การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 197 โน้มน้าว
บทที่ 197 โน้มน้าว
บทที่ 197 โน้มน้าว
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้เฒ่าฉี ถังซวงก็ได้ยืนยันการคาดเดาของเธอ ในเวลานั้นตระกูลซู ไม่มีความเคลื่อนไหวใดเลยจริง ๆ และเป็นเพราะเฟยไห่ชางเคยไปที่ตระกูลซู กองกำลังของโถงยี่ชีอยู่ในเมืองก่างเฉิงและเมืองไห่เฉิงนี้เอง
“ผู้เฒ่าฉีคะ ถึงฉันจะเป็นคนสร้างความขุ่นเคืองให้กับตระกูลซู แต่ฉันก็คิดว่าสามารถแก้ปัญหาเองได้ค่ะ”
หลังจากเห็นท่าทางมั่นใจของถังซวงแล้ว ผู้เฒ่าฉีอดไม่ได้ที่จะกล่าวพร้อมยกยิ้ม “สาวน้อย ทุกครั้งที่ฉันคุยกับเธอ ฉันไม่เคยสนใจอายุของเธอเลย ความเยือกเย็นและความใจเย็นของเธอนั้นมันมากกว่าผู้ชายหลายคนเสียอีก” คนส่วนใหญ่คงประทับใจกับสิ่งที่เขาพูดออกมาแน่นอน ท้ายที่สุดแม้ว่าจะมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ แต่ท่าทางของถังซวงก็ยังคงสงบไม่มีเปลี่ยนแปลง
ซึ่งเธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ผู้เฒ่าฉีคะ สิ่งสำคัญคือเวลานี้ฉันยังเด็กและยังต้องเรียนหนังสือด้วย อย่างนี้ฉันจะมีเวลาไปจัดการเรื่องราวมากมายในโถงยี่ชีได้ยังไงกัน”
แน่นอนว่าผู้เฒ่าฉีไม่คิดเชื่อถือประโยคสุดท้าย
“สาวน้อย เธอกำลังโกหกฉัน ฉันรู้ว่าเธอสามารถทำได้ และจะจัดการทุกอย่างได้โดยไม่มีปัญหาด้วย”
หลังได้ยินผู้เฒ่าฉีพูดอย่างนั้นแล้ว ถังซวงก็ยังไม่ยอมแพ้
“ผู้เฒ่าฉีคะ ถึงลุงไห่จะยอมรับในตัวฉัน แต่คนอื่น ๆ ไม่เหมือนกัน แล้วถ้าฉันกลายเป็นผู้นำโถงยี่ชีจริง ๆ ฉันคงจะไม่สามารถควบคุมคนทั้งหมดได้ คุณลุงควรจะเอาตราประทับนี้คืนไปเถอะค่ะ”
ผู้เฒ่าฉีไม่ตอบอะไร เขามองถังซวงด้วยแววตาสงบนิ่งแตกต่างจากเดิม “หรือเธอคิดว่าโถงยี่ชีของพวกเราเป็นพวกอันธพาลชั้นต่ำเกินกว่าจะยอมรับได้?”
ถังซวงส่ายศีรษะอย่างรวดเร็วก่อนจะตอบว่า “ผู้เฒ่าฉีคะ ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้น”
“ฉันรู้ว่าเธอคงจะกังวลเรื่องนี้ สาวน้อย ฉันบอกกับเธอตรง ๆ ว่าแม้บางครั้งโถงยี่ชีจะกระทำเรื่องรุนแรงไปหน่อย แต่เราก็ยังมีอุดมการณ์ของตนเอง และไม่เคยทำสิ่งใดที่เป็นอันตรายต่อพวกชาวบ้าน”
หลังได้ยินแล้ว แววตาของถังซวงสั่นไหว
เธอรู้ว่าผู้เฒ่าฉีจะไม่โกหก สุดท้ายแล้วโถงยี่ชีก็เป็นกลุ่มใต้ดินที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม
แต่ผู้เฒ่าฉียังคงโน้มน้าวอย่างหนัก “นอกจากนั้น… เฉินกวงหยางยังทำงานให้กับโถงยี่ชีด้วย ถ้าในอนาคตเธอยุ่งมากจนไม่มีเวลา เธอสามารถบอกให้เขาช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องถึงมือชายชราอย่างฉันด้วยซ้ำ”
“ผู้เฒ่าฉีคะ ฉันเชื่อว่าจะต้องมีคนมากความสามารถอีกมากภายในโถงยี่ชี คุณควรจะเลือกหนึ่งในคนเหล่านั้นมากกว่าฉันนะคะ”
ผู้เฒ่าฉีถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะ
“สาวน้อย ที่ฉันเลือกเธอก็เพราะฉันคิดว่าเธอจะสามารถนำพาโถงยี่ชีไปสู่เส้นทางที่ดีกว่าได้ ความจริงเธอก็พูดถูก มีคนมากมายในโถงยี่ชีที่มีความสามารถ แต่ก็ยังมีบางอย่างที่พวกเขาไม่มี แต่เธอมี”
เขาพบเจอผู้คนมามากมาย แต่เมื่อได้พบกับถังซวง เขาตระหนักได้ทันทีว่าหญิงสาวตัวเล็กคนนี้ไม่ใช่บุคคลที่รับมือได้ง่าย ๆ อีกทั้งยังมีทักษะยอดเยี่ยม หากโถงยี่ชีนี้อยู่ในมือของเธอ เธอจะสามารถนำพามันไปได้อีกไกล
ถังซวงไม่คาดคิดมาก่อนว่าผู้เฒ่าฉีจะมองตนเก่งกาจมากขนาดนี้ เวลานี้เธอถึงกับเงียบงันไปชั่วขณะ
กลับกัน โม่เจ๋อหยวนกลับครุ่นคิดเรื่องของตระกูลซูในเมืองก่างเฉิง และเมื่อเห็นว่าถังซวงกับผู้เฒ่าฉีไม่ได้พูดอะไรกันต่อ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “ซวงเอ๋อร์ เธอมีปัญหาอะไรที่เมืองก่างเฉิงงั้นหรือ?”
หลังได้ยินแล้ว หญิงสาวก็นึกขึ้นได้ว่าตนเองยังไม่ได้เล่าเรื่องพวกนี้ให้ใครฟัง
“พี่โม่ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยดี”
แต่โม่เจ๋อหยวนยังคงมองถังซวงด้วยแววตาคาดคั้น “ซวงเอ๋อร์ เมื่อกี้นี้ผู้เฒ่าฉีเพิ่งบอกว่าเป็นเพราะผู้รับผิดชอบโถงยี่ชีในก่างเฉิงเข้าไปพูดคุยกับตระกูลซู นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ตระกูลซูไม่มายุ่งกับเธอ ถ้าเป็นอย่างนั้น เรื่องนี้ก็ยังไม่จบสิ!” เวลานี้ถังซวงที่ไม่อยากจะเป็นผู้นำโถงยี่ชี กลับเจอปัญหาชวนปวดหัวใหม่มาแทนที่
หลังได้ยินสิ่งที่โม่เจ๋อหยวนพูด ผู้เฒ่าฉีอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าพลางพูดว่า “ใช่แล้ว สาวน้อย เรื่องนี้ยังไม่จบ หากเธอไม่ยอมรับตราประทับนี้แล้วตระกูลซูรู้เข้า มันจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นแน่นอน”
“ผู้เฒ่าฉีคะ เรื่องตระกูลซู ฉันจะจัดการเองค่ะ”
แม้อิทธิพลของตระกูลซูภายในเมืองก่างเฉิงจะกว้างขวาง และยังสนับสนุนกลุ่มใต้ดินมากมาย แต่เธอก็ยังรู้ว่าจุดอ่อนของตระกูลซูคืออะไร และเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายผลีผลามลงมือทำอะไร เธอยังมีหางอีกมากให้เธอคว้าเอาไว้
หากคนอื่นพูดจาแบบนี้ ผู้เฒ่าฉีย่อมไม่เชื่อถือแน่นอน แต่นี่เป็นถังซวง เขาถึงเชื่อเธอขึ้นมาจริง ๆ แล้วยิ่งเป็นเช่นนี้เขาก็ยิ่งต้องทำให้ถังซวงขึ้นมาเป็นผู้นำของโถงยี่ชีให้ได้
ขณะผู้เฒ่าฉีกำลังคิดหาวิธี เฉินกวงหยางก็เดินเข้ามาด้านใน
ถังซวงเห็นว่าเฉินกวงหยางเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม
“พี่เฉินเพิ่งเข้าเมืองมาหรือคะ ไม่ได้เจอกันเสียนาน ถ้ามีโอกาสแวะมากินมื้อเย็นด้วยกันบ้างก็ได้นะ”
เฉินกวงหยางพยักหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนจะตอบว่า “ได้สิ”
เมื่อเห็นถังซวงและเฉินกวงหยางคุ้นเคยกันดี แววตาของผู้เฒ่าฉีก็เป็นประกาย เขาโบกมือให้กับเฉินกวงหยางอย่างสบาย ๆ พลางกับพูดว่า “กวงหยาง เรื่องก่อนหน้านี้ที่ฉันให้ไปจัดการเป็นยังไงบ้าง?”
ตอนนี้เฉินกวงหยางกำลังจัดการกับเรื่องสำคัญภายในโถงยี่ชีโดยตรงอยู่ และเมื่อเห็นว่าถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนอยู่ที่นี่ ชายหนุ่มจึงลังเลที่จะพูดมันออกมา
หากแต่ผู้เฒ่าฉียกยิ้มก่อนจะพูดว่า “กวงหยาง พูดมาเถอะ”
เมื่อได้รับอนุญาตจากผู้เฒ่าฉีแล้ว เฉินกวงหยางไร้ความลังเลก่อนจะตอบกลับตามตรงว่า
“ผู้เฒ่าฉีครับ คราวนี้ภายในสาขาไห่เฉิงขายหมดแล้ว ทั้งหมดเป็นเงิน 97,000 หยวนครับ ส่วนเงิน…”
แต่ก่อนที่เฉินกวงหยางจะพูดจบ ถังซวงกลับยืนขึ้นพลางเอ่ยว่า “ผู้เฒ่าฉี พี่เฉินคะ เดี๋ยวฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
เรื่องทั้งหมดนี้คือความลับภายในโถงยี่ชี แต่พวกเขากลับอยากให้เธอได้ยินมันอย่างชัดเจน มันโจ่งแจ้งเกินไป แม้ว่าผู้เฒ่าฉีจะไม่สนใจเรื่องนี้ แต่เธอก็ไม่ควรที่จะฟัง
ก่อนที่ผู้เฒ่าฉีจะทันได้ตอบอะไร ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนก็ออกไปข้างนอกเสียแล้ว
หลังจากมองแผ่นหลังของทั้งสองแล้ว ผู้เฒ่าฉีอดไม่ได้ที่จะส่ายศีรษะ “เฮ้อ… มีคนตั้งมากมายที่อยากจะครอบครองโถงยี่ชีของฉัน แต่แม่สาวน้อยคนนี้กลับไม่สนใจเลยสักนิด ฉันจนปัญญาจริง ๆ …” ผู้เฒ่าฉีไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อ
หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว เฉินกวงหยางมองผู้เฒ่าฉีพลางกับเอ่ยถามว่า “ผู้เฒ่าฉีครับ ท่านต้องการมอบโถงยี่ชีให้กับน้องถังซวงจริง ๆ หรือครับ?”
“ใช่ ผู้ชายอย่างเราต้องรักษาสัญญา ในเมื่อฉันเพูดไปแล้วว่าฉันจะมอบโถงยี่ชีให้กับถังซวง ก็ต้องเป็นไปตามนั้น”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว เฉินกวงหยางอดไม่ได้ที่จะมองชายชรา ก่อนจะเอ่ยต่อว่า “อย่างนั้นแล้วผมจะช่วยโน้มน้าวซวงเอ๋อร์ให้เองครับ”
“อืม”
ผู้เฒ่าฉีรู้ว่าแม้จะเป็นเพียงความหวังริบหรี่ แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีที่จะให้เฉินกวงหยางลองดู เผื่อมันจะสำเร็จ
หลังจากเฉินกวงหยางรายงานเรื่องทุกอย่างเสร็จแล้ว เขาก็ออกไปพบกับถังซวงทันที
“พี่เฉิน มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
เมื่อเห็นท่าทางของเฉินกวงหยางแล้ว ถังซวงถึงกับรู้สึกเครียดตามไปด้วย
“ซวงเอ๋อร์ เธอต้องขึ้นเป็นผู้นำโถงยี่ชีให้ได้นะ”
แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ถังซวงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเมื่อได้ยินเฉินกวงหยางเอ่ยพูดตรง ๆ อย่างนี้ “พี่เฉิน ทำไมพูดอย่างนี้คะ?”
“ซวงเอ๋อร์ ฉันคิดว่าเธอควรจะขึ้นเป็นผู้นำโถงยี่ชี มันจะเป็นประโยชน์ต่อเธอมาก ไม่เป็นอันตรายต่อครอบครัวของเธอแน่นอน”