การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 231 จากไป
บทที่ 231 จากไป
บทที่ 231 จากไป
เหม่ยหยิงตงชำเลืองมองลูกสาวขณะพูดอย่างนั้น
“ลูกไม่ได้ชอบเด็กหนุ่มจากตระกูลโม่หรือ? แม่ได้ยินว่าเขาอยู่ที่นั่น มันก็ดีที่เราจะไปที่นั่นบ้าง จะได้ไปพบเขาสักหน่อย”
เมื่อได้ยินชื่อของโม่เจ๋อหยวน ใบหน้าของหลี่ว์ตานกลายเป็นเคอะเขิน แต่เมื่อคิดถึงแผนการของแม่แล้ว เธออดไม่ได้ที่จะพูดว่า
“แม่คะ ก็เมื่อครู่แม่บอกว่ามันเป็นความลับ แล้วหนูจะไปหาโม่เจ๋อหยวนได้หรือ? ถ้าเขารู้ว่าหนูอยู่ที่นี่ แผนของเราอาจจะไม่สำเร็จนะคะ”
“แล้วใครให้ลูกไปพบเขาโดยตรงล่ะ ถ้าอยากเห็นเขาก็แค่แอบไปดูก็พอ เมื่อไหร่ที่แผนเราสำเร็จ ความปรารถนาของลูกก็จะเป็นจริงเอง”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว หลี่ว์ตานอดไม่ได้ที่จะวาดฝันถึงอนาคต เธอพยักหน้ารับแล้วพูดว่า “ค่ะ ถ้ามีเวลาหนูจะไปหาพี่โม่เจ๋อหยวน”
แน่นอนว่าถังซวงไม่รู้ว่าเหม่ยหยิงตงและหลี่ว์ตานมาที่นี่ ตอนนี้ทั้งหมดทานอาหารเสร็จแล้ว หลิวเหลียงไคจึงเชิญซ่างสยงเยี่ยและซ่างหมิงซวี่ให้พักผ่อนอยู่ที่นี่ด้วย
ซ่างสยงเยี่ยและซ่างหมิงซวี่มองดูบ้านหลังเล็กที่ค่อนข้างทรุดโทรมตรงหน้า พวกเขาไม่ค่อยยินดีนักหากต้องพักอยู่ที่นี่
ทว่าหลิวเหลียงไคกลับไม่ทันสังเกตเห็น แต่เป็นภรรยาของเขาที่พูดขึ้นว่า
“ที่นี่มีห้องพักไม่พอหรอก ให้คุณชายซ่างทั้งสองพักอยู่ที่บ้านของอาหลานน่าจะดีกว่า ฉันจำได้ว่าคุณหลี่กับเสี่ยวโม่ก็พักอยู่ที่นั่นด้วย อยู่กันหลายคนน่าสนุกกว่านะ”
หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว เฮ่อหลานก็เห็นด้วย
หลี่จงอี้และโม่เจ๋อหยวนก็อาศัยอยู่ในสวนหลังบ้าน ซ่างสยงเยี่ยกับหลานชายของเขาก็น่าจะพักผ่อนได้อย่างสะดวกสบาย และสวนหลังบ้านก็ยังมีห้องว่างเหลืออยู่
“จริงด้วยค่ะคุณชายซ่าง ทำไมไม่ไปพักที่บ้านของฉันก่อนล่ะคะ?”
ในหมู่บ้านเถาฮวาแห่งนี้ ซ่างสยงเยี่ยและซ่างหมิงซวี่รู้จักเพียงครอบครัวของเฮ่อหลานเท่านั้น พวกเขาเลยไม่คัดค้านแล้วพยักหน้าตอบรับ
“ครับ อย่างนั้นรบกวนด้วยนะครับ”
หลังจากนั้น เฮ่อหลานและถังซวงก็พาทั้งสองไปที่บ้าน
หลี่จงอี้และโม่เจ๋อหยวนที่เคยพบกับทั้งสองมาก่อนแล้ว แต่คราวนั้นพวกเขาเร่งรีบและไม่ได้แนะนำตัว เฮ่อหลานจึงแนะนำทั้งสองคนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
“สวัสดีครับคุณหลี่”
“สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับครับ”
หลี่จงอี้รู้ว่าซ่างสยงเยี่ยมาที่นี่เพื่อพูดคุยเรื่องธุรกิจ และการที่หมู่บ้านเถาฮวาร่วมมือกับซ่างสยงเยี่ยจะทำให้คุณภาพชีวิตของพวกชาวบ้านดีขึ้น ดังนั้นเขาจึงมีความสุขมากที่ได้พบกับซ่างสยงเยี่ย
ส่วนโม่เจ๋อหยวนก็ทักทายซ่างสยงเยี่ยและซ่างหมิงซวี่เช่นกัน
ทว่าหลังเขาได้ยินชื่อของซ่างหมิงซวี่แล้ว เขาพลันเลิกคิ้วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อเห็นท่าทีของโม่เจ๋อหยวน เฮ่อหลานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
“เสี่ยวโม่ ชื่อของหมิงซวี่เหมือนกับชื่อลุงของเธอเลย ฉันเลยคิดว่าเธอควรจะเรียกเขาว่าเสี่ยวซ่างน่ะ”
เวลานั้นเอง ซ่างหมิงซวี่นึกได้ว่าบุคคลที่เฮ่อหลานเคยพูดถึงเป็นลุงของเด็กชายหนุ่มตรงหน้า ทว่าพวกเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ดังนั้นจึงไม่พูดอะไรแล้วพยักหน้าตอบรับ
“ครับ เรียกผมว่าเสี่ยวซ่างก็ได้ แล้วผมก็จะเรียกคุณว่าเสี่ยวโม่”
ชายหนุ่มตรงหน้าไม่เหมือนกับคนทั่วไป เช่นนี้เขาจึงเต็มใจที่จะพูดคุยด้วย
โม่เจ๋อหยวนพยักหน้า “ครับ งั้นผมขอเรียกคุณว่าเสี่ยวซ่างนะ”
เมื่อเห็นทั้งสองพูดคุยกัน เฮ่อหลานก็ยืนขึ้นพร้อมกล่าวว่า
“ลุงหลี่คะ เดี๋ยวอยู่พูดคุยกับคุณชายซ่างไปก่อนนะคะ ฉันจะไปทำความสะอาดห้องรับแขกสักหน่อย”
“ตกลง ไปจัดการเถอะ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว หลี่จงอี้ยิ้มพร้อมโบกมือให้กับเฮ่อหลาน
ถังซวงเองก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปช่วยแม่ของตน
แม่และลูกสาวช่วยกันทำทุกอย่างให้เรียบร้อยโดยเร็ว
เมื่อห้องพักทั้งสองห้องถูกทำความสะอาดเสร็จสิ้นแล้ว
“ซวงเอ๋อร์ เข้าครัวไปทำอาหารเย็นกันดีกว่าจ๊ะ”
“ค่ะแม่”
ความจริงแล้ว นอกจากที่บ้าน ที่นี่ก็ไม่มีร้านอาหารใกล้เคียงเลย
เมื่อเฮ่อหลานและถังซวงมาถึงห้องครัว พวกเธอเห็นว่าในนี้มีวัตถุดิบค่อนข้างมาก
“โอ้ ดีจริง ๆ เท่านี้ก็พอสำหรับมื้อเย็นแล้วจ้ะ”
“ใช่ค่ะ เราทำอาหารได้หลายอย่างเลยค่ะ”
เมื่อเห็นว่ามีวัตถุดิบมากมาย ทั้งมันเทศที่วางอยู่ ถังซวงอดไม่ได้ที่จะเสนอขึ้น
“แม่คะ คืนนี้เราทำมันเทศเชื่อมทานกันไหมคะ หนูอยากกินมาสักพักแล้ว”
หลังได้ยินอย่างนั้น เฮ่อหลานยิ้มแล้วพูดว่า “ได้จ้ะ”
ถ้าเป็นเธอในอดีต เธออาจจะกังวลมากหากต้องรับประทานของหวาน แต่เวลานี้ตราบใดที่ลูกสาวอยากกิน เธอก็จะทำให้แน่นอน อีกทั้งเธอก็นึกถึงถังเซวี่ยที่ไม่ได้พบกันเสียนานจึงกังวลเล็กน้อย
“เสี่ยวเซวี่ยจะเลิกเรียนตอนไหนนะ ไม่รู้เธอจะคิดถึงแม่บ้างไหม”
หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถังซวงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น
“อีกเดี๋ยวเสี่ยวเซวี่ยก็กลับมาแล้วค่ะ น่าจะกลับมาตอนที่อาหารยังร้อนด้วย”
“จ้ะ”
เฮ่อหลานรีบเตรียมทำอาหาร และถังซวงก็ยืนอยู่ด้านข้างเพื่อคอยช่วยเธอ
เมื่อถังเซวี่ยกลับมาถึง เธอเจอกับซ่างสยงเยี่ยที่อยู่ในห้องนั่งเล่น เธอรีบทักทายหลี่จงอี้และโม่เจ๋อหยวนก่อน จากนั้นหันไปทักทายซ่างสยงเยี่ยและพูดว่า
“คุณชายซ่าง ในที่สุดแม่ก็ไปรับคุณมาที่นี่”
เมื่อพูดจบเธอหันมองโดยรอบและไม่เห็นเฮ่อหลานกับถังซวง ในแววตาเผยความหดหู่ออกมาเล็กน้อย
ทว่าเมื่อเห็นอย่างนั้นแล้ว หลี่จงอี้ยิ้มแล้วพูดว่า “แม่กับพี่สาวของเธอทำอาหารอยู่ในครัวน่ะ”
“โอ้ อย่างนี้นี่เอง”
ซ่างสยงเยี่ยจำถังเซวี่ยได้ เขายกยิ้มแล้วตอบว่า
“คุณถังเซวี่ย ไม่ได้พบกันซะนานเลย” แล้วเขายังกล่าวแนะนำซ่างหมิงซวี่ด้วย
ซ่างหมิงซวี่มองถังเซวี่ยด้วยความอยากรู้อยากเห็น และรู้สึกว่าเด็กหญิงคนนี้ค่อนข้างน่ารัก อีกทั้งยังดูแตกต่างจากถังซวงมากด้วย
“สวัสดีครับคุณถังเซวี่ย”
“สวัสดีค่ะ”ถังเซวี่ยตอบกลับ
ทว่าเธอไม่ค่อยคุ้นเคยเมื่อถูกเรียกว่าคุณเท่าไรนัก เธอจึงพูดขึ้นว่า
“เรียกฉันว่าเสี่ยวเซวี่ยก็ได้ค่ะ”
ซ่างสยงเยี่ยฉวยโอกาสจากสถานการณ์นี้ตอบกลับว่า “ครับ งั้นผมจะเรียกคุณว่าเสี่ยวเซวี่ย”
หลังถังเซวี่ยพูดคุยกับซ่างสยงเยี่ยและคนอื่น ๆ เสร็จ เธอรีบพุ่งเข้าไปที่ห้องครัวทันที
“แม่คะ พี่คะ ในที่สุดก็กลับมาสักที”
เมื่อเห็นเฮ่อหลานและถังซวง ถังเซวี่ยรีบพุ่งตัวเข้าไปกอดทั้งสองอย่างคิดถึง
เฮ่อหลานเองก็มีความสุขมากที่ได้พบกับถังเซวี่ย
“เสี่ยวเซวี่ยกลับมาแล้วหรือจ๊ะ ไหนมาดูซิ ผอมลงหรือเปล่า”
“ไม่เลยค่ะแม่ หนูไม่ผอมลงสักนิด”
ถังเซวี่ยพูดคุยกับแม่ของตนครู่หนึ่ง ก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อจะช่วยเหลืองานในครัว
แต่เฮ่อหลานรีบหยุดเธอเอาไว้แล้วพูดว่า “เสี่ยวเซวี่ยไม่ต้องช่วยหรอกจ้ะ รีบไปที่โรงงานเย็บปักแล้วบอกให้คุณยายซูกับคุณป้าเกอกลับมาทานมื้อเย็นได้แล้ว”
“อ้อ… ได้ค่ะ หนูจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
เมื่อซูเหนียนอวิ๋นและเกอชิงเหม่ยกลับมา อาหารเย็นก็พร้อมแล้ว ทั้งหมดนั่งลงร่วมทานมื้อเย็นด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
หลังซ่างสยงเยี่ย หลี่จงอี้และซูเหนียนอวิ๋นนั่งพูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง แม้ว่าทั้งสองจะอายุมากกว่าเล็กน้อย แต่พวกเขาก็สนใจในเรื่องเดียวกัน ทั้งสามร่วมพูดคุยและหัวเราะอย่างเป็นกันเอง
“ไม่คิดเลยว่าคุณชายซ่างจะมีอารมขันขนาดนี้ ถ้าเป็นไปได้คุณน่าจะพักผ่อนอยู่ที่นี่สักวันสองวันนะคะ”
หลี่จงอี้พยักหน้าพร้อมกล่าวเสริมว่า “ใช่ครับ สยงเยี่ยอยู่ที่หมู่บ้านเถาฮวาอีกสักวันสองวันก็ดีนะครับ ที่นี่ค่อนข้างสงบ และชาวบ้านก็น่ารัก บรรยากาศของหมู่บ้านนี้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว”
แม้ว่าซ่างสยงเยี่ยจะอยากอยู่ที่นี่ต่อ แต่เขามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องกลับไปจัดการในเมืองก่างเฉิง
“ลุงหลี่ อาจารย์ซู พวกเราต้องกลับพรุ่งนี้แล้วครับ มีงานอีกมากรอให้ผมกลับไปจัดการ”
เมื่อเห็นซ่างสยงเยี่ยตอบอย่างนี้แล้ว หลี่จงอี้และซูเหนียนอวิ๋นก็ไม่ได้รบเร้าต่อ
ทว่าท้ายที่สุด ซ่างสยงเยี่ยไม่สามารถกลับตามกำหนดการเดิมได้ จึงพักผ่อนอยู่ที่นี่ต่ออีกหลายวัน