การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 23 ผู้แจ้งเบาะแส
บทที่ 23 ผู้แจ้งเบาะแส
บทที่ 23 ผู้แจ้งเบาะแส
เมื่อดูใบยอมรับหนี้ที่เขียนด้วยลายมือของเธอเอง ถังซวงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ถึงเธอจะปลดหนี้ได้ แต่เธอก็ไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ว่าพวกเธอจ่ายเงินคืนได้เร็วขนาดนี้ ดังนั้นเธอจึงมองไปที่ถังเยว่หมิน แล้วพูดว่า “ลุงถัง ลุงช่วยอย่าบอกคนอื่นเกี่ยวกับการมาคืนเงินของฉันในวันนี้ได้ไหมคะ โดยเฉพาะคนที่มาจากตระกูลถัง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังเยว่หมินก็เข้าใจความกังวลของถังซวงทันที เขาพยักหน้าและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่พูดอะไร เธอสามคนแม่ลูกจะมีชีวิตที่ดีในหมู่บ้านเถาฮวาแน่”
“ขอบคุณค่ะคุณลุง”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ถังเยว่หมินพูด ดวงตาของถังซวงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าเธอจะเกลียดตระกูลถังมาก แต่ถังเยว่หมิน ผู้เป็นหัวหน้าหมู่บ้านหลู่ฮวาก็เป็นคนดีจริง ๆ “ถ้าอย่างนั้นฉันกลับไปก่อนนะคะ”
“อื้ม ระวังตัวด้วยล่ะ”
แต่ก่อนออกเดินทาง ถังเยว่หมินยัดมันฝรั่งถุงใหญ่ใส่มือถังซวง
“เธอสามคนแม่ลูกเพิ่งย้ายไปหมู่บ้านเถาฮวา คงไม่มีอาหารมากนัก แม้ว่ามันฝรั่งจะไม่ได้อร่อยขนาดนั้น แต่ก็ทำให้หายหิวได้ ค่อย ๆ กินนะ” ทุกวันนี้ทุกครอบครัวแทบจะอาเจียนหลังจากกินมันฝรั่ง แต่ถ้าเทียบกับการทนหิวแล้ว การทำให้ท้องอิ่มนั้นสำคัญกว่าแน่นอน
“คุณลุง ไม่เป็นไรค่ะ”
แต่ถังซวงไม่สามารถปฏิเสธน้ำใจได้ สุดท้ายก็ต้องกลับบ้านพร้อมกับมันฝรั่งถุงใหญ่
“ถังซวง…เธอกลับมาที่นี่ทำไม?”
ถังชุนหยานรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นถังซวง จากนั้นดวงตาของเธอก็ฉายแววสับสน
“ฉันมาพบหัวหน้าหมู่บ้าน ฉันกำลังจะกลับไปแล้ว” ถังซวงและถังชุนหยานไม่รู้จะพูดอะไรกันต่อ พวกเขาแค่พูดกันนิดหน่อย จากนั้นถังซวงก็จากไป
เมื่อเห็นหลังของถังซวงค่อย ๆ ไกลออกไป ถังชุนหยานก็กระทืบเท้าของเธออย่างช่วยไม่ได้ และในที่สุดก็ไล่ตามเธอไป “ถังซวง รอเดี๋ยว”
เมื่อเห็นถังชุนหยานวิ่งไล่ตามเธอ ถังซวงขมวดคิ้วเล็กน้อย “มีอะไร?”
เมื่อเห็นท่าทีเฉยเมยของถังซวง ถังชุนหยานก็มองเธอด้วยความโกรธและพูดว่า “ระวังตัวด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังซวงก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
“เธอหมายถึงอะไร?”
ถังชุนหยานมองไปที่รูปร่างผอมบางของถังซวง และคิดว่าเราต่างก็เป็นผู้หญิง ดังนั้นหัวใจของเธอจึงอ่อนลงพลางโน้มตัวไปหาถังซวง และกระซิบว่า “คุณย่ากับลุงสองพบชายชราคนหนึ่ง และพวกเขาก็รับเงินจากชายชราคนนั้น ฉันได้ยินเขาพูดถึงชื่อของเธอและหมู่บ้านเถาฮวา ฉันคิดว่าชายชราคนนั้นน่าจะเป็นพ่อม่ายในหมู่บ้านตระกูลหลี่ที่เธอพูดถึงก่อนหน้านี้ พวกเขายังคิดที่จะขายเธอให้พ่อม่ายคนนั้นอยู่แน่”
เมื่อถังซวงได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป
แม้พวกเธอสามแม่ลูกแยกตัวออกจากตระกูลถังแล้ว แต่แม่เฒ่าถังกับถังเจี้ยนกั๋วยังคงตามราวี ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องได้รับบทเรียนเสียก่อนถึงจะคิดได้
แต่ที่ถังชุนหยานมาบอกเรื่องนี้กับเธอก็ทำให้เธอประหลาดใจเล็กน้อย แต่เธอก็ต้องขอบคุณถังชุนหยานสำหรับคำเตือน
“ขอบใจนะ”
เมื่อได้ยินถังซวงกล่าวขอบคุณ ถังชุนหยานก็รู้สึกเคอะเขินเล็กน้อย
“ไม่เป็นไร เราต่างก็เป็นผู้หญิง ไม่มีผู้หญิงคนไหนเต็มใจแต่งงานกับผู้ชายที่แก่กว่าพ่อหรอก แต่อย่าบอกใครนะว่าฉันบอก” ในตอนท้ายถังชุนหยานมองไปรอบ ๆ และจากไปโดยไม่ให้ใครเห็น
เมื่อเห็นถังชุนหยานจากไปอย่างรีบร้อน ถังซวงก็อดยิ้มไม่ได้ จากนั้นกลับบ้านพร้อมมันฝรั่งบนหลังของเธอ
เมื่อเห็นลูกสาวคนโตกลับมาพร้อมถุงใบใหญ่บนหลัง เฮ่อหลานรีบไปช่วย “ซวงเอ๋อร์ เอาอะไรมาน่ะลูก”
“มันฝรั่งที่ลุงถังให้มาค่ะ”
“นี่… ลุงถังใจดีเกินไปแล้ว เราควรจะส่งคืนดีไหม”
ถังซวงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเธอได้ยินแม่พูดแบบนั้น “แม่คะ ตอนนั้นหนูก็ปฏิเสธไปแล้ว แต่ลุงถังยืนกรานให้เอามา เราไปพักกันเถอะ”
เมื่อเห็นว่าลูกสาวคนโตพูดแบบนั้น เฮ่อหลานก็ไม่พูดอะไรอีก “งั้นคืนนี้มากินมันฝรั่งกัน”
“แม่คะ ฉันอยากกินข้าวกับมันฝรั่งทอด แล้วก็ทำซุปไข่ด้วย”
ขณะที่ถังเซวี่ยวิ่งเข้ามาจากข้างนอก เธอได้ยินพี่สาวพูดถึงอาหา เธอจึงรีบพยักหน้าทันทีและพูดว่า “ใช่ค่ะแม่ หนูก็อยากกินเหมือนกัน แล้วก็… แม่คะ…” เธอชูปลาในมือด้วยความตื่นเต้น “คืนนี้กินปลากันเถอะ”
เมื่อเห็นเนื้อตัวที่มอมแมมของลูกสาวตัวน้อย เฮ่อหลานก็ชำเลืองมองแล้วพูดว่า “ลูกไปไหนมาอีกแล้ว” ลูกสาวตัวน้อยกลายเป็นเด็กป่าโดยไม่รู้ตัวซะแล้ว
“แม่ หนูไม่ได้ไปบนเขานะ หนูแค่ไปจับปลา”
ถังซวงชื่นชมจากด้านข้าง “เสี่ยวเซวี่ยของเราเก่งจริง ๆ”
“ใช่แล้ว พี่สาวเข้าใจฉันดี”
ถังเซวี่ยเข้าหาถังซวงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรักและถามว่า “พี่สาว อยากกินปลาไหม เอาไปทำอะไรกินดี?”
“ปลาตุ๋นน้ำแดงไหม?”
“ดีเลย”
ในตอนเย็น สามแม่ลูกกินปลาตุ๋นน้ำแดงและมันฝรั่งผัดหั่นฝอยด้วยใบหน้าที่อิ่มเอมใจ และปิดท้ายด้วยดื่มซุปไข่ให้อิ่มท้อง
“มันฝรั่งกินแบบนี้ได้ด้วย อร่อยดีนะ”
เฮ่อหลานคิดว่ามันอร่อย
“แม่เคยทำมันฝรั่งตุ๋นอยู่นะ แต่ไม่เคยทำมันฝรั่งผัดแบบนี้เลย พอเอามาปรุงแบบนี้รสชาติดีมากทั้งที่เป็นมันฝรั่งเหมือนกันแท้ ๆ”
เมื่อเห็นว่าทั้งคู่ชอบมัน ถังซวงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและพูดว่า “คราวหน้าหนูจะคิดเมนูอร่อย ๆ แล้วให้แม่ทำอาหารให้เรานะ”
“เอาสิ ๆ”
ถังเซวี่ยปรบมืออย่างมีความสุข
หลังจากรับประทานอาหาร ในขณะที่ยังไม่มืดมากนัก ถังซวงหยิบหนังสือเรียนออกมาและเริ่มอ่านพร้อมกับถังเซวี่ย “เสี่ยวเซวี่ย มาใช้วันหยุดให้เป็นประโยชน์กันเถอะ เรามาทำความเข้าใจหนังสือเรียนทั้งหมดของชั้นประถมกันเถอะ เราจะได้เข้าป.6 หรือม.1 ได้”
“อื้ม หนูจะพยายามให้ดีที่สุด”
ถังเซวี่ยอยากเรียนหนังสือมาโดยตลอด ตอนนี้เธอมีโอกาสแล้ว เธอก็ต้องคว้ามันไว้
เมื่อเห็นความตั้งใจของพี่น้องทั้งสอง เฮ่อหลานอดไม่ได้ที่จะยิ้ม และนั่งลงเพื่อเริ่มปักผ้า
ในขณะนี้แม่และลูกสาวกำลังยุ่งกับเรื่องของตัวเองและบรรยากาศในบ้านก็เต็มไปด้วยความสุข
ถังซวงอ่านหนังสือเรียนทั้งหมดตั้งแต่ชั้นป.1 ถึงป.6 มันง่ายเกินไป ดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นต้องอ่านเลย แต่เธอก็ยังต้องทำเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย
แต่ในไม่ช้า ถังซวงรู้สึกว่าเธอไม่จำเป็นต้องเสแสร้งอีกต่อไป
“พี่ ฉันอ่านหนังสือพวกนี้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ฉันเข้าใจมันทั้งหมดแล้วล่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังซวงอดไม่ได้ที่จะมอง และพบว่าถังเซวี่ยอ่านภาษาจีนและคณิตศาสตร์ในชั้นป.1 และ 2 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งดูเหมือนเธอจะเรียนรู้เร็วไม่น้อย
“เธอเข้าใจทุกอย่างเลยเหรอ?”
ถังเซวี่ยพยักหน้าและพูดว่า “ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว”
“ตกลง งั้นฉันจะทดสอบเธอ”
ถังซวงเพียงแค่ถามคำถามสองสามข้อตามความรู้ในชั้นป.1 และ 2 แต่ถังเซวี่ยก็ตอบได้ทั้งหมด เมื่อเห็นดังนี้ ถังซวงยังคงถามคำถามต่อไป แต่คราวนี้คำถามที่เธอถามนั้นยากขึ้นเล็กน้อย
ถังเซวี่ยใช้เวลาคิดสักพัก แต่เมื่อเธอคิดออก เธอก็ตอบทันที
“พี่สาว แบบนี้หรือเปล่า?”