การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 221 เปิดตัว
บทที่ 221 เปิดตัว
บทที่ 221 เปิดตัว
หลังถังชุนหยานทำงานเสร็จแล้ว เธอเดินกลับบ้านไปอย่างสบายใจพร้อมกับฮัมเพลงเบา ๆ
เมื่อจ้าวเหม่ยฉินเห็นลูกสาวกลับมาแล้ว ใบหน้าของเธอพลันเคร่งขรึมก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองว่า “ถังชุนหยาน แกหายไปไหนมาทั้งวัน คิดอยากจะกลับมาเมื่อไหร่ก็กลับ คนอื่นจะมองยังไงถ้าแกเป็นผู้หญิงที่อยู่ไม่ติดบ้านติดเรือนอย่างนี้”
ตั้งแต่ลูกสาวต่อต้านไม่ต้องการแต่งงาน ท่าทีของจ้าวเหม่ยฉินที่มีต่อถังชุนหยานก็แปรเปลี่ยนไป ไม่เค้นแสดงความรักกับลูกสาวสักครั้ง
ขณะนั้นเองแม่เฒ่าถังก็เดินเข้ามา เมื่อได้ยินคำพูดของจ้าวเหม่ยฉิน เธอเย้ยหยันพร้อมกับพูดว่า “จะคิดยังไงได้ละ มันคงจะคิดระบายความไม่พอใจใส่พวกเรา อีกอย่างตอนนี้มีความคิดเป็นใหญ่เสียด้วย ไม่ต้องการจะแต่งงานอีกต่างหาก หึ ฉันว่าในอนาคตแกคงจะไม่สามารถควบคุมลูกสาวของแกได้แล้วแหละ”
เมื่อถังชุนหยานเห็นย่าและแม่พูดออกมาอย่างนี้ เธอก็เข้าใจแล้วว่าพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนความคิดเลย และยังคงคิดหาวิธีให้เธอแต่งงานให้ได้ แต่เธอไม่ต้องการแต่งงาน ยิ่งไปกว่านั้นเธอต้องไปทำงานให้ถังซวงทุกวัน จากนี้ไปเธอจะไม่อยู่ที่บ้าน เรื่องนี้คงจะถูกจับได้ไม่ช้าก็เร็ว ถังชุนหยานจึงตัดสินใจที่จะบอกเล่าเรื่องงานไปตามตรง
“วันนี้หนูไปทำงานมา”
“งานอะไร?”
เมื่อจ้าวเหม่ยฉินได้ยินอย่างนั้นแล้ว ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย แล้วเริ่มถามอีกครั้งว่า “หางานได้แล้วหรือ? ทำงานอะไร? แล้วได้เงินเดือนละเท่าไร?”
“สามสิบหยวนต่อเดือน และถ้าทำงานได้ดีก็จะได้เพิ่ม ดังนั้นหนูจะไปทำงานทุกวันนับตั้งแต่เช้าวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป”
“สามสิบหยวนต่อเดือนงั้นหรือ”
ใบหน้าของจ้าวเหม่ยฉินเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะเผยความยินดีออกมา
“ดีมาก ถ้าเป็นเดือนละสามสิบหยวน ก็จะเป็นสามร้อยหกสิบหยวนต่อปี แล้วถ้าบวกกับเงินพิเศษที่จะได้รับเพิ่ม ก็น่าจะมากกว่านั้น… แค่ปีเดียวพี่ชายของแกก็แต่งงานได้แล้ว” เงินจำนวนมากขนาดนั้นเพียงพอที่จะเป็นสินสอดให้ทุกคนรู้ว่าตระกูลถังของพวกเธอไม่แพ้ใคร
ยังไงซะหญิงชรามองถังชุนหยานด้วยความสงสัยแล้วเอ่ยถามว่า “แกน่ะหรือจะได้เงินเดือนละสามสิบหยวน? บอกฉันมาว่าแกไปทำงานที่ไหน?” เธอไม่เชื่อว่าถังชุนหยานจะสามารถหางานที่ดีเช่นนี้ได้ แน่นอนว่างานที่ยอดเยี่ยมนี้ต้องใช้เส้นสาย ซึ่งตระกูลถังไม่มี
ถังชุนหยานเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ตอบไปตามตรงว่า “หนูไปทำงานให้กับพี่สาวซวง เธอให้เงินหนูเดือนละสามสิบหยวน”
“อะไร… ทำงานให้ถังซวง?”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว จ้าวเหม่ยฉินถึงกับปวดใจ “หืม… ถังซวงเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เธอจะเอาเงินจากไหนมาให้แกตั้งสามสิบหยวน? ที่แกพูดเมื่อครู่คงจะเป็นเรื่องโกหกสิท่า”
แม่เฒ่าถังมองถังชุนหยานอย่างเย้ยหยันก่อนจะพูดว่า “แกคงจะเชื่อถังซวงจริง ๆ สินะ ฉันเชื่อว่าถังซวงคงจะหลอกใช้แกโดยเปล่าประโยชน์แน่นอน หึ พรุ่งนี้แกต้องอยู่ที่บ้าน ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด”
เมื่อเห็นว่าทั้งย่าและแม่ไม่เชื่อ ถังชุนหยานจึงพูดออกไปด้วยความโกรธ “พี่สาวซวงไม่โกหกหนูแน่ ถึงเธอจะยังเรียนอยู่แต่เธอก็หาเงินได้ด้วยตัวเองมาตั้งนานแล้ว พวกแม่ไม่รู้หรอกว่าเธอเก่งขนาดไหน”
“ถ้าอย่างนั้นลองบอกฉันมาซิว่าถังซวงมีรายได้ต่อเดือนเท่าไร? ตอนนี้เธอเป็นเพียงเด็ก ถ้าต้องหาเงินเองแล้วยังต้องจ่ายให้แกสามสิบหยวนต่อเดือน งั้นนังนั่นจะมีเงินเดือนเท่าไร?”
“เธอ…”
เวลานี้ถังชุนหยานไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เธอยุ่งอยู่กับงานทั้งวันและไม่รู้เลยว่าถังซวงกำลังทำอะไรอยู่ แต่ในความคิดของเธอแล้ว ถังซวงเก่งขนาดนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะหลอกลวงให้ตนทำงานให้ฟรี ๆ
เมื่อเห็นถังชุนหยานพูดไม่ออก หญิงชราก็ตะคอกด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นังโง่ แค่ถังซวงพูดออกมาแกก็เชื่อแล้วหรือ พรุ่งนี้แกห้ามออกจากบ้านเด็ดขาด”
จ้าวเหม่ยฉินพยักหน้ารับจากด้านข้างก่อนจะกล่าวเสริม “ใช่ พรุ่งนี้แกจะต้องอยู่ที่บ้านแล้วทำงานให้กับฉัน อย่าได้ออกไปเพ่นพ่านอยู่ด้านนอก”
ขณะทั้งสามกำลังโต้เถียงกัน ผู้เฒ่าถังและถังอี้กั๋วก็เข้ามา และอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามอย่างสงสัย
แม่เฒ่าถังจึงบอกทั้งสองเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดด้วยน้ำเสียงขบขัน
หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว ผู้เฒ่าถังมองถังชุนหยานก่อนจะถามว่า “ถังซวงพูดจริง ๆ หรือว่าจะให้เงินเดือนแกสามสิบหยวน?”
“ค่ะ”
“ดี ๆ งั้นพรุ่งนี้ก็ออกไปทำงานหาเงินซะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้เฒ่าถัง หญิงชราไม่พอใจทันที
“นี่ตาเฒ่า คุณเชื่อจริง ๆ หรือว่าถังซวงจะจ่ายเงินสามสิบหยวนได้?”
ผู้เฒ่าถังมองหญิงชราตรงหน้าด้วยความไม่แยแส ก่อนจะพูดว่า “อย่าลืมว่าตอนนี้คนในหมู่บ้านเถาฮวากำลังทำงานให้กับโรงงานปักเย็บ และคนที่จ้างคนพวกนั้นคือเฮ่อหลาน นอกจากนี้เฮ่อหลานกับลูกสาวของเธอก็ได้พบเจอกับครอบครัวของแม่เฒ่าเฮ่อแล้วไม่ใช่หรือไง? ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาค่อนข้างรวยเลยทีเดียว ใช่ ถึงแม้ถังซวงจะยังเด็ก แต่อย่าได้คิดว่าเธอไม่มีเงิน”
เวลานี้หญิงชราถึงกับพูดไม่ออก ราวกับทั้งหมดคือความจริงที่ไม่อาจโต้เถียงได้
แม้แต่จ้าวเหม่ยฉินก็ยังคิดอย่างรอบคอบอีกครั้งก่อนจะคิดว่าถังซวงน่าจะมีเงินจริง ๆ
เวลานี้เรื่องงานที่ถังชุนหยานทำให้ถังซวงจึงจบลง
อีกด้าน ถังซวงที่ไม่รู้ถึงความคิดของตระกูลถัง แต่ถึงแม้จะรู้เธอก็ไม่สนใจ หลังถังชุนหยานมาถึงในเช้าวันถัดมา ถังซวงก็สั่งงานเธอแล้วออกไปกับถังเซวี่ย และโม่เจ๋อหยวน พวกเขาตรงไปที่โรงงานเย็บปักเพื่อช่วยเฮ่อหลานจัดการสิ่งต่าง ๆ
หลังจากทำงานมาตลอดช่วงเช้า เฮ่อหลานโบกมือให้ทุกคนแล้วร้องเรียก “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย เสี่ยวโม่ พวกลูกกลับไปก่อนได้เลย เดี๋ยวแม่จะดูแลต่อเองจ้ะ” เธอเห็นว่าลูกสาวทั้งสองคนและโม่เจ๋อหยวนเหนื่อยมาตั้งแต่เช้าแล้ว
เกอชิงเหม่ยที่อยู่ด้านข้างยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ พวกเธอกลับไปก่อนเถอะ ฉันกับอาหลานจะอยู่ที่นี่เองจ้ะ”
ถังซวงไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด แต่เมื่อคิดว่าถังชุนหยานคงกำลังยุ่งอยู่ที่บ้าน เธอจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ค่ะ อย่างนั้นพวกเราจะกลับก่อนนะคะ”
เมื่อทั้งสามกลับมาถึงบ้าน ถังชุนหยานก็เพิ่งเสร็จงานที่ถังซวงมอบหมายให้ในตอนเช้า
เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว ถังซวงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ชุนหยาน เธอทำงานค่อนข้างเร็วเลยนะ”
ถังชุนหยานยิ้มด้วยความเขินอาย “ยังช้าอยู่มากค่ะ แต่ถ้าฉันคล่องมากกว่านี้ มันจะเร็วกว่านี้แน่นอน”
เช่นนี้ถังชุนหยานจึงไปทำงานที่บ้านของถังซวงทุกวัน แม้ถังซวงจะไปโรงเรียนก็ไม่เป็นไร เพราะถังซวงได้จัดการบางอย่างเรียบร้อยแล้ว และถังชุนหยานก็รู้หน้าที่ของตัวเองชัดเจน
หลังจากนั้นไม่นาน โรงงานเย็บปักก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ในวันเปิดทำการ เฮ่อหลานและคนอื่น ๆ ตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อไปทำงาน แม้แต่ถังซวงก็ไม่มีข้อยกเว้น และถังชุนหยานก็ยังไปช่วยงานที่โรงงานเย็บปักในวันนี้ด้วย
เสียงประทัดดังกึกก้องไปทั่ว หลิวเหลียงไคยืนอยู่หน้าประตูด้วยรอยยิ้มยินดี พร้อมตัดริบบิ้นด้วยกรรไกร ก่อนจะพูดขึ้นเสียงดังว่า “โรงงานเย็บปักเถาฮวาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ!”
แปะ ๆ ๆ ๆ
เสียงปรบมือดังขึ้นจากทุกทิศทาง และยังเต็มไปด้วยเสียงจอแจด้วยความตื่นเต้น
เฮ่อหลานยืนอยู่ด้านข้างหลิวเหลียงไคมองโรงงานเย็บปักตรงหน้า แววตาของเธอวูบไหวเป็นประกายด้วยความตื้นตัน นี่คือสิ่งที่เธอจะต้องต่อสู้ในอนาคต!