การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 146 ช่วยชีวิตเขาอีกครั้ง
บทที่ 146 ช่วยชีวิตเขาอีกครั้ง
บทที่ 146 ช่วยชีวิตเขาอีกครั้ง
เมื่อเห็นโม่เจ๋อหยวนตื่นขึ้นมา ถังซวงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
“พี่โม่ พี่ตื่นแล้ว” ขณะที่พูด เธอรีบห่มผ้าให้โม่เจ๋อหยวนอีกครั้ง
หลินเหม่ยเจินที่แคลงใจมานาน เมื่อเห็นลูกชายของเธอตื่นขึ้น เธอก็น้ำตาไหลทันที “เจ๋อหยวน… ในที่สุดลูกก็ตื่น” เวลานี้ในที่สุดเธอก็รู้ซึ้งถึงความเก่งกาจของถังซวง และหญิงสาววัยกลางคนก็เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเด็กสาวก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง เธอพูดด้วยความรู้สึกผิดและกล่าวขอบคุณถังซวง “สหายถังซวง ขอบคุณเธอมาก ขอบคุณเธอจริง ๆ ฉันผิดไปแล้ว ฉันขอโทษ”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ถังซวงส่ายหัวทันที “คุณป้าคะ ฉันรู้ดีค่ะว่าคุณเองก็เป็นห่วงพี่โม่มาก ดังนั้นไม่ต้องขอโทษหรอกนะคะ” ในขณะที่พูด ถังซวงหยิบขวดกระเบื้องอีกขวดออกมาเทยาสองชนิดให้โม่เจ๋อหยวน
ในเวลานี้ หลินเหม่ยเจินไม่พูดขัดอะไรเธออีก และปล่อยให้เด็กสาวดูแลโม่เจ๋อหยวนอย่างสุดความสามารถ
ส่วนผู้เฒ่าโม่ก็ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นแทน “สหายถังซวง ตอนนี้เจ๋อหยวนก็ฟื้นแล้ว เขาจะฟื้นตัวได้ในไม่ช้าใช่ไหม?” ก่อนหน้านี้หมอบอกว่าหลานชายของเขาไม่รู้ว่าจะได้สติเมื่อไหร่ แค่สามารถรักษาอาการให้คงที่ไว้ได้ก็ดีแล้ว แต่ตอนนี้หลานชายกลับมาได้สติแล้ว เขาคงต้องค่อย ๆ ฟื้นตัวแน่
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ถังซวงพยักหน้าและพูดว่า “ค่ะ พี่โม่จะฟื้นตัวอย่างช้า ๆ แต่ช่วงนี้ฉันยังต้องฝังเข็มให้เขาอยู่ค่ะ”
“งั้นฉันรบกวนสหายถังซวงด้วยนะ”
ผู้เฒ่าโม่พูดอย่างรวดเร็วและขอบคุณเธออีกครั้ง
โม่ถิงฮวาเองก็รู้สึกขอบคุณถังซวงเป็นอย่างมาก และเขาก็กล่าวขอบคุณด้วยอีกคน
ถังซวงได้ยินคำขอบคุณเยอะเข้า ก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย แต่เมื่อนึกถึงอาการบาดเจ็บของโม่เจ๋อหยวน สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นนิ่งสงบและพูดว่า “คุณปู่โม่คะ ยังไงพี่โม่ก็จะไม่หายดีในเร็ว ๆ นี้แน่นอนค่ะ เพราะเขาถูกวางยาพิษ”
“อะไรนะ…”
ทั้งผู้เฒ่าโม่ โม่ถิงฮวา และหลินเหม่ยเจิน ต่างตกตะลึง
โม่เจ๋อหยวนดึงแขนเสื้อของถังซวงด้วยเสียงแผ่วเบา “ซวงเอ๋อร์… ฉัน… ถูกวางยาพิษจริงหรือ?”
เมื่อถังซวงได้ยินอย่างนั้น เธอรีบหันศีรษะลูบไหล่ของโม่เจ๋อหยวนเบา ๆ แล้วพูดว่า “พี่โม่ ตอนนี้พี่ยังอ่อนแอมาก อย่าพูดอะไรเลยนะ พักผ่อนก่อนเถอะ”
โม่เจ๋อหยวนพยักหน้าและไม่พูดอะไรอีกอย่างเชื่อฟัง
คนอื่น ๆ ที่ได้ยินที่ถังซวงพูดเมื่อกี้นี้ต่างก็รู้สึกสับสนกับการถูกยาพิษของโม่เจ๋อหยวน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้สนใจท่าทีที่เชื่อฟังของโม่เจ๋อหยวนเลยแม้แต่น้อย
ในท้ายที่สุด ก็เป็นผู้เฒ่าโม่ที่ถามว่า “สหายถังซวง เจ๋อหยวนไม่ได้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรอกหรือ? ทำไมเขาถึงถูกวางยาพิษได้ล่ะ?”
“น่าจะเป็นยาพิษที่ทาบนอาวุธค่ะ คนส่วนใหญ่จะไม่สังเกต และจะคิดเพียงว่าบาดแผลยังไม่หาย และเขาก็จะค่อย ๆ สูญเสียสติและพละกำลังไป”
“ไม่น่าแปลกใจ… ไม่น่าแปลกใจเลยที่อาการบาดเจ็บของเจ๋อหยวนยังไม่หายดี เป็นเพราะยาพิษนี่เอง” ดวงตาของหลินเหม่ยเจินเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว “ตระกูลหลู่ ครั้งก่อนพวกเขาส่งคนไปทั่วมณฑลเจียงเพื่อลักพาตัวเจ๋อหยวน ครั้งนี้พวกมันกลับใช้ยาพิษอย่างไร้ยางอาย เราจะปล่อยพวกมันไปไม่ได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังซวงขมวดคิ้วเล็กน้อย
“งั้นก็คนเดิมจากครั้งที่แล้ว”
หลินเหม่ยเจินมองไปที่ถังซวงอย่างสงสัยและถาม “สหายถังซวง เธอรู้จักตระกูลหลู่ด้วยหรือ?”
“ไม่รู้จักหรอกค่ะ แต่ตอนที่พี่โม่ถูกตามล่าคราวที่แล้วฉันบังเอิญเจอเขาน่ะค่ะ”
ผู้เฒ่าโม่ก็นึกขึ้นได้ “ถ้าอย่างนั้น เธอก็คือคนที่ช่วยชีวิตเจ๋อหยวนในตอนนั้นสินะ ตอนที่ฉันถามเขา เขากลับไม่บอกฉันอะไรเลย แค่บอกว่าไว้คราวหน้าจะพามาเจอ เป็นเธอนี่เอง”
ทั้งโม่ถิงฮวากับหลินเหม่ยเจินมองไปที่โม่เจ๋อหยวนอย่างไม่สบายใจ และพูดว่า “เจ๋อหยวน ทำไมลูกไม่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย เรารู้แค่ชื่อของสหายถังซวงเอง เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอช่วยลูกเอาไว้”
ใบหน้าของโม่เจ๋อหยวนเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำไปจนถึงหู และพูดไม่ออก
ในความเป็นจริง เขาวางแผนที่จะบอกครอบครัว เมื่อเขาพาซวงเอ๋อร์มายังปักกิ่งเป็นการส่วนตัว และตั้งใจจะแนะนำซวงเอ๋อร์กับครอบครัวอย่างเป็นทางการ เพื่อต้องการให้ครอบครัวของเขาเห็นว่าคนที่ตนชอบนั้นดีเพียงใด แต่ถึงแผนจะเปลี่ยนไปแล้วก็ยังดีที่ได้บอกไว้ล่วงหน้า
“ผม… ผมคิดว่าจะรอจนกว่าพ่อกับแม่จะได้เจอซวงเอ๋อร์ แต่ผมไม่คิดว่าซวงเอ๋อร์จะมาที่ปักกิ่งเอง”
เมื่อได้ยินคำพูดของลูกชาย หลินเหม่ยเจินก็มองเขาอย่างประหลาดใจ
และในที่สุดเธอก็ตระหนักว่ามีบางอย่างแปลกไปในสายตาที่ลูกชายของเธอมองมาถังซวง นี่คือ… สายตาตอนมองคนที่ชอบงั้นหรือ? ทั้งหัวใจและดวงตาของเขาต่างก็มีถังซวงอัดแน่นอยู่ในนั้น ในฐานะคนที่เคยอาบน้ำร้อนมาก่อน แน่นอนว่าหลินเหม่ยเจินสามารถรู้ได้ทันที
เมื่อเห็นสายตานั้น หลินเหม่ยเจินมองไปที่ถังซวงอีกครั้ง และพบว่าสาวน้อยคนนี้สวยมาก ไหนจะทัศนคติของเธอก็ดี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม และเธอเคยช่วยชีวิตลูกชายของตนหลายครั้ง นั่นทำให้ดวงตาของหญิงวัยกลางคนอ่อนลงทันทีพลางถามด้วยความเป็นห่วง “ซวงเอ๋อร์ ฉันเรียกเธออย่างนั้นได้ไหมจ๊ะ?”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ถังซวงมองไปที่หลินเหม่ยเจินด้วยความประหลาดใจ แม้ว่าหลินเหม่ยเจินจะมีท่าทีอ่อนลงหลังจากที่เธอช่วยโม่เจ๋อหยวน แต่ก็ไม่น่าจะถึงขนาดนี้ ตอนนี้ดวงตาของหญิงสาวตรงหน้าทั้งอ่อนโยนและเอ็นดูเธอเป็นอย่างมากราวกับเธอเป็นลูกสาวอีกคน… จู่ ๆ ก็เกิดชอบเธอขึ้นมางั้นหรือ?
“แน่นอนค่ะ”
แม้ว่าเธอจะคิดมาก แต่การแสดงออกของถังซวงก็ไม่เปลี่ยนแปลง และตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน
เมื่อเห็นว่าถังซวงเห็นด้วย หลินเหม่ยเจินก็รู้สึกมีความสุขมาก “ซวงเอ๋อร์ เธอกินข้าวหรือยัง? ถ้ายัง ฉันจะเตรียมอาหารให้นะ”
ในที่สุดผู้เฒ่าโม่และโม่ถิงฮวาที่อยู่ข้าง ๆ ก็สัมผัสได้ในความตั้งใจของลูกสะใภ้และพูดขึ้นเช่นกันว่า “ใช่แล้ว เธอยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่ ให้พวกเราเตรียมอาหารให้นะ”
ส่วนจิงเจ้อหรงเห็นว่าถังซวงอยู่ที่นี่แล้ว และโม่เจ๋อหยวนก็ได้สติแล้วเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงมองไปที่ถังซวง และพูดบอกเธอว่า “ซวงเอ๋อร์ ฉันจะกลับบ้านก่อนนะ แล้วจะกลับมาใหม่”
“ตามสบายเลยค่ะลุงจิง ไม่ต้องห่วงฉัน”
“อืม”
จิงเจ้อหรงพยักหน้าแล้วบอกลาผู้เฒ่าโม่ กับโม่ถิงฮวา
“เสี่ยวจิง เธอกลับไปหลังอาหารเย็นสิ”
จิงเจ้อหรงส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “ผมขอผ่านดีกว่าครับผู้เฒ่าโม่ ผมว่าจะกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ของผมหน่อยน่ะครับ”
“งั้นไม่เป็นไร ๆ ฉันไม่รั้งเธอไว้แล้วกัน”
หลังจากที่จิงเจ้อหรงจากไป หลินเหม่ยเจินก็รีบลากสามีของเธอไปเตรียมอาหาร
ด้านหลี่จงอี้ที่เงียบไปชั่วขณะในที่สุดก็มีโอกาสเข้าไปดูอาการของหลานชาย เขาเดินไปที่เตียง ตบไหล่โม่เจ๋อหยวเบา ๆ “เสี่ยวโม่ เธอพักผ่อนให้เพียงพอนะ”
“ครับ”
เมื่อเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนมีสีหน้าดีขึ้นมาก หลี่จงอี้ก็โล่งใจ จากนั้นจึงหันไปสนทนากับโม่หยานซง
เดิมทีโม่หยานซงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลี่จงอี้มาโดยตลอด ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ขอให้หลานชายไปเยี่ยมอีกฝ่าย ทั้งสองจึงคุยกันอย่างออกรส
ส่วนถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนก็ได้พูดคุยกันเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอหลังจากนั้น
โม่เจ๋อหยวนนอนฟังอย่างเงียบ ๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความผ่อนคลายเมื่อมองไปที่เด็กสาว เขาไม่คาดคิดเลยว่าซวงเอ๋อร์จะมาที่นี่และช่วยชีวิตเขาไว้อีกครั้ง ซวงเอ๋อร์ของเขามักจะปรากฏตัวทุกครั้งเมื่อเขาตกอยู่ในอันตราย ทำไมเธอถึงดีจัง…
โม่เจ๋อหยวนค่อย ๆ หลับตาลงและหลับไป
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ถังซวงก็รีบหยุดพูด
ผู้เฒ่าโม่เห็นหลานชายของเขาหลับตาอีกครั้ง หัวใจของเขาก็กระตุกวูบ และรีบตะโกนออกมา “เจ๋อหยวน…”
“จุ๊ ๆ… คุณปู่โม่ พี่โม่แค่หลับค่ะ ปล่อยให้เขาหลับให้สบายดีกว่านะคะ”