การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 179 หนุ่มหล่อ
บทที่ 179 หนุ่มหล่อ
บทที่ 179 หนุ่มหล่อ
หลังได้ยินคำพูดของถังซวงแล้ว เฉินกวงหยางยิ้มแล้วตอบว่า [น้องสาว ในเมื่อผู้เฒ่าฉีพูดอย่างนั้นแล้ว เขาก็ต้องรู้ว่าเธอเชื่อถือได้ เพราะอย่างนั้นเธอไม่ต้องคิดว่ามันเป็นการเสียมารยาทหรอกนะ] เขารู้ดีว่าผู้เฒ่าฉีประทับรอยฝ่ามือและยื่นเรื่องให้กับถังซวงแล้ว เช่นนี้เขาจึงเข้าใจผู้เฒ่าฉีอย่างถ่องแท้ จากนี้ไปทรัพย์สินทั้งหมดของโถงยี่ชีจะเป็นของถังซวง
เมื่อได้ยินว่าเฉินกวงหยางพูดอะไร ถังซวงจึงไม่ปฏิเสธอีก
[เอาล่ะ เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอก แล้วจะตรงไปที่นั่นเลยค่ะ]
[รบกวนด้วยนะ]
เฉินกวงหยางยิ้มกว้างแล้วจึงบอกที่อยู่ของบริษัทให้กับถังซวง
จากนั้นก็ค่อยถามสถานการณ์ปัจจุบันของสามแม่ลูก ก่อนจะวางสายโทรศัพท์ไป
“พี่คะ ฉันขอไปด้วย”
เมื่อเห็นว่าถังซวงกำลังจะออกไปข้างนอก ถังเซวี่ยรีบพูดบอก
หลังได้ยินแล้ว ถังซวงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เธอไม่ได้นัดกับจูรุ่ยไปซื้อของด้วยกันหรือ? เอาล่ะไปเตรียมตัวได้แล้ว จะได้รีบไป” ถังซวงรู้สึกเป็นห่วงถังเซวี่ยเล็กน้อย เลยพูดต่อว่า “ฉันคุยกับพี่เจียรุ่ยแล้ว ให้เขาไปด้วยนะ ถึงเวลาหรือมีอะไรให้โทรหาเขาทันที ไม่อย่างนั้นฉันคงเป็นห่วงเธอมาก”
หลังได้ยินแล้ว ถังเซวี่เหลือบมองถังซวงแล้วพูดว่า “พี่คะ พวกเราต่างหากที่เป็นห่วงพี่ พี่ออกไปคนเดียวแต่พวกเราไปกันตั้งหลายคน”
“ฉันทำได้ แต่เธอทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นฉันถึงเป็นห่วงเธอไงล่ะ”
ตอนนี้ถังเซวี่ยไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไป เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ค่ะ ตกลง ฉันจะโทรหาพี่เจียรุ่ยให้ไปด้วยกันค่ะ”
“ดีมาก งั้นฉันไปก่อนนะ”
ถังเซวี่ยและจูรุ่ยมีนัดกันวันนี้ และเฮ่อหลานกับพานลี่ฮวาก็จะออกไปกับคุณยายเพื่อเลือกเสื้อผ้าและลายไหมด้วยกัน ดังนั้นวันนี้ทุกคนจึงเตรียมตัวเพื่อออกจากบ้าน ถังซวงจึงคิดว่าการที่เธอออกไปคนเดียวมันสะดวกกว่า เธอจึงรีบออกไปทันที
เธอตรงไปที่ขนส่งหลงเฉิงที่เฉินกวงหยางพูดถึง
“คุณถัง มาแล้วหรือครับ”
เฟ่ยไห่ชางผู้รับผิดชอบดูแลขนส่งหลงเฉิงเห็นถังซวงเข้ามา เขารีบออกมาทักทายด้วยรอยยิ้มทันทีแล้วพูดอย่างสุภาพว่า “คุณถังครับ ผมชื่อเฟ่ยไห่ชาง เป็นผู้ดูแลที่นี่ ทุกสิ่งที่คุณถังต้องการพร้อมแล้วครับ”
เมื่อเห็นว่าเฟ่ยไห่ชางสุภาพมากเกินไป ถังซวงอดที่จะเกร็งไม่ได้ เธอรีบตอบกลับว่า “สวัสดีค่ะคุณเฟ่ย ถ้าในเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ฉันจะขอรับของแล้วออกไปเลยนะคะ”
เฟ่ยไห่ชางยิ้มแล้วพูดว่า “คุณถังครับ ถ้าไม่ได้รีบร้อนอะไรสามารถเข้าไปดูด้านในก่อนได้นะครับ” ขณะพูด เขาเดินนำทางไปแล้ว
หลังจากเห็นอย่างนี้ ถังซวงไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเดินตามไป
หลังจากทั้งสองเข้าไป พนักงานที่ยืนอยู่สองฝั่งของประตูโค้งคำนับให้ถังซวงแล้วพูดว่า “สวัสดีค่ะคุณถัง”
เมื่อเห็นการต้อนรับยิ่งใหญ่นี้ ถังซวงถึงกับตกตะลึง
เมื่อมองคนที่ยังโค้งตัวไม่หยุด ถังซวงมองเฟ่ยไห่ชางที่กำลังยิ้มอยู่ด้านข้างแล้วพูดว่า “คุณเฟ่ยคะ… แบบนี้มันมากเกินไปค่ะ จริง ๆ ไม่ต้องทำอะไรอย่างนี้ก็ได้นะคะ เดี๋ยวรับของเสร็จฉันก็จะออกไปแล้ว”
“คุณถัง ให้ผมพาคุณเดินชมรอบ ๆ บริษัทก่อนเถอะครับ”
เฟ่ยไห่ชางไม่ตอบ แต่ยิ้มอย่างอารมณ์ดี แต่เมื่อเห็นว่าถังซวงไม่ชอบการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่แบบนี้ เขารีบโบกมือให้พนักงานแล้วพูดว่า “เอาล่ะ แยกย้ายกันไปทำงานได้”
คนเหล่านั้นตอบกลับด้วยความเคารพก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองถังซวงด้วยความสงสัย แต่ก็ยอมแยกย้ายกันไป
เฟ่ยไห่ชางพาถังซวงเดินไปรอบ ๆ แนะนำสถานการณ์ต่าง ๆ ภายในขนส่งหลงเฉิงอย่างละเอียดแม้กระทั่งบอกว่าเวลานี้บริษัทกำลังร่วมมือกับใครอยู่บ้าง
ยิ่งถังซวงรับฟังมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกประหม่ามากเท่านั้น จึงรีบหยุดเฟ่ยไห่ชางทันที “คุณเฟ่ยคะ… ทั้งหมดเป็นเรื่องภายในบริษัท ความจริงแล้วคุณไม่จำเป็นต้องบอกรายละเอียดพวกนี้ให้ฉันฟังเลย” เธอสงสัยว่ามันควรจะเป็นความลับไม่ใช่หรือ แต่เฟ่ยไห่ชางกลับบอกกล่าวออกมาให้คนนอกอย่างเธอฟัง นี่เขาตั้งใจงั้นหรือ? ทุกอย่างทำเธอสับสนไปหมด
หลังได้ยินแล้ว เฟ่ยไห่ชางยิ้มแล้วตอบกลับ “ครับ ๆ งั้นผมจะไม่พูดแล้วครับ”
ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงสำนักงานของเฟ่ยไห่ชาง และเฟ่ยไห่ชางยกสมุดบัญชีที่เตรียมไว้ออกมาให้ถังซวงแล้วพูดว่า “คุณถังครับ นี่คือสมุดบัญชีบางส่วนของปีนี้ และปีก่อน ๆ ผมจะฝากทั้งหมดนี้ให้คุณไปนะครับ แล้วถ้ามีคำถามอื่น สามารถสอบถามผมได้ตลอดเวลาเลยนะครับ”
ขณะพูด เขาก็ให้ข้อมูลติดต่อกับถังซวง
เมื่อถังซวงออกจากขนส่งหลงเฉิงแล้ว เธอหันศีรษะมองอาคารด้านหลังอีกครั้ง แววตาเผยความสงสัย เธอรู้สึกว่าคนในบริษัทเหล่านี้ปฏิบัติตัวกับเธอแปลก ๆ พวกเขาทั้งสุภาพ แล้วยังกระตือรือร้นมากเกินไป
แต่เมื่อนึกดูแล้ว เธอมาที่นี่ในนามของผู้เฒ่าฉี คนเหล่านั้นก็คงจะต้องเคารพเป็นธรรมดา
ถังซวงจึงหยุดคิดฟุ้งซ่าน ก่อนจะยกสมุดบัญชีใส่กระเป๋าบนหลัง จากนั้นไปร้านยาจีนเพื่อหาวัตถุดิบทำยา เธอเคยทำยาบำรุงผิวมาก่อน เช่นนี้เธอจึงรู้ดีว่าต้องใช้วัตถุดิบอะไรบ้าง ถังซวงรีบซื้อของที่ต้องการอย่างรวดเร็ว
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถังซวงกำลังจะกลับ เพราะเวลานี้เธอมีของสำคัญต้องดูแล แต่เมื่อถังซวงเดินผ่านมุมถนน สีหน้าของเธอเย็นชาในทันที
“เฮ้เฮ้… สาวน้อย อยากจะแวะเล่นกับพวกเราสักหน่อยไหม?”
เมื่อมองกลุ่มผู้ชายตรงหน้าแล้ว ถังซวงขมวดคิ้วพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไปให้พ้น”
“เฮ้… ดูเหมือนสาวสวยคนนี้อารมณ์จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่มันน่าสนใจมาก เธอคงจะยอดเยี่ยมแน่”
ทุกคนในกลุ่มมองถังซวงด้วยแววตาเปล่งประกาย และคิดว่าผู้หญิงตรงหน้าคนนี้สวยเสียยิ่งกว่าดาราซะอีก เธอสวยมาก สวยเกินไป
“ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย… ไปให้พ้น…”
เมื่อเห็นใบหน้าเย็นชาของถังซวง ชายที่มัดผมก็พูดขึ้นว่า “ลูกพี่ ผู้หญิงคนนี้ดูรั้นซะจริง มัวทำอะไรอยู่ รีบจัดการกับเธอสิ?”
ลูกพี่ที่พูดถึงเป็นชายวัยกลางคนหัวโล้น หลังได้ยินคำลูกน้องแล้ว เขาหัวเราะแล้วตอบกลับว่า “ฉันรู้น่า วันนี้เราโชคดีจริง ๆ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกพี่พูดแล้ว ทุกคนก็หัวเราะ
พวกเขาบางคนเริ่มเปิดปากพูดคำลามก “สาวน้อย รีบตามพวกเรามาดี ๆ เถอะ พี่น้องของเราถือได้ว่าเป็นหนุ่มหล่อในย่านนี้ เป็นโชคดีของเธอเลยนะ”
หลังได้ยินคำพูดนั้นแล้ว ถังซวงมองคนตรงหน้าอย่างพิจารณาแล้วพูดเหยียดหยาม “พวกนายน่ะหรือที่เรียกว่าหนุ่มหล่อ? ฉันว่าพวกนายก็แค่อันธพาล”
“แก… นังบ้า คงจะไม่อยากไปด้วยกันดี ๆ สินะ”
แม้พวกเขาจะเคยทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยต้องถูกก่นด่าอย่างนี้มาก่อน เวลานี้ทุกคนจับจ้องถังซวงอย่างโกรธแค้นและคิดว่าจะสั่งสอนบทเรียนให้กับสาวน้อยตรงหน้านี้ให้ได้
ถังซวงมองคนเหล่านี้ด้วยสายตาดูถูก และเมื่อเห็นว่าพวกเขาเริ่มเคลื่อนไหว เธอพุ่งตรงเข้าหาผู้ที่เป็นหัวโจกของกลุ่มทันที
“อ๊ากก”