การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 213 เหมืองทองคำ
บทที่ 213 เหมืองทองคำ
บทที่ 213 เหมืองทองคำ
โม่เจ๋อหยวนเห็นสายตาของถังซวง ก่อนจะสังเกตเห็นมือที่เธอยื่นออกมา ดังนั้นเขาจึงหยิบผักด้วยมือข้างหนึ่งอย่างใจเย็น ก่อนจะใช้มืออีกข้างหนึ่งสอดเข้าไปใต้โต๊ะแล้วหยิบยาในมือของถังซวง ทั้งสองกระทำอย่างแนบเนียนไม่มีใครจับสังเกตได้
เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว แววตาของถังซวงเป็นประกาย ทว่าสีหน้ายังไม่เปลี่ยนแปลง เธอยังคงกินอาหารต่อไป
เมื่อเห็นถังซวงและโม่เจ๋อหยวนกินข้าวในชามแล้ว แววตาของจางหงเม่ยก็สว่างจ้า
หลังรับประทานอาหารเสร็จ ก่อนที่ถังซวงจะลุกขึ้น เธอเอามือประคองศีรษะก่อนจะส่ายหัวอย่างรุนแรงแล้วพึมพำว่า “อะไร… ทำไมฉันเวียนหัวจังเลย”
เมื่อเห็นถังซวงเป็นอย่างนั้นแล้ว โม่เจ๋อหยวนรีบส่ายศีรษะตามทันที ก่อนจะหันมองจางหงเม่ยและเมิ่งก่วงจี๋ด้วยดวงตาพร่ามัว เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงติดขัด “พวกคุณ… ทำอะไร?”
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เมิ่งก่วงจี๋และคนอื่น ๆ จะทันได้ตอบอะไร ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนก็ทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าทั้งสองสลบไปแล้ว จางหงเม่ยเปลี่ยนรูปลักษณ์ที่เคยอบอุ่นเป็นเคร่งขรึมทันที “เอาล่ะ เรียบร้อยดีแล้ว พาผู้หญิงคนนี้ไปที่บ้านอีกหลังหนึ่งเร็วเข้า”
“นี่… จะพาเธอไปจริง ๆ หรือ?”
เมิ่งก่วงหยวนมองถังซวงพร้อมความหื่นกระหายในแววตา
เมื่อเห็นสายตาเมิ่งก่วงหยวนแล้ว เมิ่งก่วงจี๋สบถอย่างเย็นชา “นายต้องการแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้จริง ๆ หรือ? ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เธอคือผู้หญิงที่หัวหน้าชอบ!”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว เมิ่งก่วงหยวนถอนหายใจอย่างเสียดายแล้วพูดว่า “อืม ผู้หญิงคนนี้สวยมาก ฉันคงจะไม่มีส่วนแบ่งแน่”
“เร็วเข้า หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว”
เมิ่งก่วงจี๋อดไม่ได้ที่จะมองเมิ่งก่วงหยวน พวกเขากำลังจะอุ้มถังซวง พลางหันไปมองโม่เจ๋อหยวนแล้วถามจางหงเม่ยว่า “แล้วผู้ชายคนนี้เอายังไง? จะเอาเขาไปไว้ไหน?”
“ในเมื่อพวกเขามาด้วยกัน จะปล่อยกลับไปได้ยังไง พาไปขังที่โกดังด้านหลังแล้วกัน”
“ครับ”
เมิ่งก่วงจี๋และเมิ่งก่วงหยวนพาโม่เจ๋อหยวนไปที่โกดังก่อนจะกลับมาอุ้มถังซวงออกไป
ถังซวงยังคงไม่เคลื่อนไหว พวกเขาทั้งสองยกแขนและขาของเธอเพื่อพาออกไป
เวลานี้นับว่าอันตรายจริง ๆ หลังได้ยินเมิ่งก่วงจี๋และเมิ่งก่วงหยวนพูด ความโกรธของโม่เจ๋อหยวนยิ่งพุ่งสูง ทว่าเขายังคงพยายามเงียบและสงบสติอารมณ์ไว้ ไม่อย่างนั้นทั้งสองจะถูกจับได้
หลังจากที่ทั้งสองย้ายถังซวงมาที่บ้านอีกหลัง ก็มีคนเดินเข้ามา
เมิ่งก่วงจี๋และเมิ่งก่วงหยวนยืนตัวตรงพร้อมเอ่ยอย่างเคารพ “สวัสดีครับ!”
บุคคลที่เข้ามาใหม่พูดภาษาจีนกลางอย่างห้วน ๆ “ออกไปได้แล้ว”
“ครับ”
เมิ่งก่วงหยวนและเมิ่งก่วงจี๋ออกไปทันที พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหันหลังกลับมามอง
แขกผู้มาเยือนเดินเข้ามาที่เตียงทีละก้าว เมื่อเห็นถังซวงนอนหลับอยู่ แววตาก็เผยความละโมบฉายชัด ขณะเดียวกันเขาก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำเป็นภาษาฝูซาง “สวยมาก สวยจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าจะสวยขนาดนี้ แม่นกน้อย…” ในช่วงท้ายเขาถอดเสื้อผ้าออกช้า ๆ และยังคงพึมพำกับตัวเอง
เขาถอดเสื้อคลุมออก แทบรอไม่ไหวที่จะกระโดดตระครุบเหยื่อ ทว่าเวลานั้นดวงตาของเขากลับมืดสนิทแล้วล้มลงบนเตียง เสื้อคุลมที่เพิ่งถอดออกเมื่อครู่นี้คลุมศีรษะของเขาอยู่ เวลานี้เขาตะโกนเสียงดัง แต่เสียงกลับไม่ออกไปดั่งใจคิด เขาไม่สามารถขยับร่างกายได้อีกแล้ว
สัมผัสนี้ทำให้เขาหวาดกลัวทันที
ถังซวงยืนขึ้นก่อนจะเอาเสื้อที่คลุมศีรษะของเขาออก พลางยกยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน “คุณคือหัวหน้าฟูจิวาระที่พวกเขาพูดถึงสินะ หน้าตา… น่าเกลียดจริง ๆ”
ฟูจิวาระมองถังซวงด้วยความตื่นตระหนก รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทว่าเวลานี้เขาไม่สามารถพูดได้ จึงทำได้เพียงฮึดฮัดอยู่ในลำคอ ไม่ว่าจะพยายามเปล่งเสียงมากขนาดไหน มันก็ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาแม้แต่น้อย
ถังซวงมองใบหน้าแดงก่ำของฟูจิวาระก่อนจะหยิบขวดแก้วใสออกมา พลางใช้มือเชยคางของเขาขึ้นแล้วบีบปากให้อ้าออก จากนั้นเทยาลงไป
“อื้อ อื้ออ…”
ฟูจิวาระยังคงประท้วงอย่างหนัก แต่เขาไม่สามารถรอดพ้นจากเงื้อมมือของถังซวงได้ สุดท้ายยาถูกเทเข้าปากอย่างง่ายดาย
ไม่นานนักถังซวงเก็บขวดแก้ว ก่อนประตูจะเคลื่อนไหวเล็กน้อย มีใครบางคนกำลังมาและเขาคือโม่เจ๋อหยวน
เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้า โม่เจ๋อหยวนรีบรุดเข้าหาอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว “ซวงเอ๋อร์ เป็นยังไงบ้าง? ฉันมาช้าไปหน่อย”
“ฉันสบายดีค่ะ ดีใจที่พี่มาที่นี่ได้ เอาเถอะ เรามัดผู้ชายคนนี้ก่อนเเล้วค่อยสอบสวนเขา”
โม่เจ๋อหยวนหันศีรษะไปมองฟูจิวาระด้วยแววตาเย็นชา เขาไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่มัดอีกฝ่ายอย่างแน่นหนา ก่อนจะหันมองถังซวงแล้วเอ่ยถามว่า “ซวงเอ๋อร์ พร้อมแล้ว เริ่มได้เลย”
ถังซวงหยิบเข็มทองคำออกมาแล้วแทงเข้าที่ลำคอของฟูจิวาระ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “การค้นคว้าในห้องทดลองคืออะไร?”
เมื่อฟูจิวาระเปิดปาก คล้ายกับว่าเขาจะพูดได้อีกครั้ง ขณะที่กำลังจะเปล่งเสียง คำพูดที่ออกจากปากของเขากลายเป็นการตอบคำถามของถังซวง “ใช้ในทางการแพทย์”
“อึ่ก…”
ทันทีที่พูดออกมา ใบหน้าของฟูจิวาระกลายเป็นบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด เวลานี้เขาถูกมัดเอาไว้อย่างแน่นหนา แม้ว่าจะอยากปิดปาก แต่ทำได้เพียงมองถังซวงอย่างไม่พอใจแล้วเอ่ยถามว่า “เธอทำอะไรกับฉัน?”
ถังซวงไม่สนใจคำพูดเหล่านั้นแล้วยังถามต่อไป “การแพทย์แขนงไหน?”
“ยาที่ผลิตขึ้นใหม่ทุกชนิด มันถูกทดสอบที่นี่”
เมื่อได้ยินแล้ว ใบหน้าของถังซวงยิ่งเย็นชา
เพราะยาที่ถูกผลิตขึ้นนั้นยังไม่ทราบสรรพคุณแน่ชัด หากมันไม่ดีคนที่จะตายคือผู้ทดลองยา ดังนั้นพวกเขาจึงปฏิบัติกับคนในหมู่บ้านหลี่ซานราวกับเป็นหนูทดลอง เวลานี้ถังซวงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จึงตบหน้าฟูจิวาระอย่างแรง ทำให้แก้มซ้ายของอีกฝ่ายบวมเป่งขึ้นมา
“อั่ก…”
ก่อนที่ฟูจิวาระจะทันได้สบถ โม่เจ๋อหยวนก็ชกหมัดตรงออกไปด้วยเช่นกัน
“อึ่ก…”
ฟูจิวาระรู้สึกว่าอวัยวะภายในของเขากำลังถูกบดขยี้รวมกัน ใบหน้าเผยความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด
ถังซวงตระหนักได้ว่ายังมีคำถามมากมายที่ต้องการถามออกไป เธอจึงหยุดมือแล้วเอ่ยถามต่อ “เป็นยาแบบไหน?”
“เป็นยาที่ผลิตจากยาจีนโบราณ ตอนนี้พวกเราไม่ได้ใช้ยาแผนจีนอย่างจริงจังนัก เราจึงรวบรวมใบสั่งยาจำนวนมาก และต้องการปรุงยาให้มีผลลัพธ์ที่น่าทึ่งอย่างที่อยู่ในหนังสือ”
หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถังซวงรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย ถ้าพวกเขาเพียงแค่ศึกษาสิ่งเหล่านี้ ห้องทดลองพวกนั้นก็ไม่นับว่าเป็นอันตรายมากนัก ดังนั้นเธอจึงเอ่ยถามต่อไปว่า “มาที่หมู่บ้านหลี่ซานตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“สองปีที่แล้ว”
ใบหน้าของถังซวงมืดมนเมื่อได้ยิน ถ้าอีกฝ่ายมาที่นี่สองปีแล้ว เหมืองลิเธียมคงถูกขุดไปจำนวนมาก และไม่รู้ว่าเวลานี้มันจะเหลือมากเท่าใด “คุณขุดเหมืองในหมู่บ้านหลี่ซานได้กี่แห่ง? แล้วแร่พวกนั้นส่งไปที่ไหน?”
“เหมืองลิเธียมและทองคำถูกขุดขึ้นมาแล้ว แต่เหมืองทองคำเพิ่งถูกค้นพบเมื่อไม่นานนี้ เราขุดมันได้นิดหน่อย แต่เหมืองลิเธียมที่ขุดได้ถูกส่งกลับไปยังประเทศจีน”
“ยังมีเหมืองทองด้วยงั้นหรือ? หมู่บ้านหลี่ซานนี้อุดมสมบูรณ์จนน่าทึ่งจริง ๆ”
ถังซวงประหลาดใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ ทว่าอย่างไรแล้วเธอสนใจเหมืองลิเธียมมากกว่า และหวังว่ามันยังไม่สายเกินไป