การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 184 ทีละคน
บทที่ 184 ทีละคน
บทที่ 184 ทีละคน
ถังซวงขมวดคิ้วและมองภาพตรงหน้า เธอใช้จังหวะที่คนพวกนั้นไม่สนใจปีนข้ามกำแพงเพื่อตามเข้าไปด้านใน
เวลานี้มีเสียงดังชัดเจนขึ้น
“โอ้โห… ผู้หญิงคนนี้สวยมาก ใบหน้าบอบบางราวกับดอกไม้ มันยิ่งทำให้ฉันอยากจะรังแกซะจริง ๆ นี่เหล่าเอ้อร์ วางเธอลงเร็ว ๆ ฉันจะได้เริ่มสักที”
คนที่ถูกเรียกว่าเหล่าเอ้อร์ก็คือคนที่อุ้มจูรุ่ย เมื่อได้ยินอย่างนี้แล้วเขารีบพูดว่า “หัวหน้า เร็ว ๆ หน่อยเถอะครับ เราทุกคนรออยู่ ว่าแต่…” ในตอนท้าย เหล่าเอ้อร์คนนั้นกลายเป็นลังเล “หัวหน้าครับ ผู้หญิงคนนี้น่าจะมาจากครอบครัวไม่ธรรมดา เราจะทำอย่างนี้จริง ๆ หรือครับ?”
“เหล่าเอ้อร์ นายกลายเป็นคนขี้ขลาดไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ถึงจะมาจากตระกูลใหญ่ ฉันก็ไม่สนแล้ว รีบทำให้เสร็จ ๆ แล้วค่อยขายเธอให้พวกบนเรือซะ ถึงตอนนั้นก็จับมือใครดมไม่ได้”
หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว เหล่าเอ้อร์ก็โล่งใจ
“จริงด้วย หัวหน้านี่รอบคอบจริง ๆ ผู้หญิงคนนี้บอบบางและตัวนุ่มมาก ฉันได้ลองสัมผัสตอนที่อุ้มมา คิคิ… แค่หน้าตาของเธอก็ทำให้เราเคลิ้มแล้ว แถมรูปร่างยังดีอีก” ขณะพูด ใบหน้าของชายทั้งสามก็ยิ่งเผยความต่ำทราม
เหล่าซานไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปแล้วพูดว่า “หัวหน้า เร็ว ๆ เถอะ เหล่าเอ้อร์กับฉันรออยู่ หรือว่า… พวกเราควรจะทำพร้อมกันเลยดี”
ดวงตาของจูรุ่ยบวมแดงจากการร้องไห้ เมื่อได้ยินคำพูดต่ำตมของคนพวกนี้ ใบหน้าของเธอซีดเซียว ดวงตายิ่งสิ้นหวัง เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีใครกล้าจับเธอมัดไว้ในที่แบบนี้ แล้วเธอก็จะถูกขายออกนอกประเทศ ชั่วชีวิตนี้เธอคงไม่ได้กลับบ้านอีกแล้ว
เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้ว จูรุ่ยก็ดิ้นอย่างแรง
“หึหึ… สาวน้อย ไม่ต้องกลัว พวกเรามาแล้ว”
ขณะพูดอย่างนั้น เขาบอกให้เหล่าเอ้อร์และเหล่าซานวางเธอลง ก่อนจะปรี่เข้าหาเธออย่างรวดเร็ว
“อู้… อื้ออ…”
จูรุ่ยถูกปิดปากเอาไว้เลยไม่สามารถส่งเสียงได้ ในเวลานี้เธอส่ายหัวอย่างสิ้นหวัง ใบหน้าของชายคนนั้นเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ และการดิ้นรนของเธอก็ไม่ช่วยอะไรเลย ก่อนที่หญิงสาวจะหลับตาแน่นด้วยความหวาดกลัว
ตู้ม…
“อัก… อ๊ากก…”
เมื่อรู้สึกว่าแรงกดทับบนร่างกายหายไปแล้ว ดวงตาที่ปิดลงของจูรุ่ยค่อย ๆ ลืมขึ้นอีกครั้ง และเธอก็เห็นสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจน ใบหน้าฉายแววความประหลาดใจ “อู้… อู้อู้…”
ถังซวงชำเลืองมองจูรุ่ย เธอก้าวไปด้านหน้าแล้วหยิบผ้าออกจากปากของเด็กสาว “ทำไมเธอถึงถูกจับมาที่นี่ได้?”
“ฉันเดินเล่นอยู่บนถนน แต่คนพวกนี้ก็เข้ามาจับตัวฉัน ไม่รู้เลยว่าทำไมเขาถึงจับฉัน…”
จูรุ่ยรู้สึกหวาดกลัว เธอเผชิญหน้ากับเรื่องเลวร้ายจึงโน้มตัวเข้าหาถังซวงโดยไม่รู้ตัวก่อนจะกล่าวพร้อมร่างกายสั่น ๆ “พี่สาวซวง คนพวกนี้ต้องการ… ต้องการ…” เธอไม่สามารถพูดต่อได้
ถังซวงไม่ต้องการให้จูรุ่ยพูดต่อ “ฉันรู้แล้ว เธอไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว”
ขณะทั้งสองกำลังพูดคุย ชายฉกรรจ์ทั้งสามคนก็ลุกขึ้น ก่อนหน้านี้พวกเขาถูกเตะล้มลงกับพื้น ก่อนที่จะทันได้เห็นว่าเป็นใคร ทั้งหมดก็ล้มลงไปซะแล้ว หลังจากพวกเขายืนขึ้น จึงเห็นใบหน้าของถังซวงได้อย่างชัดเจน ดวงตาสว่างวาบราวกับได้เจอสมบัติ
“โอ้โห… คนสวยมาหาถึงหน้าประตู ดูเหมือนว่าวันนี้พวกเราพี่น้องจะได้รับพรจากสวรรค์ซะแล้ว”
คนที่เป็นหัวหน้ามองถังซวงด้วยแววตาหื่นกาม เขาอยากจะกระโจนใส่ผู้หญิงคนนี้ซะจริง ๆ แต่เมื่อนึกถึงที่ถูกเตะเมื่อครู่ เขาหันมองเหล่าเอ้อร์และเหล่าซานก่อนจะพูดอย่างระมัดระวังว่า “นังนี่มันมีฝีมือ เราต้องเข้าไปพร้อมกัน แล้วถ้าสามารถจัดการกับเธอได้ เวลานั้น… หึหึ… ทั้งหมดมันก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเราจะตัดสินใจยังไง”
“ฮ่าฮ่า ตกลง เราเข้าไปพร้อมกันเลยดีกว่า”
เมื่อจูรุ่ยได้ยินอย่างนี้ ใบหน้าของเธอยิ่งวิตก “พี่ซวง พวกเรา… เราควรทำยังไงดีคะ?”
ถังซวงหันมองทั้งสามคนด้วยความขยะแขยงก่อนจะพูดว่า “ทำไมวันนี้ถึงมีแต่เรื่องพวกนี้นะ พวกแกรู้ไหม ฉันโกรธจริง ๆ แล้วนะ”
เด็กสาวอาจจะมีความปรานีให้กับซูยี่อยู่บ้าง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับอันธพาลชั้นต่ำทั้งสามคนที่อยู่ตรงหน้า ถังซวงไม่คิดแม้แต่จะเมตตาด้วยซ้ำ เธอจัดการทั้งสามคนให้ล้มลงไปกองกับพื้นทันที ก่อนที่จะกระทืบพวกเขาทั้งหมดอย่างไม่ยั้ง
“อ๊าก อย่า หยุด… หยุดเถอะ พวกเรายอมแล้ว”
เหล่าซานที่ทนไม่ได้รีบร้องขอความเมตตาทันที
หัวหน้าและเหล่าเอ้อร์ก็ไม่แตกต่าง พวกมันรีบร้องขอความเมตตาเช่นกัน “พวกเราผิดไปแล้ว ผิดแล้ว พวกเราไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ตอนนี้พวกเราสำนึกแล้ว ไม่กล้าทำแล้วครับ ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะ”
ถังซวงมองทั้งสามด้วยแววตาเย็นชา เธอเดินไปด้านข้างก่อนจะพูดอย่างไม่แยแส “ฉันเกลียดไอ้พวกขยะที่ชอบบังคับผู้หญิงที่สุด และวันนี้ที่เราได้เจอกัน ฉันจะจัดการไม่ให้พวกแกไปทำชั่วที่ไหนได้อีก”
เมื่อได้ยินอย่างนี้บวกกับแววตาเย็นชาของถังซวง ทั้งสามคนร้องไห้ออกมาอย่างหวาดหวั่น ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว “อย่าครับ ได้โปรด ปล่อยพวกเราไป”
ถังซวงยังคงไม่หยุด และกระทืบต่อไป
เมื่อเธอหยุดยืนตรงหน้าคนที่เป็นหัวหน้า เธอยกเท้าขึ้นพร้อมกับกระทืบลงตรงกล่องดวงใจของอีกฝ่ายอย่างแรง
“อ๊ากกก…”
หัวหน้ากลุ่มบาดเจ็บบริเวณที่อยู่ใต้กางเกงอย่างหนัก เขากรีดร้องออกมาอย่างไม่อาย ไม่นานนักใบหน้าของเขาก็ซีดเซียว เหงื่อเย็นไหลท่วมตัว
เหล่าเอ้อร์และเหล่าซานเห็นอย่างนี้ถึงกับสั่นสะท้าน พวกเขาวิ่งไม่ได้แม้จะต้องการเพียงใดก็ตาม เป็นเพราะเธอทุบตีพวกเขาอย่างหนักจนไม่สามารถขยับไปไหนได้
“เอาเถอะ ฉันจะไม่เลือกปฏิบัติกับใครหรอกนะ ต่อไปตาพวกแกแล้ว”
“ไม่… ไม่…”
หากพวกเขาย้อนเวลาได้ พวกเขาจะไม่จับจูรุ่ยมาแน่นอน และคงจะไม่พูดเรื่องบ้า ๆ ก่อนหน้านี้กับถังซวงเด็ดขาด
ถังซวงไม่สนใจคำอ้อนวอนของเหล่าเอ้อร์และเหล่าซานแม้แต่น้อย เธอยังคงทำแบบเดิมต่อไป ซึ่งทั้งสองเจ็บปวดจนไม่สามารถจะกรีดร้องออกมาได้
“อึก…”
จูรุ่ยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่เธอไม่หวาดกลัวหญิงสาวตรงหน้าแม้แต่น้อย อีกทั้งยังรู้สึกตื่นเต้นด้วยซ้ำ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าผู้หญิงก็สามารถเท่ได้ และถ้าเธอเก่งกาจเช่นเดียวกับถังซวง เธอจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้
“พี่ซวง พี่เก่งจริง ๆ ค่ะ”
หลังได้ยินอย่างนี้แล้ว ถังซวงเหลือบมองจูรุ่ยแล้วถามออกไปตรง ๆ “เสี่ยวเซวี่ยอยู่ไหน? วันนี้พวกเธอไม่ได้นัดกันไปซื้อของหรือ?”
จูรุ่ยรีบตอบทันที “พี่ซวง เสี่ยวเซวี่ยและฉันไปเดินเล่นด้วยกันค่ะ แล้วก็แยกกันกลับบ้าน เธอกลับไปกับพี่เจียรุ่ย และตอนที่ฉันกำลังจะกลับบ้านก็ถูกคนพวกนี้จับตัวมาค่ะ”
หลังจากได้ยินว่าเสี่ยวเซวี่ยกลับไปกับเฮ่อเจียรุ่ย ถังซวงรู้สึกโล่งใจมาก แต่เพราะตอนนี้จูรุ่ยตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้ เธอจึงคิดช่วยอีกฝ่ายให้ถึงที่สุด
ถังซวงเดินตรงมาหาหัวหน้ากลุ่มพร้อมถามเสียงต่ำว่า “ทำไมถึงจับตัวจูรุ่ยมา?”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบ ถังซวงเย้ยหยันก่อนจะพูดขึ้นว่า “พวกแกยังจะดื้อด้านได้อีกนะ ดูเหมือนว่าเมื่อกี้ยังไม่พอ…”
“ฉันพูดแล้ว… พูดแล้ว”
เมื่อเห็นว่าถังซวงเตรียมจะลงมืออีกครั้ง หัวหน้ากลุ่มรีบร้องขอความเมตตาทันที “มีหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งบอกให้เราทำอย่างนี้ครับ ถ้าพวกเราทำสำเร็จ จะได้รางวัลอย่างงาม”