การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 121 คำสอนของอาจารย์
บทที่ 121 คำสอนของอาจารย์
บทที่ 121 คำสอนของอาจารย์
เมื่อได้ยินคำพูดของสือจีสู ใบหน้าของจิงเจ้อหรงก็มืดมน “เข้าใจแล้ว”
แต่สือจีสูมองไปที่จิงเจ้อหรงอย่างกระวนกระวายและพูดว่า “ฉันบอกแกทุกอย่างที่ฉันรู้แล้ว เพราะงั้นอย่ายุ่งกับลูกชายของฉัน”
จิงเจ้อหรงมองสือจีสูอย่างเย็นชาและพูดว่า “ตราบใดที่เขาไม่ได้ทำอะไรไม่ดี ฉันจะไม่ยุ่งกับเขาแน่นอน ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่แกทำก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขา แต่… ถ้าเขาเป็นเหมือนแก ฉันก็ต้องจัดการ”
“แก… แกโกหกฉัน”
จิงเจ้อหรงเย้ยหยันและพูดว่า “ฉันไม่ได้โกหกแก ฉันแค่บอกเท่านั้น” หลังจากพูดจบ เขาก็จากไปโดยไม่หันกลับมามอง
“โกหก… แกโกหก…!”
สือจีสูตะโกนเสียงดังอยู่ข้างหลัง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและเคียดแค้น ลูกชายคนเดียวของเขานิสัยเสียตั้งแต่ยังเด็ก และชายชราตามใจเขามาก ดังนั้นมือของเขาจึงสกปรกเล็กน้อย ถ้าถูกคนคนนี้จับได้ ลูกชายของเขาคงไม่สามารถหนีพ้นอย่างแน่นอน นอกจากความเกลียดชังแล้ว สือจีสูยังรู้สึกเสียใจอย่างมาก ถ้าเขาไม่โลภในตัวเฮ่อหลาน มันก็คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้
แม้ว่าหมู่บ้านตระกูลสือจะไม่ได้อยู่ใกล้กับหมู่บ้านเถาฮวามากนัก แต่ข่าวการจับกุมของสือจีสูก็มาถึงที่นี่ และเมื่อทุกคนในหมู่บ้านรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็พูดคุยกันอย่างเมามัน
“สือจีสูคนนี้เพิ่งพาคนมาขอเฮ่อหลานแต่งงานเองนี่ แต่อยู่ดี ๆ เขาก็ถูกจับ นี่มันบังเอิญเกินไปแล้ว”
“ใช่ บังเอิญเกินไป และ… ฉันได้ยินมาว่าคนรักของเฮ่อหลานนั้นไม่ธรรมดา เขาเป็นถึงผู้นำระดับสูงด้วยนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็มองมาที่คนพูดเป็นสายตาเดียว
หวงต้าจู่ลูกชายคนโตของป้าหวงพูดเสียงดังว่า “ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะ เห็น ๆ กันอยู่ว่าสือจีสูทำชั่วมากมายและยังฆ่าเด็กสาวอีก ในเมื่อมีหลักฐานมากพอที่จะจับเขา เขาก็สมควรโดนจับแล้ว”
หลายคนเห็นด้วยกับคำพูดของหวงต้าจู่
“ใช่ สือจีสูก่ออาชญากรรมมากมาย สะใจจริง ๆ ที่เขาถูกจับ แต่ฉันได้ยินมาว่าคนในครอบครัวของเด็กสาวที่เสียชีวิตหลายคนมาที่นั่นด้วย ทำเอาคนฟังทั้งเศร้าและน้ำตาไหล คนแบบนั้นน่าจะถูกจับไปนานแล้ว ถ้าเป็นคนรักของเฮ่อหลานที่พบหลักฐานจริง ๆ คนเหล่านั้นก็ควรขอบคุณเขาด้วยซ้ำ”
“นี่… ต้าซวงพูดได้ดีขึ้นนะ ว่าแต่ทำไมคนฟังทั้งเศร้าและน้ำตาไหลล่ะ? สิ่งที่พูดมาก็ถูกอยู่นะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า… แม้แต่ต้าซวงยังพูดอะไรดี ๆ ออกมาได้เลย น่าทึ่งมาก ๆ”
จากนั้นทุกคนก็หัวเราะออกมา
บรรดาผู้หญิงในหมู่บ้านต่างก็อิจฉาเฮ่อหลาน
“ไม่รู้ว่าเฮ่อหลานโชคดีแค่ไหน ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงหน้าตาและรูปร่างดี แต่ยังมีคนรักเป็นถึงผู้นำระดับสูงอีกด้วย คงหาจากไหนไม่ได้อีกแล้ว ฉันว่าคนรักของเธอยังดูดีกว่าคนในตำบลบางคนเสียอีก”
“ใช่ ตอนเห็นครั้งแรกนี่มองไม่ออกเลย ไม่น่าเชื่อว่าเฮ่อหลานที่หย่าร้างแถมยังมีลูกติดสองคนจะหาคนรักที่ดีได้ขนาดนี้”
เมื่อได้ยินผู้หญิงเหล่านี้พูดถึงเฮ่อหลาน ผู้ชายในหมู่บ้านก็พากันหัวเราะ
“กำลังพูดถึงอะไรอยู่ ไม่รู้หรือว่าเฮ่อหลานกลับมาสวยเหมือนตอนที่เธอยังเด็กแล้ว ตอนเธอยังเด็ก ทั้งสาวและสวยมาก ต้องมีเสน่ห์อยู่แล้ว มีลูกสาวสองคนแล้วยังไง? ถังซวงได้รับรางวัลมากมาย ทั้งยังสามารถซื้อจักรเย็บผ้าและจักรยานได้ การมีลูกสาวแบบนี้ไม่ใช่ภาระเลยสักนิด แต่เป็น… จิ่น… อะไรนะ”
“มันเรียกว่า จิ่นซ่างเทียนฮวา*[1]”
“ใช่แล้ว สำนวนนี่แหละ ฉันได้ยินมาว่าความหมายของมันดีมากเลยนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้หญิงบางคนก็แค่นเสียงด้วยความโกรธ แต่พวกเธอไม่สามารถพูดอะไรเพื่อหักล้างมันได้ ตอนนี้เฮ่อหลานสวยจริง ๆ ไม่ต่างจากตอนที่เธอยังเด็กเลย ส่วนถังซวงกับถังเซวี่ยก็หน้าตาสวยมากเช่นกัน สามแม่ลูกหน้าตาสวยกว่าหญิงชาวเมืองซะอีก
และในขณะนี้ เฮ่อหลานที่ทุกคนกำลังพูดถึง กำลังคุยกับป้าหวงอยู่ที่บ้านของหญิงสาว
ป้าหวงมาหาเธอแต่เช้าตรู่ และเมื่อเธอเห็นเฮ่อหลาน หญิงชราจับมือเธออย่างตื่นเต้นและพูดว่า “อาหลาน ฉันกังวลอยู่เลย เพราะพวกเธอสามแม่ลูกเป็นผู้หญิงทั้งหมด คงไม่มีเสาหลักในครอบครัว แต่ไม่คาดคิดว่าเธอจะมีคู่ชีวิตที่ดีเช่นนี้ ทำไมก่อนหน้านี้เธอไม่บอกป้าเลยล่ะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฮ่อหลานยิ้มเจื่อน ๆ
พูดตามตรง ตัวเธอเองก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองมีคนรักเมื่อไม่นานมานี้เอง แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะพูดเรื่องนี้กับคนอื่น ดังนั้นเธอจึงได้แต่ยิ้มและไม่พูดอะไร
เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเฮ่อหลาน ป้าหวงก็พูดกับตัวเองว่า “เห็นใบหน้าที่มีความสุขของเธอแล้ว ฉันก็รู้สึกโล่งใจ ถ้าเธอแต่งงานกับคุณจิงในอนาคต ต้องให้ป้าดื่มเหล้ามงคลด้วยนะ”
“ป้าหวง ระ… เรื่องนั้นยังอีกนานค่ะ”
ป้าหวงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งนี้
“เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าคุณจิงไม่ต้องการแต่งงานกับเธอ?” ในตอนท้าย ป้าหวงเอ่ยคำสอนออกมา “อาหลาน แม้ว่าเธอจะเคยแต่งงานและหย่าร้างมาก่อนหน้านี้ แต่การแต่งงานนี้ก็ควรต้องจัดขึ้น มิฉะนั้นเธอสองคนจะเสียชื่อเสียง ซึ่งมันไม่เหมาะสม และเธอต้องยืนกรานกับเขาในประเด็นนี้นะ”
“คุณป้าคะ พวก… เรา…”
แต่ก่อนที่เฮ่อหลานจะพูดจบ จิงเจ้อหรงก็มาพอดี
“อ้าว ป้าหวงก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือครับ?”
เมื่อป้าหวงเห็นจิงเจ้อหรงมา เธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและพูดว่า “คุณจิงเองก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ?”
จิงเจ้อหรงพยักหน้าให้ป้าหวงด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเมื่อเห็นใบหน้าที่แดงก่ำของเฮ่อหลาน เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “เป็นอะไรไป? มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า?”
เมื่อเห็นใบหน้ากังวลของจิงเจ้อหรง ป้าหวงก็ปิดปากยิ้ม
“อย่ากังวลไป อาหลานไม่เป็นไรหรอก ฉันแค่บอกให้เธอให้เหล้ามงคลกับฉันตอนแต่งงานด้วย แต่เธอคงอายเกินไป”
เมื่อเห็นว่าป้าหวงพูดตรง ๆ เฮ่อหลานก็หน้าแดงยิ่งกว่าเดิม
จิงเจ้อหรงมองด้วยสายตาลึกซึ้งไปยังเฮ่อหลาน จากนั้นยิ้มและพูดกับป้าหวงว่า “ไม่ต้องห่วงครับคุณป้า เราจะบอกคุณป้าเมื่อเราแต่งงานกันแน่นอน”
“โอ้… แบบนั้นก็ดีเลย”
ป้าหวงยิ้มกว้างจนสุดหู จากนั้นก็เอ่ยชวน “คุณจิง คุณพาอาหลาน ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย และเสี่ยวโม่มาที่บ้านของฉันเพื่อกินอาหารเย็นคืนนี้สิ ฉันขอเชิญนะ”
“คุณป้า ขอบคุณมากครับ เราจะไปที่นั่นกันคืนนี้แน่นอนครับ”
“อื้ม… ถ้างั้นก็เอาตามนี้นะ”
ป้าหวงกลับบ้านไปเตรียมตัวอย่างมีความสุข
หลังจากที่ป้าหวงจากไป เฮ่อหลานก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังจิงเจ้อหรง และพูดว่า “คุณจิง ทำไมคุณถึงเห็นด้วยล่ะคะ พวกเรามีกันตั้งหลายคนไปที่บ้านของป้าหวง แบบนี้เธอก็ต้องเตรียมของมาทำอาหารเยอะเลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวอีกไม่นานเราก็จะเชิญครอบครัวของป้าหวงมากินอาหารเย็นด้วยกันแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฮ่อหลานไม่สามารถพูดอะไรเพื่อหักล้างได้ไปชั่วขณะ จากนั้นจึงค่อย ๆ ตระหนักว่าคำพูดเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าจิงเจ้อหรงจะมาที่หมู่บ้านเถาฮวาอีกงั้นหรือ? และจะยังคงปฏิบัติต่อเธอเหมือนเป็นคนรัก ชวนครอบครัวป้าหวงมาทานอาหารเย็นอีก
เมื่อนึกถึงความหมายจริง ๆ หูของเฮ่อหลานก็เปลี่ยนเป็นสีแดง
เมื่อถังซวงรู้ว่าจิงเจ้อหรงมาที่นี่ เธอตรงไปหาทันที “ลุงจิงมาแล้วหรือคะ”
จิงเจ้อหรงรู้ว่าถังซวงต้องการถามอะไร ดังนั้นเขาจึงพูดตามที่สือจีสูพูดให้ฟังไปตามตรง
“อะไรนะ… มีคนตามหาแม่?”
[1] จิ่นซ่างเทียนฮวา (锦上添花) คือ ทำสิ่งที่สวยงามอยู่แล้วให้สวยงามยิ่งขึ้น