การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 217 แนะนำตัว
บทที่ 217 แนะนำตัว
บทที่ 217 แนะนำตัว
เกอชิงเหม่ยมองบ้านที่ตกแต่งอย่างหรูหราและเรียบง่ายตรงหน้าก็รู้สึกประทับใจ
แม้แต่ซูเหนียนอวิ๋นยังอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าแล้วพูดว่า “บ้านหลังนี้สวยมากจริง ๆ อาหลานนี่คือบ้านที่ลูกพี่ลูกน้องของเธอกับหลานชายสร้างให้งั้นหรือ?” เพราะทั้งสองติดต่อกันอยู่เสมอ เธอจึงรู้ว่าเฮ่อหลานได้พบกับครอบครัวของลุงในตระกูลเฮ่อแล้ว และพวกเขาก็ช่วยกันสร้างบ้านให้เธอ
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว เฮ่อหลานยิ้มกว้าง “ใช่ค่ะอาจารย์ นี่คือบ้านที่พี่ใหญ่กับเจียรุ่ยสร้างให้ฉัน เจียรุ่ยเป็นนักออกแบบ บ้านที่เขาสร้างจึงสวยได้ขนาดนี้”
ซูเหนียนอวิ๋นมองไปรอบ ๆ และพูดด้วยความชื่นชม “บ้านของเธอไม่ใช่สวยอย่างเดียว แต่ยังเงียบสงบ น่าอยู่มากเลยละ”
เฮ่อหลานลากซูเหนียนอวิ๋นและเกอชิงเหม่ยไปที่ชั้นสองของบ้าน
“อาจารย์คะ พี่คะ ในเมื่อทุกคนชอบบ้านหลังนี้ พวกคุณสามารถมาอยู่ที่นี่ได้เลย ฉันเตรียมผ้าห่มเอาไว้หลายผืน มันเป็นของใหม่สำหรับที่นี่โดยเฉพาะเลยค่ะ”
เมื่อเห็นเฮ่อหลานพูดอย่างนั้นแล้ว ซูเหนียนอวิ๋นและเกอชิงเหม่ยจึงตกลงอยู่ที่นี่ทันที “อืม ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะไม่เกรงใจแล้วนะ”
เฮ่อหลานมีความสุขมากเมื่อได้ยินอย่างนั้น ก่อนจะรีบพาถังซวงและถังเซวี่ยเข้ามาช่วยจัดการห้องรับแขก
เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้ว เกอชิงเหม่ยรีบพูดขึ้นว่า “อาหลาน ให้ฉันช่วยดีกว่า ซวงเอ๋อร์กับเสี่ยวเซวี่ยจะได้พักผ่อน”
“ป้าเกอคะ เราไม่ยอมให้แขกต้องลงมือทำเองแน่ค่ะ ฉันกับเสี่ยวเซวี่ยสบายดี ป้าควรรีบไปพักผ่อนเสียมากกว่านะคะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของถังซวงแล้ว เกอชิงเหม่ยมองเธอด้วยแววตาขบขันก่อนจะพูดว่า “ทำไมถึงยังสุภาพกับป้าคนนี้นักล่ะ ไปพักไป ให้ป้าทำเอง อีกอย่างมีคนอื่นอยู่ด้านล่างด้วย พวกเธอทั้งคู่รีบลงไปต้อนรับแขกเถอะ”
เมื่อนึกได้ว่าหลี่จงอี้และจิงเจ้อหรงยังอยู่ด้านล่าง ถังซวงจึงรีบลงไป “ป้าเกอคะ อย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“จ้ะ รีบไปเถอะ”
ถังซวงพาถังเซวี่ยลงมาชั้นล่าง และเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนกำลังเทชาให้กับทุกคนอยู่
แน่นอนว่าโม่เจ๋อหยวนเห็นถังซวงแล้ว เขาหันไปสบตากับหญิงสาวแล้วยกยิ้มก่อนจะเรียกหา “ซวงเอ๋อร์ ฉันชงชาเสร็จแล้ว มาดื่มด้วยกันสิ”
หลังได้ยินสิ่งที่โม่เจ๋อหยวนพูด หลี่จงอี้และจิงเจ้อหรงต่างมองถังซวงโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะหันมองโม่เจ๋อหยวนอีกครั้งด้วยรอยยิ้มรู้ทัน
ถังซวงหัวเราะอย่างเขินอายเล็กน้อยเมื่อถูกมองเช่นนี้ แต่สุดท้ายเธอก็เดินไปพร้อมกับเสี่ยวเซวี่ยก่อนจะหันมองโม่เจ๋อหยวน “เอาเถอะ ฉันจะลองชิมฝีมือชงชาของพี่โม่ดูสักหน่อย”
หลังถังซวงจิบชาแล้ว เธออดไม่ได้ที่จะพยักหน้าชื่นชม “พี่โม่คะ ฝีมือการชงชาของพี่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เลย ชานี้ทั้งใสและลื่นคอมาก มันยอดเยี่ยมมากค่ะ”
“เป็นเพราะนี่คือชาที่ดี”
จิงเจ้อหรงเลิกคิ้วสูงและกล่าวตัดบทคำชื่นชมของถังซวงทันที
ถังซวงหัวเราะเมื่อได้ยินอย่างนั้น
โม่เจ๋อหยวนมองจิงเจ้อหรงอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะโต้กลับว่า “ชานี้ดีมากก็จริงนะครับ แต่ฝีมือของผมก็มีส่วน”
“อืม… การชงชาแค่ครั้งเดียวพิสูจน์อะไรไม่ได้มากหรอก ในอนาคตนายต้องชงชาให้พวกเราดื่มมากกว่านี้นะ”
โม่เจ๋อหยวนเพียงพยักหน้ารับแล้วตอบว่า “ครับลุงจิง”
หลังจากถังซวงดื่มชาเสร็จแล้ว เธอลุกขึ้นแล้วพูดว่า “คุณปู่คะ ลุงจิง เดี๋ยวนั่งรอตรงนี้ก่อนนะคะ ฉันจะเข้าครัวไปเตรียมมื้อกลางวันให้ค่ะ”
ทว่าโม่เจ๋อหยวนยืนขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วพูดออกไปราวกับไม่ได้คิด “ซวงเอ๋อร์ เดี๋ยวฉันไปช่วย”
แต่ก่อนที่ทั้งสองจะไปที่ห้องครัว เสียงของป้าหวงดังขึ้นจากนอกประตู “อาหลาน… อาหลาน…”
ถังเซวี่ยได้ยินเสียงของป้าหวง จึงรีบเปิดประตูออกไปทันที
“เสี่ยวเซวี่ย ไม่ได้พบเสียนาน สวยขึ้นทุกวันเลยนะ”
คำพูดเหล่านั้นไม่ใช่เพียงพูดไปที ทว่าทั้งสามแม่ลูกล้วนแต่สวยขึ้นผิดหูผิดตาจริง ๆ
เมื่อถังเซวี่ยได้ยินอย่างนั้น แววตาของเธอยกยิ้ม “ขอบคุณคุณย่าหวงนะคะ ฉันก็คิดว่าในอนาคตฉันจะสวยมากกว่านี้ค่ะ”
“ฮ่า ๆ… เสี่ยวเซวี่ยของป้าก็ยังขี้เล่นเหมือนเคย”
เมื่อเห็นการหยอกล้อของถังเซวี่ยแล้ว ป้าหวงยิ่งชอบใจ
เวลานี้ถังเซวี่ยรีบเชิญให้ป้าหวงเข้ามาด้านใน
หลังเข้ามาด้านในแล้ว ป้าหวงพบว่ามีคนมากมายอยู่ที่นี่ด้วย ก่อนจะรีบกล่าวอย่างเกรงใจว่า “อุ้ย… ฉันมารบกวนหรือเปล่าเนี่ย”
“ไม่หรอกค่ะ คุณป้านั่งลงก่อนนะคะ”
เมื่อเห็นป้าหวงเก้ ๆ กัง ๆ ถังเซวี่ยเลยรีบพาเธอไปนั่ง
ส่วนโม่เจ๋อหยวนก็รินน้ำชาให้กับเธออย่างคล่องแคล่ว
เมื่อเห็นท่าทีเป็นกันเองจากทุกคนแล้ว ป้าหวงผ่อนคลายอย่างรวดเร็วก่อนจะมอบกระเช้าให้กับถังเซวี่ยแล้วพูดว่า “เสี่ยวเซวี่ยป้ารู้ว่าเธอจะมา ป้าเลยเตรียมขนมโก๋กับขนมกวนมาด้วย รีบกินตอนที่มันยังร้อนนะ” จากนั้นเธอจึงสังเกตเห็นจิงเจ้อหรง
“อ่า… คนรักของอาหลานก็อยู่ที่นี่ด้วย เอ่อ คราวนี้คุณจะอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ไหมคะ? แล้ววางแผนว่าจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน?”
เมื่อเห็นทุกคนนั่งอยู่ตรงนี้ ป้าหวงหยิบขนมสองชิ้นออกจากกระเช้าแล้วเชิญชวนให้พวกเขากินมันในขณะที่กำลังร้อน
หลังจิงเจ้อหรงได้ยินคำถามจากป้าหวงแล้ว เขาตอบกลับว่า “พวกเราจะอยู่ที่นี่สักสองสามวันครับ”
“ดี ๆ ถึงหมู่บ้านของเราจะอยู่ห่างไกลหน่อย แต่มันก็สะดวกสบาย พวกคุณสามารถมาที่นี่เพื่อพักผ่อนได้บ่อยครั้งตามต้องการ” เธอพูดต้อนรับจิงเจ้อหรงอย่างอบอุ่น
เมื่อเห็นว่าป้าหวงชวนให้กินขนม จิงเจ้อหรงก็กินขนมหนึ่งชิ้น ส่วนอีกหนึ่งชิ้นแบ่งให้กับหลี่จงอี้
ถังซวง ถังเซวี่ย และโม่เจ๋อหยวนกินขนมกวนด้วยกัน มันทั้งหวาน และหอมนุ่มมาก
“คุณย่าหวง ขนมที่คุณย่าทำยังอร่อยเหมือนเดิมเลยนะคะ”
หลังเห็นทุกคนชื่นชอบ ป้าหวงยิ่งมีความสุข “ถ้าพวกเธอชอบ พรุ่งนี้ฉันจะทำมาให้อีกนะจ๊ะ”
ถังซวงและถังเซวี่ยรีบโบกมืออย่างรวดเร็ว “คุณย่าหวงคะ ถึงพวกเราจะกินมันได้ทุกวัน แต่คุณย่าไม่ต้องเหนื่อยทำมันทุกวันหรอกค่ะ เหนื่อยเปล่า ๆ”
ป้าหวงยิ้มและพยักหน้ารับ แต่เธอคิดในใจว่าพรุ่งนี้จะทำอย่างอื่นเพื่อเอามาให้เด็ก ๆ ทาน
ขณะนั้นเฮ่อหลานลงมาพร้อมกับซูเหนียนอวิ๋นและเกอชิงเหม่ย
“คุณป้า มาที่นี่ด้วยหรือคะ”
เฮ่อหลานมีความสุขมากหลังเห็นว่าป้าหวงก็มาที่นี่ด้วย จากนั้นเธอจึงเริ่มแนะนำซูเหนียนอวิ๋นและเกอชิงเหม่ยให้ทุกคนรู้จัก
“โอ้ เป็นอาจารย์กับพี่สาวของอาหลานนั่นเอง สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีค่ะ”
ซูเหนียนอวิ๋นทักทายป้าหวงด้วยรอยยิ้ม
หลังจากนั้นเฮ่อหลานก็ถือโอกาสเอ่ยถามป้าหวงว่ามีธุระอะไรหรือไม่
ป้าหวงคล้ายลังเลไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่หลังจากเฮ่อหลานถามย้ำอีกครั้ง ในที่สุดเธอก็ยอมเปิดปากว่าทำไมถึงมาที่นี่ “อาหลาน ฉันได้ยินว่าเธอจะสร้างโรงงานเย็บปักในหมู่บ้าน และก็กำลังหาคนทำอาหาร เธอคิดว่าฉันทำได้ไหม?”
หลังได้ยินอย่างนั้น เฮ่อหลานมองป้าหวงด้วยความประหลาดใจก่อนจะพูดว่า “คุณป้าคะ คุณคิดจะทำอาหารหรือคะ? คุณป้าจะไหวหรือเปล่าในโรงงานต้องมีคนจำนวนมาก ฉันกลัวว่าคุณป้าจะเหนื่อยเกินไปหากต้องทำอาหารให้กับทุกคน”
“ฉันไม่กลัวเหนื่อยหรอก อีกอย่างฉันก็ทำอาหารมานานหลายปี ฝีมือของฉันก็ไม่ได้เลวร้าย พวกเขาต้องชอบแน่”
เมื่อเห็นใบหน้ามุ่งมั่นของป้าหวงแล้ว เฮ่อหลานจึงไม่ปฏิเสธแล้วยังตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า “อย่างนั้นก็คงต้องรบกวนคุณป้าหวงแล้วค่ะ”