต้ตาของเธอจึงมองเห็นได้อย่างชัดเจน เฮ่อหลานชำเลืองมองลูกสาวคนโตของเธอแล้วพูดว่า “ลูกมีรอยคล้ำใต้ตานะ ยังจะบอกว่าพักผ่อนเต็มที่อีกหรือ?”
จิงเจ้อหรงที่อยู่ด้านข้างก็แนะนำขึ้น “คุณเฮ่อครับ ที่นี่มีห้องพักมาก คุณกับถังซวง ควรไปพักผ่อนกันสักหน่อยนะครับ เมื่อคืนคุณเองก็ไม่ได้พักผ่อนเท่าไหร่นัก”
เมื่อได้ยินดังนั้นถังซวงสังเกตใบหน้าที่ซีดเซียวของเฮ่อหลานทันที ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าเห็นด้วย “แม่คะ เราไปพักผ่อนกันสักหน่อยเถอะค่ะ”
ไม่นาน ลุงหม่าก็จัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย นอกจากห้องที่จัดไว้สำหรับสองแม่ลูกแล้ว เขายังจัดไว้สำหรับโม่เจ๋อหยวนด้วย ดังนั้นเมื่อโม่เจ๋อหยวนกลับมา ลุงหม่าจึงพาเขาไปที่ห้องรับแขก และนำอาหารมาให้เช่นกัน “คุณชายโม่ นายท่าน และคนอื่น ๆ แยกกันไปพักผ่อนแล้ว ดังนั้นคุณควรพักผ่อนหลังจากหากินอาหารเสร็จนะครับ ผมได้ยินมาว่าเมื่อคืนคุณเองก็ไม่ได้นอน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โม่เจ๋อหยวนก็ยิ้มและพูดว่า “ได้ครับ ผมรบกวนลุงหม่าด้วยนะครับ”
“ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา คุณชายโม่พักผ่อนเถอะครับ”
ลุงหม่าพูดด้วยรอยยิ้มและจากไป
โม่เจ๋อหยวนเองก็ยังไม่ได้กินข้าว หลังจากทานอาหารอย่างรวดเร็ว เขาก็ไปพักผ่อน
ส่วนถังซวงที่นอนจนเต็มอิ่มแล้ว เมื่อเธอออกไปข้างนอก เธอเห็นโม่เจ๋อหยวนยืนอยู่ตรงนั้น
“พี่โม่ พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ กินข้าวหรือยัง?”
เมื่อเห็นความกังวลบนใบหน้าของถังซวง โม่เจ๋อหยวนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดว่า “ฉันกลับมาตั้งแต่เที่ยงแล้วน่ะ เพิ่งพักในช่วงบ่ายหลังจากกินอาหารเสร็จเอง” หลังจากนั้นเขาก็พูดสิ่งที่ได้จัดการไป “ฉันบอกคุณปู่หลี่กับเสี่ยวเซวี่ยแล้ว พวกเขารู้แล้วว่าป้าหลานสบายดี ส่วนอาจารย์ซู พวกเขาก็รู้แล้วเช่นกัน และยังบอกด้วยว่าพวกเขาจะมาหาป้าหลานในวันพรุ่งนี้”
“งั้นเราเป็นฝ่ายไปหาอาจารย์ซูกับป้าเกอแทนเถอะ”
โม่เจ๋อหยวนพยักหน้าเห็นด้วยและพูดว่า “ตกลง ฉันจะคุยกับป้าหลานอีกทีนะ”
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน เฮ่อหลานก็เข้ามาหา “จะคุยอะไรกับป้าหรือ?”
โม่เจ๋อหยวนทวนสิ่งที่เขาเพิ่งพูด และเฮ่อหลานก็รีบพูดว่า “เอาสิ เราไปหาอาจารย์ซูกันเถอะ” หลังจากพูดจบ เฮ่อหลานก็เรียกทั้งสองคนไปกินข้าว “อาหารพร้อมแล้ว ไปกันเร็ว”
“ค่ะ/ครับ”
ระหว่างทานอาหารเย็น ถังซวงก็พูดถึงการเดินทางกลับ “แม่คะ พรุ่งนี้เช้าเราจะกลับโฮวซานหลังจากไปหาอาจารย์ซูกันนะ”
“ได้สิ”
เฮ่อหลานพยักหน้าเห็นด้วย หลังจากห่างหายไปนาน เธอก็รู้สึกคิดถึงบ้านเช่นกัน
เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะกลับในวันพรุ่งนี้ จิงเจ้อหรงก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พรุ่งนี้ผมจะกลับไปกับคุณด้วย”
เฮ่อหลานรีบดูที่แผลของเขาแล้วถามว่า “แผลคุณหายดีแล้วหรือคะ?”
“ผมจะถามสหายถังซวงเกี่ยวกับเรื่องนี้พอดี ถ้าเธอคิดว่าไม่เป็นไร ผมก็จะกลับไปพร้อมกับคุณครับ”
ถังซวงอดไม่ได้ที่จะมองไปยังจิงเจ้อหรงเมื่อเธอได้ยินคำพูดนั้น และพูดบอกเขาว่า “ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ แผลหายสนิทแล้ว ช่วงนี้ใส่ใจเรื่องอาหารการกินก็พอค่ะ แล้วก็ดูแลบาดแผลอย่าให้โดนน้ำ”
“อื้ม ขอบคุณนะ”
จิงเจ้อหรงขอบคุณถังซวงด้วยรอยยิ้มแล้วตัดสินใจกลับพร้อมมพวกเขาในวันพรุ่งนี้
วันรุ่งขึ้น เฮ่อหลานพาถังซวงไปที่บ้านของซูเหนียนอวิ๋น
เมื่อเห็นว่าเฮ่อหลานสบายดีจริง ๆ ดวงตาของซูเหนียนอวิ๋นกับเกอชิงเหม่ยก็เต็มไปด้วยความยินดี “ดีจริงๆ อาหลาน ขอบคุณพระเจ้าที่เธอสบายดี ไม่อย่างนั้นฉันคงนอนไม่หลับแน่ ๆ”
“อาจารย์คะ เป็นความผิดของฉันเองที่ทำให้อาจารย์ต้องมากังวลใจ”
ซูเหนียนอวิ๋นชำเลืองมองที่เฮ่อหลาน และพูดว่า “เธอไม่ผิดหรอก เอาล่ะ นั่งลงคุยกันก่อนเถอะ” พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงรู้ว่าไม่ใช่ความผิดของเฮ่อหลานเลย
หลังจากที่นั่งคุยกันสักพัก เฮ่อหลานและถังซวงก็กล่าวคำอำลา
“อาจารย์คะ เราต้องกลับกันในตอนบ่ายนี้ แล้วฉันจะมาหาเมื่อมีเวลาว่างนะคะ”
ซูเหนียนอวิ๋นยิ้มและโบกมือและพูดว่า “ได้สิ ระวังรถด้วยนะ พาซวงเอ๋อร์กับเสี่ยวเซวี่ยมาเยี่ยมฉันด้วยนะเมื่อเธอมีเวลา”
“ได้ค่ะ”
หลังจากที่เฮ่อหลานกับถังซวงจากไปแล้ว พวกเธอก็ตรงไปที่จิงเจ้อหรง ซึ่งจิงเจ้อหรงกับโม่เจ๋อหยวนรออยู่แล้ว และในที่สุดโม่เจ๋อหยวนก็ขับรถพาทั้งหมดกลับไปที่ตำบลโฮวซานในเมืองเวิงซาน
เมื่อเห็นรถกำลังจะออกไป เหรินอวี่ก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มมุมปาก นายท่านทิ้งเขาไปจริง ๆ ทั้งยังปล่อยให้เขากลับไปเองคนเดียว แล้วยังบอกด้วยว่ามีเรื่องต้องไปจัดการ และจะกลับหลังจากจัดการเสร็จ แต่เห็นว่ามันเป็นข้ออ้างชัด ๆ
ลุงหม่าตบไหล่เหรินอวี่อย่างตื่นเต้นและพูดว่า “อาอวี่ แค่ขับรถกลับเอง ให้นายท่านกับคุณเฮ่อเขากลับด้วยกันเถอะ” เขารู้สึกว่านายท่านแปลกไปจากเดิม ซึ่งแน่นอนว่าการที่นายท่านเป็นแบบนี้ก็ดีไม่น้อย
เหรินอวี่ส่ายหัว เขาถอนหายใจ และพูดว่า “ก็ได้ครับ ผมกลับคนเดียวก็ได้”