การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 116 ความยุติธรรม
บทที่ 116 ความยุติธรรม
บทที่ 116 ความยุติธรรม
เมื่อได้ยินคำพูดของจิงเจ้อหรง บริเวณโดยรอบก็เกิดเสียงฮือฮาทันที
“อะไรนะ… เฮ่อหลานมีคนรักอยู่แล้วงั้นหรือ ทั้งยังเป็นสหายคนนี้ ไม่แปลกใจเลยที่เธอปฏิเสธสือจีสูอย่างเด็ดขาดแบบนั้น”
“ถังซวงก็อีกคน เฮ่อหลานมีคนรักอยู่แล้วก็พูดออกมาเลยสิ ทำไมต้องหาเหตุผลอื่นมามากมายด้วย”
“ถูกต้อง ในเมื่อเฮ่อหลานมีคนรักแบบนี้แล้ว เธอจะยังตกหลุมรักคนอื่นอีกได้ยังไง”
สือจีสูมองไปที่จิงเจ้อหรงตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยใบหน้าที่มืดมน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องยอมรับว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นดูดีมากจริง ๆ ชายหนุ่มแต่งตัวเหมือนคนธรรมดาก็จริง แต่เขาก็ดูออกว่าชายคนนี้ไม่ธรรมดา
เฮ่อหลานกลับเป็นคนที่สับสนที่สุดในขณะนี้ เธอมองไปที่จิงเจ้อหรงด้วยความงุนงง ตั้งใจจะถามอะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้อีกฝ่ายดูเหมือนจะพยายามช่วยเธอ และการถามออกไปตอนนี้คงทำลายความตั้งใจของเขา ดังนั้นเธอจึงไม่พูดอะไร
ด้านถังซวงเองก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน เธอมองไปที่จิงเจ้อหรง จากนั้นมองไปที่แม่ของเธอด้วยสายตาที่ครุ่นคิด
แม้แต่โม่เจ๋อหยวนก็มองไปที่จิงเจ้อหรงด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เคยคิดเลยว่าจิงเจ้อหรงจะบอกไปแบบนั้น นี่เขาต้องการช่วยป้าหลานงั้นหรือ?
จิงเจ้อหรงฟังคำพูดรอบตัวเขาก็ยกยิ้ม “คุณเฮ่อคงเขินที่จะบอกทุกคนน่ะครับ แต่ตอนนี้ผมอยู่ที่นี่แล้ว ไว้ผมจะแนะนำทุกคนอย่างเป็นทางการในภายหลังเอง”
พูดจบเขาก็หันมองไปที่สือจีสูอย่างเย็นชา “แล้วคุณมีคำถามอะไรไหมครับ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สือจีสูก็ไม่ได้พูดอะไร แต่สือเหล่ยกลับอดไม่ได้ แต่ก็ถูกลุงของเขาก็ห้ามไว้ “เราไม่มีอะไรแล้วครับ เป็นความผิดของเราเองที่ไม่ได้สอบถามข้อมูลให้ชัดเจนก่อน” เมื่อพูดเช่นนั้น เขาก็หันหลังกลับและจากไป
“ลุง…”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ สือเหล่ยตะโกนเรียกลุงของเขาอย่างไม่เต็มใจ แต่สือจีสูก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าลุงของเขาจากไปแล้ว สือเหล่ยก็ไม่มีทางเลือก นอกจากวิ่งตามเขาไป “ลุง รอผมด้วย”
สำหรับคนจากหมู่บ้านตระกูลสือ และพี่ชุยที่สือจีสูพามาด้วยก็ตามเขากลับไปเช่นกัน
ในเวลานี้ สือเหล่ยตามมาทันแล้ว เด็กชายมองไปที่สือจีสูด้วยใบหน้าที่งงงวย “ลุง ทำไมเราถึงจากมาแบบนี้ล่ะ? ชายคนนั้นเป็นคนรักของเฮ่อหลานแล้วไง? ยังไงเราก็แย่งมาได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สือจีสูก็ตบหัวของสือเหล่ยด้วยความโกรธ “พูดให้มันเบา ๆ หน่อย! แย่งอะไร? จะแย่งอะไร? แกไม่เห็นรูปร่างหน้าตาของชายคนนั้นหรือ? แกคิดว่าเขาเป็นคนธรรมดาหรือไง?”
“สามแม่ลูกนั่นก็เป็นเพียงผู้หญิงชนบทธรรมดา ๆ จะรู้จักคนใหญ่คนโตได้เชียวหรือ? ลุงกลัวมากเกินไปแล้ว”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่สือเหล่ยพูดนั้นสมเหตุสมผล แม้แต่พี่ชุยเองก็เห็นด้วย “ใช่ ฉันคิดว่าสิ่งที่เสี่ยวเหล่ยพูดก็สมเหตุสมผลนะ และฉันคิดว่ามันแปลกไปหน่อย ถ้าเฮ่อหลานมีคนรักจริง ๆ แล้วทำไมเมื่อวานนี้ตอนเธอปฏิเสธ ทำไมเธอไม่พูดออกมาจนกระทั่งผู้ชายคนนี้มา มันอาจมีอะไรซ่อนอยู่ก็ได้”
สือจีสูชำเลืองมองทั้งสองแล้วพูดว่า “ถึงจะมีเบื้องลึกเบื้องหลัง เราก็ต้องรอจนกว่าจะกลับไปถึงหมู่บ้านแล้วค่อยพูดถึงเรื่องนี้ การรู้เขารู้เราเท่านั้นที่จะทำให้รู้ว่าเราควรทำอะไรต่อไป อีกอย่างฉันมีลางสังหรณ์ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา จะดีกว่าถ้าเราตรวจสอบก่อน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สือเหล่ยและพี่ชุยก็ไม่ได้พูดอะไรอีก และจากไปอย่างเร่งรีบ โดยที่การมาครั้งนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
อีกด้านหนึ่ง ถังซวงเป็นคนแรกที่ตอบสนอง เธอมองไปที่ผู้คนในหมู่บ้านเถาฮวาที่อยู่รอบ ๆ ด้วยรอยยิ้มและพูดเสียงดังว่า “ลุงจิงอยู่ที่นี่แล้ว งั้นเรากลับก่อนนะคะ และทุกคนเองก็ควรรีบกลับไปได้แล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ป้าหวงก็เป็นคนแรกที่พูดว่า “ใช่แล้ว พวกเธอรีบกลับไปเถอะ คุณจิงไม่เคยมาที่หมู่บ้านเถาฮวา เธอต้องดูแลเขาให้ดีนะ” เธอโบกมือแล้วพูดว่า “ยังยืนงงทำอะไรกันอยู่อีก? กลับบ้านกันได้แล้ว”
“อ่าา … ” ผู้คนรอบข้างจากไปอย่างไม่เต็มใจ อันที่จริงพวกเขาต้องการรู้จักจิงเจ้อหรงมากกว่านี้ และก็อยากรู้มากว่าเฮ่อหลานพบกับคนเช่นนี้ได้อย่างไร
แต่ในหมู่พวกเขา มีข่งหม่านจูที่ดูไม่พอใจมากที่สุด
ในตอนแรก เธอคิดว่ามีโอกาสที่เฮ่อหลานจะแต่งงานกับสือจีสูที่ทั้งแก่และน่าเกลียด แต่เมื่อจิงเจ้อหรงก็ปรากฏตัวขึ้นมา ด้วยรูปร่างหน้าตาและบุคลิกของเขา เธอสามารถบอกได้ว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา เป็นไปได้ยังไงกัน เฮ่อหลานโชคดีขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอผ่านการหย่าแล้วแท้ ๆ ไปมีคนรักแบบนี้ได้ยังไง มันไม่ยุติธรรม
ถังซวงไม่สนใจความรู้สึกของข่งหม่านจู เธอเป็นผู้นำทางและพาจิงเจ้อหรงกลับไปด้วยกัน
หลังจากกลับถึงบ้าน จิงเจ้อหรงเห็นว่าเฮ่อหลานยังคงอ้ำอึ้งไม่หาย จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “คุณเฮ่อ ผมไม่ควรพูดแบบนั้น แต่… ผมคิดว่านั่นคือวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้พวกเขายอมแพ้ และจะได้ไม่มีใครมารบกวนพวกคุณสามแม่ลูกอีกน่ะครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฮ่อหลานก็หลุดจากภวังค์ของความอึดอัด เธอโบกมือทันทีและพูดว่า “คุณจิงคะ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ฉันแค่…ฉันไม่คาดคิดว่าคุณจะพูดแบบนั้นเฉย ๆ ตอนนี้ทุกคนคงคิดว่าคุณเป็นคนรักของฉัน มันจะดีสำหรับคุณหรือคะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จิงเจ้อหรงก็หัวเราะออกมาทันที
เฮ่อหลานไม่ได้คิดถึงตัวเอง แต่นึกถึงชื่อเสียงของเขา ชายหนุ่มส่ายหัวด้วยความเอ็นดู “คุณเฮ่อหลาน ไม่ต้องกังวลครับ มันจะไม่มีผลกระทบต่อชื่อเสียงของผมแน่”
ถังซวงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีของจิงเจ้อหรงที่มีต่อแม่ของเธอ
ทันใดนั้นเธอก็จำได้ว่าก่อนหน้านี้เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างแม่ของเธอกับจิงเจ้อหรงมีบางอย่างผิดปกติไป แล้วในตอนนี้ เธอก็สังเกตเห็นว่าสายตาที่จิงเจ้อหรงใช้มองแม่นั้นแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง นั่นคือวิธีที่ผู้ชายมองผู้หญิงที่ชอบใช่ไหม? ต้องใช่แน่ ๆ
เมื่อเฮ่อหลานได้ยินคำพูดของจิงเจ้อหรง เธอก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
แต่ในขณะนี้เธอไม่รู้จะพูดอะไร ท้ายที่สุดทุกคนในหมู่บ้านเถาฮวาก็คิดไปแล้วว่าจิงเจ้อหรงเป็นคนรักของเธอ เดิมทีเธอเป็นคนเรียบร้อยและใจกว้างต่อหน้าจิงเจ้อหรงเสมอ แต่ตอนนี้แค่มองหน้าเขายังยากเลย
เห็นอย่างนั้น จิงเจ้อหรงจึงมองไปที่ถังซวง และพูดว่า “เธอบอกว่าสือจีสูมีเบื้องหลังบางอย่างใช่ไหม เธอไปได้ยินอะไรมา?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังซวงจึงพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “สือจีสูคนนี้มีความลับเยอะมากเลยค่ะ” จากนั้นเธอก็บอกจิงเจ้อหรงถึงสิ่งที่เธอและโม่เจ๋อหยวนได้ยินมา
ใบหน้าของจิงเจ้อหรงเย็นชาทันทีหลังจากได้ยินคำพูดของถังซวง
“ฉันไม่คาดคิดมาก่อนว่ารองหัวหน้าหมู่บ้านเล็ก ๆ แบบนี้จะกล้าทำเรื่องที่เลวร้ายขนาดนี้” เขามองไปที่ถังซวง “ไม่ต้องห่วง ฉันจะให้คนตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด และหลังจากพบหลักฐานแล้ว สือจีสูจะต้องถูกจับกุมตามกฎหมาย”