การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 215 ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
บทที่ 215 ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
บทที่ 215 ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนมาถึงห้องทดลอง และพบว่ามีการคุ้มกันแน่นหนา “พี่โม่ กินมันเข้าไปก่อน” เธอพูดพร้อมยื่นเม็ดยาให้เขาหนึ่งเม็ด
โม่เจ๋อหยวนไม่ได้ถามอะไร และกลืนมันลงไปทันที
เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว ถังซวงหยิบขวดแก้วออกมาแล้วเป่ามันไปทางห้องทดลองตรงหน้า
ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที คนคุ้มกันทั้งหมดที่ยืนกันอย่างขันแข็งก็พลันสลบไสล
“เอาละ เราเข้าไปข้างในกัน”
โม่เจ๋อหยวนมองเหล่าผู้คุ้มกันที่นอนหมดสติจนร่างกายบิดเบี้ยวตรงหน้า อดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้กับถังซวง ผลลัพธ์ของยานี้นับว่ายอดเยี่ยม พวกเขาอยู่ไกลพอสมควร แต่การใช้ยานี้เพียงเล็กน้อยกลับจัดการทุกคนได้อย่างง่ายดาย เห็นชัดแล้วว่ามันมีฤทธ์รุนแรง
เมื่อทั้งสองมาถึงประตูห้องทดลองจึงตระหนักได้ว่ามันล็อกอยู่
“ซวงเอ๋อร์ ฉันเอง”
โม่เจ๋อหยวนก้าวไปด้านหน้าก่อนจะถีบประตูให้เปิดออก ถังซวงเป่ายาในขวดอีกครั้งทันทีประตูก็ถูกเปิด
คนที่อยู่ด้านในไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น พวกเขาทั้งหมดล้มลงท่ามกลางความประหลาดใจฉายชัดบนใบหน้า
“พี่โม่คะ เข้าไปด้านในกันเถอะ”
โชคดีที่คนเหล่านั้นไม่ทันได้เตรียมตัว พวกเขาจึงสามารถรับมือได้ แต่ถ้าหากอีกฝ่ายมีการระแวดระวังมากกว่านี้ หนทางมันคงไม่ราบรื่นขนาดนี้
เมื่อถังซวงและโม่เจ๋อหยวนเดินเข้ามาในห้องทดลอง พวกเขาพบว่านอกจากผู้คุ้มกันแล้ว ยังมีอีกหลายคนที่สวมใส่ชุดคลุมสีขาว
“อ้อ คนพวกนี้คือผู้วิจัยยาเหล่านี้สินะ”
ถังซวงไม่ได้รีบร้อนที่จะทำอะไรนัก ทว่าเธอกำลังสังเกตอย่างระมัดระวัง เวลานี้เธอค้นพบสมุดบันทึกที่ถูกจดไว้ด้วยภาษาฝูซาง หลังอ่านจบก็ปรากฏความเย็นยะเยือกในแววตาของเธอ
“ชาวฝูซางพวกนี้ทดลองสิ่งต่าง ๆ มากมายในช่วงสองปีที่ผ่านมา พวกเขาทั้งหมดอิงตามใบสั่งยาแผนจีนในประเทศของเรา นับว่าแผนการของพวกเขาไม่เลวเลยจริง ๆ เอาเถอะ ยาทั้งหมดที่ทำสำเร็จแล้วล้วนแต่ต้องเป็นของเราทั้งหมด”
เมื่อเห็นถังซวงมีความสุข โม่เจ๋อหยวนก็รู้สึกยินดีด้วยเช่นกัน
“ซวงเอ๋อร์ เราจะทำยังไงต่อ เราต้องเอาของทั้งหมดออกจากที่นี่เลยหรือ?”
ถังซวงส่ายศีรษะพลางตอบว่า “ของใหญ่ ๆ ทิ้งไว้ที่นี่ค่ะ แต่เราต้องนำยาออกไป ยังไงซะสถานที่แห่งนี้ก็นับว่ายอดเยี่ยม เราสามารถใช้มันให้เป็นประโยชน์ได้ในอนาคต” ระหว่างพูดอย่างนั้น เธอก็พบจุดเก็บยาที่ถูกบันทึกไว้แล้ว
“พี่โม่ เดี๋ยวเราเอาของพวกนี้ออกไปกันค่ะ”
“อืม”
หลังทั้งสองเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว มีใครบางคนเปิดประตูเข้ามา
เมื่อเห็นว่าถังซวงและโม่เจ๋อหยวนปลอดภัยดี เหรินอวี่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะหันมองทั้งสองแล้วพูดว่า “คุณซวง คุณชายโม่ เดี๋ยวผมพาออกไปนะครับ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถังซวงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “ลุงจิงปลอดภัยดีไหมคะ?”
“คุณซวงไม่ต้องกังวลนะครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้วถังซวงรู้สึกโล่งใจทันที ก่อนจะเดินตามเหรินอวี่ออกไปโดยไม่ถามอะไรต่ออีก ทว่าเธอกับโม่เจ๋อหยวนไม่สามารถแทรกแซงเรื่องเหล่านี้ได้ เพราะมันเป็นเรื่องระหว่างประเทศฝูซางกับจีน
หลังออกจากหมู่บ้านหลี่ซานแล้ว ถังซวงมองเหรินอวี่แล้วพูดว่า “เลขาเหรินรีบกลับไปช่วยลุงจิงเถอะค่ะ ฉันกับพี่โม่กลับเองได้”
เหรินอวี่กังวลเรื่องที่หมู่บ้านหลี่ซานมาก ขณะเดียวกันเขาก็รู้ว่าถังซวงนั้นเก่งและรับมือได้ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้ารับแล้วเอ่ยว่า “อย่างนั้นคุณซวงกลับก่อนเถอะครับ”
เมื่อเห็นแผ่นหลังของเหรินอวี่จากไปแล้ว ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนกลับมาที่ตำบล
เมื่อเห็นพวกเขากลับมาแล้ว จิตใจของเฮ่อหลานแทบจะโบยบิน “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวโม่ ในที่สุดพวกลูกก็กลับมาแล้ว”
“แม่/ป้าหลาน พวกเราปลอดภัยดี”
เมื่อเห็นทั้งสองคนปลอดภัยดี เฮ่อหลานถอนหายใจยาวเหยียด ทว่าเธอยังไม่สามารถผ่อนคลายได้ดีนัก เพราะตอนนี้จิงเจ้อหรงยังอยู่ที่นั่น เธอจึงเอ่ยปากถามว่า “ซวงเอ๋อร์ แล้วลุงจิงเป็นยังไงบ้าง? เขาปลอดภัยดีไหม?”
“แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ ทุกอย่างราบรื่นดีค่ะ ลุงจิงปลอดภัยดี แม่ไม่ต้องกังวลนะคะ”
เวลานี้หลี่จงอี้เดินเข้ามาถามเกี่ยวกับเรื่องราวของหมู่บ้านหลี่ซาน
ถังซวงไม่ได้ปิดบังอะไร เธอบอกเล่าทุกสิ่งที่ได้เห็น และได้ยิน
ในคราวแรกเฮ่อหลานสงบลงแล้ว แต่เมื่อได้ยินว่าคนเหล่านั้นที่หมู่บ้านหลี่ซานล่อลวงถังซวง และคิดยกเธอให้กับชาวฝูซาง “พวกสัตว์เดรัจฉาน คนพวกนี้ทำไมถึงเลวได้ขนาดนี้!”
แม้แต่ถังเซวี่ยยังอดไม่ได้ที่จะสบถ “ใช่ คนพวกนั้นไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉาน เลวร้ายเกินไปแล้ว โชคดีที่พี่ซวงกับพี่โม่เก่ง ไม่อย่างนั้นฉันไม่รู้เลยว่าต้องรู้สึกยังไงถ้าพี่ของฉันต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของคนชั่วพวกนั้น…”
ในตอนท้ายเธอนึกขึ้นได้ทันทีว่า “แล้ว… เหตุผลที่เมิ่งก่วงจี๋ต้องการแต่งงานกับพี่ชุนหยานก่อนหน้านี้เป็นเพราะเขาต้องการมอบพี่ซวงให้กับชาวฝูซางอย่างงั้นหรือคะ?”
ถังซวงครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “ก็เป็นไปได้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมชุนหยานถึงรู้สึกว่าเมิ่งก่วงจี๋มองเธอแปลกไป อีกทั้งยังไม่ค่อยสนใจเธอด้วย”
“เลวเกินไปแล้ว”
เวลานี้ถังเซวี่ยยิ่งโกรธจัด “แล้วก่อนหน้าที่จะได้เจอกับพี่ชุนหยาน จะมีผู้หญิงกี่คนที่ถูกหลอกลวงอย่างนี้กันนะ?”
เรื่องนี้มันยากจะพูดจริง ๆ ทว่าเมื่อตระกูลถังได้ยินว่าตระกูลเมิ่งมีเงินมาก พวกเขาไม่ได้คิดไตร่ตรองอะไรเลยสักนิด คิดเพียงแค่ต้องการให้ถังชุนหยานแต่งงานโดยเร็วที่สุดเท่านั้น
ใบหน้าของเธอโกรธจัดจนบิดเบี้ยว ท้ายที่สุดแล้วหลี่จงอี้พูดขึ้นว่า “เอาเถอะ ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวโม่คงจะเหนื่อยมากแล้ว ให้พวกเขาไปพักผ่อนเถอะ”
เฮ่อหลานรีบพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ใช่ค่ะ”
ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนรู้สึกเหนื่อยจริง ๆ หลังผ่านพ้นสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาจึงกลับห้องเพื่อพักผ่อน
สองวันผ่านไป จิงเจ้อหรงยังไม่กลับมา และไม่มีข่าวเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านหลี่ซานเลยแม้แต่น้อย
เฮ่อหลานยังคงกังวลอยู่เสมอ ในขณะที่ถังซวงและถังเซวี่ยพยายามปลอบแม่ของตัวเองอย่างหนักหน่วงเพื่อให้เธอสงบลง
ในวันที่สาม โชคดีที่จิงเจ้อหรงกลับมา
เฮ่อหลานมองจิงเจ้อหรงผู้มีใบหน้าซีดเซียว ทว่าแววตายังสดใส เธออดไม่ได้ที่จะก้าวเท้าไปด้านหน้าพร้อมกับคว้ามือของเขาเอาไว้ “อาเจ้อ คุณสบายดีไหมคะ?”
“ผมไม่เป็นไร”
เมื่อเห็นความห่วงใยของเฮ่อหลานแล้ว จิงเจ้อหรงพลันอบอุ่นใจขึ้นมาทันที ความเหนื่อยล้าตลอดหลายวันที่ผ่านมาหายไปโดยสิ้นเชิง แล้วยังได้รับพลังเพิ่มเติมอีกด้วย
“อาเจ้อ คุณกินข้าวหรือยังคะ ถ้ายังก็เข้ามากินข้าวก่อนเถอะค่ะ”
จิงเจ้อหรงลูบคลำท้องของตัวเองก่อนจะพูดจาน่าสงสาร “ผมไม่ได้กินข้าวดี ๆ มาหลายวันแล้ว ไม่เคยได้กินจนอิ่มเลยครับ”
หลังได้ยินอย่างนั้นเฮ่อหลานยิ่งทุกข์ใจมากขึ้น ก่อนจะรีบดึงเขาให้นั่งลง เวลานั้นเธอเข้าครัวไปอย่างรวดเร็วแล้วทำอาหารสองสามอย่าง พร้อมด้วยซุปหนึ่งถ้วย สิ่งของทั้งหมดที่ถูกตระเตรียมไว้ตอนแรกถูกใช้หมดแล้ว
“อาเจ้อ รีบกินข้าวเถอะค่ะ”
จิงเจ้อหรงหิวมาก เขามองอาหารแสนอร่อยตรงหน้าแล้วเริ่มกินอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ว่าเขาจะกินเร็วขนาดไหน ท่วงท่าของเขายังคงดูดีและน่ามองอยู่เสมอ
เฮ่อหลานเฝ้ามองจิงเจ้อหรงกินจนหมดชาม ก่อนจะทำให้เขาอีกชาม หลังเขากินอิ่ม ทั้งสองจึงนั่งคุยกันต่อ
“อาหลาน คุณรู้ไหม? ซวงเอ๋อร์กับเสี่ยวโม่ทำได้ดีมากในครั้งนี้”