การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 127 วิ่งหนี
บทที่ 127 วิ่งหนี
บทที่ 127 วิ่งหนี
เมื่อเห็นถังซวงพยักหน้า เฮ่อเจียรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะดึงเธอมาดูแบบด้วยกัน “น้องซวงเอ๋อร์ อาหญิงมีแบบที่ชอบไหม ฉันจะได้ออกแบบตามที่เธอชอบน่ะ”
ถังซวงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดนั้น และหลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เธอพูดว่า “แม่ของฉันชอบแบบคลาสสิกน่ะ แต่อย่าเพิ่งแก้ไขตอนนี้เลย ทำแบบเรียบง่ายก็พอค่ะ”
“ได้สิ ฉันเข้าใจแล้ว”
เฮ่อเจียรุ่ยมีรูปแบบในใจอยู่แล้ว “หลังจากที่ฉันวัดพื้นที่บ้านของเธอแล้ว ฉันจะเริ่มออกแบบ แล้วเอาให้อาหญิงดูอีกทีนะ”
“ตกลงค่ะ”
เมื่อเห็นท่าทางเป็นกันเองของถังซวง ใบหน้าของเฮ่อเจียรุ่ยก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็พูดคุยเรื่องอื่น ๆ กับถังซวงต่อ แม้ว่าสองพี่น้องจะเพิ่งพบกันไม่นาน แต่พวกเขาก็เข้ากันได้ดี เด็กหนุ่มพบว่าไม่ว่าพวกเขากำลังพูดอะไร ถังซวงก็สามารถพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อนั้นได้เสมอ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความรู้ของเธอมีมากเพียงใด เธอดูไม่เหมือนเด็กสาวที่เติบโตในชนบทเลย แต่เมื่อเขานึกถึงอาหญิงของตนและอาเฮ่อหลาน เขาก็รู้สึกว่ามันถูกต้องแล้ว คุณอาของเขาสอนลูกสาวทั้งสองมาได้อย่างดีจริง ๆ
หลังจากทั้งสองคนจัดการเรื่องบ้านเสร็จ ถังซวงก็กำลังจะไปที่บ้านเพื่อรินน้ำกินสักแก้ว แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นถังเจี้ยนกั๋วยืนอยู่ที่ประตูลานบ้านด้วยสายตาที่มืดมน
ในขณะนี้ถังเจี้ยนกั๋วมองไปที่ถังซวงด้วยดวงตาคาดเดาได้ยากอย่างไม่ขยับเขยื้อน จากนั้นเขาก็มองไปที่เฮ่อเจียรุ่ย และคาดเดาในใจแล้วว่านี่คือญาติตระกูลเฮ่อที่ทุกคนพูดถึง
เฮ่อเจียรุ่ยเองก็หันไปเห็นถังเจียนกั๋วด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ถังซวงและถามว่า “น้องซวงเอ๋อร์ คนคนนี้มาหาเธอหรือเปล่า?”
ถังซวงไม่ปฏิเสธ เพียงแค่พยักหน้า “ใช่ เขามาหาฉัน พี่ชาย พี่จัดการเรื่องบ้านตรงนี้ไปก่อนนะ ฉันจะออกไปดูเอง”
เมื่อถังซวงออกมาจากลานบ้าน เธอมองไปที่ถังเจี้ยนกั๋วด้วยใบหน้าเย็นชาและถามว่า “มาทำอะไรที่นี่”
ถังเจี้ยนกั๋วมองไปยังลูกสาวคนโตที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งตรงหน้าและก็รู้สึกแปลกไป ก่อนที่เขาจะรู้ตัว ลูกสาวคนนี้ก็กลายเป็นคนแปลกหน้าที่เขาไม่รู้จักไปแล้ว ไม่สิ ทั้งสามแม่ลูกกลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเขาไปแล้วจริง ๆ
เมื่อคิดอย่างนั้น ถังเจี้ยนกั๋วก็ดูอึดอัดแล้วถามคำถามที่คิดอยู่ในหัวออกไป
“แกให้แม่ม่ายหลิวมาสร้างปัญหาที่บ้านเพื่อที่ฉันจะได้หย่ากับแม่ของแกใช่ไหม?”
ถังซวงไม่คาดคิดว่าจะได้ยินสิ่งนี้ เธอมองถังเจี้ยนกั๋วตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วหัวเราะออกมา “สายเกินไปแล้วนะที่คุณจะพูดอะไรตอนนี้ มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย”
“ไม่ มันมีเหตุผลสิ”
ถังเจี้ยนกั๋วมองไปที่ถังซวงอย่างไม่สบอารมณ์ “ก็เพื่อที่ฉันจะได้รู้ความจริงเรื่องในวันนั้น”
ถังซวงมองถังเจี้ยนกั๋ว จากนั้นก็ยิ้มกว้างขึ้นและพูดขึ้นว่า “ถึงฉันจะให้แม่ม่ายหลิวไปที่ตระกูลถังก็จริง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับแม่ของฉันก็พังทลายไปแล้วตั้งแต่ที่คุณนอกใจแม่แล้ว การหย่าจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า… ฉันเกลียดที่จะต้องอยู่ในตระกูลถัง และฉันไม่อยากอยู่ที่นั่นอีกต่อไปแล้ว”
“แก… นังเด็กบ้า ไม่ว่ายังไงตระกูลถังก็เป็นบ้านของแกนะ”
“ไม่ใช่… นั่นไม่ใช่บ้านของฉัน ตั้งแต่ที่คุณผลักฉันล้มหัวกระแทกจนเกือบตาย ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกของเราก็ขาดสะบั้นแล้ว ในเมื่อครอบครัวของคุณบีบบังคับพวกเราแม่ลูก ในเวลานั้นตระกูลถังก็ไม่ใช่บ้านของเราอีกต่อไป มันเป็นแค่ที่ผูกมัดของเราเท่านั้น ยังไงเราก็จะไป”
เมื่อเห็นความรังเกียจในดวงตาของถังซวง ถังเจี้ยนกั๋วก็อดไม่ได้ที่จะหลับตา
ถูกต้อง ตั้งแต่เฮ่อหลานหย่ากับเขา เขาก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสามแม่ลูกแล้ว และตอนนี้ทั้งสามคนก็ห่างไกลจากเขามากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนคนจากสองโลก ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ได้มาที่นี่ในวันนี้เพื่อพูดคุยเรื่องนี้กับถังซวง
หลังจากมีจุดประสงค์ที่แน่วแน่แล้ว ถังเจี้ยนกั๋วก็ลืมตาขึ้น มองตรงไปที่ถังซวง “แล้วแกรู้ไหมว่าแม่ม่ายหลิวมีความสัมพันธ์กับเอ้อไหลจื่อ?”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้อย่างกะทันหัน ถังซวงก็ชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง เพราะเธอก็ไม่ได้ยินชื่อเอ้อไหลจื่อมาเป็นเวลานานแล้ว หลังจากที่รู้ว่าควรทำยังไงต่อ เธอก็ยกยิ้ม “โอ้… ฉันจะไปรู้เรื่องแบบนี้ได้ยังไงล่ะ”
“ไม่ เธอรู้ เธอรู้อยู่แก่ใจ”
ในขณะนี้ ถังเจี้ยนกั๋วรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่างแล้ว ทันใดนั้นชายหนุ่มก็คิดถึงทุกสิ่งก่อนหน้านี้จากนั้นก็ชี้ไปที่ถังซวงและพูดอย่างสิ้นหวังว่า “แกรู้อยู่แล้วว่าแม่ม่ายหลิวเกี่ยวข้องกับเอ้อไหลจื่อ แล้วแกก็รู้ความสัมพันธ์ของฉันกับแม่ม่ายหลิว แต่แกยังให้แม่ม่ายหลิวมาที่ตระกูลถัง เพื่อทำให้ฉันหย่ากับเฮ่อหลาน”
ในตอนท้าย ถังเจี้ยนกั๋วยังคงคาดเดาเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตต่อไป
“แกรู้ไหมว่าลูกในท้องของแม่ม่ายหลิวเป็นของเอ้อไหลจื่อหรือเปล่า?”
ตั้งแต่เขารู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแม่ม่ายหลิวกับเอ้อไหลจื่อ เขาก็สงสัยว่าลูกในท้องของแม่ม่ายหลิวเป็นของใคร ตอนนี้เขามาเจอถังซวงแล้ว ความรู้สึกที่ว่าเด็กคนนั้นอาจไม่ใช่ลูกของเขาก็ชัดเจนขึ้นมา
ถังซวงอดไม่ได้ที่จะปรบมือเมื่อเห็นการวิเคราะห์ของถังเจี้ยนกั๋ว
“แปะ… แปะ… น่าทึ่งมาก ดูเหมือนว่าคุณจะตาสว่างแล้ว แต่นี่เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้นนะ ฉันไม่รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์สามเส้าที่ซับซ้อนของพวกคุณหรอก ใครคือพ่อของลูกในท้องแม่ม่ายหลิว แม่ม่ายหลิวนั่นแหละรู้ดีที่สุด คุณแค่ไปถามเธอตรง ๆ ก็ได้นี่”
ถังซวงไม่คิดที่จะเปิดเผยเรื่องนี้ ก็มันน่าสนใจไม่ใช่หรือที่จะให้ตระกูลถังเลี้ยงดูเด็กที่ไม่มีสายเลือดของตระกูลถังด้วยซ้ำ?
ถังเจี้ยนกั๋วมองไปที่การแสดงออกที่เย็นชาและไม่แยแสของถังซวง และทันใดนั้นเขาก็เข้าใจว่าเธอจะไม่บอกความจริงกับเขาอย่างแน่นอน “แกมันดื้อรั้น ฉันไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าแกจะก่อเรื่องมากขนาดนี้”
“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร”
ถังซวงกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาและไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก
ถังเจี้ยนกั๋วมองถังซวงอย่างสิ้นหวังอีกครั้งแล้วจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
เมื่อมองตามหลังของถังเจี้ยนกั๋วขณะที่เขาเดินออกไป ถังซวงก็หรี่ตาลงเล็กน้อย เมื่อครู่… เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติในแววตาของถังเจี้ยนกั๋ว แต่เธอไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก
เมื่อเห็นถังซวงกลับมา เฮ่อเจียรุ่ยอดไม่ได้ที่จะถาม “น้องซวงเอ๋อร์ คนคนนั้นเป็นใครหรือ? ทำไมฉันไม่เคยเห็นเขาที่หมู่บ้านเถาฮวามาก่อนเลยล่ะ?”
“อ๋อ… เขาเป็นอดีตอาของพี่น่ะค่ะ เป็นแค่คนไร้ค่า”
“แค่ก… แค่ก ๆ…”
เฮ่อเจียรุ่ยที่ดื่มน้ำอยู่ก็สำลักทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของถังซวง แต่เขาไม่ได้ถามอะไรอีกเมื่อเห็นถังซวงไม่สนใจมันเลยสักนิด
ไม่กี่วันต่อมา ถังซวงก็ได้ยินข่าวใหญ่
“อะไรนะ… แม่ม่ายหลิวแท้งลูกหรือคะ?”
ป้าหวงพยักหน้าอย่างร้อนรนและพูดว่า “ใช่ ฉันได้ยินมาว่าถังเจี้ยนกั๋วทุบตีหล่อนน่ะ” ในตอนท้าย เธอดูดีใจมาก “โชคดีที่อาหลานหย่ากับเขาไปนานแล้ว ผู้ชายแบบนั้นเป็นพ่อคนไม่ได้หรอก”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ถังซวงก็คิดถึงเรื่องที่ถังเจี้ยนกั๋วมาหาเธอก่อนหน้านี้
เป็นไปได้ไหมว่าถังเจี้ยนกั๋วรู้แล้วว่าลูกในท้องของแม่ม่ายหลิวไม่ใช่ลูกของเขา?
แต่เธอก็ไม่สนใจเรื่องพวกนี้
ด้านป้าหวงที่ยังพูดไม่จบและพูดต่อว่า “ฉันได้ยินมาว่าแม่ม่ายหลิวหนีไปหลังจากที่เธอสูญเสียลูก นี่… การแท้งลูกที่เกิดจากการทำร้ายร่างกาย ทำให้เธอเจ็บปวด แล้วตอนนี้เธอไปทำอะไรที่ไหนกัน”
“หนี?”
ถังซวงรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังดูละครดราม่า และรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันแปลกเกินไปและยังมีการนองเลือดอีก แต่ถึงอย่างนั้นนี่ก็ไม่ใช่จุดสิ้นสุด “ซวงเอ๋อร์ ฉันได้ยินมาว่าถังเจี้ยนกั๋วเองก็หนีไปเหมือนกัน ตอนนี้ตระกูลถังกำลังวุ่นวายมากเลย”