การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 153 เหม่ยหยิงตง
บทที่ 153 เหม่ยหยิงตง
บทที่ 153 เหม่ยหยิงตง
เมื่อถังซวงได้ยินสิ่งที่โม่เจ๋อหยวนพูด เธอก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวพร้อมกับยิ้ม “ตกลง ถ้างั้นเราเดินเล่นกันสักพักแล้วค่อยกลับ ฉันว่าจะซื้อของไปฝากแม่ เสี่ยวเซวี่ยแล้วก็พวกลุง ๆ ด้วยน่ะ”
“ได้ อย่างนั้นก็ไปที่นั่นกันเถอะ”
และทั้งสองคนก็ไปเดินเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้า
“ซวงเอ๋อร์ ห้างสรรพสินค้าข้างหน้ามีของน่าสนใจเต็มเลย ไปดูกันเถอะ”
ถังซวงค่อนข้างสนใจห้างสรรพสินค้าในปักกิ่งแห่งนี้มาก และต้องการดูว่ามันมีอะไรบ้าง ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าให้กับเด็กหนุ่มทันที “เอาสิ เราไปดูกันเถอะ”
เมื่อพวกเขาทั้งสองเข้าไปในห้างสรรพสินค้า ถังซวงพบว่าสมแล้วที่เป็นปักกิ่ง ที่นี่มีของน่าสนใจหลายสิ่งหลายอย่าง และยังดูสวยงามมาก แม้แต่เสื้อผ้าก็ยังทันสมัยและไม่ตกยุค
“ซวงเอ๋อร์ เสื้อคลุมตัวนั้นสวยมากนะ เธออยากลองดูไหม?”
เมื่อมองตามสายตาของโม่เจ๋อหยวน ถังซวงพบว่ามันเป็นเสื้อคลุมขนสัตว์สีดำ ตัวยาว การตัดเย็บที่เรียบง่ายและประณีตทำให้เสื้อคลุมนั้นดูดีมีสไตล์มากและก็เหมาะสมที่จะสวมใส่ในเวลานี้
“มันน่ารักดีนะ”
เมื่อเห็นว่าถังซวงคิดว่ามันดูดีเช่นกัน โม่เจ๋อหยวนก็รีบเร่งเร้า “ซวงเอ๋อร์ ไปลองเถอะ”
“ก็ได้ ๆ”
แต่ก่อนที่ถังซวงจะหยิบเสื้อคลุม จู่ ๆ ก็มีมือจากด้านข้างปรี่เเข้ามาและหยิบเสื้อคลุมออกไปก่อน “พี่หรูเหมิ่ง ตัวนี้ดูดีอยู่นะ ถึงสีจะเข้มไปหน่อย” เมื่อพูดจบเธอก็มองไปที่ถังซวงด้วยหางตาและหยิบเสื้อคลุมออกไป
ถังซวงมองไปที่หญิงสาวตรงหน้าเธอ และเลิกคิ้วขึ้น
เดิมทีเธอคิดว่าคงมีคนอื่นสนใจเสื้อคลุมนี้เหมือนกัน แต่ว่าหญิงสาวกลับมองเธอด้วยสายตาแปลก ๆ… ดูเหมือนจะรู้จักเธอ และหญิงสาวเรียก ‘พี่หรูเหมิ่ง’ เมื่อกี้ อืมมม… น่าสนใจ
“สวัสดี เสื้อคลุมตัวนี้ฉันเห็นก่อนน่ะ”
หลู่ว์ตานมองไปที่ถังซวงตรงหน้าเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
แม้ว่าเธอจะไม่อยากยอมรับ แต่ก็ต้องบอกว่าถังซวงนั้นสวยมากและเป็นเด็กสาวที่มีบุคลิกดี ถ้าเธอไม่รู้ภูมิหลังของเด็กสาวคนนี้มาก่อน เธอคงไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้มาจากชนบท
“เห็นก่อนแล้วยังไงหรือ? เสื้อตัวนี้แขวนอยู่ก็เพื่อให้มีคนซื้อมันไป ยิ่งไปกว่านั้นฉันหยิบมันก่อน แล้วทำไมมันถึงเป็นของเธอล่ะ?”
ทันใดนั้นเอง ฉินหรูเหมิ่งก็เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม
“ตานตาน ในเมื่อคุณถังเป็นคนเห็นก่อน ก็ยอมเขาเถอะ เราไปดูเสื้อผ้าแบบอื่นกันก็ได้” ในตอนท้ายฉินหรูเหมิ่งพยักหน้าให้ถังซวง และพูดว่า “สวัสดีค่ะคุณถัง แล้วเจอกันใหม่นะคะ”
ถังซวงพยักหน้าให้ฉินหรูเหมิ่ง แล้วพูดตอบเช่นกันว่า “สวัสดีค่ะ คุณฉิน”
โม่เจ๋อหยวนมองเห็นทุกเหตุการณ์ตั้งแต่หลู่ว์ตานมาหาเรื่องถังซวง เขาจึงก้าวไปข้างหน้าเด็กสาวอย่างรวดเร็ว และตอนนี้เขาอยู่ต่อหน้าฉินหรูเหมิ่ง และคนอื่น ๆ “ซวงเอ๋อร์ เป็นอะไรไหม?”
เมื่อเห็นโม่เจ๋อหยวนมองไปที่ถังซวงอย่างเป็นห่วง หัวใจของฉินหรูเหมิ่งก็เจ็บแปลบขึ้นมา
แม้แต่หลู่ว์ตานก็มองไปที่โม่เจ๋อหยวนด้วยสายตาประหลาดใจและพูดขึ้นว่า “พี่โม่ เราไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย พี่ถามแบบนั้นหมายความว่ายังไง? คิดว่าเรากำลังรังแกเธอหรือ?”
โม่เจ๋อหยวนพยักหน้าทันที “ใช่ ฉันเห็นทุกอย่างและรู้เจตนาของเธอดี เมื่อกี้ซวงเอ๋อร์เป็นคนเห็นเสื้อตัวนี้ก่อน ทำไมจู่ ๆ เธอถึงโผล่มาแล้วหยิบมันตัดหน้าซวงเอ๋อร์ล่ะ?”
“ฉัน… ก็ฉันคิดว่าชุดนี้เหมาะกับพี่หรูเหมิ่งมาก ฉันเลยจะซื้อมันไง”
เธอไม่รู้จักถังซวงมาก่อน แต่เธอรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเมื่อฉินหรูเหมิ่งมองที่ถังซวงด้วยสายตาแปลก ๆ ดังนั้นเธอจึงรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือถังซวงหลังจากที่ซักถามไปเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงเดินไปข้างหน้าโดยไม่พูดอะไรสักคำ และหยิบเสื้อคลุมที่ถังซวงกำลังจะหยิบมา
เมื่อโม่เจ๋อหยวนได้ยินเช่นนี้ เขาก็พูดตามตรงว่า “หรูเหมิ่งไม่ได้สูงเท่าซวงเอ๋อร์ เพราะงั้นเธอใส่เสื้อตัวนี้ไม่ได้หรอก”
“พี่…”
ฉินหรูเหมิ่งไม่คาดคิดว่าโม่เจ๋อหยวนจะพูดแบบนั้น
แม้ว่าเรื่องความสูงจะเป็นเรื่องจริง แต่การที่เขาพูดตรง ๆ แบบนี้ทำให้เธอรู้สึกด้อยกว่าถังซวงมาก
แม้แต่หลู่ว์ตานก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองโม่เจ๋อหยวน จากนั้นกระตุกมุมปาก “เรายังไม่ได้ลองชุดเลย พี่รู้ได้ยังไงว่ามันไม่เหมาะกับพี่หรูเหมิ่ง” ในตอนท้าย เธอก็กลั้นอารมณ์เอาไว้เช่นกัน แล้วหายใจเข้าลึก ๆ เธอรีบส่งเสื้อให้ฉินหรูเหมิ่ง แล้วพูดว่า “พี่หรูเหมิ่ง พี่รีบไปลองเถอะ ถึงมันจะยาวไปหน่อยแต่พี่ก็ใส่ได้แน่นอน”
หลังจากที่ฉินหรูเหมิ่งรับเสื้อแล้ว เธอก็ลองสวมทันที แล้วก็ต้องขมวดคิ้วมุ่น
เสื้อคลุมสีดำนี้สวยจริง ๆ แต่ความยาวนั้นยาวกว่าเธอมากเช่นกัน หลังจากใส่แล้วเธอรู้สึกตัวสั้นลงเล็กน้อยและรูปลักษณ์ก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไป การสวมชุดสีดำแบบนี้ไม่เข้ากับบุคลิกของเธอเลยสักนิด
“ฉันก็บอกแล้วไงว่ามันไม่เหมาะสำหรับเธอ”
โม่เจ๋อหยวนยืนอยู่ข้าง ๆ พูดอย่างเย็นชา “ให้ซวงเอ๋อร์ลองสวมมันสิ”
เมื่อฉินหรูเหมิ่งได้ยินแบบนี้ ดวงตาของเธอก็วูบวาบ และพูดออกไปโดยไม่คิด “ฉันคิดว่าชุดนี้เหมาะกับฉันมาก เพราะงั้นฉันจะซื้อมัน” หลังจากนั้น เธอก็จ่ายเงินและเอามันไป แล้วไปดูอย่างอื่นต่อไป
เมื่อเห็นการกระทำที่รวดเร็วของฉินหรูเหมิ่ง โม่เจ๋อหยวนก็ขมวดคิ้ว
ส่วนถังซวงกลับยกยิ้ม “ในเมื่อคุณฉินชอบมันมากก็ปล่อยเธอไปเถอะ” เธอมองไปที่โม่เจ๋อหยวน “พี่โม่ เราไปดูที่อื่นกัน”
แม้ว่าโม่เจ๋อหยวนจะยังคงคิดว่าเสื้อคลุมตัวนั้นสวยและเหมาะกับถังซวงมาก แต่ฉินหรูเหมิ่งก็จ่ายเงินซื้อมันไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการทักท้วงอะไรอีก เพราะยังไง ห้างสรรพสินค้านี้ก็ใหญ่โตและมีร้านขายเสื้อผ้าดี ๆ อยู่ไม่มากก็น้อย ดังนั้นเขาจึงยังไม่เชื่อว่าจะไม่เจอร้านอื่นที่เหมาะกับซวงเอ๋อร์เลย
ฉินหรูเหมิ่งเฝ้าดูโม่เจ๋อหยวนเดินจากไปพร้อมกับถังซวงด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน เธอก็กำถุงในมือแน่น แม้ว่าเธอจะซื้อเสื้อคลุมสีดำตัดหน้าถังซวงมากได้ แต่เธอกลับไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย ไม่เห็นหรือว่าในสายตาของโม่เจ๋อหยวนมีเพียงถังซวงเท่านั้น?
เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง? โม่เจ๋อหยวนแค่ไปที่มณฑลเจียงไม่นาน แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น?
ก่อนที่ฉินหรูเหมิ่งจะคิดอะไรเกินเลย หลู่ว์ตานซึ่งอยู่ด้านข้างก็วิ่งไปอีกด้านหนึ่งอย่างมีความสุข “แม่คะ แม่มาที่นี่ด้วยหรือ?” ขณะที่พูด เธอก็เห็นอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ แม่ของเธอ ดวงตาของเด็กสาวก็เบิกกว้างขึ้นทันที “ลุงจิง ลุงมาซื้อของกับแม่หรือคะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จิงเจ้อหรงส่ายหัวปฏิเสธทันที “เปล่า”
ส่วนถังซวงและโม่เจ๋อหยวนที่วางแผนจะเดินไปอีกด้าน พวกเขาก็หันศีรษะและมองไปยังทิศทางที่ได้ยินคำพูดของหลู่ว์ตานทันที
เมื่อถังซวงเห็นจิงเจ้อหรงเดินกับผู้หญิงที่ดูสง่างามคนนั้น เธอก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
และโม่เจ๋อหยวนก็พูดขึ้นจากด้านข้างว่า “ซวงเอ๋อร์ คนนั้นคือแม่ของหลู่ว์ตาน เหม่ยหยิงตง จากตระกูลเหม่ยที่เคยหมั้นหมายกับลุงจิงน่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังซวงก็เลิกคิ้วขึ้นอีกครั้ง
“อ๋อ… ลุงจิงมาซื้อของกับอดีตคู่หมั้นนี่เอง”