การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 180 เข้ามา
บทที่ 180 เข้ามา
บทที่ 180 เข้ามา
เสียงกรีดร้องดังขึ้น ชายที่วิ่งเข้ามาด้านหน้าถูกถังซวงเตะอย่างจัง
เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนที่วิ่งมาด้านหน้าล้วนตกตะลึง ทั้งหมดหยุดชะงัก แต่ไม่นานนักชายหัวโล้นก็ตะโกนว่า “ดูเหมือนนังบ้านี่จะมีฝีมือ ทุกคน ระวังตัวด้วย… ยังไงพวกเราก็มีจำนวนมากกว่า จัดการมันได้อยู่แล้ว”
“ใช่ ลุย…”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกพี่พูด คนเหล่านั้นกลับมาฮึกเหิมอีกครั้ง สาวสวยที่อยู่ตรงหน้า ถ้าพวกเขาสามารถจับเธอได้ นังนี่ต้องโดนดีแน่
ถังซวงมองชายหัวโล้นตรงหน้า ก่อนจะมุ่งเป้าหมายไปที่เขา
เมื่อหัวหน้ากลุ่มเห็นสายตานั้น เขาก็คาดเดาเจตนาของอีกฝ่ายได้ แววตาเผยความเหยียดหยามออก สาวน้อยคนนี้คงคิดจริง ๆ ว่าทักษะเล็กน้อยที่เธอมีจะสามารถล้มพวกเขาได้ นี่เธอจะสามารถต่อสู้กับคนกลุ่มใหญ่ทั้งหมดได้ยังไง คราวแรกเขาคิดว่าการใช้คนมากมายเพื่อจับสาวน้อยเพียงคนเดียวเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะเป็นเรื่องที่สมควร
ขณะชายหัวโล้นจินตนาการถึงภาพที่เขาจับหญิงสาวได้ แต่จู่ ๆ ถังซวงก็มาอยู่ตรงหน้าเขา
“เธอ… เธอมาได้ยังไง?”
แม้เขาจะรู้ว่าถังซวงกำลังจะมาหาตน แต่ก็มีคนจำนวนมากขวางทางอยู่ แล้วสาวน้อยคนนี้ฝ่าเข้ามาได้ยังไงกัน?
“หึ… ฉันมาแล้ว”
ถังซวงยิ้มเย็นชาก่อนจะชกหน้าชายหัวโล้นอย่างแรง
เพราะชายหัวโล้นเป็นหัวหน้าของคนกลุ่มนี้ จึงพอมีฝีมืออยู่บ้าง ขณะที่ตกใจ เขายังสามารถรับหมัดของถังซวงได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่กำลังจะตอบโต้ แต่เข่าของเขากลับเจ็บขึ้นมาโดยฉับพลัน และทรุดลงจนเซ
“หึหึ… ดูเหมือนฝีมือนายจะไม่ดีเหมือนปากเลยนะ”
ถังซวงคิดไว้แล้วว่าหัวหน้ากลุ่มคนนี้ค่อนข้างจะมีฝีมือ แต่เธอไม่คาดคิดว่าทักษะของเขาจะแย่ขนาดนี้ เขาสามารถหลบกำปั้นของเธอได้ แต่กลับไม่สามารถหลบการเคลื่อนไหวต่อไปได้ ดูเหมือนว่าเขาก็เป็นเพียงชายไร้ประโยชน์คนหนึ่ง
หลังจากเข้าใจทุกอย่างแล้ว ถังซวงไม่รอช้า เธอเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และทุกท่วงท่าล้วนแต่หมายเอาชีวิต เวลานี้ชายหัวโล้นอดหวาดหวั่นไม่ได้ เขารู้แล้วว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของถังซวงเลย จึงทำได้เพียงตะโกนขอความช่วยเหลือ “พวกแกมัวยืนงงอะไรอยู่! รีบเข้ามาช่วยฉันสิโว้ย!”
ทันทีที่พูดจบ ถังซวงชกชายหัวโล้นจนทรุดลงกับพื้น ในขณะเดียวกันก็ใช้เท้าเหยียบหน้าอกของเขาเอาไว้ “ฉันขี้เกียจจะมัวเสียเวลาที่นี่ บอกให้คนของแกถอยไปซะ”
แต่ชายหัวโล้นมองถังซวงด้วยความโกรธก่อนจะตะโกนว่า “ฝันไปเถอะ!” ก่อนจะตะโกนร้องต่อไปว่า “เร็ว… รีบจับมันไว้!”
“ไม่หยุดสินะ”
ถังซวงเพิ่มความหนักหน่วงที่เท้าอีกครั้งแล้วได้ยินเสียง ‘กร๊อบ…’ เสียงกระดูกแตกหักชัดเจน ตามด้วยเสียงร้องที่เหมือนกับหมูถูกเชือด
“อ๊า… อ๊ากก…”
เมื่อเห็นใบหน้าเจ็บปวดของหัวหน้าแล้ว คนที่เหลือถึงกับตกใจ แม้พวกเขาจะมีกันหลายคน แต่ผู้หญิงตรงหน้านี้ก็จัดการพวกเขาเกือบจะหมดทั้งกลุ่มแล้ว ด้วยฝีมือยอดเยี่ยมจนจัดการหัวหน้าไม่เป็นท่า แล้วอย่างนี้พวกเขาจะจับสาวน้อยตรงหน้านี้ได้อีกหรือ?
ขณะที่ทุกคนกำลังลังเล ถังซวงไม่ให้โอกาสพวกเขาคิดนานนัก
“ในเมื่ออยู่กันพร้อมหน้าแล้ว เราควรจะพอแค่นี้”
หลังจากถังซวงจัดการกับชายหัวโล้นได้แล้ว เธอยิ่งไม่ออมแรง การเคลื่อนไหวทุกท่วงท่าหนักหน่วงและเฉียบคม เวลานี้เธอจัดการทุกคนได้อยู่หมัด
“เธอ… เธอเป็นใคร?”
ทุกคนถูกถังซวงจัดการจนกองลงกับพื้น ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ ทุกคนเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าสาวน้อยตรงหน้าเก่งแค่ไหน พวกเขาประเมินศัตรูต่ำเกินไป แต่ถึงจะรู้และไม่ประมาท สุดท้ายแล้วก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของถังซวงอยู่ดี
หลังได้ยินแล้ว ถังซวงยิ้ม “ในเมื่อพวกนายมาที่นี่เพื่อจับฉัน ยังไม่รู้หรือว่าฉันเป็นใคร? คำถามพวกนี้ดูโง่ไปหน่อยนะ”
เมื่อได้ยินแล้ว พวกเขาคิดจะโต้เถียง แต่เมื่อคิดให้ดี ทุกคนก็ไม่มีอะไรจะเถียงเธอได้เลย
ส่วนถังซวงขี้เกียจเกินกว่าจะเสียเวลากับคนพวกนี้ เธอมองชายหัวโล้นแล้วถามว่า “ทำไมพวกนายถึงมาจับฉัน?”
เมื่อเห็นท่าทางขุ่นเคืองของถังซวง คนอื่น ๆ นิ่งเงียบ แต่ชายหัวโล้นพยายามยกหัวขึ้นแล้วพูดว่า “พวกเราก็แค่อยากจับเธอไป เพราะเธอสวยไง”
“นี่… จนถึงตอนนี้ยังไม่คิดพูดความจริงอีกงั้นหรือ? ปากแข็งน่าดูนี่ งั้น… มาดูกันว่าปากของนายกับมือของฉันอะไรจะแข็งกว่ากัน” ขณะที่พูด ถังซวงหยุดยืนตรงหน้าชายหัวโล้นแล้ว เธอนั่งยอง ๆ ลงด้านข้าง และชกเข้าที่ท้องรุนแรงโดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายตั้งตัวได้ทัน
“อ๊าก…”
ก่อนหน้านี้เขาร้องออกมาเพราะเจ็บปวด แต่คราวนี้เขารู้สึกว่าอวัยวะทั้งหมดกำลังจะปริแตกด้วยหมัดนี้ “ฉัน… ฉันพูดแล้ว…”
“ลูกพี่…”
คนที่เหลือตะโกนออกมาด้วยความหวาดกลัวในแววตา
ถังซวงเกือบจะหมดความอดทน แต่เมื่อเห็นว่าชายหัวโล้นไม่ได้จะพูดอย่างที่บอก แววตาของเธอยิ่งไร้ความปรานี “ดูเหมือนว่ายังอยากเจ็บตัวอีกสินะ”
“ไม่… ฉันพูดแล้ว พูดแล้ว… เป็นคุณชายซูที่สั่งให้พวกเรามา”
“คุณชายซู? ซูยี่?”
ก่อนที่ชายหัวโล้นจะพยักหน้ายอมรับ ทันใดนั้น ชายในชุดสูทสีดำพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว และผู้นำของกลุ่มคือเฟ่ยไห่ชางที่เธอได้พบเมื่อครู่นี้
“คุณถัง…”
เมื่อเห็นว่าเฟ่ยไห่ชางและคนอื่น ๆ วิ่งเข้ามา ถังซวงลุกขึ้นด้วยความประหลาดใจก่อนถามว่า “คุณเฟ่ย มาที่นี่ได้ยังไงคะ?”
สีหน้ากังวลของเฟ่ยไห่ชางเริ่มจางหายไป เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าถังซวงสบายดี จากนั้นจึงรีบพูดว่า “ผมได้ยินว่ามีคนกำลังข่มเหงหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ และเมื่อคนคนนั้นอธิบายรูปร่าง ผมรู้สึกว่าต้องเป็นคุณถังแน่ จึงรีบพาคนมาที่นี่น่ะครับ”
เมื่อได้ยินแล้ว ถังซวงรีบขอบคุณทันที “ขอบคุณคุณเฟ่ยมากค่ะ แต่ฉันรับมือได้ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
เมื่อเห็นคนกลุ่มใหญ่นอนขดตัวอยู่บนพื้น เฟ่ยไห่ชางมองถังซวงด้วยความประหลาดใจและถามออกไปว่า “คุณถังจัดการคนพวกนี้ทั้งหมดเลยหรือครับ?”
ถังซวงพยักหน้าพร้อมพูดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “ค่ะ คนพวกนี้ไม่มีฝีมือ ฉันจัดการได้ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ”
เมื่อชายหัวโล้นและลูกน้องได้ยินแล้ว ใบหน้าของพวกเขากลายเป็นสีแดงด้วยความโกรธทันที พวกเขาก็ค่อนข้างมีฝีมือ แต่อีกฝ่ายกลับบอกพวกเขาว่าไม่มีฝีมือ ทว่าความจริงพวกเขาก็ไม่สามารถจัดการกับเด็กหญิงตัวเล็กคนนี้ได้ จึงโต้เถียงไม่ออก
ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังของเฟ่ยไห่ชาง เขามองชายหัวโล้นตรงหน้าอย่างตรวจสอบแล้วพูดว่า “นั่นพี่หลิวรึเปล่า? ทำไมคุณถึงมาหาเรื่องผู้หญิงอย่างนี้ล่ะ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เฟ่ยไห่ชางขมวดคิ้วเล็กน้อย
“นายรู้จักผู้ชายคนนี้หรือ?”
ลูกน้องของเขาตอบกลับตามตรงว่า “หัวหน้าเฟ่ยครับ… ผมรู้จักเขา เขาเป็นหัวหน้าของกลุ่มอันธพาลในย่านนี้ ผมได้ยินว่าช่วงนี้พวกมันกำลังอาละวาดด้วย แต่ไม่ได้คิดว่าพวกมันจะกล้ายุ่งกับคุณถังของเรา ไอ้พวกเวรเอ๊ย”