การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 227 รอบคอบ
บทที่ 227 รอบคอบ
บทที่ 227 รอบคอบ
หลังถังซวงออกไปพร้อมกับซ่างสยงเยี่ยและหลานชายของเขา จิงเจ้อหรงก็หันมองเฮ่อหลานแล้วพูดขึ้นว่า “อาหลาน งั้นเราไปกันเถอะครับ”
เฮ่อหลานพยักหน้า
เมื่อทั้งสองมาถึงบ้านพักของจิงเจ้อหรง เฮ่อหลานหันกลับมามองและพบว่าจิงเจ้อหรงหายตัวไปแล้ว แต่เมื่อหันมาอีกด้านก็เห็นเขายืนอยู่พร้อมกับช่อดอกไม้ในมือ “อาหลาน ผมให้คุณครับ”
เมื่อมองไปยังช่อดอกไม้ตรงหน้า ใบหน้าของเฮ่อหลานแดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าจิงเจ้อหรงจะมอบดอกไม้ให้เธอในวันนี้ แม้จะเขินอายแต่แววตาก็เผยความสุขในใจ เธอรับช่อดอกไม้เอาไว้พร้อมตอบว่า “ขอบคุณค่ะ ฉันชอบมันมากเลย”
เมื่อเห็นรอยยิ้มของหญิงสาวแล้ว จิงเจ้อหรงถึงกับหัวเราะออกมา
“ผมดีใจที่คุณชอบครับ”
ขณะพูดอย่างนั้น จิงเจ้อหรงจับมือเฮ่อหลานแล้วพาเธอเดินไปข้างหน้า “อาหลาน เดี๋ยวผมจะพาคุณไปดูสวนหลังบ้าน”
สองแม่ลูกเคยอาศัยอยู่ที่นี่มาก่อน ทว่าเวลานั้นเขาไม่ค่อยพร้อมเท่าไรนัก เพราะมันยังไม่ค่อยเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่หลังจากนั้นจิงเจ้อหรงรีบจัดการหาช่างมาตกแต่งสถานที่นี้ทันที
เฮ่อหลานลอบสงสัยอยู่บ้างว่าจิงเจ้อหรงจะพาเธอไปที่นั่นทำไม แต่เมื่อเธอมาถึงสวนหลังบ้าน และเห็นลานเล็ก ๆ ที่สร้างขึ้นใหม่ แววตาของเธอก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“นี่… คุณตกแต่งลานเล็กนี้ใหม่หมดเลยหรือคะ?”
“ใช่ครับ หลังจากที่คุณกับซวงเอ๋อร์ และเสี่ยวเซวี่ยมาอยู่ที่นี่ในอนาคตจะได้สะดวกสบายมากขึ้นน่ะครับ”
หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว เฮ่อหลานยิ่งอบอุ่นในใจ เธอหันมองจิงเจ้อหรงด้วยแววตาวาบไหว “อาเจ้อ ขอบคุณนะคะ”
จิงเจ้อหรงมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาเอ็นดู ก่อนจะมองใบหน้างดงามนี้อย่างไม่คลาดสายตา
ทว่าเขาอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงจูบหน้าผากของหญิงสาว “อาหลาน…”
“อา… อาเจ้อ…”
ร่างกายของเฮ่อหลานแข็งทื่อ เธอไม่คิดมาก่อนว่าจิงเจ้อหรงจะทำอย่างนี้ ใบหน้าของเธอแดงก่ำพร้อมทั้งเขินอาย แต่ก็ไม่ได้กล่าวปฏิเสธอะไร เวลานี้หัวใจยิ่งเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย เธอกลับไม่รังเกียจสัมผัสของจิงเจ้อหรง
หลังจิงเจ้อหรงตระหนักได้ว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่สมควร แต่เขาไม่คิดเสียใจอะไร เพราะเวลานี้เขาอยู่ใกล้ชิดกับคนที่รัก เขาย่อมต้องการอยู่ใกล้เธอให้มากที่สุด อีกทั้งเขาเองก็สัมผัสได้ว่าเฮ่อหลานไม่ได้ผลักไสเขาแต่อย่างใด เวลานี้หัวใจของเขาคล้ายกับแช่อยู่ในน้ำผึ้ง
อีกด้านหนึ่ง ถังซวงพาซ่างสยงเยี่ยและซ่างหมิงซวี่ไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า
“คุณชายซ่างคะ เผื่อว่าคุณจะอยากซื้อสินค้าเฉพาะของเมืองนี้ ฉันเลยพาคุณมาดูที่นี่ก่อน แต่ถ้าไม่ชอบเราไปที่อื่นได้ค่ะ”
“ครับ”
เมื่อมองห้างสรรพสินค้าตรงหน้า ซ่างสยงเยี่ยรู้สึกสงสัยกับสินค้าต่าง ๆ ที่วางขายอยู่ที่นี่
ซ่างหมิงซวี่เองก็ไม่รู้แผนการของซ่างสยงเยี่ย ในแววตาของเขายังคงมีร่องรอยของความเหยียดหยัน เขาไม่คิดว่าจะมีของดี ๆ อยู่ในห้างแห่งนี้ ทว่าลุงของเขายืนกรานว่าจะเข้าไป ดังนั้นชายหนุ่มจึงทำได้เพียงเดินตาม
แน่นอนว่าถังซวงมองเห็นอารมณ์ของซ่างหมิงซวี่ชัดเจน แต่เธอก็รู้ดีว่าแผ่นดินใหญ่ในปัจจุบันไม่อาจเทียบเท่ากับเมืองก่างเฉิงได้ ถึงอย่างไรแล้วมันก็ไม่สำคัญนัก เพราะสุดท้ายแล้วแผ่นดินใหญ่อาจจะเจริญรุ่งเรืองกว่าเมืองก่างเฉิงในสักวันก็ได้ ใครจะรู้…
หลังทั้งสามเข้ามาภายในห้างสรรพสินค้า เดิมทีถังซวงคิดจะพาพวกเขาไปที่ร้านตรงหัวมุม แต่เพราะซ่างสยงเยี่ยและหลานชายได้เดินเข้ามาแล้ว พวกเขาเลยคิดจะเดินดูร้านทั้งหมดอย่างละเอียด
หลังดูทุกสิ่งอย่างแล้ว ก็ไม่อยากจะซื้อมันเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสิ่งต่าง ๆ ไม่มีอะไรที่พวกเขาชอบเลย
“คุณชายซ่างคะ มีสินค้าที่ค่อนข้างพิเศษอยู่ที่ร้านนั้น เราไปดูกันเถอะค่ะ”
ถังซวงพูดอีกครั้งเพราะต้องการพาทั้งสองไปในสถานที่ที่เธอต้องการ แต่ขณะที่ก้าวเท้าออกไปเพียงไม่กี่ก้าว เธอก็พบกับเฉินกวงหยางพร้อมกับคนมากมายที่เดินอยู่ด้านหลังของเขา
เฉินกวงหยางเองก็ไม่คิดว่าจะได้พบกับถังซวงที่นี่ เขาตะโกนเสียงดัง “ถัง… คุณถัง มาที่นี่ด้วยหรือครับ?”
ถังซวงที่ไม่คิดว่าจะได้พบกับเฉินกวงหยาง เธอยิ้มแล้วตอบกลับว่า “ฉันพาเพื่อนสองคนนี้มาดูสินค้าน่ะ เดี๋ยวจะไปดูผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของเมืองเราต่อด้วย”
หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว เฉินกวงหยางมองซ่างสยงเยี่ยและซ่างหมิงซวี่ก่อนจะยิ้ม “คุณถังครับ ความจริงแล้ว คุณสามารถไปที่ร้านของเราเพื่อรับชมของพวกนั้นได้นะครับ ที่นั่นมีผลิตภัณฑ์พิเศษมากมายเลย”
ถังซวงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลยรู้สึกสงสัย แต่เธอก็รู้ดีว่าเฉินกวงหยางไว้ใจได้ ก่อนจะพยักหน้ารับแล้วพูดว่า “ค่ะ อย่างนั้น เดี๋ยวฉันไปดูก็ได้”
เธอหันมองซ่างสยงเยี่ยแล้วถามว่า “คุณชายซ่างไปไหมคะ?”
ซ่างสยงเยี่ยมองเฉินกวงหยางและพรรคพวกของเขาอย่างระแวดระวัง ก่อนจะพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ครับ ไปกันเถอะ”
เฉินกวงหยางเดินนำหน้า ที่นี่มีรถจอดรออยู่แล้ว เขาให้ถังซวงเข้าไปในรถก่อนด้วยท่าทีสุภาพ ก่อนจะหันมองซ่างสยงเยี่ยและซ่างหมิงซวี่ด้วยความสุภาพเช่นกัน
หลังทั้งสามขึ้นรถแล้ว เขาจึงขึ้นรถตามไป และกลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังก็ไปขึ้นรถอีกคันหนึ่งซึ่งจอดอยู่ต่อท้าย
ซ่างสยงเยี่ยมองสถานการณ์โดยรอบอย่างครุ่นคิด ก่อนจะหันมองถังซวงอีกครั้ง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
ผู้ติดตามทั้งหมดล้วนแต่มีท่าทีที่น่ากลัว และบางคนยังดูน่าเกรงขามผ่านแววตา แต่น่าแปลกที่ทั้งหมดล้วนแต่ให้ความเคารพต่อถังซวงมาก สุดท้ายแล้วเขาไม่ได้ถามอะไรเพียงแต่นั่งรถข้างถังซวงพร้อมรอยยิ้มจนกระทั่งถึงที่หมาย
เฉินกวงหยางลงจากรถพร้อมกับทำท่าทีต้อนรับ
“เชิญทางนี้ครับ”
ทุกคนมองสถานที่ที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก “ที่นี่งั้นหรือครับ?”
ซ่างหมิงซวี่ขมวดคิ้วก่อนจะมองบ้านตรงหน้า เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกล่อลวง สถานที่แห่งนี้นับว่าแย่ยิ่งกว่าสถานที่ก่อนหน้ามาก เขาเงยหน้ามองลุงอย่างขอความช่วยเหลือ ทว่าลุงของเขาไม่พูดอะไร ทั้งยังเดินเข้าไปด้านในอีกด้วย
เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้ว ซ่างหมิงซวี่ทำได้เพียงถอนหายใจแล้วเดินตามเข้าไปด้านใน
เฉินกวงหยางเดินนำหน้าก่อนจะกล่าวแนะนำกับถังซวง “สถานที่นี้ค่อนข้างลึกลับหน่อย เลยไม่ค่อยมีใครมาที่นี่นอกจากบุคคลที่รู้จักกันในวงใน คุณถังครับ เวลานี้คุณอยู่ในเมืองนี้แล้ว ไปพบคุณฉีเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมแล้วกันนะครับ มันเป็นเรื่องสำคัญภายในองค์กรของเรา”
เมื่อเห็นว่าเฉินกวงหยางเอาแต่เรียกเธอว่าคุณถัง ถังซวงจึงเหลือบมองเขาแล้วพูดว่า “พี่เฉินคะ พี่เรียกฉันเหมือนเมื่อก่อนก็ได้ ไม่ต้องเข้มงวดมากนักหรอก”
ทว่าเฉินกวงหยางกลับไม่ยินยอม เดิมทีเขาต้องการเรียกว่านายหญิงด้วยซ้ำ แต่ว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย เขาจึงไม่พูดมันออกไป แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเรียกถังซวงว่าซวงเอ๋อร์เหมือนเมื่อก่อน
เมื่ออยู่ต่อหน้าพี่น้องคนอื่นภายในโถงยี่ชี เขาจำต้องรักษาภาพลักษณ์ให้กับถังซวง
เมื่อเห็นเฉินกวงหยางเป็นอย่างนี้แล้ว ถังซวงรู้สึกจนปัญญา
อย่างไรก็ตาม มีหลายสิ่งหลายอย่างในสถานที่แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารจานเด็ดของเมืองเวิงชาน หรืองานหัตถกรรมท้องถิ่นที่หายาก ที่ทุกคนไม่คิดว่าจะได้เห็นมันที่นี่
ซ่างหมิงซวี่และซ่างสยงเยี่ยไม่คิดว่าจะมีสิ่งของมากมายอยู่ที่นี่ พวกเขาหยิบมันขึ้นมาด้วยความสนใจ ทั้งสองซื้อของจำนวนมากและจากไปพร้อมกับถังซวง
ก่อนถังซวงจะจากไป เธอหันมองเฉินกวงหยางพร้อมเอ่ยปากด้วยรอยยิ้มว่า “พี่เฉินคะ เดี๋ยวตอนกลางคืนฉันจะไปพบผู้เฒ่าฉีเองค่ะ”